เขาใจร้ายกับเธอที่สุด เขาหนีงานแต่งหักหน้าให้อับอาย แถมยังปล่อยให้เธออุ้มท้องและคลอดเพียงลำพัง เมื่อรู้ตัวก็เกือบสายไป จะง้อยังไงให้แม่ของลูกใจอ่อน งานนี้ต้องงัดทุกเล่ห์ เพื่อให้ได้ลูกแฝดแถมเมีย!!!
เขาใจร้ายกับเธอที่สุด เขาหนีงานแต่งหักหน้าให้อับอาย แถมยังปล่อยให้เธออุ้มท้องและคลอดเพียงลำพัง เมื่อรู้ตัวก็เกือบสายไป จะง้อยังไงให้แม่ของลูกใจอ่อน งานนี้ต้องงัดทุกเล่ห์ เพื่อให้ได้ลูกแฝดแถมเมีย!!!
ศกุนตลาวางจดหมายที่ป้องเขตฝากเอาไว้ลงบนเตียง หลังกลับจากโรงพยาบาล วันนี้เธอเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว โดยการดูแลของนายแพทย์ธนานนท์อย่างใกล้ชิด และเป็นบุคคลที่ป้องเขตฝากจดหมายของเขาเอาไว้ นายแพทย์ธนานนท์ บวรกิจ เป็นสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนกมีบุตรยากประจำโรงพยาบาลชื่อดัง และยังเป็นเพื่อนสนิทของป้องเขต
หญิงสาวอ่านทวนมานับสิบรอบจนสามารถจดจำทุกตัวอักษรและสลักจารึกลงในหัวใจ ทุกถ้อยคำล้วนกรีดแทงให้เจ็บช้ำ เหยียบย่ำราวกับเธอไม่มีชีวิตและหัวใจ ทั้งที่เขาไม่เคยรู้จักเธอด้วยซ้ำ
สองครากับความรู้สึกแบบนี้ ครั้งแรกที่ได้ยินจากปากของเขา เธอก็คิดว่าเขาเป็นผู้ชายปากร้ายพอสมควร แต่ก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะใจร้ายมากเพียงนี้ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเป็นวันที่เธอจะจดจำเอาไว้ตลอดชีวิต หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ผ่านมาอีกหนึ่งสัปดาห์เขาก็หนีงานแต่งงานและทิ้งความอับอายเอาไว้ให้เธอ แต่ยังดีที่นางวรากุลสามารถแก้ไขสถานการณ์กู้หน้าของเธอเอาไว้ได้ทัน
มาวันนี้เขาก็มาตอกย้ำความรู้สึกย่ำแย่ของเธออีกหนผ่านข้อความสั้นๆ ในจดหมาย ในนั้นมีข้อกำหนดระบุถึงขอบเขตอย่างละเอียดชัดเจน อีกทั้งยังมีหนังสือสัญญาระหว่างเธอกับเขาแนบมาในซอง พร้อมชื่อที่อยู่สำหรับติดต่อทนายความและตราประทับของสำนักงานกฎหมายชื่อดัง
เขาป้องกันทุกอย่างเอาไว้อย่างครบถ้วน สอดรับกับข้อความและคำพูดของเขาเมื่อครั้งก่อนว่าเธอเป็นผู้หญิงหิวเงิน เอาตัวเข้าแลก เพื่อต้องการทรัพย์สมบัติของเขาเท่านั้น
โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าศกุนตลาก็คิดไม่แตกต่างจากเขา แต่เธอจำยอมเพราะคำขอร้องและคำว่ากตัญญูเท่านั้น
“ฉันจะฝังทุกตัวอักษรของคุณเอาไว้ในหัวใจ จะไม่มีวันเป็นเหมือนอย่างที่คุณพูดเด็ดขาด” หญิงสาวบอกกับจดหมายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยิน แต่เธอคิดว่านี่คือคำสัญญาและเธอจะรักษาสัจจะของตัวเอง
ตามความต้องการของเจ้าของสเปิร์มที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน นายแพทย์ธนานนท์ บวรกิจ เป็นแพทย์เจ้าของไข้ของศกุนตลา พร้อมกับระบุรายละเอียดชัดเจนว่าเขาต้องการเพียงทายาทโดยไร้ข้อผูกมัดใดๆ กับเธอทั้งสิ้น เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็กหลังจากเธอคลอดบุตรออกมา พร้อมกับข้อตกลงอีกหลายรายการแนบท้าย
