ทางเลือกที่แตกต่าง บนกรอบของคำว่า "พรหมจรรย์" เธอ...เลือกที่จะอยู่โดยไม่มีเขา แต่เขา...เลือกที่จะใช้กลลวงหลอกล่อให้เธออยู่
ทางเลือกที่แตกต่าง บนกรอบของคำว่า "พรหมจรรย์" เธอ...เลือกที่จะอยู่โดยไม่มีเขา แต่เขา...เลือกที่จะใช้กลลวงหลอกล่อให้เธออยู่
รษาขยับเปลือกตาอันหนักอึ้งปรือตารับแสงของวันใหม่ รู้สึกร้อนวูบวาบปวดร้าวบวกกับอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจับไข้ นึกย้อนถึงเรื่องราวรางเลือนเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่น่าหลงเชื่อแรงยุของเพื่อนดื่มจนเมามายแทบครองสติไม่อยู่เลยจริงๆ เพราะนิสัยไม่ยอมคนของเธอแท้ๆ
หญิงสาวสำรวจกลอกตามองรอบห้องพลางยกมืออังหน้าผากวัดระดับความร้อนของร่างกาย ทว่าเมื่อเหลือบเห็นเนื้อนุ่มขาวนวลเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ใดห่อหุ้ม ไร้ผ้าห่มปิดผิวกายกับความเย็นวาบฉาบผิวเป็นเครื่องยืนยัน
มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“กรี๊ดด!”
หญิงสาวหวนนึกย้อนไปถึงความรู้สึกก่อนที่สติทั้งหมดที่มีของเธอจะหลุดลอยไป
ใช่! เธอถูกชายกลุ่มหนึ่งทำร้าย
หญิงสาวไม่อาจจดจำใบหน้าของคนพวกนั้นได้ทั้งหมด ทุกอย่างในความทรงจำเลือนรางเหมือนภาพในความฝัน ฝันร้ายที่เธอไม่อยากพบพาน หญิงสาวพยายามพยุงร่างกายที่บอบช้ำแสนปวดร้าวเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบาก
“กรี๊ด! กรี๊ดดด!! ” หญิงสาวกรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมาอีกครั้ง รอยแดงเป็นจ้ำที่เกิดขึ้นบนผิวผ่อง เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยตอกย้ำยืนยันเรื่องราวที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ใช่ความฝันของเธออีกต่อไป ความทรงจำเลือนรางสุดท้ายก่อนสิ้นสติหลุดลอยถาโถมประดังประเดเข้ามาในสมองไม่ขาดสาย
‘ฉันสูญเสียพรหมจรรย์ให้กับพวกเขาจริงหรือ’
“กรี๊ด! ไม่จริง!”
เสียงสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากบวมเจ่อ พร้อมกับสติของเธอดับวูบทรุดกองลงบนพื้นเย็นเฉียบ
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก เจ้าของร่างสูงเดินกลับมาในห้องพักของหญิงสาวอีกครั้ง หลังจากที่เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อย สองขายาวก้าวมาที่เตียงหลังจากสั่งให้พนักงานปิดข่าวให้เรียบร้อย ทั้งนี้ก็เพื่อหญิงสาวที่ถูกกระทำเสียหาย ทั้งต้องรักษาชื่อเสียงของโรงแรม
เขาเพิ่งก้าวเข้ามาบริหารโรงแรมไม่นานไว้ด้วย ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไปมันคงไม่เป็นผลดีกับโรงแรมและผับที่เขากำลังจะเปลี่ยนระบบการบริหารใหม่
เมื่อนึกถึงใบหน้าบอบช้ำของหญิงสาวเคราะห์ร้ายเขาก็ยิ่งสงสารและเป็นกังวล จนต้องเขามาดูเธอเธอด้วยตัวเองอีกครั้ง ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องเองแบบนี้ เพียงแค่สั่งสองสามประโยคทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่ใบหน้านวลของสาวเคราะห์ร้ายกลับวนเวียนในหัวไม่หยุด ในที่สุดเขาก็มายืนอยู่ตรงนี้
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงผ่านมา ถ้าหากคนของเขาไม่เฉลียวใจในสิ่งผิดปกติและเข้ามารายงานเขาได้ทัน เขาไม่รู้เลยว่าเธอจะมีสภาพเป็นอย่างไร ขนาดว่าเขาเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน สภาพของเธอก็ยังไม่ต่างจากโดนรุมโทรมสักนิด
หัวคิ้วหนาขมวดมุ่นเมื่อไม่เห็นหญิงสาวนอนอยู่บนเตียงอย่างที่ควรจะเป็น เขากวาดสายตามองรอบห้องเร็วๆ ก่อนจะมองเลยผ่านเตียงกว้างไปโฟกัสไปที่ห้องน้ำและเดินตรงไปดูที่ห้องน้ำ และเขาก็ต้องตกใจหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่า เมื่อเห็นร่างบางที่เขากำลังมองหานอนอยู่บนพื้นในห้องน้ำ
“คุณ! คุณ! เป็นอะไรไป ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้” มือหนาแตะไหล่กลมกลึงเขย่าเรียกหญิงสาวให้ได้สติ แต่คนที่เขาพยายามเรียก กลับยังนอนนิ่งเงียบไม่ไหวติงสักนิด
‘บ้าเอ๊ย เป็นอะไรอีกเนี่ย เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ ป่านนี้ที่บ้านจะรู้หรือยัง แล้วจะเป็นห่วงมากมายขนาดไหนกัน’ ชายหนุ่มสบถเบาๆ
ปรินทรย่อตัวช้อนร่างเปลือยเปล่าขึ้นมาในวงแขน อุ้มเธอเดินมาที่เตียง เขาค่อยๆ วางร่างบางลงอย่างเบามือ เหมือนกลัวว่าเธอจะได้รับการกระทบกระเทือนจนเจ็บหนักเพิ่มขึ้นอีก จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำและเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าชุบน้ำอุ่นในมือ เขาใช้มันแตะซับไปทั่วใบหน้าอย่างเบามือ
นานหลายชั่วโมงที่หญิงสาวหลับใหลไม่ได้สติ ชายหนุ่มเจ้าของโรงแรมก็ยังนั่งอยู่อย่างนั้น เขาเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ทำไมจะต้องอยู่ ในเมื่องานของตัวเองก็ล้นมือ
หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนค่ำ ดวงตาค่อยๆ กระพริบฝ่าความพร่าเลือน จากนั้นเธอก็ค่อยๆ หันไปมองรอบตัว เมื่อเห็นชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงกุมมือของเธอนั่งอยู่ก็ตกใจ แม้สายตาของคนมองจะแสดงออกถึงความอาทรห่วงใยก็ตาม
หญิงสาวรีบชักมือกลับและรีบกระถดตัวหนีออกห่างจากการเกาะกุมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเอง เธอพ่นวาจาแสบร้อนที่ออกมาจากปากบางที่ฟื้นไข้ขึ้นมาไม่กี่นาที
“กรี๊ด! ไอ้บ้ากาม! แกข่มขืนฉัน”
ไม่เพียงแค่นั้น มือของเธอยังรัวทุบร่างหนาไม่ยั้ง ทั้งที่ยังเจ็บร้าวในร่างกาย จากความรู้สึกโกรธทะลุจุดเดือดของเจ้าของฉายาคุณหนูขี้วีนอย่างเธอ พ่นคำด่าทอออกมาจากปากซีดบวมเป่งไม่หยุด
“ไอ้หน้าด้าน! ไอ้ซาตานชั่ว! ไอ้มั่วไม่เลือกที่! ไอ้ไม่มีที่ดีในสันดาน! ไอ้”
เธอเป็นลูกสาวคนเล็กที่ถูกตามใจและทุกคนต้องยอมให้เธอ หลังจากที่พ่อเสียไป พี่ชายเพียงคนเดียวก็ประเคนให้เธอทุกอย่าง
ชายหนุ่มรวบสองมือของหญิงสาวเอาไว้ จ้องนิ่งไม่วางตา
“หยุด! พอได้แล้ว! ฟังผมก่อน เรื่องเมื่อคืน...” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มและเตรียมจะอธิบาย แต่ก็พูดไปได้แค่ครึ่งเดียว แต่หญิงสาวสะบัดแขนอย่างแรงให้หลุดจากพันธนาการ ร้องเสียงแหลมแสบโสตประสาทหูตวาดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่! ไอ้สารเลว ไอ้หน้าตัวเมีย ไอ้คนชอบรังแกผู้หญิง ไอ้ชิงหมาเกิด ฉันจะกลับบ้าน แล้วจะเอาตำรวจมาลากคอแกเข้าคุก และต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด รวมทั้งผับและโรงแรมเส็งเคร็งนี่ด้วย” เธอพ่นคำด่าออกมาอีกเป็นชุด โดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นถึงผู้บริหารของที่นี่
“ถ้าจะไม่ฟังอะไรก็เอาเถอะ” ชายหนุ่มบอกอย่างเหนื่อยหน่าย นั่นยิ่งทำให้คนเอาแต่ใจโกรธมากขึ้น
“แกรู้ไหม! ว่าฉันเป็นใคร” หญิงสาวบอกเสียงดังลั่นไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น
‘โธ่! แม่คุณเอ๊ย เป็นคนใหญ่คนโตเสียด้วย’ เขาคิดในใจอย่างระอา คงเป็นลูกหลานผู้มิอิทธิพลแถวนี้สักคน แม้เขาจะกลับมาอยู่เมืองไทยไม่นาน แต่ก็เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ จนชิน โดยเฉพาะในผับ แต่เขาก็ไม่หวันเกรงสักนิด
เมื่อก่อนพ่อของเขาอาจจะเกรงกลัวคนมีอิทธพลแถวนี้ แต่สำหรับเขาไม่ใช่แน่นอน เขากระตุกยิ้มมุกปากเล็กน้อย
“ผมไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหน แต่ถ้าคุณอยากให้ผมรู้ว่าคุณเป็นใครก็บอกมาก็แล้วกัน” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงยียวน
“กวนประสาท!” หญิงสาวง้างมือจะตบอีกรอบ แต่ชายหนุ่มที่มองอยู่ตลอดเวลาก็รวบมือบางไว้ได้ทันเสียก่อน
มือใหญ่ข้างเดียวของเขารวบมือของเธอไว้ได้ทั้งสองข้าง คราวนี้เขากำแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เธอทำร้ายเขาต่อ แน่นอนว่าเขาไม่สะทกสท้านกับแรงของเธอ
เมื่อโดนจับไว้คนร่างบางกลับยิ่งโกรธและดิ้นแรงให้หลุดพ้น แต่เมื่อทำอะไรเขาไม่ได้เธอก็ได้แต่พ่นคำออกจากปากหวังให้เขาได้เจ็บแสบที่สุดเท่านั้น
“ไอ้สารเลว ปล่อยนะ คนชั่ว หน้าตัวเมีย รังแกผู้หญิง”
“บอกให้หยุด แล้วฟัง ฟังก่อน! ทำไมไม่ยอมฟังบ้างเลย มีสติ อย่าเพิ่งโวยวายได้ไหม” ชายหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งบอกเสียงเข้มขึ้นอย่างไม่พอใจ
ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาหญิงสาวก็ได้แต่ร้องต่อว่าเขาเสียงแสบหูโวยวายสติแตกตลอดเวลา จนความอดทนของเขาใกล้จะหมดลงเต็มที
“ฉันไม่ฟัง แกมันชั่ว แกมันเลว” ชายหนุ่มขบกรามแน่นกับถ้อยคำที่พ่นออกมาไม่หยุดจากปากกระจับได้รูปของหญิงสาวแก้มใส
‘โธ่เว้ย! แค่ต้องการอธิบายว่าเป็นคนดี ทำไมมันถึงได้ยากเย็นอย่างนี้วะ ผู้หญิงไทยทำไมถึงเข้าใจอะไรยากเย็นอย่างนี้’ ในเมื่อเขาจะอธิบายให้ฟังดีๆ แล้วไม่ยอมฟังก็ปล่อยให้เข้าใจผิดไปเลยก็แล้วกัน
ชายหนุ่มปล่อยมือหญิงสาว แล้วขยับตัวลุกออกจากเตียงขู่เสียงเข้ม จ้องตาไม่กะพริบ
“เออ! ถ้าอยากเป็นข่าวก็เอาเลย! คนในครอบครัวจะได้รู้ว่าลูกสาวทำตัวแย่ขนาดไหน อายุแค่นี้ก็กินเหล้าเมายา กอดจูบผู้ชายในผับ แถมมีสามีทีเดียวพร้อมกันตั้งสี่ห้าคน” ชายหนุ่มบอกอย่างประชด ไม่คิดว่าเรื่องราวจากนี้จะแย่ลงเพราะคำพูดของเขา
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์ อย่าหาว่าหนูแรดนะคะ นะคะ" "แรดเงียบๆ แอบกินเนียนๆ แต่เซียนต้องหลบ" อันดา เจ้าของสโลแกน ‘ถ้าผู้ชายคิดจะมอมเหล้าแล้วลากเข้าโรงแรม ผู้ชายตายก่อนเพราะเปลือง’ เด็กวิศวะก่อสร้างสุดแสบ สายปาร์ตี้ และนักล่าแต้มบริหารเสน่ห์ อันดาถูกครอบครัวมั่นหมายให้กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกวันแรก เธอเรียกคู่หมั้นว่าห่วงคล้องคอ โซ่ตรวนที่กักขังอิสระของเธอมาตลอดชีวิต เธอตั้งป้อมเกลียดเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอยากเอาชนะหรือความรู้สึกจริงๆ กันแน่ ถึงแม้จะเผลอมีอะไรกับเขาในวันที่เธอเมาหนัก เธอก็สั่งให้เขาลืมเรื่องวันนั้น และห้ามตอกย้ำกับเธออีก เธอไม่แคร์กับเรื่องแค่นั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขายอมหลีกทางให้เธอกับผู้ชายคนใหม่ วันนั้นเธอถึงได้รู้ความจริง ว่าเธอขาดผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการตามล่าเฮียเบิ้มกลับมาทำผัวจึงเกิดขึ้น…
เรื่องชุลมุนเกิดขึ้น เพราะเขาดันไปเผลอพลาดท่า มีอะไรกับนักศึกษาฝึกงานเสียนี่ แถมเจ้าหล่อนยังทำเมินต่อพรหมจารีที่สูญเสีย หล่อนทำให้เขาเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจอยู่หลายวัน จนเขาจะต้องค้นหาความจริง หล่อนมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาลุ่มหลงได้มากขนาดนี้ คีรติหวงความโสดขั้นสุด รอดมือแม่เสือสาวนักล่ามาหลายปี แต่ดันมาตกม้าตาย ติดกับดักนักศึกษาสาว โดนเด็กตกเข้าให้ หัวใจแพ้ลูกอ้อนอ่อนยวบ แต่ร่างกายกลับฟิตปึ๋งปั๋งซะนี่ "เอาสิ! อยากจับตรงไหนก็เชิญ" วิเวียน นักศึกษาฝึกงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ก่อสร้าง แต่เธอกลับถูกส่งไปดูแลห้องของเจ้านายในกรณีพิเศษ แต่ก็ทำปลาหายากราคาสูงลิบของเขาตายไป 9 ตัว เธอจึงต้องทำงานชดใช้เขาต่อหลังจากฝึกงาน บอสคีย์ ผู้ชายฮอตแห่งปี ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแถมดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร ประธานบริษัทที่แสนดุ เฮี๊ยบและโหดขั้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาต้องสมบูรณ์เป๊ะทุกองศา
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด