หญิงสาวผู้ไม่เคยมีความรักมาก่อน จนเธอได้มาพบกับเขาและได้ตกหลุมรักเขา และเขาก็ตกหลุมรักเธอเช่นกัน แต่ความรักของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้เธอต้องพบกับความผิดหวัง แต่แล้วในความโชคร้ายก็มีแสงสว่างเข้ามาฉุดเธอให้หลุดพ้นจากตรงนั้น
หญิงสาวผู้ไม่เคยมีความรักมาก่อน จนเธอได้มาพบกับเขาและได้ตกหลุมรักเขา และเขาก็ตกหลุมรักเธอเช่นกัน แต่ความรักของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้เธอต้องพบกับความผิดหวัง แต่แล้วในความโชคร้ายก็มีแสงสว่างเข้ามาฉุดเธอให้หลุดพ้นจากตรงนั้น
บรรยากาศในเช้าวันนี้เป็นเช้าที่สดใส ผู้คนมากมายต่างออกมาเพื่อดำเนินชีวิตไปตามแต่ละแบบของแต่ละคน
แสงแดดยามเช้าสาดส่องไปที่รั้วกำแพงสีขาวที่ทอดตัวยาวเป็นแนวเห็นได้มาแต่ไกล ภายในรั้วกำแพงเป็นอาคารตึกเล็กใหญ่สลับกันไป อีกทั้งมีสระน้ำกว้างใหญ่อยู่ตรงกลางและยังรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่คอยให้ความร่มรื่นอยู่ริมสระ ตามทางเดินก็เต็มแน่นไปด้วยหนุ่มสาวที่กำลังเดินทางกันเข้ามาในที่แห่งนี้
หนึ่งในนั่นก็คือริสาสาวน้อยคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในรั้วกำแพงสีขาวแห่งนี้ ที่นี้ก็คือมหาวิทยาลัย และวันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของภาคเรียน
หญิงสาวแต่งชุดนักศึกษามาอย่างเรียบร้อย เธอจัดได้ว่าเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี รูปร่างสมส่วน ผิวพรรณสีน้ำผึ้ง ริสาเดินมองซ้ายมองขวาชื่นชมความงามของต้นไม้ดอกไม้ที่กำลังผลิดอกสีสันสวยสดใสอยู่ริมสระน้ำ และทันใดนั้นเธอก็ต้องหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงใครคนหนึ่งกำลังเรียกชื่อเธอได้ยินมาแต่ไกล
"ริสา ริสา ทางนี้จ้า" เสียงเล็กๆใสๆของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนเรียกริสาอยู่ที่ใต้ร่มต้นไม้
เมื่อริสาได้ยินและหันไปมอง ทำให้เธอถึงกับยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเรียกชื่อเธอมาแต่ไกล ริสารีบเร่งฝีเท้าของตัวเองเพื่อจะไปหาเจ้าของต้นเสียงที่เรียกชื่อเธอมาแต่ไกล
"คิดถึงจังเลยลินดาเพื่อนรัก" ริสาพูดด้วยน้ำเสียงดีใจและสวมกอดเพื่อนของเธอด้วยความคิดถึง
"ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกันริสา ว่าแต่ทำไมเธอเพิ่งมาถึงเนี่ย รู้มั้ยว่าจะสายแล้วเดี่ยวก็เข้าเรียนกันไม่ทันหรอก"
"ก็ฉันกำลังเดินดูความเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัยเรานะสิว่าช่วงที่พวกเราปิดเทอมไปมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็เท่านั้นเอง" ริสาพูดไปก็หันมองรอบๆข้างไป
"ฉันว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก มหาวิทยาลัยก็ยังเป็นมหาวิทยาลัยเหมือนเดิม แต่ที่รู้ๆที่เปลี่ยนไปแน่นอนก็คือเราสองคนไงริสา ที่ตอนนี้เรานะขึ้นปี 4 แล้วนะ อายุก็แก่ขึ้นอีกปีหนึ่งแล้ว" ลินดาพูดไปก็ทำท่าทางตลกไป แล้วทั้ง 2 คนก็พากันเดินไปห้องเรียนและชวนกันพูดคุยตลอดทางด้วยความคิดถึง ริสาและลินดาเป็นเพื่อนกัน ทั้งคู่สนิทสนมกันมากเนื่องจากเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ปี 1 และตอนนี้ทั้ง 2 ก็เรียนอยู่ปีสุดท้ายแล้ว จึงมีความสนิทสนมกัน เมื่อทั้งริสาและลินดาเดินมาถึงห้องเรียนภายในห้องก็มีเพื่อนๆนักศึกษาด้วยกันอยู่เต็มห้องเรียนต่างพูดคุยสนทนากันเสียงดังเพราะไม่ได้เจอกันนานในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ต่างมีเรื่องเล่าสู่กันฟังมากมาย ในระหว่างที่รออาจารย์เข้ามาสอน ทั้งคู่เดินมาหาที่นั่งว่างๆ2โต๊ะติดกัน และนั่งลงตรงนั้นเพื่อรอเวลาเรียน ไม่นานก็มีหญิงสูงวัยแต่งชุดกระโปรงยาวเลยเข่าเป็นลายผ้าไทยสีน้ำตาลอ่อนทั้้งชุดดูเหมาะสมกับวัยของผู้สวมใส่ยิ่งนัก และได้เดินเข้ามาในห้องเรียนที่ริสาและลินดานั้งอยู่
เมื่อหญิงสูงวัยผู้นี้เดินเข้ามาในห้องเรียน เสียงพูดคุยของเหล่านักศึกษาทั้งชายและหญิงต่างเงียบลงทันที หนึ่งในนักศึกษาคนหนึ่งเป็นเสียงผู้ชายกล่าวขึ้นว่า
"นักศึกษาทำความเคารพ" ทุกคนพอได้ยินเสียงต่างพูดจาสวัสดีครับ สวัสดีค่ะ หญิงสูงวัยที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียนคืออาจารย์ที่เข้ามาสอนในวันนี้ ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจเรียน รวมถึงริสาและลินดาด้วย
บรรยากาศในการเรียนเริ่มกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ได้ปิดภาคเรียนไป วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกทุกคนต่างตื่นเต้นที่ได้มาเรียนในวันแรกหลังจากหยุดเรียนกันไปหลายวัน วันนี้ทั้งริสาและลินดามีวิชาเรียนกันจนถึงตอนบ่ายของวัน หลังจากเรียนเสร็จริสากำลังเตรียมเก็บเอกสารอุปกรณ์การเรียนของเธอเพื่อเตรียมตัวออกจากห้องเรียนเพื่อจะเดินทางกลับที่พัก ส่วนลินดาก็กำลังเก็บเอกสารเตรียมตัวจะกลับเช่นกัน ทั้งคู่เดินออกจากห้องเรียนเพื่อจะเดินทางกลับ ระหว่างทางเดินที่เดินมาเรื่อยๆลินดาเอ่ยปากชวนริสา
"ริสา วันนี้เลิกเรียนแล้วริสามีธุระอะไรที่จะไปทำต่อหรือเปล่าจ๊ะ" ลินดาเอ่ยถามเพื่อนของเธอด้วยน้ำเสียงที่มีความหวัง เมื่อริสาได้ยินที่เพื่อนถามก็ตอบกลับไปว่า "วันนี้ไม่มีจ๊ะ ก็กะว่าจะกลับบ้านเลยจ๊ะ มีอะไรหรือเปล่าลินดา" ริสาถามกลับลินดาด้วยน้ำเสียงและแววตาที่สงสัยในคำถามของเพื่อนของเธอ ส่วนลินดาเมื่อได้ยินที่ริสาถามกลับมาเธอก็เอ่ยตอบไปว่า
"ฉันว่าวันนี้ถ้าริสาไม่มีธุระอะไรที่ไหน ฉันกะว่าจะชวนริสาไปทานข้าวเย็นที่บ้านของฉัน พอดีวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ที่บ้านคุณแม่ทำกับข้าวไว้หลายอย่าง ท่านบอกไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าก่อนที่ฉันจะมามหาวิทยาลัยแล้วละ ว่าวันนี้ให้ชวนริสามาทานข้าวเย็นที่บ้านเราด้วย" ลินดาบอกริสา