หญิงสาวไม่สามารถคัดค้าน เพราะเธอเองก็ตกปากรับคำกับมารดาของเขาเรียบร้อย เมื่อเป็นอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่อยากปล่อยเวลาออกไปให้เนิ่นนาน เธอเข้ารับการตรวจในทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็มีขั้นตอนทางการแพทย์และการตรวจเช็กร่างกายเป็นเวลาเกือบสามเดือนทีเดียว
ทุกอย่างระบุเอาไว้ เจ้าของสเปิร์มเลือกใช้วิธีการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือที่เรียกกันเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ว่า IVF (In-vitro Fertilization) เพื่อความสะดวกเพราะเป็นการนำไข่และสเปิร์มมาทำการปฏิสนธิภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจึงจะนำไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว (ตัวอ่อน) ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ เพื่อความแน่ใจในการเลือกเพศบุตร
ร่างกายของศกุนตลาสมบูรณ์แข็งแรงและมีความพร้อมที่จะมีบุตร สามารถใช้วิธีการผสมเทียมวิธีอื่นได้ แต่เพราะนางวรากุลต้องการเลือกเพศเพราะอยากได้หลานชายไว้สืบสกุล ศกุนตลาไม่อยากเสี่ยงเพราะข้อตกลงที่กำหนดเอาไว้คือต้องมีหลานชายให้นาง วิธีการนี้จึงเป็นวิธีการที่ลงตัวและยินยอมพร้อมใจกันมากที่สุด
ศกุนตลามานอนรอบนเตียงของโรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังจากตรวจเช็กความพร้อมของร่างกายและผ่านขั้นตอนการดูแลสุขภาพมาครบทุกขั้นตอน แม้ว่าข้างเตียงจะมีมารดาและนางวรากุลมาให้กำลังใจ แต่ในแววตาของเธอมีความวิตกกังวล ทั้งกลัวและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน หญิงสาวสูดลมหายใจและถอนหายใจอยู่หลายครั้งจนนางวรากุลสังเกตเห็น
มืออันเหี่ยวย่นวางทับบนหลังมือของหญิงสาวและบีบเบาๆ อย่างปลอบโยน แววตาของนางเปี่ยมไปด้วยความหวังกับรอยยิ้มที่เกิดขึ้นบนใบหน้า
“มือเย็นเฉียบเชียว ไม่ต้องกังวลนะลูก” หลังจากผ่านพ้นพิธีการแต่งงาน แม้จะไม่ใช่พิธีการที่เกิดขึ้นจริง แต่นางก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกขานระหว่างนางกับหญิงสาวทันที
หญิงสาวส่งยิ้มแห้งๆ ยกมืออีกข้างของเธอวางทับบนมือของนางวรากุล ตอบรับเบาๆ
“ค่ะ” ความกลัวเป็นส่วนหนึ่ง ความอายก็มีส่วนอยู่มาก เพราะศกุนตลายังอยู่ในวัยสาวซึ่งยังไม่มีสามี แต่กลับต้องให้ชายหนุ่มเห็นอวัยวะบางอย่าง แม้จะรู้ว่าเขาเป็นแพทย์ แต่เธอก็ยังรู้สึกอายอยู่ดี
เริ่มจากการตรวจภายในครั้งนั้น ซึ่งเธอก็ยังอายไม่หาย แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติในทางการแพทย์ที่ผู้หญิงทุกคนต้องตรวจในช่วงเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ก็ตาม
เธอเองก็ไม่สามารถเลือกหมอได้ เพราะทุกอย่างถูกระบุเอาไว้ชัดเจนหลังจากที่เจ้าของสเปิร์มได้ฝากไว้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และได้ระบุชื่อแพทย์เจ้าของไข้ไว้ชัดเจน เธอได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่ต้องเจอเรื่องราวน่าอับอายแบบนี้ ผู้หญิงทุกคนก็ต้องเจอทั้งนั้น
