ช้องนางได้ยินเพื่อนเจ้าบ่าวเอ่ยแซวว่าพระแสงคงดีใจได้เมียเป็นตัวเป็นตนแถมได้เล่นของสูง เพราะต้องสอยเจ้าสาวลงจากคาน หากไม่ติดว่าเป็นเจ้าสาวเองหล่อนจะตบปากพวกนี้เรียงตัว โทษฐานปากเสียชอบเอาความจริงมาพูด แถมแม่ยังเคยบ่นบ่อยๆ ว่า “เลือกมากก็กอดคานเน่าๆ ไปจนตายเถอะนังช้องเอ๊ย” แล้วไงละ พอหล่อนไปบอกว่าจะแต่งงานกับหลานยายมาลัย แม่ถึงกับหัวเราะกลิ้ง แล้วลูบหัวเบาๆ ก่อนดึงมากอดแล้วพูดเหมือนปลอบใจ “เมายาสีฟันมาหรือนังช้อง นายพระแสงเขาเคยชายตาแลแกหรือเปล่า เห็นผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ตามตูดต้อยๆ มีหรือจะมองสาวแก่อย่างแก” “คำก็สาวแก่ สองคำก็สาวแก่ ก็นี่ไงสาวแก่ของแม่จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว จริงๆ” แม้จะแต่งหลอกๆ แต่ยายมาลัยเล่นใหญ่ทำให้สมจริงสมจัง มีพิธีมงคลสมรส มีงานเลี้ยงและมีทะเบียนสมรสให้ ยกเว้นแต่สินสอดทองหมั้นที่ไม่มีและไม่เคยได้ยินแกเอ่ยถึง สำหรับช้องนางแล้วการได้แต่งงานอยู่กินกับพระแสงคือสุดยอดแห่งความปรารถนา แม้ต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเข้าหาญาติผู้ใหญ่ของเขาจนเกิดการ “คลุมถุง(พุ่ง)ชน(หัวใจ” ขึ้นหล่อนก็ภูมิใจ
บทนำ
“ผัวฉัน มีผัวแล้ว มีผัวแล้วโว้ย!”
ช้องนางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มจนเสียจริตเสียกิริยากุลสตรีไทยที่ควรเก็บงำความรู้สึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามรับบทเจ้าสาวในวันนี้ เพราะหากใครมาเห็นเข้าจะถูกค่อนแคะได้ว่าดีใจที่มีผัวจนตัวสั่น แต่หล่อนยอมรับว่าตัวสั่นเนื้อเต้นจริง
คนมันสมหวังก็ต้องดีใจเป็นธรรมดาใช่ไหมละ
ใครไม่เป็นหล่อนนางสาวช้องนาง ลำจวนคงไม่รู้หรอกว่า การเฝ้ามองนายพระแสง ภควันต์เติบโตมาแต่ละวัยนั้นมันทรมานแค่ไหน
ใช่ หล่อนทรมานทุกครั้งที่เห็นเขาเริ่มคบค้าสมาคมกับหญิงสาวด้วยการพามาค้างที่บ้านตั้งแต่เป็นหนุ่มน้อย แต่บางทีอาจเพราะหล่อนอายุมากกว่าจึงมองเขาเป็นหนุ่มน้อยตลอดเวลา จนพลอยหนักใจไปกับยายมาลัยที่ต้องคอยไล่สาวๆ พวกนั้นออกจากบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า
ยายมาลัยแอบมาบ่นกับหล่อนลับหลังหลานชายเสมอเรื่องความเจ้าชู้ แต่ยายมาลัยโทษพันธุกรรมทางพ่อพร้อมด่าว่าสาดเสียเทเสียจนบางครั้งหล่อนก็สงสัยเหมือนกันว่าถ้าคิดว่าพ่อของพระแสงเลวขนาดนั้นแล้วยายยอมให้แต่งงานกับลูกสาวตัวเองทำไม รวมถึงก่นด่าความง่ายของผู้หญิงที่หลานชายพามานอนด้วย โดยไม่เคยแตะต้องหลานชายตนเองให้ได้ยินแม้แต่น้อย