"เกรงใจคุณแม่กับคุณพ่อของเธอจังเลยลินดา ที่ท่านคิดถึงฉันและเอ็นดูฉันเสมอ" ริสาบอกและยิ้มให้กับเพื่อนของเธอ
"ถ้าริสาไม่ติดอะไร ไปทานข้าวที่บ้านฉันนะ" ลินดาเอ่ยปากชวนเพื่อนอีกครั้ง
"ได้เลยจ๊ะลินดา แต่ก่อนไปบ้านเธอฉันขอแวะซื้อของไปฝากคุณพ่อคุณแม่เธอหน่อยนะ เพราะฉันก็ไม่ได้ไปเจอท่านทั้ง2นานแล้ว" ริสาพูดกับลินดา
ทั้งสองเดินออกมาหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อเรียกรถแท็กซี่ สักพักก็มีรถแท็กซี่คันสีเขียวเหลืองขับผ่านมาจอดที่ทั้ง2คนยืนอยู่พอดี ทั้ง2คนจึงขึ้นรถแท็กซี่คันนั้นและบอกให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่พวกเธอเรียนอยู่นัก ไม่นานทั้งริสาและลินดาก็มาถึงห้างสรรพสินค้า
ทั้ง2จึงพากันเดินเข้าไปในห้างแห่งนั่น และเดินมุ่งตรงไปยังที่ตั้งขายผักและผลไม้สด ที่นั่นเต็มไปด้วยผักและผลไม้ที่มีทั้งของไทยและที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ วางเรียงรายเต็มไปหมด ริสาเดินตรงไปยังที่จัดวางส้มและแอปเปิล ริสาหยิบส้มและแอปเปิลใส่ตระกร้า ข้างๆกันมีสตรอเบอรี่ องุ่น เธอก็หยิบลงตระกร้ามาอย่างละเท่าๆกัน โดยมีลินดาคอยช่วยหยิบเลือกอยู่ใกล้ๆ เมื่อริสาเลือกผลไม้เสร็จเธอก็นำไปให้พนักงานช่วยจัดใส่กระเช้าผลไม้และตกแต่งให้สวยงามสำหรับนำไปให้คุณพ่อคุณแม่ของลินดา ไม่นานนักพนักงานก็จัดผลไม้เสร็จได้กระเช้าผลไม้ขนาดกำลังพอดีไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ริสามองดูด้วยความพอใจในฝีมือการจัดกระเช้าของพนักงานที่รู้จักตกแต่งใช้ใบไม้ ดอกไม้ และริปบิ้นสีมาตกแต่งให้กระเช้าผลไม้ใบนี้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
ทั้งริสาและลินดาใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ไม่นาน ทั้ง2คนก็เดินออกมาหน้าห้างสรรพสินค้าเพื่อจะเรียกรถแท็กซี่ไปบ้านของลินดากัน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
เพราะประกาศิตจากแม่และยายให้เธอกลับไปแต่งงานกับคนที่หาไว้ ทางรอดสุดท้ายคือเธอต้องหาผู้ชายที่เพียบพร้อมกว่ากลับไปฝาก แต่ทุกอย่างก็ดันผิดแผนไปหมด เมื่อเธอดันสะเพร่าเข้าผิดห้อง สุดท้ายใครจะคิดว่าชีวิตของ แวววิวาห์จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะคีย์การ์ดใบเดียวแท้ๆ เลยที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกผันถูกภาคิน ประธานบริษัทจอมเผด็จการและเอาแต่ใจที่สุดในสามโลกคอยกดขี่ข่มเหง ใช่! เขาทั้งกด ขี่ แล้วก็ขย่ม เอ๊ย! ข่มเหงจนเธอแทบไม่ได้ลงจากเตียง “จูบห้าพัน แต่ถ้าจูบดูดดื่มรุกล้ำหมื่นนึง” “กอดห้าพัน แต่ถ้ากอดลูบไล้ล้วงลึกก็หมื่นนึง ถ้าคุณไม่จ่าย ฉันจะถือว่าคุณหลงเสน่ห์ฉัน และเราต้องแต่งงานกัน” “แล้วถ้ามากกว่านั้นล่ะ” เสียงเขากระเส่าพลางโน้มใบหน้าลงไปถามใกล้ๆ
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด