ชาลีมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลีเจ้าของกาสิโน เขาเกลียดผู้หญิงไทยเพราะแม่ที่เคยทอดทิ้งเขาในวัยเด็ก เขามีน้องสาวต่างมารดาหนึ่งคนที่เป็นคนไทยชื่อว่าจันทร์เจ้า สามีของจันทร์เจ้าเคยเป็นคู่หมั้นของเอมอรหญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังครรภ์ แม้เอมอรจะปฏิเสธว่านั้นไม่ใช่ลูกของภูชิตสามีของน้องสาวตน แต่ชาลีก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาจึงจับตัวเอมอรมาและบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา
ชาลีนั่งเซ็นเอกสารอยู่บนโต๊ะ ลูกน้องของเขาเข้ามาแจ้งให้เขาทราบว่ามีผู้หญิงไทยคนหนึ่งต้องการพบเขา เขาแปลกใจเล็กน้อยเพราะเขาไม่ได้สนิทกับผู้หญิงไทยคนไหนมาก่อน เพราะเขาค่อนข้างเกลียดผู้หญิงไทย แต่ลูกน้องของเขายืนยันว่าผู้หญิงคนนี้รู้จักกับเขา
"ลูกน้องของผมบอกว่าคุณต้องการพบผม" ชาลีมองไปยังผู้หญิงตรงหน้าที่ต้องการเจอเขา
"ใช่ค่ะ เราเจอกันอีกครั้งแล้วนะคะคุณชาลี" อรอินทร์มองไปยังชาลี
"คุณรู้จักผม?" ชาลีมองผู้หญิงตรงหน้าอีกรอบอย่างพิจารณา
"ใช่ค่ะ ฉันคืออรอินทร์ค่ะ" อรอินทร์ถอดหน้ากากผิวมนุษย์ที่ดอกเตอร์หวังเป็นทำให้เธอออกไป
"นี่คือหน้าจริงๆ ของฉัน ถึงมันจะเชื่อยากแต่คุณคงรู้เรื่องพวกนี้มาบ้างแล้วสินะ"
"ใช่ ผมสืบเรื่องพวกนี้มาบ้างแล้วเพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัยของจันทร์เจ้าด้วยเช่นกัน ผมได้ข่าวว่าเตชิตตามหาตัวคุณมาหลายเดือน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน"
"เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับองค์กร ฉันจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้แล้ว ฉันต้องทำลายองค์กรพวกนั้นเพื่อครอบครัว พวกเขาอยู่ที่นี่ฉันต้องตามหาพวกเขาให้เจอ"
"คุณเลยมาขอให้ผมช่วยคุณน่ะเหรอ"
"ใช่ อย่างน้อยฉันขอที่พักกับงาน แล้วก็เงินเดือนเพื่อความอยู่รอดของฉันระหว่างที่ฉันอยู่ที่นี่"
"คุณเลี้ยงเด็กเป็นมั้ย?" ชาลีถามอรอินทร์ออกไป
"ได้สิ ฉันเลี้ยงได้อยู่แล้ว ฉันเพิ่งคลอดลูกมาน่ะ ได้เลี้ยงเด็กก็ไม่เลวนะ" อรอินทร์พูดเสียงเศร้าเล็กน้อย
"งั้นก็ดีเลย ผมมีเด็กแฝดให้คุณเลี้ยง" ชาลียิ้มให้กับอรอินทร์
"เด็กแฝดเหรอ?" เมื่อได้ยินแล้วก็นึกถึงลูกแฝดของเธอ
"ใช่ พวกเขาเพิ่งคลอดเมื่อวานนี้ แต่แม่เด็กมีปัญหานิดหน่อย เธอไม่สามารถเลี้ยงลูกของเธอได้ แม้แต่จะเข้าใกล้ลูกก็ยังไม่กล้า คุณเพิ่งคลอดลูกมาคงจะเลี้ยงพวกเขาได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยก็มีไอ้นั่นกับพวกเขากิน" ชาลีมองไปที่หน้าอกของอรอินทร์
"ไอ้นั่น? น้ำนมน่ะเหรอ" อรอินทร์รีบเอามือปิดหน้าอกของเธอ ผู้ชายคนนี้ใช้สายตาจ้องมองมันและพูดว่าไอ้นั่นได้อย่างหน้าเฉยชามาก
"ใช่ อย่างที่ผมบอกว่าแม่ของพวกเขาไม่ยอมเข้าใกล้เด็กพวกนั้นเลย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไร" ชาลีพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"อะไรนะ! รีบพาฉันไปหาเด็กๆ เดี๋ยวนี้เลย"
อรอินทร์พูดออกมาอย่างอดไม่ได้ เด็กที่เกิดมาเมื่อวานจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ดื่มนมจากอกแม่ ตอนนี้จะไม่หิวแย่แล้วเหรอ คงร้องไห้ไม่หยุดแล้วตอนนี้
"ผมจะพาไป" ชาลีค่อยๆ เก็บเอกสารบนโต๊ะ
ในใจก็คิดว่าทำไมผู้จริงคนนี้ต้องกระวนกระวายถึงเพียงนี้ด้วย เด็กพวกนั้นเขาไม่ฆ่าทิ้งก็ดีแค่ไหนแล้ว จะให้เขาเลี้ยงเด็กก็ทำไม่เป็นนี่นา เขาไม่รู้ว่าต้องเลี้ยงยังไง
อีกอย่างแม่ของเด็กพวกนั้นก็ไม่ต้องการเห็นเด็กแฝดพวกนั้น เธอเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดหลังที่คลอดออกมา หมอบอกว่าน้ำนมแรกจากอกแม่เป็นสิ่งสำคัญ แต่จะให้เขาทำอย่างไรได้
แต่พอเจออรอินทร์เขาก็คิดว่าไม่เลวที่จะให้เธอไปเลี้ยงเด็กแฝดแทนเขา เด็กแฝดประหลาดนั่นทั้งที่อยากจะฆ่าให้ตายไปเพราะรำคาญ แต่พอตั้งใจที่จะฆ่าทิ้งจริงๆ เขากลับลงมือทำไม่ได้ มันช่างน่าแปลกเสียจริง ทั้งผู้หญิงคนนั้นและเด็กแฝดพวกนี้ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเข้าทุกวัน
ชาลีพาอรอินทร์มายังคฤหาสน์ของเขา อรอินทร์สำรวจไปรอบๆ ที่นี่ดูกว้างใหญ่เสียจริง สมแล้วที่เป็นพื้นที่ของมาเฟียอย่างชาลี
"เรือนกระจกนั้นสวยดีนะ" อรอินทร์มองไปยังเรือนกระจกที่ถูกสร้างอยู่ไม่ไกลนัก
ที่นั่นเป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่และยังมีบ้านเล็กๆ เหมือนหอคอยสูงอยู่ภายในด้วย ที่นั่นมองเห็นดอกไม้มากมายอยู่ภายในเรือนกระจก ช่างเป็นที่ที่สวยงาม
"อย่าเข้าไปที่นั่นถ้าผมไม่อนุญาต" ชาลีบอกกับอรอินทร์
ชาลีนำทางอรอินทร์เข้าไปในคฤหาสน์ของเขา ไปยังห้องเด็กแฝด เมื่อเปิดประตูเข้าไปเสียงเด็กแฝดส่งเสียงร้องไห้ไม่หยุดก็ดังออกมา
ผู้ดูแลเด็กแฝดเข้ามาพูดกับชาลีด้วยภาษาอิตาลี ก่อนที่ชาลีจะสั่งให้ออกไป เขามองไปยังเด็กแฝดที่กำลังร้องไห้ไม่หยุดแล้วหันมามองอรอินทร์อย่างขอความช่วยเหลือ
"คุณออกไปก่อน ฉันต้องให้นมเด็กๆ" อรอินทร์บอกกับชาลี เธอต้องให้เด็กแฝดดื่มนมของเธอจากเต้า มันคงไม่ดีสักเท่าไรที่ชาลีจะยืนดูอยู่ด้วย
"เข้าใจแล้ว" ชาลียอมออกไป และปล่อยให้อรอินทร์ดูแลเด็กแฝด
เขารีบตรงไปยังเรือนกระจกทันที ที่นั่นคือที่ที่เขากักขังเอมอรแม่ของเด็กแฝดเอาไว้ เอมอรคืออดีตคู่หมั้นของภูชิต ซึ่งตอนนี้มีสถานะเป็นน้องเขยของเขา เมื่อเขาทราบว่าเอมอรกำลังตั้งครรภ์อยู่เขาก็มั่นใจว่านี้คือลูกของภูชิต แต่เพราะน้องสาวของเขาจันทร์เจ้าดูเหมือนจะรักภูชิตมาก เขาจึงปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ และจับตัวเอมอรมาจดทะเบียนสมรสกับเขา
ในตอนแรกเพียงแค่เขาบังคับให้เอมอรนำเด็กในท้องออกก็อาจจะจบปัญหาทุกอย่างลง แต่ในตอนนั้นเอมอรปฏิเสธทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่ภูชิตคือพ่อของเด็กและการไปเอาเด็กออก จนในที่สุดเขาทำการตกลงกับเอมอรให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา
ลูกของเธอเขาจะรับเป็นพ่อเด็ก ในตอนนั้นเอมอรเหมือนจะปฏิเสธเขา แต่ในที่สุดเธอก็ยอมตอบตกลง เมื่อวานเกิดอุบัติเหตุขึ้น เธอหัวกระแทกอย่างแรงจนต้องคลอดก่อนกำหนด หลังฟื้นขึ้นมาสติของเธอฟุ้งซ่าน เธอปฏิเสธที่จะเจอลูกแฝดที่เพิ่งคลอดออกมา
"เธอดีขึ้นหรือยัง ตอนนี้ฉันรับพี่เลี้ยงมาหนึ่งคนเพื่อช่วยดูแลลูกของเธอ" ชาลีบอกกับเอมอร
เอมอรไม่ตอบอะไรชาลีกลับมา เธอเอาแต่มองออกไปนอกเรือนกระจก หลังจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นเธอกลับมาจำเรื่องราวในอดีตได้อีกครั้ง เธอจำความรักของเธอกับภูชิตได้ดี รวมถึงว่าเหตุใดเขาและเธอถึงมีความสัมพันธ์ที่แย่ลง ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะองค์กรบ้านั้น ที่นำตัวเธอและภูชิตไปเปลี่ยนความทรงจำ
ภูชิตมีความรักที่ดีกับผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว เขาลืมหมดแล้วถึงความรักที่เคยมีต่อเธอ ก่อนหน้านี้เธอทำใจเรื่องพวกนี้ได้แล้วและยอมรับมัน แต่พอเธอจำเรื่องราวทั้งหมดได้มันทำให้เธอเป็นทุกข์
เธอต้องเสียคนรักไป และถูกขืนใจจากใครบางคนจนทั้งครรภ์ ต้องถูกมาเฟียพาเธอมากักขังไว้ในเรือนกระจกแห่งนี้ มันยุติธรรมแล้วเหรอ ตอนนี้เธอไม่กลัวมองหน้าลูกแฝดของตัวเองด้วยซ้ำไป
เจ้านายคนใหม่อย่าง“ฟีนิกซ์” ที่แสนจะบ้าอำนาจสุดๆ แถมยังเอาแต่ใจ หื่น บ้ากามสารพัด ตีค่าทุกอย่างด้วยเงิน แม้แต่ความรัก ซึ่งเธอจะไม่ยอมเขาเด็ดขาด เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเขา ไม่ให้มามีสิทธิ์เหนือเธอ ในเวลางานยังพอทน แต่ถ้านอกเวลางานคนอย่าง“แพรพิรยา” จะไม่ยอมทนเด็ดขาด แล้วเขาถือสิทธิ์อะไรเข้ามาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกันกับเธอ อย่างหน้าด้านๆ เวลาไม่พอใจอะไรเธอหรือโกรธเธอ เป็นอันต้องใช้กำลัง ด้วยการจูบเธอบ้างล่ะ จับกดลงกับเตียงแล้ว….!? เธอบ้างล่ะ อย่างกับฉากละครในทีวีที่พระเอกกับนางเอกทะเลาะกันยังไงยังงั้นเลย คนเรามันต้องมีเหตุผลกันทั้งนั้น แล้วเหตุผลของเขาล่ะคืออะไรกัน บางครั้งเขาก็เป็นผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน และอะไรกันที่ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และร้ายกาจได้ขนาดนี้กัน
เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ
จะเป็นอย่างไรเมื่อสาวน้อยวัย 18 ปี อย่างพลอยไพลิน ต้องแต่งงานกับหนุ่มใหญ่วัย 32 ปี อย่างอัศวิน เพราะสถานะทางครอบครัว และเขาดันเข้ามาสอนในมหาลัยที่เธอสอบติด ทำให้เธอและเขามีสถานะเพิ่มอีกหนึ่ง คือ “ลูกศิษย์กับอาจารย์”
ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเริ่มจากเจ้านายกับลูกน้อง เพราะเขาต้องการใช้เธอเป็นสะพานเข้าไปหาเพื่อนรักของเธอ แต่เพราะความใกล้ชิดทำให้เรา....จนต้องเกิดการรับผิดชอบเกิดขึ้นในสองเดือนคือการทดลองคบกัน
จะเป็นอย่างไงเมื่อสาวน้อยอย่าง "รถเมล์" ต้องกลายเป็นคุณแม่วัยยังสาว และหนุ่มหล่ออย่าง "บิ๊กเอ็ม" ต้องกลายเป็นคุณพ่อซุปตาร์ เพราะเพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของทั้งคู่ทำให้เธอท้อง เธอกลับมาเจอเขาอีกครั้งในวันที่ถ่ายแบบด้วยกัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นมันก็ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน เธอที่เพิ่งเข้าวงการกับเขาที่อยู่ในวงการถ่ายแบบมานานแล้วและเขากำลังจะเป็นดาราดัง แล้วอย่างนี้ทั้งสองจะทำอย่างไรกับเด็กน้อยที่กำลังจะเกิด
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว