แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
วันนี้เป็นวันเกิดครบแปดสิบปีของเฒ่าแก่ป๋อแห่งเมืองหลิน มีแขกร่วมงานกันอย่างคึกคัก
จู่ ๆ ในสวนก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ในงานต่างพากันตกอกตกใจ
มีคนจำได้ว่าเป็นเสียงของหลินเซียงหยา นายหญิงน้อยที่กำลังตั้งท้องลูกของนายน้อยคนโตที่เสียชีวิตไปของตระกูลป๋อ จากนั้นคนของตระกูลป๋อก็รีบวิ่งมาที่สวนอย่างรีบร้อน
ในสระว่ายน้ำที่เปิดโล่ง ปรากฏร่างสองร่างกำลังอลหม่านกันอยู่ต่อหน้าสายตาผู้คน
ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้สติกลับมา ป๋อมู่เหนียนก็ได้กระโดดลงไปในสระว่ายน้ำ จากนั้นอุ้มหลินเซียงหยาที่กำลังตะเกียกตะกายขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ
ทันใดนั้น ผู้คนก็ได้สติ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เพิ่งมาถึงก็รีบกระโดดลงไปในสระเพื่อช่วยเซินชูขึ้นมา
ขณะที่เซินชูพาตัวที่เปียกปอนเดินเข้ามาในบ้านตระกูลป๋อ สาวใช้ที่เดินผ่านทำราวกับไม่เห็นเธอซะอย่างนั้น
ไม่มีใครสนใจว่าเธอกลับมาอย่างไร และไม่มีใครสนใจว่าเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากอยู่ในตระกูลป๋อมานานกว่าสามปี เซินชูก็รู้มานานแล้วว่าสถานะของเธอในตระกูลป๋อ บางทีอาจเทียบไม่ได้กับสุนัขตัวนั้นที่น้องสาวของป๋อมู่เหนียนเลี้ยงไว้ด้วยซ้ำ
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้กับหลินเซียงหยา ในเวลานี้คนของตระกูลป๋อต่างอยู่ที่โรงพยาบาล
เซินชูกลับไปที่ห้องด้วยตัวเอง จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ ระหว่างที่เธอกำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น เธอก็ถูกป๋อมู่เหนียนลากขึ้นมาจากเตียง
เมื่อเธอเห็นชัดเจนแล้วว่าคนที่มาเป็นป๋อมู่เหนียน ดวงตาของเซินชูก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที :“คุณกลับมาแล้วเหรอ? หลินเซียงหยาเป็นยังไงบ้าง? คุณฟังฉันนะ ป๋อมู่เหนียน ฉันไม่ได้ผลักเธอตกน้ำจริง ๆ ”
ป๋อมู่เหนียนมองเธอ แล้วหัวตระคอกออกมาว่า “คำพูดเหล่านี้ของเธอ เก็บไว้พูดกับคุณปู่เถอะ! ”
เซินชูมีสติขึ้นมาทันที เธอกัดฟันแน่นพยายามอดกลั้นกับความไม่สบายตัวของร่างกาย “คุณหมายความว่ายังไง ป๋อมู่เหนียน? ”
เขาไม่แม้แต่จะมองเธอ จากนั้นก็ลากเธอออกไปข้างนอกทันที :“ไปห้องบรรพบุรุษ”
ป๋อมู่เหนียนไม่อยากพูดกับเซินชูแม้แต่ประโยคเดียว หลังจากส่งหลินเซียงหยาไปถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เด็กในท้องก็จากไปเสียแล้ว
นี่เป็นสายเลือดเดียวที่พี่ชายของเขาทิ้งไว้ แต่เพราะเซินชู ตอนนี้จึงกลายเป็นเพียงก้อนเลือด ที่ไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกแล้ว
เฒ่าแก่ป๋อโกรธมาก เพิ่งจะกลับมาจากโรงพยาบาล ก็สั่งให้เขาพาเซินชูไปที่ห้องบรรพบุรุษ
เมื่อเซินชูได้ยินคำพูดของป๋อมู่เหนียน ร่างกายของเธอก็แข็งทื่อทันที
ห้องบรรพบุรุษตระกูลป๋อ เธอแต่งเข้ามาในตระกูลป๋อตั้งนาน ทำไมจะไม่รู้ห้องบรรพบุรุษของตระกูลป๋อ
ใครก็ตามที่เข้าไปในห้องบรรพบุรุษของตระกูลป๋อ แม้ว่าไม่ตายแต่ก็เกือบตายทั้งเป็น
เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า คนของตระกูลป๋อจะไม่ฟังคำอธิบายของเธอด้วยซ้ำ ก็สั่งให้ป๋อมู่เหนียนพาเธอไปที่ห้องบรรพบุรุษเพื่อลงโทษตามกฎของบ้าน!
เซินชูมองโครงหน้าของชายที่กำลังลากเธอออกไป กราามของเขาเป็นสัน ช่างเป็นใบหน้าที่เพอร์เฟคมาก แต่ใบหน้านี้ ตั้งแต่เธอแต่งเข้ามาในตระกูลป๋อ ก็ไม่เคยไว้หน้าเธอเลยแม้แต่น้อย!
ไข้สูงทำเธอทรมานมาก แต่ไม่มีใครสนใจเธอ
แต่เมื่อเกิดเรื่องกับหลินเซียงหยา คนของตระกูลป๋อกับป๋อมู่เหนียน ตอนนี้น่าจะโกรธเกลียดจนอยากจะถลกหนังของเธอออกมาแล้วมั้ง?
มุมปากของเซินชูกระตุกด้วยความเศร้าสลดใจ “ฉันเดินไปเอง”
ป๋อมู่เหนียนเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ในดวงตาดำสนิทนั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ เป็นความโกรธเกลียดที่อัดอั้นไว้ ไม่มีความรู้สึกสงสารเลยแม้แต่นิดเดียว
“เร็วหน่อย”
เขาพูดออกมาด้วยสีหน้านิ่ง ๆ จากนั้นก็เดินไปยังห้องบรรพบุรุษของตระกูลป๋ออย่างรวดเร็ว
เซินชูมองหลังของเขา จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าสามปีที่ผ่านมาของเธอเหมือนเป็นเรื่องตลก
แสงไฟในห้องบรรพบุรุษสว่างไสว เซินชูรู้ว่าคนของตระกูลป๋อกำลังรอเธออยู่
“คุกเข่าลง! ”
ทันทีที่เซินชูมาถึง เฒ่าแก่ป๋อก็ขว้างถ้วยชาใส่เธอทันที
เซินชูยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ต่อต้าน :“ทำไมฉันต้องคุกเข่าด้วยคะ? ”
เธอไม่ผิด ทำไมเธอต้องคุกเข่า?
เมื่อเห็นเธอมีท่าทางแบบนี้ เฒ่าแก่ป๋อก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง :“แกดูสิ นี่คือคนที่แกแต่งเข้ามา! ”
เซินชูกำลังจะอธิบายว่าเธอไม่ผิด ทันใดนั้นป๋อมู่เหนียนที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยกมือขึ้นกดไหล่ของเธอทันที :“คุกเข่าลง”
ทันทีที่เขาออกแรง เซินชูก็ถูกเขากดจนคุกเข่าลงไป “ไม่ก็คุกเข่า ไม่ก็หย่ากัน”
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า