ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
วันหนึ่งในฤดูร้อนที่แสนอบอ้าว หยาดฝนที่ตกลงมาช่วยให้อากาศชุ่มฉ่ำเย็นสบายมากขึ้น บนรถประจำทางคันหนึ่งก็เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก
หลินชูจี้ก้าวเท้าลงจากรถประจำทางพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระอันหนักอึ้ง เธอกวาดสายตามองหาใครบางคนไปรอบ ๆ ก่อนจะมองเห็นหลินปินยืนอยู่ตรงทางออกของสถานีขนส่ง ในตอนนี้เขาดูแก่ขึ้นกว่าเดิมมาก ผมของเขางอกขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก “พ่อ” เธอเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อ พร้อมกัดริมฝีปากของตัวเอง
“มา ๆ กลับบ้านกันเถอะ เพื่อต้อนรับการกลับมาของลูก แม่เตรียมอาหารจานโปรดไว้ให้ลูกด้วยนะ” หลินปินพูดพลางหันมายิ้มให้เธอ จนเผยให้เห็นรอยย่นของหางตา เขาคว้ากระเป๋าสัมภาระจากมือของเธอแล้ววางลงไปในกระโปรงหลังรถ
ชูจี้หายใจไม่ทั่วท้องอยู่ครู่หนึ่ง
หลินปินและรั่วเฟยไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ ทางสายเลือดของเธอ เธอเป็นเพียงลูกบุญธรรมของพวกเขาเท่านั้น ตั้งแต่ทั้งสองคนได้ให้กำเนิดลูกสาวของตนเองขึ้นมา พวกเขาก็ไม่ได้ดูแลเธอเหมือนเป็นลูกของตัวเองอีกต่อไป
เธอรู้ดีว่าหลินปินมีท่าทางกระตือรือร้นและใจดีกับเธอในวันนี้ เพราะเขากับรั่วเฟยต้องการให้เธอแต่งงานแทนน้องสาวของเธอ
รถยนต์แล่นผ่านตัวเมืองที่แสนคึกคักก่อนจะขับเข้าไปในย่านที่พักอาศัย ที่มีบ้านหรูตั้งอยู่
แค่ไม่กี่ปี เมืองไห่เฉินเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว
หลินปินเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระของชูจี้
ชูจี้เองก็เดินตามเขาเข้าไปข้างใน ทันทีที่เธอเหยียบพรมปูพื้น เธอก็ได้ยินเสียงสาวใช้คนหนึ่งร้องเสียงหลง “โอ้ ตายแล้ว! เอาเท้าออกไปเลยนะ! เธอทำให้พรมสกปรกหมดแล้ว ฉันเพิ่งเปลี่ยนพรมวันนี้เอง ดูรองเท้าของเธอสิ! มีแต่โคลนเต็มไปหมดเลย เธอทำมันเปื้อนหมดแล้ว”
ชูจี้สะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงหวีดร้อง
เธอจึงรีบก้าวเท้าออกจากตัวบ้านแล้วสำรวจดูรองเท้าของตัวเอง เมื่อเห็นว่าร้องเท้าไม่ได้สกปรกอย่างที่ถูกกล่าวหา คิ้วทั้งสองข้างของเธอก็ขมวดเป็นปม
สาวใช้คนนั้นจงใจดูถูกเธอ
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังตึงตังเข้ามา
หลินชูเสวเดินลงจากมาบันไดอย่างช้า ๆ พลางใช้นิ้วเรียวยาวม้วนปลายผมเป็นเกลียวเล่น ขณะชายตามองไปยังประตูทางเข้าอย่างมีความสุข ทันทีที่มองเห็นชูจี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไป
เธอไม่ได้เจอพี่สาวคนนี้มาหลายปีแล้ว เพราะพ่อแม่ของเธอเอาชูจี้ไปฝากให้คนอื่นเลี้ยงแทนที่บ้านนอก เธอรู้สึกริษยาเมื่อเห็นว่าชูจี้สวยขึ้น ชูเสวมักจะอิจฉา และเกลียดชังชูจี้ที่สวยกว่าเธออยู่เสมอ ช่องว่างระหว่างพวกเธอสองจึงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ชูเสวแสร้งยิ้มแย้มอย่างรวดเร็วก่อนจะมองดูสาวใช้คนนั้น “ทำไมเธอถึงไม่ให้พี่สาวของฉันเข้ามาล่ะ?”
“รองเท้าของเธอเปื้อนโคลนค่ะ” สาวใช้พูดด้วยความรังเกียจ
“ช่างมันเถอะน่ะ เธอควรให้พี่สาวของฉันเข้ามาในบ้านนะ แม้ว่าพี่สาวของฉันจะดูเหมือนพวกขอทานก็ตาม ไม่อย่างนั้นเราจะพูดคุยธุระกันได้ยังไงล่ะ จริงไหม?”
คำพูดของชูเสวเต็มไปด้วยการเย้ยหยันถากถาง เธอหันหลังกลับแล้วเดินตรงไปที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางเย้อหยิ่งโดยไม่สนใจชูจี้
สาวใช้รีบเดินไปที่ตู้รองเท้าเพื่อหยิบที่คลุมรองเท้าออกมาคู่หนึ่งก่อนจะโยนใส่ชูจี้ “ไม่ดูสารรูปตัวเองบางเลยเหรอไง?” สาวเข้าบ่นออกมาเสียงดัง “สวมที่คุมรองเท้าก่อนเข้ามาในบ้านด้วย!”
คำพูดอย่างเหยียด ๆ ของสาวใช้ ทำให้ชูจี้รู้สึกปวดใจมาก เธอสวมที่คลุมรองเท้าพลาสติก พร้อมกับเงยหน้ามองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
เธอไม่อาจโต้เถียงกับพวกเขาก่อนที่จะได้เงินได้
ชูจี้ไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย
รั่วเฟยที่นั่งอยู่ด้านข้างเธอดูเจ้าวางแผนเหมือนเคย แม้เธอจะอยู่ในวัยห้าสิบแล้วก็ตาม “เมื่อลูกตัดสินใจไปแล้ว งานแต่งงานก็จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ตกลงไหม?”
ชูจี้วางส้อมกับมีดลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ฉันอยากจะแน่ใจอะไรบางอย่างก่อนค่ะ คุณจะให้เงินฉันทันทีหลังจากที่ฉันแต่งงานแทนชูเสวในวันพรุ่งนี้ใช่ไหมคะ?”
เธอคิดจะเอาตัวเองเข้าแลกในการแต่งงานครั้งนี้กับเงินก้อนหนึ่ง มันเป็นการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล เธอจึงต้องการความแน่ใจก่อนจะตอบรับเงื่อนไขนี้ได้
หลินปินและรั่วเฟยไม่มีลูกหลังจากแต่งงานกันมาหลายมาปีแล้ว ทั้งสองจึงคิดว่าพวกเขาคงไม่อาจตั้งครรภ์ได้แล้ว จึงรับชูจี้มาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ทว่าไม่กี่ปีต่อมา รั่วเฟยกก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดชูเสว
ตั้งแต่นั้นมารั่วเฟยก็เริ่มเกลียดชังชูจี้มากขึ้น และเอาแต่รักชูเสวลูกสาวแท้ ๆ ของเธอ ถึงขนาดบอกให้หลินปิน เอาชูจี้ไปฝากให้ยายซุน อดีตคนใช้เก่าของพวกเขาเลี้ยงที่บ้านนอก ในเมื่อพวกเขามีลูกสาวแท้ ๆ ที่น่ารักแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องเลี้ยงลูกสาวบุญธรรมคนนี้อีกต่อไป
ยายซุนเคยเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของตระกูลหลินก่อนจะเกษียณออกไป เธอรับเลี้ยงชูจี้ด้วยตัวเอง และทั้งสองคนก็สนิทกันเสมือนเป็นยายกับหลานกันแท้ ๆ เมื่อสามเดือนก่อน ยายซุนกลับได้รับการตรวจพบว่าเป็นโรคตับแข็งระยะรุนแรง เธอจึงจำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายตับ การรักษานี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก พวกเธอจึงต้องการเงินจำนวนมากเพื่อมารักษา เวลามีอยู่อย่างจำกัด จึงไม่อาจชะลอการรักษาได้อีกต่อไป
“ครอบครัวเดียวกันแท้ ๆ จะมาพูดเรื่องเงินอะไรนักหนา? ไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ แม่จะให้เงินทั้งหมดเท่าที่ลูกต้องการ เพียงแค่ลูกต้องแต่งงานให้เร็ว ๆ เท่านั้น” น้ำเสียงที่อ่อนโยนของรั่วเฟยแฝงไปด้วยความหงุดหงิด
เธอเกลียดชังชูจี้ ตอนนั้นเธอจำเป็นต้องรับเลี้ยงชูจี้ เพราะถูกกดดันอย่างหนัก ตระกูลหลินคอยแต่จะเหน็บแนมเธอ และการปรากฏตัวของชูจี้ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเธอไม่มีสมรรถภาพที่ดี การเห็นหน้าชูจี้เลยทำให้เธอไม่พอใจ
เมื่อเวลาผ่านไป ชูจี้เติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถกว่าลูกสาวของเธอในทุกๆ ด้าน ความเกลียดชังต่อชูจี้ก็ทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ
รั่วเฟยไม่มีวันยอมให้ชูจี้กลับมาจากชาญเมืองอย่างแน่นอน หากไม่ใช่เพราะการหมั้นหมายระหว่างลูกสาวของเธอกับลูกชายนอกสมรสของตระกูลลู่ เธอคิดว่าคนชั้นต่ำก็สมควรและคู่ควรที่จะอยู่บ้านนอกอย่างนั้นไป
“เราบอกว่าจะให้เงินเธอ เราก็จะให้ โอเคไหม? งี่เง่า!” ชูเสวพ่นลมหายใจด้วยความรังเกียจ
“พวกคุณจ่ายเงินจ้างฉัน ส่วนฉันก็ทำในหน้าที่ของฉัน ก็แฟร์ ๆ ” ชูจี้นิ่วหน้า
แม้ว่าชูจี้จะไม่ค่อยแสดงความโกรธต่อหน้าคนในตระกูลหลิน แต่เธอก็ไม่ใช่คนใจร้อนอะไร
เธอเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับชายที่เธอจะแต่งงานด้วยในวันพรุ่งนี้ ชื่อของเขาคือลู่เหยี่ยน ลูกชายนอกสมรสจากตระกูลลู่ เขาได้หมั้นหมายกับชูเสวตั้งแต่ยังเด็ก
ชูเสวเป็นหญิงสาวที่เย้อหยิ่ง เธอจึงไม่ยอมแต่งงานกับลูกชายนอกสมรส อีกทั้งยังมีเรื่องซุบซิบว่าตระกูลลู่ได้ไล่เขาออกไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว เขาไม่มีงานการที่ดี แถมยังต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอีกด้วย
แม้ว่าชูจี้จะมีท่าทางสงบเสงี่ยม แต่เธอก็รู้สึกกระวนกระวายใจที่จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ ทว่าเธอจำเป็นต้องทำสิ่งนี้เพื่อช่วยชีวิตยายซุนให้ได้ “ไม่ต้องห่วงค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะแต่งงานกับเขา”
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"