/0/10425/coverbig.jpg?v=b1856888b7c65b0e0428841cbd1b916a)
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
“หลินอวี้ลูกข้าล่ะ”
“ฮูหยินคุณหนูน้อยและคุณชายน้อยแข็งแรงดีเจ้าค่ะ”
“หลินอวี้ต่อไปเจ้าคือน้องสาวข้า เรียกข้าว่าท่านพี่ ข้าฝากลูกด้วย ดูแลเขาให้ดี ๆ”
หลิวหยาฉีพูดเสียงแผ่วเบา
“ท่านพี่ท่านพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะไปทำอาหารให้ท่าน”
“หลินอวี้ ลูกสาวข้าชื่อหลิวลี่หลิน ลูกชายข้าชื่อหลิวลี่หยาง จะ..เจ้าจำไว้ดูแลเขาให้ดี…..อย่าให้คนพวกนั้นรู้…อย่าให้เขารู้ ...อย่า….”
เสียงของหลิวหยาฉีแผ่วเบาลงจนขาดหายไปในที่สุด แล้วก็แน่นิ่งไปสร้างความตกใจให้หลินอวี้ยิ่งนัก
“ท่านพี่….ท่านพี่..ฮือฮือ..ท่านอย่าทิ้งข้าไปนะ ท่านอย่าทิ้งคุณหนูทั้งสองไปนะ...ฮือฮือ...ท่านหมอช่วยท่านพี่ข้าด้วยเจ้าค่ะ ฮึก”
ไป๋เหยียนที่กำลังล้างเช็ดตัวห่อตัวให้ทารกทั้งสองอยู่ จึงอุ้มทารกทั้งสองไว้ด้วยมือคนละข้างรีบเดินมาดูยื่นทารกให้หลินอวี้ รีบจับชีพจรดู ไป๋เหยียนสายหน้า
“ร่างกายนางอ่อนแอนัก นางสู้ต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ”
หลิวหยาฉี นางถูกสามีหย่าขาดและถูกขับออกจากจวนอ๋องเพียงเพราะนางไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดพอนางออกจากจวนอ๋องนางกลับตั้งครรภ์ นางเดินทางจากเมืองเป่ยจินรอนแรมมาถึงซานตงตั้งใจพาลูกมาตั้งรกรากที่นี่นางพอมีสมบัติติดตัวอยู่บ้างนางจึงไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก ระหว่างทางนางแวะพักหลายที่เพื่อหาที่ทำกินเหมาะ ๆ เพื่อตั้งรกรากให้ลูกน้อย ตอนนี้นางท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนางตั้งใจจะไปคลอดที่ซานตง ระหว่างเดินทางเกิดปวดท้องคลอดกระทันหัน ถึงแม้นางจะโชคร้ายมาโดยตลอดแต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีของนางอยู่ บังเอิญมีท่านหมอลงเขามาพอดีจึงช่วยนางทำคลอด
ท่านหมอไป๋เหยียนเป็นผู้เชียวชาญด้านปรุงโอสถและยาพิษมีวรยุทธ์สูง วันนี้ท่านหมอลงเขามาซื้อข้าวสารอาหารแห้งบังเอิญเจอคนเจ็บท้องคลอดจึงช่วยเหลือทำคลอดให้ แต่เมื่อเขามาถึงทารกคนแรกก็ออกมาแล้ว นางกำลังเบ่งคนที่สองอยู่เขาจึงช่วยอะไรไม่ได้ จึงไม่สามารถยื้อชีวิตของแม่เด็กได้ เด็กทารกคลอดออกมาเป็นแฝดชาย-หญิง แข็งแรงทั้งคู่แต่ร่างกายของมารดาอ่อนแอและเสียเลือดมาก มีอาการตกเลือดจึงช็อกและสิ้นใจลง
“เจ้าจะทำเช่นไรต่อไป”
หลินอวี้คิดอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องไห้แล้วส่ายหน้า
“เจ้าชื่ออะไร”
“ข้าน้อยหลินอวี้เจ้าค่ะ”
“หลินอวี้ หากเจ้ายังไม่มีที่ไปก็ไปอยู่กับข้าก่อน เจ้าไม่ต้องกังวลเด็กทั้งสองนี้เขาลักษณะดีมาก เขาเป็นเด็กมีพรสวรรค์ข้าจะรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมก็แล้วกัน”
“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”
เขารู้สึกถูกชะตากับทารกน้อยทั้งสองอย่างประหลาด ทั้งคู่ทำตาแป๋วมองเขานิ่ง ๆ แล้วก็หลับไปไม่ร้องสักแอ่ะ
“เอาล่ะหาที่ดี ๆ ฝังศพนางไว้ที่นี่เถอะเด็กทั้งสองจะได้มากราบไหว้แม่ของเขาได้”
หลินอวี้พยักหน้าช้า ๆ ทั้งน้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดแล้วก็เดินสำรวจหาที่ฝังนายหญิงของนาง เมื่อฝังเสร็จแล้วก็หาดอกไม้มาวางทำป้ายวิญญาณปักไว้หน้าหลุมศพคำนับศพ แล้วจึงหยิบห่อผ้าตามท่านหมอไป๋เหยียนขึ้นเขาไปส่วนรถม้านั้น ท่านหมอไป๋เหยียนเก็บใส่มิติเอาขึ้นเขาไปดวย
มี่ลี่ลืมตาตื่นขึ้นมา
‘ที่นี่ที่ไหนเนี้ย โอ้ยปวดหัวจังเลย อ๊ะ แขนเด็กที่ไหนเนียะ’
มี่ลี่ลองใช้มือหยิกแก้มตัวเอง
‘โอ้ยเจ็บ นี่แขนชั้นเหรอเนี้ย ห๊ะ! ระ…หรือว่า…ช้านกลายเป็นเด็กทารก กรี๊ด’
“แง๊แง๊”
“อ้าวหิวแล้วรึ คุณหนูลี่หลินอย่าข่วนหน้าตัวเองสิเจ้าคะ มา ๆ หิวแล้วใช่ไหม”
ไป๋เหยียนไปหาแม่นมมาได้ 2 คนจึงจ้างมาดูแลเด็กทั้งสอง ครบ 3 เดือนก็เปลี่ยนมากินนมแพะที่ไป๋เหยียนลงเขาไปซื้อมาเลี้ยงไว้หลายตัว ตอนนี้ก็สามารถรีดนมได้แล้ว หลินอวี้รีดนมแพะเอาไปอุ่นเล็กน้อยแล้วค่อยป้อนคุณหนูทั้งสอง
ตอนนี้เด็กทั้งสองก็อายุ 5 หนาวแล้ว ทั้งสองกำลังฝึกวรยุทธอยู่ หลินอวี้ก็ลงไปฝึกด้วยกันกับหลานทั้งสอง ไป๋เหยียนไม่หวงวิชาสอนให้ทั้งสามหมดทุกอย่าง วรยุทธ์ ปรุงโอสถ ปรุงยาพิษ
หลินอวี้ขอคำนับไป๋เหยียนเป็นอาจารย์ตั้งแต่ขึ้นเขามา นับตั้งแต่นั้นมาหลินอวี้ก็กลายเป็นศิษย์สายตรงของไป๋เหยียนเพียงคนเดียว เด็กทั้งสองเลี้ยงง่ายมาก หลังจากกินข้าวกินนมเสร็จก็มานั่งข้างพ่อบุญธรรมดูน้าหลินอวี้ฝึกวรยุทธ์บางทีก็ทำตามบ้าง เอาไม้มากวัดแกว่งฟาดฟันกันเล่นบ้าง
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
เขายังคงกระแทกกระทั้นอย่างเมามันส์ มือจับเอวรั้งรับแรงกระแทกจนหญิงสาวจุก เสียงเนื้อกระทบกันแข่งกับเสียงเตียงลั่นเป็นจังหวะ ธามจับพลิกคว่ำพลิกหงายเปลี่ยนท่าตามอารมณ์กาม มโนว่าสาวที่นอนดิ้นครางระงมอยู่ใต้ร่างนั้นเป็นรินรดา “อ่าา…ซีดด…เสียวจังรินจ๋า” กระแทกอีกสองสามทีร่างเขาก็กระตุกเกร็ง
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้