ทางเลือกที่แตกต่าง บนกรอบของคำว่า "พรหมจรรย์" เธอ...เลือกที่จะอยู่โดยไม่มีเขา แต่เขา...เลือกที่จะใช้กลลวงหลอกล่อให้เธออยู่
ทางเลือกที่แตกต่าง บนกรอบของคำว่า "พรหมจรรย์" เธอ...เลือกที่จะอยู่โดยไม่มีเขา แต่เขา...เลือกที่จะใช้กลลวงหลอกล่อให้เธออยู่
รษาขยับเปลือกตาอันหนักอึ้งปรือตารับแสงของวันใหม่ รู้สึกร้อนวูบวาบปวดร้าวบวกกับอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจับไข้ นึกย้อนถึงเรื่องราวรางเลือนเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่น่าหลงเชื่อแรงยุของเพื่อนดื่มจนเมามายแทบครองสติไม่อยู่เลยจริงๆ เพราะนิสัยไม่ยอมคนของเธอแท้ๆ
หญิงสาวสำรวจกลอกตามองรอบห้องพลางยกมืออังหน้าผากวัดระดับความร้อนของร่างกาย ทว่าเมื่อเหลือบเห็นเนื้อนุ่มขาวนวลเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ใดห่อหุ้ม ไร้ผ้าห่มปิดผิวกายกับความเย็นวาบฉาบผิวเป็นเครื่องยืนยัน
มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“กรี๊ดด!”
หญิงสาวหวนนึกย้อนไปถึงความรู้สึกก่อนที่สติทั้งหมดที่มีของเธอจะหลุดลอยไป
ใช่! เธอถูกชายกลุ่มหนึ่งทำร้าย
หญิงสาวไม่อาจจดจำใบหน้าของคนพวกนั้นได้ทั้งหมด ทุกอย่างในความทรงจำเลือนรางเหมือนภาพในความฝัน ฝันร้ายที่เธอไม่อยากพบพาน หญิงสาวพยายามพยุงร่างกายที่บอบช้ำแสนปวดร้าวเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบาก
“กรี๊ด! กรี๊ดดด!! ” หญิงสาวกรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมาอีกครั้ง รอยแดงเป็นจ้ำที่เกิดขึ้นบนผิวผ่อง เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยตอกย้ำยืนยันเรื่องราวที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ใช่ความฝันของเธออีกต่อไป ความทรงจำเลือนรางสุดท้ายก่อนสิ้นสติหลุดลอยถาโถมประดังประเดเข้ามาในสมองไม่ขาดสาย
‘ฉันสูญเสียพรหมจรรย์ให้กับพวกเขาจริงหรือ’
“กรี๊ด! ไม่จริง!”
เสียงสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากบวมเจ่อ พร้อมกับสติของเธอดับวูบทรุดกองลงบนพื้นเย็นเฉียบ
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก เจ้าของร่างสูงเดินกลับมาในห้องพักของหญิงสาวอีกครั้ง หลังจากที่เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อย สองขายาวก้าวมาที่เตียงหลังจากสั่งให้พนักงานปิดข่าวให้เรียบร้อย ทั้งนี้ก็เพื่อหญิงสาวที่ถูกกระทำเสียหาย ทั้งต้องรักษาชื่อเสียงของโรงแรม
เขาเพิ่งก้าวเข้ามาบริหารโรงแรมไม่นานไว้ด้วย ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไปมันคงไม่เป็นผลดีกับโรงแรมและผับที่เขากำลังจะเปลี่ยนระบบการบริหารใหม่
เมื่อนึกถึงใบหน้าบอบช้ำของหญิงสาวเคราะห์ร้ายเขาก็ยิ่งสงสารและเป็นกังวล จนต้องเขามาดูเธอเธอด้วยตัวเองอีกครั้ง ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องเองแบบนี้ เพียงแค่สั่งสองสามประโยคทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่ใบหน้านวลของสาวเคราะห์ร้ายกลับวนเวียนในหัวไม่หยุด ในที่สุดเขาก็มายืนอยู่ตรงนี้
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงผ่านมา ถ้าหากคนของเขาไม่เฉลียวใจในสิ่งผิดปกติและเข้ามารายงานเขาได้ทัน เขาไม่รู้เลยว่าเธอจะมีสภาพเป็นอย่างไร ขนาดว่าเขาเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน สภาพของเธอก็ยังไม่ต่างจากโดนรุมโทรมสักนิด
หัวคิ้วหนาขมวดมุ่นเมื่อไม่เห็นหญิงสาวนอนอยู่บนเตียงอย่างที่ควรจะเป็น เขากวาดสายตามองรอบห้องเร็วๆ ก่อนจะมองเลยผ่านเตียงกว้างไปโฟกัสไปที่ห้องน้ำและเดินตรงไปดูที่ห้องน้ำ และเขาก็ต้องตกใจหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่า เมื่อเห็นร่างบางที่เขากำลังมองหานอนอยู่บนพื้นในห้องน้ำ
“คุณ! คุณ! เป็นอะไรไป ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้” มือหนาแตะไหล่กลมกลึงเขย่าเรียกหญิงสาวให้ได้สติ แต่คนที่เขาพยายามเรียก กลับยังนอนนิ่งเงียบไม่ไหวติงสักนิด
‘บ้าเอ๊ย เป็นอะไรอีกเนี่ย เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ ป่านนี้ที่บ้านจะรู้หรือยัง แล้วจะเป็นห่วงมากมายขนาดไหนกัน’ ชายหนุ่มสบถเบาๆ
ปรินทรย่อตัวช้อนร่างเปลือยเปล่าขึ้นมาในวงแขน อุ้มเธอเดินมาที่เตียง เขาค่อยๆ วางร่างบางลงอย่างเบามือ เหมือนกลัวว่าเธอจะได้รับการกระทบกระเทือนจนเจ็บหนักเพิ่มขึ้นอีก จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำและเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าชุบน้ำอุ่นในมือ เขาใช้มันแตะซับไปทั่วใบหน้าอย่างเบามือ
นานหลายชั่วโมงที่หญิงสาวหลับใหลไม่ได้สติ ชายหนุ่มเจ้าของโรงแรมก็ยังนั่งอยู่อย่างนั้น เขาเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ทำไมจะต้องอยู่ ในเมื่องานของตัวเองก็ล้นมือ
หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนค่ำ ดวงตาค่อยๆ กระพริบฝ่าความพร่าเลือน จากนั้นเธอก็ค่อยๆ หันไปมองรอบตัว เมื่อเห็นชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงกุมมือของเธอนั่งอยู่ก็ตกใจ แม้สายตาของคนมองจะแสดงออกถึงความอาทรห่วงใยก็ตาม
หญิงสาวรีบชักมือกลับและรีบกระถดตัวหนีออกห่างจากการเกาะกุมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเอง เธอพ่นวาจาแสบร้อนที่ออกมาจากปากบางที่ฟื้นไข้ขึ้นมาไม่กี่นาที
“กรี๊ด! ไอ้บ้ากาม! แกข่มขืนฉัน”
ไม่เพียงแค่นั้น มือของเธอยังรัวทุบร่างหนาไม่ยั้ง ทั้งที่ยังเจ็บร้าวในร่างกาย จากความรู้สึกโกรธทะลุจุดเดือดของเจ้าของฉายาคุณหนูขี้วีนอย่างเธอ พ่นคำด่าทอออกมาจากปากซีดบวมเป่งไม่หยุด
“ไอ้หน้าด้าน! ไอ้ซาตานชั่ว! ไอ้มั่วไม่เลือกที่! ไอ้ไม่มีที่ดีในสันดาน! ไอ้”
เธอเป็นลูกสาวคนเล็กที่ถูกตามใจและทุกคนต้องยอมให้เธอ หลังจากที่พ่อเสียไป พี่ชายเพียงคนเดียวก็ประเคนให้เธอทุกอย่าง
ชายหนุ่มรวบสองมือของหญิงสาวเอาไว้ จ้องนิ่งไม่วางตา
“หยุด! พอได้แล้ว! ฟังผมก่อน เรื่องเมื่อคืน...” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มและเตรียมจะอธิบาย แต่ก็พูดไปได้แค่ครึ่งเดียว แต่หญิงสาวสะบัดแขนอย่างแรงให้หลุดจากพันธนาการ ร้องเสียงแหลมแสบโสตประสาทหูตวาดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่! ไอ้สารเลว ไอ้หน้าตัวเมีย ไอ้คนชอบรังแกผู้หญิง ไอ้ชิงหมาเกิด ฉันจะกลับบ้าน แล้วจะเอาตำรวจมาลากคอแกเข้าคุก และต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด รวมทั้งผับและโรงแรมเส็งเคร็งนี่ด้วย” เธอพ่นคำด่าออกมาอีกเป็นชุด โดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นถึงผู้บริหารของที่นี่
“ถ้าจะไม่ฟังอะไรก็เอาเถอะ” ชายหนุ่มบอกอย่างเหนื่อยหน่าย นั่นยิ่งทำให้คนเอาแต่ใจโกรธมากขึ้น
“แกรู้ไหม! ว่าฉันเป็นใคร” หญิงสาวบอกเสียงดังลั่นไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น
‘โธ่! แม่คุณเอ๊ย เป็นคนใหญ่คนโตเสียด้วย’ เขาคิดในใจอย่างระอา คงเป็นลูกหลานผู้มิอิทธิพลแถวนี้สักคน แม้เขาจะกลับมาอยู่เมืองไทยไม่นาน แต่ก็เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ จนชิน โดยเฉพาะในผับ แต่เขาก็ไม่หวันเกรงสักนิด
เมื่อก่อนพ่อของเขาอาจจะเกรงกลัวคนมีอิทธพลแถวนี้ แต่สำหรับเขาไม่ใช่แน่นอน เขากระตุกยิ้มมุกปากเล็กน้อย
“ผมไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหน แต่ถ้าคุณอยากให้ผมรู้ว่าคุณเป็นใครก็บอกมาก็แล้วกัน” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงยียวน
“กวนประสาท!” หญิงสาวง้างมือจะตบอีกรอบ แต่ชายหนุ่มที่มองอยู่ตลอดเวลาก็รวบมือบางไว้ได้ทันเสียก่อน
มือใหญ่ข้างเดียวของเขารวบมือของเธอไว้ได้ทั้งสองข้าง คราวนี้เขากำแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เธอทำร้ายเขาต่อ แน่นอนว่าเขาไม่สะทกสท้านกับแรงของเธอ
เมื่อโดนจับไว้คนร่างบางกลับยิ่งโกรธและดิ้นแรงให้หลุดพ้น แต่เมื่อทำอะไรเขาไม่ได้เธอก็ได้แต่พ่นคำออกจากปากหวังให้เขาได้เจ็บแสบที่สุดเท่านั้น
“ไอ้สารเลว ปล่อยนะ คนชั่ว หน้าตัวเมีย รังแกผู้หญิง”