แม้ว่าการเก็บไข่ในครั้งต่อมาเมื่อสามวันก่อนของเธอจะถูกวางยาสลบเพื่อป้องกันความเจ็บปวด แต่เมื่อนึกถึงว่าแพทย์เก็บไข่ที่สมบูรณ์จากรังไข่โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด โดยอาศัยเครื่องอัลตราซาวนด์เธอก็อายทุกครั้งที่คิดถึง
นางวรากุลยกมือขึ้นลูบผมของหญิงสาวเบาๆ แววตาที่ทอดมองอ่อนโยน นางมักจะบอกขอบคุณซ้ำๆ เมื่อนึกถึงการกระทำของลูกชายก็ยิ่งรู้สึกเห็นใจ และนางก็ยังโกรธไม่หาย
“แม่ขอบคุณหนูอีกครั้งนะลูก”
“หนูรับรู้ถึงความรู้สึกของคุณแม่ค่ะ ยิ่งคุณแม่ขอบคุณ หนูยิ่งรู้สึกผิด เพราะสิ่งที่คุณแม่ให้มามันมากมายกว่าสิ่งที่หนูทำหลายร้อยเท่า” หญิงสาวบอกเสียงเบาจากความรู้สึกข้างในของเธอ ยิ่งได้ยินนางวรากุลพูดแบบนี้ก็ยิ่งสะกิดแผลเก่า ตอกย้ำคำพูดของชายหนุ่มในวันนั้นมากขึ้นทุกครั้ง
เพราะเขาคิดว่าครอบครัวของเธอจะมาปอกลอก เอาตัวเข้าแลกเงินและความสบาย และเพราะเขาพูดออกมาเต็มปากว่าเธอเป็นผู้หญิงไร้ยางอายเจ้ามารยา ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปคิดตาม เธอก็ไม่แตกต่างจากสิ่งที่เขาพูดมากนัก
“ขอโทษนะคะ ขอเชิญญาติออกไปรอที่ห้องรับรองค่ะ” พยาบาลสาวผายมือเชิญสตรีสูงวัยสองคน จังหวะเดียวกันกับนายแพทย์หนุ่มเดินสวนเข้ามาในห้องตรวจ เขายกมือทำความเคารพและกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับคุณแม่”
“แม่ฝากด้วยนะหมอนนท์ น้องยังดูหวาดกลัวอยู่เลย” นางวรากุลบอกกับเพื่อนของลูกชาย
“ครับ ผมจะดูแลตลาอย่างดี คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
หลังจากที่สตรีสูงวัยสองคนเดินตามพยาบาลออกไปจากห้อง ชายหนุ่มก็หันมายิ้มให้คนบนเตียง กล่าวทักทายทำความคุ้นเคยกับคนไข้ ปกติคู่อื่นจะมีสามีมาให้กำลังใจ แต่ในกรณีของหญิงสาวที่เขาไม่ให้ญาติอยู่ด้วยเพราะมองว่าเธอคงอาย เพราะทุกครั้งที่มาพบแพทย์ตามนัดเขามักเห็นเธอใบหน้าแดงระเรื่อและไม่กล้าสบตาเขา
“ยังมีอาการเจ็บอยู่หรือเปล่าครับ พร้อมไหม” นายแพทย์หนุ่มถามอาการของหญิงสาว เพราะปกติของการเก็บไข่สำหรับการทำเด็กหลอดแก้วจะมีอาการเจ็บอยู่มาก
“ยังมีอาการเจ็บค่ะ แต่ฉันไหว” หญิงสาวตอบกลับ เพราะไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อนจะต้องย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกภายในสามถึงห้าวัน หากคนไข้ไม่มีความพร้อมก็หมายถึงต้องรอให้ไข่ตกในรอบเดือนหน้า ซึ่งขัดกับความต้องการของเธออย่างสิ้นเชิง
นายแพทย์หนุ่มมองหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ยังมีพยาบาลสาวอีกคนกำลังเตรียมเครื่องมือให้เขา นั่นทำให้หญิงสาวไม่อายมากนัก
“ทำใจให้สบายนะครับ” เขาบอกพร้อมกับหันไปสนใจกับเครื่องมือ ในขณะที่พยาบาลสาวเดินมาที่เตียงและช่วยคนไข้เตรียมความพร้อมสำหรับการฝังตัวอ่อนในโพรงมดลูก
ผ่านไปเกือบสามสิบนาทีที่หญิงสาวหลับตาปี๋ ตลอดระยะเวลามีเสียงของนายแพทย์หนุ่มกับพยาบาลสาวคุยกันเป็นระยะ จนกระทั่งถึงประโยคสุดท้าย
“เสร็จแล้วครับ หมออยากให้คุณพักฟื้นที่โรงพยาบาลต่ออีกสักคืน เพราะคุณแม่ต้องการความมั่นใจที่สุด”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณนายแพทย์หนุ่ม เธอเข้าใจความต้องการของนางวรากุลตั้งแต่ต้น เพราะหลังจากที่เธอเก็บไข่เมื่อสามวันก่อน เธอก็ยังอยู่ที่โรงพยาบาลต่อจนกระทั่งถึงตอนนี้
ความรู้สึกบางอย่างก่อขึ้นในหัวใจเธอ เมื่อรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังอุ้มท้องและมีหัวใจอีกสองดวงอยู่ในตัวของเธอ ถึงตอนนี้หญิงสาวก็ภาวนาและลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ขอให้หัวใจทั้งสองดวงอยู่กับเธอจนครบกำหนดคลอดด้วยความสมบูรณ์
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์ อย่าหาว่าหนูแรดนะคะ นะคะ" "แรดเงียบๆ แอบกินเนียนๆ แต่เซียนต้องหลบ" อันดา เจ้าของสโลแกน ‘ถ้าผู้ชายคิดจะมอมเหล้าแล้วลากเข้าโรงแรม ผู้ชายตายก่อนเพราะเปลือง’ เด็กวิศวะก่อสร้างสุดแสบ สายปาร์ตี้ และนักล่าแต้มบริหารเสน่ห์ อันดาถูกครอบครัวมั่นหมายให้กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกวันแรก เธอเรียกคู่หมั้นว่าห่วงคล้องคอ โซ่ตรวนที่กักขังอิสระของเธอมาตลอดชีวิต เธอตั้งป้อมเกลียดเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอยากเอาชนะหรือความรู้สึกจริงๆ กันแน่ ถึงแม้จะเผลอมีอะไรกับเขาในวันที่เธอเมาหนัก เธอก็สั่งให้เขาลืมเรื่องวันนั้น และห้ามตอกย้ำกับเธออีก เธอไม่แคร์กับเรื่องแค่นั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขายอมหลีกทางให้เธอกับผู้ชายคนใหม่ วันนั้นเธอถึงได้รู้ความจริง ว่าเธอขาดผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการตามล่าเฮียเบิ้มกลับมาทำผัวจึงเกิดขึ้น…
เรื่องชุลมุนเกิดขึ้น เพราะเขาดันไปเผลอพลาดท่า มีอะไรกับนักศึกษาฝึกงานเสียนี่ แถมเจ้าหล่อนยังทำเมินต่อพรหมจารีที่สูญเสีย หล่อนทำให้เขาเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจอยู่หลายวัน จนเขาจะต้องค้นหาความจริง หล่อนมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาลุ่มหลงได้มากขนาดนี้ คีรติหวงความโสดขั้นสุด รอดมือแม่เสือสาวนักล่ามาหลายปี แต่ดันมาตกม้าตาย ติดกับดักนักศึกษาสาว โดนเด็กตกเข้าให้ หัวใจแพ้ลูกอ้อนอ่อนยวบ แต่ร่างกายกลับฟิตปึ๋งปั๋งซะนี่ "เอาสิ! อยากจับตรงไหนก็เชิญ" วิเวียน นักศึกษาฝึกงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ก่อสร้าง แต่เธอกลับถูกส่งไปดูแลห้องของเจ้านายในกรณีพิเศษ แต่ก็ทำปลาหายากราคาสูงลิบของเขาตายไป 9 ตัว เธอจึงต้องทำงานชดใช้เขาต่อหลังจากฝึกงาน บอสคีย์ ผู้ชายฮอตแห่งปี ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแถมดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร ประธานบริษัทที่แสนดุ เฮี๊ยบและโหดขั้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาต้องสมบูรณ์เป๊ะทุกองศา
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด