เขาคืออสูรร้ายสำหรับเธอ เป็นบุคคที่ไม่น่าเข้าใกล้และควรถอยห่างเป็นที่สุด แต่ทำไมยิ่งถอยหนี เขายิ่งวิ่งเข้าใส่ แถมยังกระโจนร่างเข้าหาราวกับว่าเธอคือสมันเนื้อนุ่มที่น่าลิ้มลอง และไม่มีวันหยุดล่าหากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เมื่อโดนรุกหนักและมีเหตุจำเป็นที่ต้องยอมเป็นของเล่นของเขา ลูกแมวน้อยจึงจำยอมและจำใจทอดกายให้เขาเชยชม แต่ยิ่งชิดใกล้ เร่าร้อนด้วยเพลิงเสน่หา ความรู้สึกบางอย่างก็เบ่งบานในใจของทั้งคู่ไม่รู้ตัว
1
กรุงโรม ประเทศอิตาลี
ทิพย์ธาราเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อให้ทันเวลาที่อแมนดานางแบบสาวชื่อดัง จะเดินแบบในงานเปิดตัวเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ เหตุผลที่เธอต้องเร่งรีบขนาดนี้เป็นเพราะว่า รองเท้าที่ทีมงานตระเตรียมไว้ให้อแมนดาเกิดไปไม่ถูกใจนางแบบสาวขึ้นมา อ้างว่าไม่เข้ากับชุดฟินาเล่ ชุดเด่นของงานที่จะสวมใส่ จอมเรื่องมากแห่งวงการนางแบบจึงบอกให้ทิพย์ธารานำรองเท้าที่เพิ่งซื้อใหม่มาให้แทน และต้องมาก่อนเริ่มงานด้วย งานนี้ผู้ได้รับคำสั่งจึงต้องรีบมาให้ทันเวลา
“รอด้วยค่ะ” ทิพย์ธาราร้องบอกเป็นภาษาอิตาเลียน เมื่อประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง ร่างบางรีบแทรกเข้าไปในลิฟต์ทันที
“ชั้นไหนครับ” ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้แผงกดหมายเลขชั้นเอ่ยถาม
“สิบเจ็ดค่ะ” ทิพย์ธาราตอบ และเพิ่งรู้ว่าตนอยู่ท่ามกลางชายรูปร่างสูงใหญ่ห้าคน ข่มเธอเสียจนดูตัวเล็กลงไปถนัดตา แต่ละคนแต่งกายด้วยชุดสูทเนื้อดีสีดำ จะมีเพียงบุคคลเดียวที่สวมชุดสูทสีขาว แล้วเขาคือคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกตามชั้นต่างๆ ตามความต้องการของคนโดยสารลิฟต์ที่ผลัดกันเข้าและออกเมื่อถึงชั้นนั้นๆ ทว่าหลังจากชั้นที่สิบเป็นต้นไป มีแค่คนเข้ามาภายในลิฟต์ ส่งผลให้ลิฟต์ตัวนี้คล้ายกับปลากระป๋องเข้าไปทุกที
ร่างของทิพย์ธาราเริ่มถอยร่นไปทางด้านหลังทีละก้าวเมื่อมีคนเข้ามาในลิฟต์ จนกระทั่งลิฟต์ถูกเปิดออกอีกครั้งเมื่อถึงชั้นที่สิบสาม สตรีวัยสวยใสสามคนเดินเข้ามาภายในลิฟต์ทำให้เธอต้องถอยร่นเข้าไปด้านในเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับสามคนนั้น
ทิพย์ธาราหัวใจเต้นรัว เมื่อแผ่นหลังบางสัมผัสเบียดชิดกับแผงอกกว้างของชายที่สวมชุดสูทสีขาว กลิ่นกายบวกกับน้ำหอมของบุรุษด้านหลัง ทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในความรู้สึกของเธอเวลานี้คือชายหนุ่มคนดังกล่าวเป็นคนที่น่าเข้าใกล้ ในขณะเดียวกัน เขาคือคนที่น่าถอยห่างมากที่สุดเช่นกัน
อเล็สซานโดร ดิมาร์ชีมองทิพย์ธาราผ่านแว่นตาสีชาเข้มที่สวมใส่ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาภายในลิฟต์ รูปร่างบอบบาง ใบหน้าสวยหวานทำให้เขารู้สึกหัวใจสั่นแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แล้วยิ่งเรียวปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีนู้ดเปล่งประกายน่าสัมผัสเหลือเกิน จนเขาอยากจะนำริมฝีปากทาบทับและบดจูบให้หนำใจ อยากจะพิสูจน์นักว่าริมฝีปากที่เขาอยากลิ้มลองมีรสชาติอร่อยลิ้นมากแค่ไหน บวกรวมกับกลิ่นกายสาวที่โชยเข้ามาในโพรงจมูก เป็นความหอมที่ไม่ได้มาจากน้ำหอมชั้นเลิศ แต่มาจากเนื้อกายสาวโดยธรรมชาติ หอมกรุ่นด้วยกลิ่นแป้งกระป๋องบางเบา และที่น่าแปลกก็คือกลิ่นกายของเธอนั้น ปลุกเร้าความปรารถนาของเขาให้กระพือได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ใบหน้าคมเข้มโน้มต่ำลงมาจนกระทั่งปลายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมหอมกรุ่นกลิ่นแชมพูของเธอ จากนั้นเลื่อนลงไปที่ท้ายทอยและต้นคอระหงอย่างย่ามใจ
ทิพย์ธาราตัวแข็งดุจท่อนไม้ เมื่อลมหายใจอุ่นๆ ของชายหนุ่มตัวโตกระทบกับต้นคอของตน หัวใจของสาวน้อยแรกแย้มเต้นเร็วแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาจากร่างกาย หญิงสาวพยายามเบี่ยงตัวหนีสัมผัสของชายแปลกหน้า หากแต่อุ้งมือหนาจับบ่าของเธอไว้มั่นอย่างถือสิทธิ์ บังคับไม่ให้สาวร่างเล็กขยับกายหนีได้ ลูกแมวน้อยทั้งกลัวและตื่นเต้นในคราเดียวกัน
“ตึ๊ง” เสียงลิฟต์ที่เดินทางมาถึงชั้นที่สิบเจ็ดดังขึ้น แล้วมันเหมือนเสียงระฆังช่วยชีวิตของทิพย์ธารา และพอประตูลิฟต์เปิดออกคนที่อยู่ในลิฟต์สองคนก็ก้าวเดินออกไป ทิพย์ธาราได้โอกาสจึงสะบัดตัวอย่างแรง ก่อนจะวิ่งออกไปจากลิฟต์ทันที โดยไม่หันหลังกลับมามองหน้าชายคนนั้นอีกเลย
“เราต้องได้พบกันอีกแน่สาวน้อย”
อเล็สซานโดร ดิมาร์ชี มาเฟียชื่อดังจากเกาะซิซิลี มองร่างที่วิ่งหนีไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา เขาอยากได้อะไรแล้วต้องได้ ไม่มีคำว่า ไม่ ในพจนานุกรมของเขาโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง
ร่างสูงใหญ่เคลื่อนกายออกจากตัวลิฟต์ชั้นเดียวกับเธอ โดยมีลูกน้องคู่ใจเดินตามหลังมา เพื่อเข้าไปในงานเปิดตัวเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ในฐานะเจ้าของงาน
ทิพย์ธาราก้าวเดินไปยังห้องส่วนตัวของนางแบบสาวที่ทางเจ้าของงานจัดเตรียมไว้ให้ด้วยขาอันสั่นเทาเพราะเธอยังไม่ลืมช่วงนาทีระทึกใจสดๆ ร้อนๆ ที่ผ่านมา แต่พอเข้ามาในห้องดังกล่าวแล้วยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ คนที่อยู่ในห้องก็ระเบิดความไม่พอใจทันที
“ทาร่าทำไมมาช้าจัง อีกไม่กี่นาทีงานจะเริ่มแล้วนะ”
อแมนดาวีนใส่ทิพย์ธาราตามประสาคนเอาแต่ใจ
“ตอนที่อแมนดาโทรมาสั่งให้เอาของมาให้ทาร่าอยู่ที่บ้านน่ะ กว่าจะไปเอาของที่อพาร์ตเมนต์ของคุณ แล้วกว่าจะมาถึงที่นี่ก็ต้องใช้เวลาหน่อยสิคะ” ทิพย์ธาราตอบขณะที่ส่งของให้อแมนดา
“อืมๆ ฉันลืมไป” เสียงของนางแบบสาวอ่อนลง “แล้วนี่หน้าตาซีดเชียวไม่สบายหรือเปล่า”
อแมนดาถามด้วยความเป็นห่วง ภายนอกคนอาจจะมองว่านางแบบสาวเป็นคนขี้วีน เรื่องมาก เอาแต่ใจตัวเอง แต่อแมนดาก็คอยช่วยเหลือครอบครัวทิพย์ธารามาตลอด
การช่วยเหลือของอแมนดาเกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน หลังจากพ่อเลี้ยงและมารดาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ทำให้ทิพย์ธาราเคว้งคว้างเหมือนลอยอยู่กลางอากาศไร้หลักยึดและพึ่งพิง เพราะมองไปทางใดล้วนแล้วแต่มืดมิด ครอบครัวของพ่อเลี้ยงไม่ชอบมารดาและเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงขับไล่เธอและน้องออกจากบ้าน เงินที่มีติดตัวอยู่ไม่มากนัก แต่มากพอที่จะหาห้องเช่าเล็กๆ อยู่อาศัยกันได้สามคนพี่น้อง
ทิพย์ธาราทำงานทุกอย่างเพื่อให้ตัวเธอและน้องอยู่รอด ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บเงินสักก้อนเพื่อเป็นค่าตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทย ถิ่นฐานบ้านเกิดที่อบอุ่นมากกว่าอยู่ต่างแดน และที่ทิพย์ธาราได้มาทำงานเป็นสาวใช้ของนางแบบสาวเป็นเพราะอแมนดาต้องการสาวใช้คนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทนคนเก่าที่ไม่สามารถทนกับนิสัยของเธอได้ โดยบอกผ่านมาเรียเจ้าของร้านเสื้อชื่อดังให้หาให้ และบังเอิญเหลือเกินที่ทิพย์ธาราทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่นั่น ทิพย์ธาราจึงสมัครเป็นสาวใช้คนใหม่ของอแมนดาทันที
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"