เขาเต็มใจแต่งงานกับเธอตามเงื่อนไขของพี่เขย แต่พอถึงวันส่งตัวเจ้าสาวของเขากลับเปลี่ยนไปทุกอย่าง ...ทั้งน้ำหนัก...รูปร่าง...รสจูบ...และเขาได้รู้ความจริงว่า...เจ้าสาวตัวจริงของเขาถูกวางยาสลบและปล่อยให้ตายอยู่ในห้องเก็บของ ...เขาจึงรู้ความจริงว่า...คนที่หน้าเหมือนเจ้าสาวของเขาเป็นใคร?...และมาเปลี่ยนตัวกับเจ้าสาวของเขาทำไม?...
อดีต...1...
“เราต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกันเสียที”
“ม...หมายความว่ายังไงคะ”
“ตามที่ฉันบอกนั่นละ ต่อไปนี้ห้ามเธอเข้ามาในห้องนอนฉันก่อนได้รับการอนุญาต”
“ทำไม...บุหรงทำอะไรให้คุณภาคย์ไม่พอใจหรือคะ”
“ไม่ใช่เรื่องพอใจหรือไม่พอใจหรอกนะ แต่เป็นเรื่องของความควรไม่ควรมากกว่า บุหรงเป็นคนรับใช้ในบ้านที่ฉันไม่ควรยุ่งเกี่ยวด้วย ฉันรับปากคุณแม่แล้วก็ต้องทำตาม ต่อไปนี้เราสองคนจะเลิกเกี่ยวข้องกัน เธออยู่ส่วนเธอ ฉันอยู่ส่วนฉัน แต่ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งเป็นค่าตอบแทนน้ำใจที่เธอมีต่อฉัน”
“ไม่ บุหรงไม่ยอม คุณภาคย์ คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ บุหรงรักคุณ รักคุณคนเดียว...”
ชายหนุ่มเดินหนีจากมาด้วยความเอือมระอาระคนเวทนา ความสงบเสงี่ยมเจียมตัวของหล่อนปลาสนาการไปสิ้นหลังจากได้มีสัมพันธ์รักกับเขาและคอยรบเร้าให้เขารับหล่อนเป็นเมียอย่างเปิดเผย ซึ่งก็หมายถึงบิดามารดาของเขาต้องรับรู้ถึงการลักลอบมีสัมพันธ์รักของเขากับหล่อนที่เนิ่นนานมาเกือบปี และทั้งสองต้องไม่ยินยอมให้เขาแต่งงานยกย่องสาวรับใช้ในบ้านเป็นเมียหรือเป็นสะใภ้เข้าร่วมสกุลพฤกษวัฒก์(พรึก-สะ-วัด)ของคหบดีมีชื่อเสียงในจังหวัดอย่างแน่นอน
ภาคย์ พฤกษวัฒก์ เป็นบุตรชายคนเดียวของนายพรต กับคุณนายมุกดาเจ้าของบ้านพฤกษวัฒก์ คฤหาสน์หลังใหญ่สวยงามตระการตาเป็นที่ชื่นชมของคนในจังหวัด เจ้าของคฤหาสน์มีธุรกิจการค้าหลายอย่างสร้างฐานะร่ำรวยสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว โดยรุ่นของนายพรตบิดาของภาคย์ ได้เป็นผู้ริเริ่มธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์จำพวกโรงแรมรีสอร์ตและห้างสรรพสินค้าที่ขยับขายออกไปในจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคใต้ และภาคย์บุตรชายก็เป็นความหวังเดียวของสกุลพฤกษวัฒก์ ที่จะสืบทอดธุรกิจการค้าต่อยอดให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
เมื่อครั้งที่ภาคย์เข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานครก็มักจะกลับมาอยู่บ้านช่วงปิดเทอมใหญ่ ก่อนเริ่มเรียนปีสองเขาได้เจอกับบุหรงสาวรับใช้วัยใกล้เคียงกันที่มักจะหาโอกาสเข้ามาเอาอกเอาใจ ในวันหนึ่งที่ท่านพรตกับคุณนายมุกดาบิดามารดาของเขาเดินทางไปต่างจังหวัด หนึ่งสัปดาห์ บุหรงก็พาตัวมาเสนอให้เขาถึงในห้องนอน แล้วทั้งสองก็ลักลอบมีสัมพันธ์รักกันเรื่อยมา โดยบุหรงเป็นฝ่ายมาหา เขาในห้องนอนทุกค่ำคืน
ก่อนภาคย์จะกลับไปเรียนปีสามท่านพรตกับคุณนายมุกดาได้เรียกบุตรชายเข้าพบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและห้ามบุตรชายไม่ให้กลับมาบ้านจนกว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัย เมื่อบุตรชายเรียนจบปริญญาตรีกลับมาก็บอกให้เตรียมตัวไปเรียนต่อปริญญาโทต่อต่างประเทศ ซึ่งคืนนั้นบุหรงได้แอบเข้ามาพบภาคย์เร่งรัดให้เขาบอกบิดามารดาว่าจะแต่งงานกับหล่อนเพื่อหล่อนจะได้ตามเขาไปด้วย แต่เขาบ่ายเบี่ยงเลยเกิดปากเสียงทะเลาะกัน ภาคย์ที่ไม่เคยรักใคร่ในตัวบุหรงจึงบอกตัดสัมพันธ์ รักโดยอ้างเหตุผลว่าต้องไปเรียนต่อหลายปี
บุหรงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในทีแรก เมื่อเห็นว่าภาคย์ยังนิ่งเฉยก็ฟูมฟายร้องไห้ต่อว่าต่อขาน พรรณนาถึงความรักที่หล่อนมีต่อเขา แต่ภาคย์กลับไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองเกิดจากความรัก เพราะเขากับหล่อนยังอยู่ในวัยลุ่มหลงต่อสิ่งยั่วยวนใจและบุหรงเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเสนอตัวมาก่อน ซึ่งเขายังจดจำค่ำคืนวันนั้นได้
“คุณภาคย์ขา นอนหรือยังคะ เปิดประตูหน่อยค่ะ” เสียงเคาะประตูและเสียงเรียกดึงความสนใจเจ้าของห้องให้ลุกขึ้นมาเปิดประตู
“อ้าว บุหรง มีอะไรหรือ” ภาคย์เอ่ยถาม มองใบหน้ายิ้มแย้มแกมประจบของหล่อนอย่างงงๆ
“บุหรงกลัวคุณภาคย์จะหิวเลยเอาของว่างมาให้ค่ะ ท้องอิ่มจะได้นอนหลับสบาย” หญิงสาวใช้สะโพกผายกลมกลึงดันประตูเปิดกว้างออกแล้วถือวิสาสะเบียดตัวแทรกเข้ามาในห้องโดยไม่รอเจ้าของห้องอนุญาต หล่อนนำถาดใส่เหยือกนมที่อุ่นจนควันกรุ่นกับของว่างสองจานเล็กเข้ามาวางบนโต๊ะหน้าเก้าอี้ปลายเตียง
“ขอบใจนะ วางไว้ที่นั่นแหละ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เจ้าของห้องยังยืนจับบานประตูเปิดรอให้คนรับใช้สาวออกไป แต่เจ้าหล่อนกลับลงนั่งพับเพียบเรียบร้อยส่งยิ้มหวาน ดวงตาแฝงเลศนัยของหล่อนชม้ายแพรวพราว
“บุหรงรอให้คุณภาคย์ดื่มกินให้หมดก่อนก็ได้ค่ะ จะได้เก็บถาดออกไปเสียเลย”
ภาคย์มองผู้กล่าวอย่างงงๆ ปกติช่วงเวลาอย่างนี้จะไม่มีคนรับใช้หรือสาวใช้คนใดขึ้นมาบนชั้นสองของบ้านหรือห้องนอนเจ้าของบ้านโดยไม่มีการเรียกหา บุหรงคงเห็นว่าบิดามารดาของเขาไม่อยู่จึงกล้าขึ้นมาหาเขาถึงในห้องนอน และดูท่าหล่อนจะมีเป้าหมายอะไรสักอย่าง
“ไม่ต้องรอหรอก เดี๋ยวฉันกินอิ่มจะเอาถาดวางไว้หน้าห้อง เธอค่อยมาเก็บไปในตอนเช้าก็ได้” เขาเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ปลายเตียงหน้าโต๊ะที่บุหรงนำถาดของว่างเข้ามาวาง จึงเห็นขนมปังแซนวิสตัดเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดพอคำดูน่ากินอยู่ในจาน
เล็กสองใบ
“อุ๊ย ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าบุหรงก็โดนดุสิคะ คุณภาคย์ดื่มกินตามสบายเลยค่ะ บุหรงรอได้”
“อึม ก็ตามใจ ของว่างของเธอก็ดูน่ากินดีนะ”