“บอกให้หยุด แล้วฟัง ฟังก่อน! ทำไมไม่ยอมฟังบ้างเลย มีสติ อย่าเพิ่งโวยวายได้ไหม” ชายหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งบอกเสียงเข้มขึ้นอย่างไม่พอใจ
ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาหญิงสาวก็ได้แต่ร้องต่อว่าเขาเสียงแสบหูโวยวายสติแตกตลอดเวลา จนความอดทนของเขาใกล้จะหมดลงเต็มที
“ฉันไม่ฟัง แกมันชั่ว แกมันเลว” ชายหนุ่มขบกรามแน่นกับถ้อยคำที่พ่นออกมาไม่หยุดจากปากกระจับได้รูปของหญิงสาวแก้มใส
‘โธ่เว้ย! แค่ต้องการอธิบายว่าเป็นคนดี ทำไมมันถึงได้ยากเย็นอย่างนี้วะ ผู้หญิงไทยทำไมถึงเข้าใจอะไรยากเย็นอย่างนี้’ ในเมื่อเขาจะอธิบายให้ฟังดีๆ แล้วไม่ยอมฟังก็ปล่อยให้เข้าใจผิดไปเลยก็แล้วกัน
ชายหนุ่มปล่อยมือหญิงสาว แล้วขยับตัวลุกออกจากเตียงขู่เสียงเข้ม จ้องตาไม่กะพริบ
“เออ! ถ้าอยากเป็นข่าวก็เอาเลย! คนในครอบครัวจะได้รู้ว่าลูกสาวทำตัวแย่ขนาดไหน อายุแค่นี้ก็กินเหล้าเมายา กอดจูบผู้ชายในผับ แถมมีสามีทีเดียวพร้อมกันตั้งสี่ห้าคน” ชายหนุ่มบอกอย่างประชด ไม่คิดว่าเรื่องราวจากนี้จะแย่ลงเพราะคำพูดของเขา
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
“ถ้าเก่งเรื่องพยาบาล ก็ช่วยพยาบาลให้บางส่วนในร่างกายฉันที่กำลังตื่นตัว สงบลงด้วยก็แล้วกัน หวังว่าคงจะไม่แค่ปากดีนะ” ‘ดารัณ’ จำต้องยอมรับข้อเสนองานใหม่... เพื่อนำรายได้มาสะสางหนี้สินของครอบครัว แต่เมื่ออดีตพยาบาลสาวเดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา เธอกลับพบว่างานของเธอ คือการดูแล... ‘คาร์ดิโก้ นอร์ตัน’ เพลย์บอยหนุ่มผู้บริหารสายการบินยักษ์ใหญ่ ผู้ไม่คิดจะสูญเสียสถานภาพความโสดให้กับผู้หญิงคนใดทั้งสิ้น… กฎเหล็กของคาร์ดิโก้ คือ...เขาจะไม่มีวันพาผู้หญิงไทยขึ้นเตียงเด็ดขาด เมื่อเขาพบว่าพยาบาลสาวไทยที่มารดาของเขาหามาดูแลอาการป่วย แท้จริงมีหน้าที่แอบแฝงคือคอยกีดกันและเก็บกวาดบรรดาคู่นอนชั่วคราวของเขาไปจนหมดสิ้น เขาก็ยิ่งโกรธ มีหรือ...เสือร้ายอย่างเขาจะยอมโดนลบคม เนื้อนุ่มๆ หวานๆ อยู่ตรงหน้า เสืออย่างเขาต้องขย้ำเท่านั้น คาร์ดิโก้จำต้องปรับเปลี่ยนแผน หันมากินอดีตพยาบาลคนสวย โดยไม่รู้สักนิดว่าผู้หญิงคนนั้นก็ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ที่มารดาของเขาตั้งใจหามาให้ตั้งแต่แรก สุดท้ายเขาก็ต้องจมดิ่งไปกับกฎเหล็กและแรงพิศวาสของตัวเองอย่างถอนตัวไม่ขึ้น “จะหนียังไงก็คงไม่รอดหรอกสาวน้อย ตอนนี้ เวลานี้ เธอต้องทำหน้าที่ของเธอแล้ว” หญิงสาวเงยหน้ามองเจ้านายหนุ่มอย่างตื่นตระหนก ค่าจ้างสูงลิ่วที่เธอได้รับเหมารวมกับทุกการบริการเช่นนี้เลยหรืออย่างไร
เธอบังอาจจับเขามาแต่งงานหลอกๆ แต่เขาเกิดอยากจับเธอมาเป็นภรรยาจริงๆ ป่านฝัน เจ้าสาววิวาห์ล่มจำต้องจับเขามาแต่งงานหลอกๆ เพื่อแก้หน้าให้ แต่เจ้าบ่าวจัดฉากกลับทำเกินหน้าที่ เขาทั้งกอด ทั้งจับ ทั้งจูบ จนหัวใจแข็งกระด้างของเธออ่อนไหวไปกับเขาหลายต่อหลายครั้ง ทวิช ทายาทคนเล็กของบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ในเมืองไทย เขาต้องตกกระไดพลอยโจนร่วมเล่นละครจัดฉากป่านฝันเป็นผู้กำกับ ทว่าคนเจ้าเล่ห์ก็ตีบทกระจาย ขยันหากำไรจากเรือนกายภรรยาสาวบ่อยครั้ง จากตอดเล็กตอดน้อย ปะทะคารม หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ รู้ตัวอีกครั้งหัวใจของเขาก็ไปอยู่อุ้งมือของแม่สาวขี้วีนเสียแล้ว แลกกับตำแหน่งภรรยาพฤตินัยและนิตินัยที่เป็นของเขาเช่นกัน “ปล่อยป่านนะ!” “เรื่องอะไรจะปล่อย...มันก็ไม่ผิดกติกานะ วันนี้คุณมานอนนอกห้องกับผมเอง” “คนเจ้าเล่ห์! ใครบอกว่าป่านจะออกมานอนข้างนอกกับคุณ” “บอกอยู่นี่ไง หรือว่าจะเถียง...คุณออกมาหาผมเอง ขึ้นชื่อว่าผู้ชายเจ้าเล่ห์กันทุกคนแหละครับทูนหัว ออกมาแล้วก็อย่าหวังเลยว่าจะได้กลับเข้าไปในห้องอีก” “ถ้าคุณไม่ปล่อย ป่านโกรธคุณจริงๆ ด้วย” หญิงสาวบอกเสียงดุ แต่คนเจ้าเล่ห์กลับยิ่งรัดตัวหญิงสาวแน่นขึ้น “คืนนี้ขอแค่ได้นอนกอดเมีย พรุ่งนี้ผมยอมรับโทษทุกอย่าง” คนเจ้าเล่ห์บอกเสียงอ้อน ทอดสายตาหวานซึ้ง ขณะที่ปลายจมูกโด่งยังคลอเคลียอยู่ข้างแก้มนุ่มไม่ยอมห่าง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนิ่งเขาก็ยิ่งรุกหนัก กดริมฝีปากบนเรียวปากนุ่มดูดชิมความหวานอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ความเร่าร้อนเพิ่มพูนจนคนใต้ร่างไม่อาจต้านทานความเรียกร้องไหว ...ป่านฝันไม่เคยชนะลูกอ้อนของเขาได้สักที
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
เจ้าสาวหมาดๆ อย่างบัวบูชาตื่นมาบนเตียงชายอื่นในวันรุ่งขึ้นของการแต่งงาน เป็นคล้ายฝันร้ายที่กลายเป็นจริง เขาทำราวกับเธอเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานมนาน เขาลักพาตัวเธอมาจากหน้าเรือนหอในคืนวิวาห์ เพราะเข้าใจว่าเธอคือบุษบงกชคนรักเก่าที่หนีตามชายอื่นไป บัวบูชาอยากหนีไปจากเขา หรือบอกความจริงว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น แต่เพราะ คนรักเก่าที่เขาเกลียดชัง เคียดแค้น คือพี่สาวฝาแฝดของเธอที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำไปก่อนหน้า หญิงสาวตัดสินใจสวมรอยเป็นบุษบงกช เพื่อสืบหาความจริง โดยไม่รู้เลยว่าเดิมพันครั้งนี้สูงนัก เพราะมันหมายถึงทั้งชีวิต...และหัวใจ!
หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย
© 2018-now MeghaBook
บนสุด