ความแค้นของกัลป์ฝังรากลึก เขาออกตามล่าตัวต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวกลายเป็นคนเสียสติ แต่คนที่ต้องรับกรรมคือ น้องสาวของตัวการ "เธอเลือกเอาเองว่าจะนอนกับฉันคนเดียว หรือให้ลูกน้องฉันร่วมสนุกด้วย" ... “คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...ฮือ...ฉันไหว้ล่ะ...อย่าทำอะไรฉันเลย” ขวัญข้าวขอร้องทั้งน้ำตา ยกมือไหว้กัลป์ ทำท่าจะก้มลงกราบ “ถึงเธอจะกราบเท้าฉัน ฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ กล้วยไม้น้องสาวของฉันก็คงทำแบบเดียวกับเธอ แต่พี่ชายเธอไม่มีความเมตตาปรานี แล้วฉันจะมีให้เธอได้ยังไง” ชื่อเล่นที่ดังจากปากชายน่ากลัวตรงหน้า ทำให้ขวัญข้าวตกใจอีกรอบ เพราะชื่อนี้เป็นชื่อเดียวกันกับหญิงสาวที่เธอส่งข้าวส่งน้ำให้นานเป็นสัปดาห์ มองดูเธอคนนั้นเผชิญชะตากรรมโหดร้าย แต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากช่วย ขวัญข้าวช่วยไม่ได้ต่างหาก “ฉัน...” ขวัญข้าวพูดไม่ออก “เธอรู้ไหมว่า ตอนนี้น้องสาวของฉันเป็นยังไง กล้วยไม้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จำใครไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง พ่อกับแม่ของฉันต้องเจ็บปวดใจเมื่อเห็นสภาพลูก ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล ฉันเป็นพี่หัวใจแทบสลาย ไม่มีหลงเหลือแล้วกับคำว่าครอบครัวอบอุ่น ความสุขที่เคยมีกลายเป็นความทุกข์แสนสาหัส ทุกคนในบ้านเหมือนตกนรกทั้งเป็น กล้วยไม้ต้องหมดอนาคตเพราะพี่ชายสุดชั่วของเธอ แบบนี้ฉันจะเมตตาปรานีเธอได้ยังไง เธอตอบฉันมาสิว่า ฉันควรจะเมตตาเธอหรือเปล่า” กัลป์กล่าวเสียงเดือด ระเบิดน้ำเสียงจนเส้นเอ็นตรงลำคอขึ้น ดวงตาลุกโชนจากแรงโทสะที่โหมเข้าสู่จิตใจ นึกถึงสภาพของพรรณพฤกษาในกระท่อม อารมณ์ของเขาเพิ่มทวีคูณ อยากจะแล่เนื้อขวัญข้าว แล้วเอาเกลือทามองดูเธอตายอย่างช้าๆ ให้หายคับแค้นใจ แต่ถ้าทำเช่นนั้นดูเหมือนจะไม่สะใจมากพอ ครอบครัวของเธอจะต้องพบเจอเรื่องเลวร้ายเช่นเดียวกับตน “ฉันขอโทษ...ฮือ...ฉะ...ฉันขอโทษ...ฉัน” ขวัญข้าวเอ่ยคำขอโทษ รู้ทั้งรู้ว่า คำๆ นี้เขาอาจไม่ต้องการ แต่เธอก็อยากจะขอโทษที่ช่วยเหลือน้องสาวเขาไม่ได้ กัลป์ไม่สนคำขอโทษ เขาก้าวเดินมาหาขวัญข้าวราวกับราชสีห์จ้องเหยื่อ ก่อนจะกระชากแขนเธอสุดแรง ขวัญข้าวลุกขึ้นยืนตามแรงฉุด ไม่กี่อึดใจต่อมา ร่างอรชรถูกเหวี่ยงไปบนเตียงนอน พอแผ่นหลังขวัญข้าวสัมผัสกับที่นอน เธอรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง กระเถิบตัวหนีกัลป์ ใบหน้าสวยหวานอาบไปด้วยความหวาดกลัว น้ำตาไม่เคยห่างหายไปจากแก้ม ปากสั่น ตัวสั่น “เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ฉันจะให้ลูกน้องสนุกกับเธอจนเธออิ่ม รับรองสำลักความสุขแน่ๆ เธอจะต้องโดนเหมือนที่กล้วยไม้โดน” กัลป์พูดเสียงเยียบเย็น กระตุกยิ้ม ก่อนจะตะโกนเรียกลูกน้องที่อยู่นอกห้องให้เข้ามาด้านใน “พวกมึงสนุกกันให้เต็มที่ แต่ระวังหน่อยนะ ระวังเธอจะตายคาเตียง” ขวัญข้าวเบิกตากว้างมองกลุ่มชายฉกรรจ์สี่คนที่เดินเข้ามาในห้อง ความกลัวพล่านในหัวใจ มองซ้ายมองขวาหาทางหนี แต่เธอจะหนีไปที่ใดได้ ไม่มีทางไหนที่จะหนีออกไปจากห้องนี้ได้เลย นอกจากประตูห้องบานนั้น ซึ่งมันก็อยู่ไกลในความรู้สึกของเธอเหลือเกิน ทั้งที่มันห่างแค่ไม่กี่เมตร ขวัญข้าวตระหนักวินาทีนี้เองว่า ความกลัวของกล้วยไม้เป็นอย่างไร ไม่แปลกที่กล้วยไม้สติจะหลุดลอย ผลกรรมที่คชาทำไว้กับน้องสาวของคนออกคำสั่ง กำลังส่งผลถึงเธอ ทั้งที่ขวัญข้าวไม่ได้เป็นคนกระทำ “ไม่นะ อย่าทำฉัน อย่าเข้ามา” ขวัญข้าวไม่เคยกลัวอะไรเช่นวินาทีนี้มาก่อน เธอกระโดดลงมายืนข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่ง มองไปยังชายสี่คนที่เดินอ้อมเตียงมาทางตน ส่วนกัลป์ยืนกอดอกแล้วยิ้ม มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสาแก่ใจ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง รอดูผลงานเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น “อย่าเข้ามา อย่า...กรี๊ด” ขวัญข้าวกรีดร้องเสียงดังลั่นห้อง เมื่อหนึ่งในสี่กระชากร่างเธอมากอด แล้วเหวี่ยงไปบนเตียง เธอแทบจะกลั้นใจตาย เพราะรู้ดีว่า ไม่อาจรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาได้ เรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอกำลังจะเกิดขึ้น เหมือนกับพรรณพฤกษาไม่มีผิด...
1
“กรี๊ด” เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วบ้านหลังใหญ่ หลังสิ้นเสียงนั้น เสียงฝีเท้าของชายรูปร่างสูงใหญ่ก็ดังขึ้นตาม เขาวิ่งมายังห้องต้นเสียงด้วยเวลาอันรวดเร็ว พอมาถึงหน้าห้องกัลป์รีบเปิดประตูห้องนอนของน้องสาวทันทีโดยไม่คิดเคาะประตู
“กล้วยไม้ไม่เป็นอะไรแล้วนะ พี่อยู่นี่ อย่าร้องนะคนดี”
กัลป์กอดปลอบน้องสาวอันเป็นที่รัก ที่ยังคงส่งเสียงกรีดร้อง สีหน้าแสดงถึงความหวาดกลัว ตื่นตระหนก น้ำตาไหลอาบแก้ม
“กรี๊ด...ไม่นะ อย่าเข้ามา อย่ามากอดฉัน ออกไป กรี๊ด!” พรรณพฤกษาผลักไสพี่ชาย ดวงตาหวานปนเศร้าตื่นตระหนกคล้ายกับว่ากำลังหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง เป็นความกลัวฝังรากลึกในจิตใจ แล้วไม่รู้ว่าชาตินี้จะสลายความทุกข์โศกนี้ได้หรือไม่ “ปล่อยนะปล่อย อย่าทำฉัน อย่า...ไป...ออกไป...ฮือ”
มือเล็กพยายามดันร่างของพี่ชายให้ออกห่าง น้ำตาแห่งความกลัวไหลพราก ฟันแหลมคมขบกัดบ่าของกัลป์เต็มแรง หวังจะให้ลำแขนใหญ่คลายออก แต่ทว่าพี่ชายที่แสนดีข่มความเจ็บปวดไว้เต็มกำลัง หาได้ปล่อยร่างของคนตกอยู่ในอาการหวาดกลัว เขายังคงกอดแนบแน่นแม้ว่าฟันของพรรณพฤกษาจะขบกัดแรงขึ้นและแรงขึ้น
“กล้วยไม้ พี่เอง พี่กัลป์ไงครับ ไม่มีใครทำอะไรกล้วยไม้ของพี่แล้วนะ พี่จะปกป้องกล้วยไม้เอง”
ความเจ็บปวดที่กัลป์ได้รับ น้อยกว่าความเจ็บปวดทางกายและใจของพรรณพฤกษา โลกอันแสนสวยงาม อนาคตที่ดีของเธอถูกลบเลือนจากคนชั่วกลุ่มหนึ่งที่กระทำย่ำยีพรรณพฤกษาอย่าง ไร้ความปรานี พวกมันความโหดเหี้ยมและป่าเถื่อน
เขายังจำวันนั้นได้ไม่เคยลืม แม้เวลาจะผ่านมาสองปี พรรณพฤกษาถูกลักพาตัวไปร่วมสองสัปดาห์ กัลป์ทำทุกทางเพื่อที่จะตามตัวน้องสาวกลับคืนมา จนกระทั่งวันหนึ่งวันที่เขารอคอยก็มาถึง เมื่อมีคนปริศนาส่งข้อมูลสถานที่ที่พรรณพฤกษาถูกจับไปขังไว้ กัลป์กับครอบครัวเดินทางไปที่นั่นทันที และภาพที่เห็น ทำให้ครอบครัวอันแสนสุขของเขาพังทลาย กลายเป็นความข่มขื่น ปวดร้าวและทรมาน
บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวนยางแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพรคือ สถานที่ที่พรรณพฤกษาอยู่ ทันทีที่เห็นสภาพของเธอ วชิราภรณ์ผู้เป็นแม่เป็นลมล้มพับอยู่ในอ้อมกอดของธัญญ์ สามีสุดที่รัก ธัญญ์ผู้เป็นพ่อกัดฟันกรอด อารมณ์โกรธแค้นสุมอก หัวใจของธัญญ์เหมือนมีใครควักออกมาแล้วกระทืบซ้ำๆ จนไม่มีชิ้นดี
กัลป์รีบถลาไปหาน้องสาวที่นั่งกอดเข่าร้องไห้ ดวงตาเบิกกว้างและตื่นตกใจแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดแสน เธอกวาดไปมารอบๆ บ้านราวกับว่ารอบข้างมีแต่สิ่งน่ากลัว และเมื่อกัลป์กอดน้องสาว เสียงกรีดร้องก็ดังลั่น มือเล็กผลักไสร่างของกัลป์ ร้องขอให้ปล่อยเธอ พรรณพฤกษาจำใครไม่ได้ แม้กระทั่งตัวเอง
“ไม่นะ อย่า อย่า ปล่อยฉัน ปล่อย ปล่อย กรี๊ด!” คนถูกกระทำกรีดร้องต่อเนื่อง
”กล้วยไม้ พี่เอง พี่กัลป์ไง พี่กัลป์พี่ชายของกล้วยไม้ไงครับ”
กัลป์เรียกสติน้องสาวที่ไม่รู้ว่า จะกู่กลับมาได้หรือไม่ เพราะมันนานกว่าหกเดือนแล้วที่เธอเป็นเช่นนี้ และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย
“กัลป์ กัลป์ไหน ไม่มี ฉันไม่มีพี่ชาย กรี๊ด ปล่อย ปล่อย อย่าทำฉัน ฮือๆๆ”
ความหวาดกลัว ความทุกข์ทรมานและสิ่งที่พรรณพฤกษาต้องเผชิญมาตลอดระยะเวลาที่อยู่ในบ้านกระชากสติสัมปชัญญะของเธอให้ขาดกระจุยไม่หลงเหลือชิ้นดี เธอจำใครไม่ได้เลยแม้แต่ครอบครัวที่ให้ความอบอุ่น ความรักกับเธอมาตั้งแต่เกิด หรือตัวเธอเอง สิ่งที่สาวแสนดีจำได้มีเพียงเรื่องเดียว เป็นความทรงจำอันแสนเลวร้ายมากที่สุดในชีวิต
“อย่ากลัวนะคนดี เรื่องมันผ่านไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายกล้วยไม้ของพี่ได้อีก และพี่ก็สัญญาว่าจะจับไอ้คนชั่วที่มันทำกับกล้วยไม้มาลงโทษให้ได้”
คนอย่างกัลป์ แม็คควีน ตัณติยานนท์ ไม่ปล่อยให้ชายชั่วกลุ่มนั้นลอยนวลเด็ดขาด ใครที่ทำให้น้องสาวของเขาต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานทางด้านจิตใจ มันจะต้องได้รับโทษอย่างสาสมจากเขา
และต้องมากกว่าร้อยเท่าพันเท่า…
จังหวัดชุมพร
“ขวัญทำกับข้าวเสร็จหรือยังลูก พ่อกับพี่ช้างมาถึงแล้วนะ” บัวรินเดินเข้ามาถามบุตรสาวที่กำลังสาละวนอยู่กับการทำอาหารในครัว คนถูกถามเงยหน้ามองมารดาแล้วยิ้ม
“เสร็จพอดีจ้ะแม่ แม่ออกไปคอยที่โต๊ะเลยนะ เดี๋ยวขวัญยกสำรับไปเอง”
“ให้แม่ช่วยดีกว่านะ พ่อกับพี่ช้างอารมณ์ไม่ดี ขืนขวัญยกไปช้ามีหวังโดนดุแน่ๆ”
บัวรินรู้นิสัยสองพ่อลูกดีว่าเป็นอย่างไร ชอบกดขี่ พูดจาไม่ดีขวัญข้าวมากแค่ไหน ดุได้เป็นดุ ตวาดได้เป็นตวาด บางครั้งไม่มีเหตุผลของการกระทำนั้นด้วย บ่อยครั้งที่ขวัญข้าวตกเป็นเบี้ยอารมณ์ของบิดาและพี่ชาย ซึ่งนางเองก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือมากไม่ได้ หากทำนางก็ต้องถูกหางเลขไปด้วย
สองแม่ลูกช่วยกันยกสำรับไปวางบนโต๊ะอาหารกลางบ้าน ที่มีร่างของคนโมโหหิวนั่งหน้าหงิกรอทานอาหาร พอเห็นหน้าขวัญข้าว ปัญญาเปิดฉากต่อว่าทันที
“รู้อยู่ว่ากูจะกลับบ้านเวลานี้ ทำไมถึงทำกับข้าวช้า มึงจะกวนตีนกูใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะพ่อ ขวัญก็ทำตามเวลาปกติ วันนี้พ่อกับพี่ช้างกลับมาเร็วกว่าทุกวัน ก็เลยมองว่าขวัญทำกับข้าวช้า” ขวัญข้าวไม่ได้มีเจตนาโต้เถียงบิดา เธอเพียงแค่อธิบายให้ปัญญาเข้าใจ ทว่าคนอารมณ์ไม่ดีไม่ได้คิดเช่นนั้น
“อ้อ…มึงหาว่ากูผิดที่กลับบ้านเร็วใช่ไหม มึงนี่วอนขึ้นทุกวัน” ปัญญาหยิบช้อน ตั้งท่าจะปาใส่ลูกสาว แต่เสียงของบัวรินดังห้ามเสียก่อน
“พี่หิวข้าวไม่ใช่เหรอ รีบกินดีกว่านะ วันนี้ขวัญทำต้มยำโป๊ะแตกของโปรดพี่ด้วย กำลังร้อนๆ เลย รีบกินดีกว่านะ”
บัวรินรีบตักข้าวสวยใส่จานให้สามี ก่อนจะหันไปตักให้บุตรชายที่วันนี้ไม่ผสมโรงต่อว่าน้องสาวเหมือนเคย จากนั้นจึงหันมาตักให้ตนเองและขวัญข้าว
“พรุ่งนี้กูกับไอ้ช้างต้องไปทำงานให้นายที่ยะลา จัดกระเป๋าให้ด้วย” ปัญญาสั่งบัวริน
“ไปกี่วันพี่”
“ยังไม่รู้เลยว่างานจะเสร็จเมื่อไหร่ จัดไปหลายๆ ชุดก็แล้วกัน” งานที่ได้รับมอบหมายมาเป็นงานใหญ่ กำหนดวันกลับจึงไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่างานจะเสร็จวันไหน
“ขวัญ พรุ่งนี้ไปร้านเฮียกวงให้พี่ด้วยนะ พี่สั่งกระสุนปืนไว้ พี่ไม่ว่างไปเอาเอง เอ็งช่วยไปเอาให้หน่อย ไปเอาเสร็จก็เอาไปไว้ที่ห้องพี่ล่ะกัน” คชาไว้วานน้องสาว
“จ้ะพี่ช้าง” เธอรับคำอย่างว่าง่าย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปเอาสิ่งของให้พี่ชาย เธอไปเอาให้นับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งไปเอาอาวุธปืนเถื่อนก็ยังเคย การสนทนาของพวกเขายุติลง ทั้งหมดนั่งทานอาหารกันอย่างเงียบๆ เช่นเคย พอท้องอิ่ม ปัญญากับคชาก็เดินออกไปจากบ้านเพื่อไปทำงานรอบดึก ส่วนสองแม่ก็ช่วยกันทำความสะอาดจาน
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."