“เป็นแซนวิสทูน่ากับแซนวิสสลัดรวมผักอย่างที่คุณภาคย์เคยชอบ บุหรงทำเองกับมือเชียวนะคะ” เธอตอบด้วยอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปลื้มใจที่เจ้านายหนุ่มชมอาหารที่เธอทำดูน่ากิน
“เธอทำอาหารพวกนี้เป็นด้วยหรือ” เขารู้ว่ามารดาของบุหรงเป็นแม่ครัว แต่ไม่คิดว่าบุหรงจะสนใจเรื่องการทำอาหาร
“แหม...ต้องเป็นสิคะ แม่ของบุหรงเป็นแม่ครัวนี่คะ”
“ฉันรู้ แต่ไม่คิดว่าเธอจะสนใจ เห็นทำแต่งานบ้าน”
“บุหรงก็เคยช่วยแม่ทำงานครัวบ้าง มาค่ะ บุหรงป้อนให้”
ภาคย์อยากปฏิเสธว่าเขาหยิบกินเองได้ แต่เดาออกว่าบุหรงคงไม่ยอมและต้องคะยั้นคะยอให้เขากินจากมือหล่อน เขาจึงอ้าปากรับแซนวิสชิ้นพอคำที่บุหรงใช้ซ้อมอันเล็กจิ้มส่งเคี้ยวกินลิ้มรสชาติอร่อย
“อึม...ฝีมือดีนี่ มีตั้งสองจานเธอกินเป็นเพื่อนฉันก็ได้นะ”
ในไม่ช้าแซนวิสในจานใบเล็กกับนมสดอุ่นจัดหมดไป พร้อมอาการหิวกระหายอย่างอื่นเข้าแทน ภาคย์นึกแปลกใจที่แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยสนใจในตัวของบุหรงเลย แต่ตอนนี้เขากลับมีความรู้สึกปรารถนาในตัวหล่อนแทบจะทนไม่ไหว และแทนที่หล่อนจะปฏิเสธหรือขัดขืนกลับเสนอตัวยั่วยวนจนเขาไม่อาจยับยั้งใจ แล้วต่างฝ่ายก็ได้รับความสุขสมในรสพิศวาสอันเร่าร้อน โดยหล่อนเป็นฝ่ายเสนอและสนองรับอย่างเต็มอกเต็มใจ
การปลอมตัวเป็นญาติผู้พี่ ทำให้เธอต้องตกกระไดพลอยโจน รับงานกับเงื่อนไขพิเศษที่ไม่รู้มาก่อน ความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเร่งด่วน เธอจึงไม่ปฏิเสธและขอเพิ่ม จากความสาวบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ความเผอเรอทำให้เธอตั้งครรภ์ ที่มารู้ภายหลังการถูกจ้างออกจากงาน โดยหญิงสาวที่แต่งงานเป็นภรรยาเขา เธอตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง แต่เขากลับตามมาจะพาเธอกลับไป เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนมีภรรยาแล้ว จึงขู่จะฟ้องร้องโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นอิสระ จากพันธะการแต่งงานครั้งนั้นแล้ว
เธอเดินทางกลับจากเยี่ยมน้องชายกระทันหันจากการถูกเรียกตัวมาเข้าร่วมสัมมนาที่วิชาการพิเศษจากต่างประเทศมาให้ความรู้ แต่เข้านอนยังไม่ทันหลับดีก็มีวัตถุหนักอืึ้งล้มทับลงกลางตัว และจากที่นอนปิดไฟมืดเธอต้องตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่ามีผู้บุกรุกและคว้าปืนขึ้นมาป้องกันตัว แต่กลายกลับว่า...บุรุษผู้นั้นเป็นแขกพิเศษของโรงแรม...และจากวันนี้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง **************************************** เขาคือผู้บุกรุก ที่เธอคิดว่าเป็นโจรย่ามใจเข้ามาปล้นสวาท เธอคือสาวงาม ที่เขาคิดว่าเป็นของแถมเข้ามานอนรออยู่ในห้อง เขาคือจอมโอหัง ที่บังอาจกอดจูบเธอโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจ เธอคือสาวสวย ที่สามารถปลุกความรู้สึกด้านชาของหัวใจให้เต้นระทึก เขาวางแผน พาเธอมายังบ้านเมืองเพื่อพิสูจน์รักแท้ในหัวใจ เธอถูกลักพาตัว เพื่อฆ่าทิ้งกลางทะเลทราย มาลุ้นกันว่า...เจ้าชายคริสตินกับมินทราภา จะผ่านพ้นภัยร้ายน่าระทึกใจได้ครองรักกันหรือไม่... **************************
เขาจำยอมจดทะเบียนกับเด็กกะโปโลตามใจบิดาที่กำลังจะสิ้นลม และทิ้งร้างจากเธอไปนานนับปี แต่เมื่อกลับมาเจอเธออีกครั้ง เขาถึงรู้ว่า...เธอสวยและน่าพิศวาสนักหนา...แต่ที่คิดว่าจะได้เธอมาครอบครองเธอตามสิทธิ์สามีถูกต้องตามกฎหมายกลับมีเรื่องเข้าใจผิดคิดว่าเธอทำให้มารดาเขาตายก่อนเวลาอันควร ฯลฯ นิยายรักแนวโรมานซ์(18+)อีกเรื่องหนึ่งที่ขอแนะนำให้เพื่อนมาอ่านด้วยกัน
เขาไม่สนใจว่าที่คู่หมั้นที่หนีตามหนุ่มต่างชาติไปก่อนวันหมั้นหมายเพียงวันเดียว แต่พอมาเจอสาวสวยเชื้อสายไทยที่มีหน้าตาละม้ายเหมือนว่าที่คู่หมั้น เขาพึงพอใจในตัวเธอและสืบประวัติจนรู้ว่า...เธอเป็นน้องสาวคู่แฝดของว่าที่คู่หมั้น...และลักพาตัวมาไว้ในพระตำหนักสวนกุหลาบของพระมารดาที่ไม่เคยมีหญิงสาวคนใดได้เยี่ยมกรายเข้ามาและครอบครองเธอด้วยความรักพิศวาส แต่เกิดปัญหาเมื่อบิดามารดาของเธอมาตามบุตรสาวและพี่สาวคู่แฝดมาอดีตว่าที่คู่หมั้นปรากฏตัวก่อนวันอภิเษกสมรส
นิยายแนวทะเลทรายเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เชิญชวนให้อ่าน เพราะเป็นนิยายที่มีหลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียวกัน นักเขียนได้พาผู้อ่านไปสัมผัสกับชีวิตนางเอกที่ต้องเผชิญภัยจากผู้ปองร้ายโดยมีพระสวามีคอยปกป้องด้วยความรักห่วงใยต่างจากนิยายแนวทะเลทรายอื่นๆที่ให้ความสุขใจกับผู้อ่านอีกรูปแบบหนึ่ง *****...มกุฎราชกุมารีพระธิดาสุลต่านองค์ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรต้องเข้าพิธีอภิเษกโดยไม่รู้ตัวและเดินทางสู่พระราชวังของพระสวามีเพื่อลี้ภัยจากผู้ปองร้าย แต่กลับต้องมาเจอศึกรักจากความริษยาของเหล่านางห้ามในพระราชวังและแผนร้ายของพระญาติฝ่ายพระสวามีกับผู้ปองร้ายหมายชิงบัลลังก์ร่วมมือกันวางแผนปลิดชีวิต...ชีวิตรักของพระ-นางคู่นี้จะเป็นอย่างไรไปติดตามด้วยกัน ...**** **********************
นิยายแนว...ทะเลทรายสวีต...ที่ยิ่งอ่านยิ่งสนุกของนักเขียนเล่มนี้ ได้พานางเอกไปผจญภัยร้ายท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุจากโจรทะเลทรายตัวปลอมและโจรทะเลทรายตัวจริงที่กักขฬะด้วยการเอาคืนของพระเอกที่ถูกนางเอกใส่ร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและทำให้รู้ความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำด้วยความเข้าใจผิด แต่การเดินทางที่ใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกของทั้งสองเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นคู่ที่ถูกตาต้องใจกัน เกล็ดทรายอันร้อนระอุจากแสงแดดแผดเผาจึงกลายเป็นเกล็ดน้ำตาล ...***...“นายก็พูดได้สิ ลองมาเป็นฉันดูบ้าง จะได้รู้ว่าต้องกระตือรือร้นไปทำไม" เธอย้อนอย่างโมโห “เลิกอยากรู้อยากเห็นเสียที แล้วฟังฉัน ระหว่างพักอยู่ที่นี่ทุกคนต้องมีหน้าที่ หล่อนก็ต้องทำงานเหมือนกัน" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินนัก “นี่นายโจร ฉันไม่ใช่ลูกน้องหรือคนรับใช้ของนายนะ นายเป็นคนจับตัวฉันมา ก็ต้องเลี้ยงดูให้ฉันอยู่สุขสบาย จะมาใช้งานกินแรงกันไม่ได้นะ" เธอโวยลั่น “ฉันไม่สน ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องกิน อาหารมีไว้ให้คนที่ต้องออกแรงทำงานเท่านั้น" เขาข่มขวัญ คงคิดว่าเธอกลัวอดตายแล้วจะยอมทำตามทุกอย่างละสิ...ฝันไปเถอะ...เธอเชิดหน้าใส่ “แต่ไม่ใช่ฉัน ดูปากฉันนะ..." เธอชี้ที่ปากตัวเองอย่างที่น้องณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบชอบทำ “ฉัน...ไม่...ทำงาน...อะไร...ทั้งนั้น..." เธอเน้นทุกถ้อยคำให้เขาฟังก่อนจะหันหลังเดินจากมาพร้อมไฟโกรธลุกท่วมตัว ...ตาบ๊องเอ๊ย...จิตสำนึกเข่นเขี้ยวเหมือนอยากจะเคี้ยวเขาให้แหลกคาปาก เธอไม่ได้เป็นฝ่ายร้องตามเขามาถึงจะต้องยอมทำทุกอย่างที่เขา...สั่ง...สั่ง...สั่ง... โดยเฉพาะการทำงานแลกข้าวน้ำประทังชีวิต...เขาสิต้องรับผิดชอบหาข้าวหาปลามาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ หากเขาต้องการใช้ประโยชน์จาก ตัวเธอ... “งานแรก..." เขาพูดต่ออย่างไม่สนใจ “หล่อนต้องซักเสื้อผ้าให้ฉัน งานอย่างที่สอง-ต้องทำความสะอาดกระโจมที่เราพักด้วยกันทุกเช้ากลางวันเย็น เก็บที่นอน ปูที่นอน กวาดพื้น ถูพื้น และปัดฝุ่นทำความสะอาดตากเครื่องนอนทุกชิ้นทุกวัน อย่างที่ สาม-ต้องนำอาหารมาเสิร์ฟให้ฉันทุกมื้อ เสร็จงานแล้วหล่อนจึงจะได้อาหารกิน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้กิน เข้าใจไหม” มิลินยืนอ้าปากค้าง อยากจะกรี๊ดให้ลั่น เขามันจอมบงการสิ้นดี แล้วถือดีอย่างไรมาใช้งานเธอเยี่ยงนางทาสีประจำตัวแบบนี้ เธอยืนกำหมัดแน่น อยากจะแล่นเข้าข่วนหน้ารกเคราของเขาให้สาสมกับความโกรธที่ถูกโยนตำแหน่งทาสรับใช้ใส่แล้วเดินหนีไปซึ่งๆหน้า ...ตาบ้า...ตาบ๊อง...ตาบื้อ...ตา...ขี้เก๊ก...เธอก่นว่าเป็นชุด สุดจะทนพฤติการณ์แบบเจ้าใหญ่นายโต...สั่ง...สั่ง...สั่ง...โดยไม่ฟังเสียงใคร คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่มาจากไหนกัน...ฮึ...***... **************************************************** นิยายเรื่องนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักเขียนอย่างแท้จริง สงวนลิขสิทธิ์โดย : ศิรารัย-ศิรารัยนิยายรัก ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์และสิ่งพิมพ์ ห้ามลอกเลียนทุกส่วนของหนังสือเล่มนี้ ห้ามเผยแพร่-จำหน่าย-ดัดแปลง-ทำซ้ำ-จัดพิมพ์ หรือห้ามกระทำการใดๆทุกประการกับนิยายเรื่องนี้ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน **************************************************
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"