ท่าทางคุกคามของเขาทำให้รินรดาขยับตัวถอยห่างจนหลังชิดประตูห้องอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มยกมือยันด้านหลังไม่ให้หญิงสาวหลบหนีการรับรู้ความจริงนี้ได้อีกแล้ว ถ้าอยากช่วยพ่อใช้หนี้ก็ทำตัวเชื่องๆ เป็นเด็กดีและทำตามคำสั่งของผม ถ้าทำให้ผมพอใจผมอาจจะตบรางวัลให้คุณเป็นการตอบแทนก็ได้ พิชญะ ฉายฉาน เจ้าของไร่กลางภูเขากำลังจ้องมองเธออย่างเอาเรื่อง รินรดาได้แต่อบอกตัวเองว่านี่คือฝัน มันเป็นฝันร้ายเท่านั้นแค่เพียงลืมตาเธอจะพบมันว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่...มันคงไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่อมือใหญ่บีบคางเธอให้เชิดหน้าขึ้นและริมฝีปากของเธอก็ถูกฉกจูบอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ วินาทีต่อมาเธอก็ยกมือขวาตบซีกหน้าเขาเต็มแรงจนใบหน้าเขาสะบัดไป “มากไปแล้วนะรินรดา” พิชญะตะคอกอย่างลืมตัว ไม่เคยมีใครทำกับเขาแบบนี้มาก่อน ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยสยบแทบเท้าเขาทั้งนั้น “ฉันจะอยู่ที่นี่ทำงานใช้หนี้ให้คุณ” รินรดาเชิดหน้าอย่างท้าทาย “แต่ไม่มีวันที่ฉันจะยอมเสียศักดิ์ศรีของฉันให้คุณเด็ดขาด!” ดวงตาทั้งสองท้าทายซึ่งกันและกัน พิชญะกับรินรดารู้ดีว่านี่คือการประกาศศึกของคนทั้งสอง มันเป็นเกมร้อนแรงหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำก็อาจถูกเพลิงพิศวาสเผาไหม้ทุรนทุรายตายทั้งเป็น!.
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นตอนตีสองครึ่ง มือเรียวควานหาโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ข้างเตียงนอน เสียงดังนานราวกับจะบอกว่าปลายสายต้องการความช่วยเหลือด่วน
“สวัสดีค่ะ”
“ทำอะไรอยู่ รับสายช้าจริงๆ”
“รินหลับค่ะพี่มาร์กี้”
“หลับเร็วจริงนะ”
“เอ่อ...ตีสองกว่าแล้วค่ะพี่มาร์กี้”
“เออๆ มารับหน่อยซิ ฉันขับรถกลับไม่ไหว”
“พี่มาร์กี้อยู่ที่ไหนคะ”
“ผับแถวสุขุมวิท”
“ขอครึ่งชั่วโมงค่ะ พี่มาร์กี้อย่าไปกับใครนะคะ แล้วก็อย่าปิดมือถือด้วย”
“เร็วๆ ให้ไว!”
ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ ปลายสายก็กดตัดสายทิ้งทันที หญิงสาวลุกขึ้นจากที่นอนแสนอุ่นสบายแล้วเปิดไฟห้องนอนของตน เสยผมยาวสลวยลวกๆ แล้วใช้ยางรัดผมรัดไว้อย่างรีบเร่ง เดินเข้าไปล้างหน้าพอให้ตาสว่างแล้วรีบเปลี่ยนชุดนอนเป็นเสื้อยืดกับกางเกงยีนคว้ากุญแจรถเก๋งคันเล็กออกจากบ้านหลังงามอย่างรวดเร็ว
รินรดา เพชรประกาย หญิงสาววัยยี่สิบสี่รีบขับรถเก๋งญี่ปุ่นไปจุดหมายอย่างรวดเร็ว ถนนที่ค่อนข้างโล่งผิดกับตอนกลางวันทำให้เธอใช้เวลาขับรถจากบ้านในหมู่บ้านหรูกลางกรุงมาถึงผับชื่อดั่งย่านสุขุมวิทในเวลาที่แจ้งพี่สาวไว้ เมื่อมาถึงเธอกวาดสายตามองที่ประตูด้านหน้าผับ นักท่องราตรีทยอยออกจากผับมายืนอยู่ด้านนอก รินรดาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาพี่สาวแต่ยังไม่ทันทีอีกฝ่ายจะรับสาย เธอก็สังเกตเห็นหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีดำหัวเราะคิกคักอยู่ใกล้รถสปอร์ตสีแดง รินรดารีบก้าวลงจากรถแล้วเข้าไปประคองพี่สาวที่อยู่ท่ามกลางหนุ่มๆ
“อ้าว! มาเสียทีนะยะ”
“พี่มาร์กี้เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ”
“ผมขับรถไปส่งให้ก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้นท่าทางเมาไม่น้อย
รินรดาฉีกยิ้มที่มุมปากแล้วส่ายหน้าเร็วๆ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะพาพี่สาวกลับบ้านเอง”
“น่า...ให้พวกเราไปส่งเถอะ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ”
รินรดาดึงกุญแจรถจากมือพี่สาวแล้วประคองเธอไว้แต่ผู้ชายตัวโตหลายคนเดินล้อมไม่ให้เธอกับพี่สาวได้ก้าวออกไป
“มาน่า...ไปสนุกกันต่อดีกว่านะ”
“ไม่ค่ะ ช่วยหลบด้วย” รินรดาปฏิเสธเสียงแข็งพยายามจะหาทางแทรกตัวออกมา แต่ผู้ชายเหล่านี้ก็ไม่มีท่าทีจะหลบทางให้
“ถ้าพวกคุณไม่หลบฉันจะร้องให้คนช่วยนะ!”
“โธ่! จะร้องแบบไหนหรือจ๊ะคนสวย” อีกฝ่ายทำท่าจะลวนลามหญิงสาว
รินรดาทำหน้ารังเกียจ แต่เธอประคองพี่สาวที่เกือบจะหมดสติทำให้เธอขยับเคลื่อนไหวตัวไม่ถนัด สายตามองหาใครสักคนที่จะมาช่วย สายตาของเธอก็มองเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กำลังเดินเข้ามา
“เฮ้ๆ ผู้หญิงเขาไม่ยอมก็อย่าไปฝืนใจดีกว่านะ”
ชายหนุ่มแปลกหน้าเอ่ยขึ้น แสงสลัวที่บริเวณลานจอดรถทำให้เห็นหน้าไม่ชัดแต่เขาดูกำยำและใบหน้ามีเคราขึ้นหนา เขาเดินมาใกล้ทำให้เธอรู้ว่าเขาตัวสูงใหญ่ผิดกับหนุ่มนักเที่ยวคนอื่น
“เออ! แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วยวะ!”
“ก็ไม่มีอะไรแค่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน”
อีกฝ่ายตอบด้วยการเหวี่ยงหมัดใส่แต่ชายหนุ่มกำยำหลบได้อย่างว่องไว ทำให้อีกฝ่ายเสียหลังล้มคะมำอย่างน่าอายเรียกเสียงหัวเราะให้คนที่มองอยู่ รินรดาเกือบจะหวีดร้องออกมาเมื่อเห็นอีกคงพุ่งเข้าใส่แต่เขาก็หลบได้รวดเร็วราวกับมีตาหลัง ชายหนุ่มไม่ได้โต้ตอบอะไรเลยสักนิดแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายยอมถอยไปง่ายดาย
“ให้ไปส่งที่รถไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ” รินรดาส่ายหน้าไปมา “ขอบคุณที่ช่วยเหลือค่ะ ขอตัวนะคะ” หญิงสาวก้มศีรษะลงเล็กน้อยอยากจะยกมือไหว้ขอบคุณแต่ไม่ถนัดเพราะประคองร่างพี่สาวอยู่ มาติกาเงยหน้าขึ้นแล้วส่งจูบให้ชายหนุ่มแต่รินรดารีบพามานั่งที่รถของตน
“พี่มาร์กี้รอรินเดี๋ยวนะคะ”
รินรดาคาดเข็มขัดนิรภัยให้มาติกาแล้วรีบไปเช็ครถของพี่สาวที่ล็อกเรียบร้อยดี เธอหันไปคุยกับรปภ. ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่แล้วยื่นธนบัตรสีม่วงส่งให้
“รบกวนหน่อยนะคะ ตอนเช้าจะให้คนมารับรถค่ะ”
“ได้ครับคุณหนู ลูกค้าประจำเจ้านายบอกให้ผมดูแลให้อย่างดีอยู่แล้วครับ”
รินรดายกมือไหว้ขอบคุณแล้วรีบกลับมาที่รถเพื่อพาพี่สาวกลับบ้าน เธอเหลียวมองหาคนที่เข้ามาช่วยแต่ก็ไม่เห็นร่างสูงใหญ่ เธอกลัวคนกลุ่มเดิมจะกลับมาหาเรื่องจึงรีบเดินกลับมาที่รถและสตาร์ทรถออกไป กลิ่นเหล้าจากพี่สาวทำให้รินรดาต้องเปิดกระจกรถลงครึ่งหนึ่ง มาร์กี้เมามากแต่ยังร้องเพลงฮึมฮัมในลำคอและหลับไปในไม่กี่นาที รินรดาได้แต่เหลือบมองไม่อยากละสายตาจากถนนแม้ว่าจะโล่งแต่รถก็มักแล่นเร็วเสมอ ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอก็มาถึงบ้านหลังงามเธอต้องลงมาเปิดประตูรั้ว ขับรถเข้าบ้านแล้ววิ่งมาปิดประตูก่อนจะประคองมาติกาที่เมาจนแทบไม่ได้สติเข้าบ้าน
บ้านสวยกลางกรุงพื้นที่ ใช้สอย 288 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องพระ ห้องรับประทานอาหาร ครัวไทย ส่วนซักรีด ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ที่จอดรถในร่ม 2 คัน ส่วนรถเก่าๆ ของเธอจอดตากแดดตากฝนด้านนอกห้องพักผ่อนส่วนตัวพร้อมระเบียงกว้างชั้นบน มันแสนจะกวางขวางและลำบากในการทำความสะอาดบ้านทั้งหลังและคนในบ้านที่อยู่กับเพียงสี่คน หญิงสาวจัดแจงให้พี่สาวเธอนอนสบายบนที่นอนหนานุ่ม ห้องนอนของมาติกาต่างจากห้องนอนของเธอลิบลับนอกจากฟอร์นิเจอร์ที่มีครบครันทันสมัยแล้วยังมีขนาดใหญ่กว่าด้วย แต่รินรดาก็ไม่รู้สึกน้อยใจอะไรเธอพอใจกับห้องนอนขนาดเล็กของตัวเองมากกว่า หลายปีแล้วที่บ้านหลังนี้ไม่มีแม่บ้านอยู่ประจำด้วยฐานะการเงินที่เริ่มถดถอยค่าใช้จ่ายมากกว่ารายรับจึงเป็นการจ้างรายวัน สามหรือสี่วันจะมีแม่บ้านมาช่วยทำความสะอาด ส่วนสวนสวยนักเดือนละครั้ง ที่เหลือเธอต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดตั้งแต่ทำอาหารเช้าไปถึงซักเสื้อผ้าและดูแลความเรียบร้อยของบ้าน
หลายครั้งที่เธอตั้งคำถาม นี่ใช่ชีวิตที่เธอต้องการจริงหรือ? เธอเคยได้เรียนพยาบาลอยู่ปีเดียวก็จำเป็นต้องลาออกมาเรียนด้านบัญชีเพื่อช่วยทำงานในบริษัทของพ่อ ส่วนมาติกาเป็นลูกรักของแม่ที่วันๆ เอาแต่เที่ยวเตร่โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแม้ว่าอายุจะยี่สิบห้าแล้วก็ตาม รินรดาตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านอีกครั้ง นาฬิกาบอกเวลาเกือบตีสี่แล้ว เธอจะมีเวลานอนอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะต้องตื่นมาทำอาหารเช้า และเผื่อมื้อกลางวันให้คุณแม่และมาติกาด้วย เธอเดินกลับมาทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วปิดไฟที่หัวเตียง น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ทำไมเธอต้องทนอยู่ในสภาพนี้นะ หรือเพราะเธอเป็นแค่ลูกบุญธรรมของตระกูลเพชรประกาย!.
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"