จนปัจจุบันพระแสงยังมีผู้หญิงข้องแวะคนแล้วคนเล่าและลงอีหรอบเดิมทุกครั้ง
พระแสงเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุห้าขวบ อยู่ในความดูแลของยายมาลัย ภควันต์ซึ่งนับเป็นญาติสนิทเพียงคนเดียว และเป็นเจ้าของทรัพย์สินมากมายที่จะตกทอดถึงพระแสงในอนาคต เหตุนี้เองยายมาลัยจึงเหมือนถือไพ่เหนือกว่าสามารถบงการชีวิตของหลานชายได้ แม้ไม่ใช่ทุกเรื่อง
ทว่าอย่างน้อยยายมาลัยก็สั่งให้เขาแต่งงานกับหล่อนได้ก็แล้วกัน
ช้องนางจำได้ดีว่าวันนั้นตนสวมวิญญาณนักล่าผู้ชาย บอกกับยายมาลัยไปตรงๆ ว่า มีทางกันพระแสงออกจากชะนีหิวโหยที่หอบท้องมาบอกว่าพระแสงเป็นพ่อของเด็ก ด้วยการให้แต่งงานหลอกๆ กับตน จริงอยู่แม้สัญญากันว่าแค่แต่งหลอกๆ แต่ถ้าได้จริงก็เอา
อุ๊บ! หล่อนคงไม่ได้คิดดังไป ยายมาลัยจึงรีบตกลงทันที
และเพื่อให้สมจริงมากขึ้น การแต่งงานต้องสมบูรณ์แบบ นอกจากมีพิธีมงคลสมรสแล้วยังต้องมีกระบวนการทางกฎหมายด้วย เพื่อจะได้ใช้เป็นยันต์กันเมียน้อยให้เลิกมายุ่งเกี่ยว มิเช่นนั้นหล่อนจะฟ้องเรียกค่าเสียหายให้หัวโตกว่าท้องที่หอบมาเสียอีก
เจ้าสาวแสนสวยแม้อายุล่วงมาสามสิบสองปีแล้วก็ตื่นเต้นตื้นตันอย่างยิ่งที่มีสามีถูกต้องตามกฎหมายกับเขาเสียที แม้การได้มาในตำแหน่งภรรยานั้นจะใช้เล่ห์ลวงและถุงของยายมาลัยคลุมตัวเจ้าบ่าวมาก็ตาม แต่เมื่อมีลายมือชื่อเขาในทะเบียนสมรสหล่อนก็อดปลื้มใจไม่ได้ น้ำตาจึงปริ่มยามมองหลักฐานสำคัญในมือ
“ผัวฉัน ในที่สุดก็มีผัวกับเขาแล้ว ลงจากคานเสียทีนะช้องนาง” หล่อนพึมพำ แล้วสะดุ้งกับเสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเรียกของเพื่อนสนิท
“ช้องๆ เสร็จหรือยัง แขกมาเยอะแยะแล้ว”
“จ้าๆ เสร็จแล้ว” หล่อนรีบเก็บทะเบียนสมรสไว้ในลิ้นชักโต๊ะใกล้เตียง ซับน้ำที่หัวตาแล้วเดินไปเปิดประตูรับกานดาเพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่ชั้นประถม
“ทำอะไรอยู่” กานดาถามทันทีประตูห้องเปิด มองสำรวจชุดราตรีสั้นเกาะอกสีงาช้าง ที่ช่วยขับผิวสาวให้ขาวผ่อง
ช้องนางเป็นสาวผมสั้นตรงเลยติ่งหูมาเล็กน้อย มีความเท่และดูทะมัดทะแมงในยามปกติ แต่เมื่อสวมชุดราตรีเช่นนี้กานดาชอบผมยาวแล้วเกล้าเป็นมวยหลวมๆ มากกว่า
“เสียดายผมแกสั้นไปหน่อย แต่ทำแบบนี้ก็สวยดีนะ” สุดท้ายก็เอ่ยชมอยู่ดี
“ก็ได้ผัวแบบฟลุคๆ นี่ เลยเลี้ยงผมให้ยาวไม่ทัน” หล่อนใช้มือป้องปากยามหัวเราะ ไม่ได้ขัดเขินเพื่อนสนิทที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังดี แค่กลัวเสียงหัวเราะระริกระรื่นจะเข้าหูให้คนอื่นหมั่นไส้ และนินทาเอาได้ว่าเจ้าสาวดีใจออกนอกหน้าจนเกินงาม
แต่ก็ดีใจจริงๆ เพราะหล่อนเฝ้ามองพระแสงมาตั้งแต่แรกเกิด เหมือนถูกมนต์สะกดตั้งแต่ได้อุ้มเขาครั้งแรก แล้วเขาฉี่รดจนน้าพิมพาแม่เขาต้องรีบถอดกางเกงเปลี่ยนให้
‘โห ช้างน้อยใหญ่จัง’ เด็กหญิงช้องนางในวันนั้นแค่อุทานในใจ แต่ใช้นิ้วมือสะกิดเล่นจริงจังจนถูกตีมือปราม
“อุ๊ย! อะไร! ตกใจหมด” ถามกานดา
“ก็มัวยิ้มอะไรอยู่ละ รีบลงไปเถอะ แขกอยากถ่ายรูปกับบ่าวสาวแล้ว”
“อ๋อ ไปๆ แต่” พอเพื่อนขยับหล่อนก็รั้งไว้ แล้วหมุนรอบตัวเองช้าๆ “เรียบร้อย ดูดีหรือยัง”
“สวยมากจ้ะ แกเป็นสาวแก่ที่แต่งชุดเจ้าสาวได้สวยมาก ออร่าพุ่ง”
“บ้า สาวแก่ที่ไหน แค่สามสองเอง”
หรือจะแก่จริง แต่อย่างน้อยก็หนีคานได้แล้ว ด่านต่อไปก็แค่จับพระแสงทำผัวให้ได้
งานนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆ พี่เอาจริงค่ะ
แม้ไม่มีแผ่นดิน หากแต่เรายังไม่สิ้นลมหายใจ ถึงสิ้นชาติหากแต่รักของเรามิได้สิ้นลง บราลี เป็นบอดี้การ์ดมือใหม่ ที่ทำงานพลาดจนถูกไล่ออกจากงาน ในวันเดียวกันนั้น บ้านของเธอก็ถูกไฟไหม้ แม่ถูกไฟคลอกบาดเจ็บ พ่อตกใจจนโรคหัวใจกำเริบ ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก เมื่อเธอจะหันไปพึ่งแฟนหนุ่มที่รักกันมาหลายปี กลับพบเขากำลังคลุกวงในกับผู้ชายอีกคน!! เมื่อชีวิตมันบัดซบขนาดนี้ เธอจึงคิดฆ่าตัวตาย ... และทำจริง!! แต่ไม่ตาย มีคนมาช่วยไว้ ... พอรอดตายก็มีคนยื่นข้อเสนอแปลกประหลาด ... ให้เธอไปเป็นบอดี้การ์ดให้เจ้านาย แลกกับเงินมหาศาล และกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร บราลีกับเพื่อนร่วมงานอีกสองคน ก็ได้ข้ามเวลาย้อนอดีตไปซะแล้ว
เมื่อความรักที่มีมากเหลือล้น ไวกูณฐ์นั้นอยากแต่งงานเสียทันทีที่เดินทางกลับมาจากเรียนต่อ หากแต่ จิรัฐิติกาลกลับกลัวการใช้ชีวิตคู่จึงปฏิเสธไป แต่เพราะอุบัติเหตุที่บังเกิดขึ้นทำให้ไวกูณฐ์ตาบอด จิรัฐิติกาลจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขาในทันทีเพื่อเป็นการรับผิดชอบ เพราะการแต่งงานที่ไม่พร้อมทำให้อุปสรรคแห่งรักนั้นมีมาให้พิสูจน์หัวใจกันเนืองๆ
เจ้าฟ้าหญิงจิรัฐิติกาลในคราบชายหนุ่มดูจะเกษมสำราญเป็นอันมากเมื่อได้ออกมาท่องโลกกว้าง แม้จะไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่บ้างที่มี 'ผู้คุม' เป็นไวกูณฐ์ ชายหนุ่มอ่อนแอ เจ้าหนอนหนังสือใส่แว่นลูกชายองครักษ์คนสนิทของพระบิดา แต่ถ้าไม่ยินยอมร่วมทางไปกับเขา เจ้าพ่อก็คงไม่ปล่อยออกจากกรงทอง เธอจำใจร่วมทางและสร้างความยุ่งยากเป็นภาระใหญ่หลวงให้เขา แต่ในคราเดียวกันความใกล้ชิด ความใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกพิเศษเกิดขึ้นในใจ แต่จะทำอย่างไร เมื่อเธอฝังใจว่าเขาไม่ใช่ "ชายจริง" นิยายภาคต่อของ ลิขิตรักบัลลังก์หัวใจ
เมื่อต้องเสียแผ่นดินจากการช่วงชิงของพระเจ้าอา ทรรศินากัลยามาส เจ้าฟ้าหญิงรัชทายาทแห่งมธุรรัฐจำต้องเสด็จหนีจากแผ่นดินเกิด แฝงกายเข้าไปในสิงขรรัฐ จากที่คิดจะปลอมตัวเป็นนางกำนัล กลับตกกระไดพลอยโจนถวายตัวเป็นสนมของเจ้าหลวงรัฐสิงห์สีหนาทในนามลูกของศัตรู!? รอจนถึงวันทวงบัลลังก์คืน กล้วยไม้ป่าแรกแย้มเพิ่งผลิรับฤดูฝน เจ้าหลวงเอื้อมไปหมายจะเด็ด ก็ถูกพระหัตถ์เล็กๆ ตีเผียะลงบนหลังมือ "ดอกไม้จะสวยงามที่สุดเมื่ออยู่กับต้นเพคะ" ดำรัสขึงขัง "แต่พี่จะเก็บให้เธอ" รับสั่งกลับอ่อนโยน "ท่าจะเด็ดดอกไม้แรกแย้มเสียจนเคย" เจ้าฟ้าหญิงประชดตรงๆ เจ้าหลวงยกพระหัตถ์ในท่าสาบาน "สาบาน ต่อไปพี่จะไม่เด็ดดอกไม้ ไม่ว่าดอกไหน จะรอดอกฟ้าตรงหน้านี้ดอกเดียวเท่านั้น"
เมื่อซากีน่าน้องสาวอันเป็นที่รักถูกฆ่าข่มขืน หลักฐานในมือคือแผ่นเงินฉลุลวดลายสวยงาม ซาห์ราจำได้ทันทีว่าใครเป็นเจ้าของของสิ่งนี้ การตามล้างแค้นจึงเกิดขึ้น ชีคฮาซัน บินญาบิร อัล บุสตานีย์ กลายเป็นเหยื่อความแค้นที่เขาไม่ได้ก่อ ถูกหล่อนทรมานต่างๆ นานาและต้องสูญเสียเมียสาวในคืนวันแต่งงานจากน้ำมือซาห์รา แต่เมื่อความจริงปรากฏว่าใครเป็นฆาตกรที่แท้จริง ซาห์ราจะชดใช้สิ่งที่ทำลงไปให้แก่เขาด้วยชีวิต ตามกฏชีวิตแลกชีวิต แต่ชีคฮาซันกลับต้องการให้หลอนชดใช้ด้วย หัวใจ
เมื่อธิดาองค์น้อยเริ่มเติบโต ชีคกาเบรียนที่อยากให้ลูกรู้จักภาษาของแม่บังเกิดเกล้า จึงมองหาครูสอนภาษาชาวไทย แต่กลับได้ทโมนไพรไปแทน นางสาวกฤติกา หรือแม่ดาวลูกไก่ นอกจากสอนภาษาไทยให้ธิดาองค์น้อยของชีคแล้ว ยังสอนปีนต้นไม้กลายเป็นลิงเป็นค่าง จนพระนมของชีคเอือมระอา ทว่าท่าทางแก่นกะโหลกของดาวลูกไก่กลับจับใจต้องตาชีคกาเบรียนจนกลายเป็นความรัก แต่ปัญหาสงครามแบ่งแยกดินแดนในประเทศยังไม่สงบ เมื่อดาวลูกไก่ถูกจับตัวไปเพื่อต่อรอง แม้พระองค์ไม่อาจยกแผ่นดินเพื่อแลกกับผู้หญิงที่รักได้ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจเหมือนครั้งที่เสียสนมคนอื่นไป ทรงลอบออกจากวังเพื่อไปช่วยหญิงอันเป็นที่รักด้วยตนเอง
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย