ร่างของครุฑีสาวที่หมดสติกำลังร่วงดิ่งสู่ผืนดินด้วยความเร็ว ควั่บ!! เพียงเสี้ยววินาทีสุดท้ายกษัตริย์อสุราร่ายคาถาในใจก่อนร่างใหญ่จะเคลื่อนกายอย่างรวดเร็ว คว้าเอาร่างครุฑีสาวเข้ามาไว้ในอ้อมแขนได้ทันท่วงที อินสูรย์แทบจะมองไม่ทัน เมื่อเห็นอีกครั้งครุฑีสาวก็อยู่ในอ้อมแขนของพระสุวรรณเมฆาผู้เป็นกษัตริย์ของตนแล้ว “ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่พะยะค่ะองค์เหนือหัว?..” อินสูรย์เอ่ยถามขณะที่กำลังวิ่งเข้าไปหากษัตริย์อสุราที่อุ้มครุฑีสาวอยู่ “.....” พระสุวรรณเมฆา พยักหน้าตอบอินสูรย์ ดวงตาสีนิลเอาแต่จับจ้องใบหน้าครุฑีสาวก่อนจะค่อยๆวางร่างครุฑีสาวลง โดยศีรษะนางยังคงอยู่ในอ้อมแขนของตน “ ดูจากเครื่องแต่งกาย ครุฑีตนนี้ คงมิใช่ครุฑีธรรมดา ธรรมดาทั่วไปเป็นแน่พะยะค่ะ..” อินสูรย์กวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างครุฑีสาวก่อนจะพูดออกมา “ นางช่างงดงามนัก..” พระสุวรรณเมฆาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดวงตาสีนิลจ้องมองใบหน้าพริ้งเพราของครุฑีสาวที่ยังหมดสติอยู่ ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะเอื้อมสัมผัสเข้าที่พวงแก้มเนียนของนางอย่างอ่อนโยน พลันรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้ากษัตริย์อสุราหนุ่ม “ เจ้าช่างงามตาเหลือเกิน แม่ครุฑีตัวน้อยเอ๋ย..” พระสุวรรณเมฆาพูดขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับฉีกยิ้มพรายออกมา ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! เสียงบางสิ่งกระทบกับผืนดิน ไม่ไกลจากเหล่าอสุรานัก เหล่าอสุราหันไปต้นทางของเสียงอย่างพร้อมเพียงกัน เห็นเหล่าทหารครุฑาหลายตนที่บินลงมาถึงพื้นดินด้วยความเร็ว “ ท่านเป็นยักษ์ มิควรจักก้าวก่ายเรื่องของเหล่าครุฑ จงมอบครุฑีตนนั้นมาให้ข้า บัดเดี๋ยวนี้...” ทหารครุฑาพูดออกมาทันใด เมื่อเห็นนิศามณีอยู่ในอ้อมแขนของพระสุวรรณเมฆา แม้ใจจะหวั่นเกรงเหล่ายักษาไม่น้อย หากเกิดการต่อสู้กันเหล่าครุฑาไม่มีทางที่จะสู้เหล่ายักษาได้เลย หากแต่เกรงกลัวพระบัญชาของพระสุบินมากกว่า เหล่าทหารอสุรายืนประจันหน้าพร้อมเพียงกันทันทีเมื่อเห็นว่าทหารครุฑาพูดกับกษัตริย์ของตน “ เหตุใดเราจักต้องมอบนางให้พวกเจ้า?..” “.....” “ แลหากเรามิยอมมอบครุฑีตนนี้ให้เล่า พวกเจ้าจักทำเยี่ยงไร?..” “.....” “ หากพวกเจ้าจักเข่นฆ่า ครุฑีที่ไร้ทางสู้ เราคงมิอาจทนเห็นได้ดอกหนา..” พระสุวรรณเมฆาตอบกลับทหารครุฑาไปอย่างไม่มีความเกรงกลัว แขนแกร่งโอบอุ้มร่างบางของนิศามณีขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง ก่อนดวงตาเฉียบคมจะจ้องมองเหล่าทหารครุฑานิ่ง เหล่าทหารครุฑาหันมองหน้ากันนิ่งก่อนจะสยายปีกแล้วแยกกันพุ่งตรงเข้าไปหาพระสุวรรณเมฆา และพุ่งตรงใส่ทหารอสุราอย่างพร้อมพร้อมเพียงกัน พระสุวรรณเมฆาร่ายคาถาในใจก่อนที่ทหารครุฑาจะมาถึงตน ร่างอสุราหนุ่มก็สูงใหญ่ขึ้นเพียงพริบตาเดียว หมับ! ฝ่ามือใหญ่ของกษัตริย์อสุราหนุ่มคว้าร่างของทหารครุฑาตนนั้นเอาไว้แน่น ก่อนจะบีบร่างนั้นให้แหลกเหลวคามือ ฝ่ามือใหญ่อีกข้างหนึ่งกอบกุมร่างของนิศามณีเอาไว้หลวมๆ เหล่าทหารครุฑาที่เห็นร่างตนสนิทของพระสุบินแหลกเหลวเช่นนั้นก็เกิดความหวาดกลัว จึงสยายปีกหมายจะเร่งบินหนี “ อย่าให้รอดไปได้ แม้แต่ตนเดียว..” พระสุวรรณเมฆารับสั่งอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเหล่าทหารครุฑากำลังบินหนี ดวงตาสีนิลจับจ้องนิ่ง เพ่งมองตามหลังทหารครุฑาที่บินหนีไป “ พะยะค่ะ..” เหล่าทหารอสุราขานรับพระบัญชาก่อนจะร่ายคาถาให้ร่างสูงใหญ่แล้วตามเหล่าทหารครุฑาไป ๐๐๐๐๐๐๐๐ คำเตือน นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากความคิดและจินตนาการของไรท์ล้วน ๆ เป็นเรื่องราวของความรักข้ามสายพันธุ์ในยุคของวรรณคดี ลักษณะความพิเศษของตัวละครมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติและสถานที่ต่างๆจะเป็นสิ่งสมมุติขึ้นมาเพียงเท่านั้น อาจผิดแผกแปลกไปจากตำนานที่เล่าขานกันมาเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นภาษาที่เราใช้ จะเป็นภาษาที่มาจากหลายยุคหลายสมัยรวมกัน มีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่มีบรรยายฉากร่วมรักระหว่างหญิงชาย จะมีเนื้อหาไม่เหมาะสมของตัวละครทั้งด้านคำพูดและการกระทำทางเพศ ที่ไม่สมควรเลียนแบบ
ณ ดินแดนภูเขาลอยฟ้า อาณาจักรอันกว้างใหญ่ที่สูงชันและงดงาม เต็มไปด้วยสวนรุกขชาติที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วอาณาจักร เมืองที่ซ่อนอยู่ในม่านหมอกบังตา คือเมืองเวหาศ เป็นถิ่นฐานของเหล่าบรรดาครุฑน้อยใหญ่ที่มีทั้งครุฑาและครุฑีมากมาย
อาณาจักรแห่งนี้อยู่ใต้การปกครองโดยพญาครุฑพระอนันตะเวหาที่เป็นเชื้อสายกษัตริย์แต่เดิมมา เหล่าบรรดาครุฑาและครุฑีน้อยใหญ่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขตลอดมา
แต่ทว่าพระอนันตะเวหาทรงทราบดีว่าพระสุบินผู้เป็นพระอนุชา(น้องชาย)ของตนกำลังหาทางแย่งชิงอาณาจักรครุฑแห่งนี้ เพราะใคร่จักเป็นใหญ่เหนือครุฑทั้งปวง
“ นิศามณีลูกพ่อ..” น้ำเสียงอ่อนโยนของพระอนันตะเวหะผู้เป็นบิดาเรียกหาธิดาสาวที่ตนรักด้วยแววตาวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ เจ้าคะท่านพ่อ มีเหตุอันใดกันท่านพ่อถึงได้มาตำหนักของลูก? ”
นิศามณีเอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยความข้องใจเนื่องจากตั้งแต่นางเติบโตเต็มไว ผู้เป็นบิดาไม่เคยย่างกรายเข้ามาในตำหนักของตนสักครั้ง
“ พ่อใคร่จักให้เจ้าบินไปเมืองครุฑแดนทักษิณ เมืองของพระมหิงส์เวหะพระคู่หมั้นของเจ้าบัดเดี๋ยวนี้ ” พระอนันตะเวหาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอกริยาร้อนรุ่ม
“ บัดเดี๋ยวนี้! หรือเจ้าคะท่านพ่อ มีเรื่องอันใดกัน? ” ครุฑีสาวถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“ พระสุบิน อาของเจ้ากำลังจักก่อกบฏ ”
“ อะไรนะเจ้าคะ!! เหตุใด....”
“ เจ้าอย่าได้ถามสิ่งใดในเพลานี้ลูกพ่อ เจ้าจักต้องเร่งรุดไป”
“.....”
“ ทหาร!! เจ้าจงอารักขานิศามณีไปบัดเดี๋ยวนี้!.. ” ไม่ทันที่นิศามณีจะได้ถามต่อ พระอนันตะเวหาได้พูดสวนขึ้นก่อน และรับสั่งกับทหารองครักษ์ต่อทันที
“ พะยะค่ะ / เพคะ ”
เหล่าทหารครุฑาและครุฑีขานรับทันที พร้อมกับที่ทหารครุฑีตนหนึ่งเกี่ยวดึงร่างบางของนิศามณีออกไปด้วย
“ แล้วท่านพ่อท่านแม่ล่ะเจ้าคะ? ” ครุฑีสาวหันมาถามพระบิดาของตนด้วยความห่วงใยในขณะที่ร่างบางนั้นถูกฉุดรั้งให้เดินออกไป
“ เจ้ามิต้องห่วงพ่อแลแม่ดอกหนา ลูกพ่อ...”
พระอนันตะเวหาจ้องมองดวงหน้าครุฑีสาว ทรงยิ้มให้ธิดาของตนด้วยแววตาปวดร้าวแล้วพูดออกมาเพียงเท่านั้น ก่อนจะส่งสายตาให้ทหารนำพาครุฑีสาวหลบหนีไปโดยเร็ว
“ แต่! ท่านพ่อ.. ท่านพ่อเจ้าคะ... ”
นิศามณีพยายามเรียกผู้เป็นพระบิดาทั้งที่ร่างบางถูกฉุกรั้งให้ออกไปจากตำหนักของตน แต่ไม่มีคำพูดใดตอบกลับมาจากพระบิดา
พระอนันตะเวหาเพียงจ้องมองธิดาของตนที่ถูกเหล่าทหารครุฑีดึงรั้งร่างบางไปจนลับสายตา
เหล่าครุฑทั้งหลายรู้ดีว่าพระสุบินเป็นครุฑาที่มีจิตอำมหิตเลือดเย็นต่างจากพระอนันตะเวหาที่เป็นครุฑดีและรักสงบเพียงใด และพระองค์ไม่อาจสู้กับพระอนุชาของตนได้อย่างแน่นอน เพลานี้พระองค์และมเหสีขอแค่ธิดาสาวของตนพ้นภัยเพียงเท่านั้น
“ พระธิดา พะยะค่ะ มีทหารของพระอนุชาตามมาพะยะค่ะ” ทหารครุฑาตนหนึ่งได้พูดขึ้น หลังจากที่ทุกตนบินออกมาจากตำหนักของครุฑีสาวได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น
“ จักทำเยี่ยงไรดี...”
ฉึบ!! กรี๊ดดด!
นิศามณีเอ่ยถามยังไม่ทันจบ ดวงตาคู่สวยพลันเบิกกว้างทันใด เมื่อพระแสงหอกพุ่งเข้าทะลุร่างทหารองครักษ์ตนหนึ่งต่อหน้านิศามณี ก่อนร่างนั้นจะร่วงดิ่งลงสู่เบื้องล่าง
“ เร่งหนีเร็วเพคะพระธิดา ” ทหารครุฑีตนหนึ่งรีบพูดขึ้นมาก่อนจะดึงร่างบางให้บินตาม
ฉึบ! ฉึบ! ฉึบ! กรี๊ดดด
ไม่ทันที่จะได้เร่งกระพือปีกบินทหารองครักษ์ก็ถูกพระแสงหอกซัด ก่อนร่างจะร่วงลงสู่เบื้องล่างไปทีละตน
บัดนี้เหลือเพียงทหารครุฑีและนิศามณีธิดากษัตริย์เท่านั้น เหล่าทหารครุฑาได้เร่งกระพือปีกอย่างรวดเร็ว บินอ้อมมาขวางด้านหน้าและปิดล้อมเอาไว้
นิศามณีจ้องมองดวงตาทหารครุฑารับใช้ของพระสุบินพระปิตุลา(อา)ของตน ที่ไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อย
“ นี่พวกเจ้า หมายจักเอาชีวิตข้ากระนั้นหรือ? ”
นิศามณีเอ่ยถามทหารครุฑาตนสนิทของพระปิตุลาตนหนึ่ง
“ เป็นพระบัญชาของพระสุบิน โปรดทรงอภัยกระหม่อมด้วยพะยะค่ะ”
ทหารรับใช้ของพระสุบินตอบนิศามณี พลันพระบัญชาของพระสุบินก็ปรากฏขึ้นมาในหัวอย่างชัดเจน
‘ จำเอาไว้ การนี้จักต้องถอนรากถอนโคนจนสิ้น มิให้เหลือ แลหากมิมีนิศามณี เหล่าบรรดาเมืองครุฑแดนทักษิณก็จักมิจำเป็นต้องช่วยเหลือเฉกเช่นก่อนนั้น’
นิศามณีถึงกับนิ่งไป เมื่อได้ยินสิ่งที่ทหารครุฑาพูด และไม่คิดว่าพระปิตุลาจะสั่งฆ่าตน ที่เป็นหลานแท้ๆได้ลงคอ และตอนนั้นเองที่ทหารครุฑากำลังจะซัดพระแสงหอกตรงไปยังนิศามณี
“ รีบหนีเพคะ! เร็ว!... ”
ปึก!
ทหารครุฑีตนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะบินพุ่งเข้าชนกับร่างทหารครุฑาตนนั้นอย่างสุดแรงเพื่อเปิดทางให้ นิศามณีรีบกระพือปีกสีมณีราคก่อนจะเร่งบินหนีด้วยความเร็ว ทหารครุฑาบินตามไปอย่างไม่ลดละ
“ พระธิดา!!..”
ทหารครุฑีที่กำลังต่อสู้กับทหารครุฑาได้ตะโกนเรียกธิดาของตน
เมื่อเห็นทหารครุฑาตนหนึ่งกำลังซัดอาวุธไปทางธิดาสาว นิศามณีที่ได้ยินจึงได้หันมาตามเสียงตะโกน
ฉึก!! อึ๊!!
ครุฑีสาวรู้สึกถึงความเจ็บที่พุ่งเข้าตรงกลางปีกสีมณีราค
ก่อนสติที่เหลือจะดับวูบ และร่างบางกำลังร่วงดิ่งสู่เบื้องล่างด้วยความเร็ว
“ พระธิ!!..”
ฉึบ!! อึ! ฉึบ! อ้ะ!
ก่อนที่ทหารครุฑีทั้ง 2 ตนจะได้บินเข้าไปช่วยนิศามณี
นางได้ถูกพระแสงหอกแทงเข้าที่กลางอก ก่อน 2 ร่างจะร่วงดิ่งตามพระธิดาของตนไป
ณ เบื้องล่างอาณาจักแห่งยักษ์
ชายป่าด้านนอกของเมืองยักษ์ กษัตริย์อสุราพร้อมเหล่าทหารอสุรากำลังเดินทางจะกลับเมือง หลังจากการออกล่าสัตว์
“ วันนี้ได้กวางมามากมายหลายตัวเลยพะยะค่ะองค์เหนือหัว คงจักเป็นลาภปาก เหล่าสนมของพระองค์เป็นแน่..”ทหารอสุราตนหนึ่งพูดขึ้นกับกษัตริย์ของตน
“ เจ้านี่ช่างห่วงใยเหล่าสนมของเราเสียจริงนะ อินสูรย์..” พระสุวรรณเมฆากษัตริย์อสุราพูดออกมาพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าทหารอสุราคู่กายตนช่างใส่ใจเหล่านางสนมของตน
“.....”
“ เจ้ามีใจแก่สนมของเราอย่างนั้นรึ อินสูรย์...”
“ โธ่ พระองค์ กระหม่อมมิกล้าดอกพะยะค่ะ กระหม่อมก็เอ่ยไปตามความคิดเพียงเท่านั้นพะยะค่ะ ”
“....”
พระสุวรรณเมฆายิ้มออกมาก่อนจะส่ายพระเศียรเล็กน้อยเมื่อเห็นทหารอสุรารีบพูดแก้ต่างทันใดเนื่องจากเกรงกลัวจะถูกลงทัณฑ์
“ แต่กระหม่อมก็มิเคยเห็นพระองค์ทรงสนพระทัยพระสนมองค์ไหนมากเป็นพิเศษเลยนะพะยะค่ะ..” ทหารอสุราพูดต่อเพราะมีความข้องใจ
ในเมื่อพระสนมแต่ละองค์ของพระสุวรรณเมฆา นั้น งดงามทุกนาง แต่ทว่าพระสุวรรณเมฆาไม่เคยใส่ใจสนมนางไหนมากไปกว่ากัน
“.....” พระสุวรรณเมฆานิ่งไป เมื่อได้ยินทหารยักษาเอ่ยขึ้น
เหล่าสนมทั้ง 4 นาง แม้จะเป็นถึงพระราชธิดากษัตริย์ แต่ก็เป็นเครื่องบรรณาการจากเมืองต่างๆที่ส่งให้ พระสุวรรณเมฆาเรียกให้มารับใช้ เพียงเพราะความต้องการของร่างกายชายเท่านั้น ไม่ได้มีใจให้แต่อย่างใด
ตุบ!!
ทันใดนั้นเองไม่ไกลนักมีบางสิ่งบางอย่างร่วงหล่นลงมาจากฟ้าก่อนกระทบกับผืนดินจนเกิดเสียงดัง
๐๐๐๐๐๐๐๐๐
คำโปรย : .....ใครจะไปคิด! ว่าไก่ย่างเพียงไม้เดียว มันจะทำให้ชีวิตของเธอถึงจุดจบ! และนำพาเธอย้อนเวลาไปเกิดใหม่ในร่างของคนที่อยู่ในยุคประวัติศาสตร์ และที่สำคัญ เธอได้สามีเป็นของแถม! **** อารัมภบท : .....เรื่องราวของนักศึกษาสาวที่ชีวิตพลิกผันอย่างไม่คาดฝัน เมื่อเธอหมดลมหายใจเพราะไก่ย่างเพียงไม้เดียว! แต่เธอกลับได้ย้อนเวลาเกิดใหม่ในร่างของลูกสาวเจ้าพระยาที่อยู่ในยุคก่อน แถมร่างนั้นก็ยังมีสามีแล้ว แต่เป็นสามีแสนจะเย็นชา ที่ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจให้ความรักกับภรรยาที่เป็นเจ้าของร่างเดิมเลย แล้วใครสน? สำหรับเธอ คิดเพียงว่าได้มาเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ดีแค่ไหนแล้ว ใครจะไม่รักก็ช่างเขาสิ ..โนสน ..โนแคร์จ้า แต่ทว่า! ยิ่งเธอไม่สนใจเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหันกลับมาสนใจเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความแปลกใหม่ของเธอทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน จนกระทั่งคนที่เคยเย็นชามาตลอด จู่ๆ ก็กลายเป็นคนคลั่งรักในที่สุด.. #ตัวละครหลัก : *พระยาพิพัฒน์พงศ์ หรือ เจ้าคุณพิพัฒน์ อายุ 36 ปี มีบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางระดับสูง รูปหน้าหล่อขั้นเทพ ฉลาด สุขุมรอบคอบ เงียบขรึม มีเสน่ห์ ผิวขาว รูปร่างกำยำ * จันทร์วรา อุษาวิบูลย์ หรือ เจ้าจันทร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบ ภายใน สวยหวาน ร่าเริง กล้าพูดกล้าทำ ตากลมโต ปากจิ้มลิ้ม ผิวขาว รูปร่างผอมเพียว อกอวบอิ่ม _____________________ นิยายเรื่องนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามทำการคัดลอด เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วน ใดส่วนหนึ่งของงานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ผู้เขียน : รดามณีนัฐฐ์ ภาพปก : Onlyboy ปรับแต่งภาพปก : Dayny_white ปกอิมเมจ : เยเรมีย์ ________💫________
💫คำโปรย💫 " ขาแข้งสั่นถึงเพียงนี้แล้ว! เจ้ายังจักมีแรงหนีข้าได้อีกอย่างนั้นรึ? หึ.. เช่นนั้นข้าคงต้องทำให้เจ้าหมดแรงก่อนสินะ! ข้าใคร่รู้นัก ว่าเจ้าจักมีแรงหนีไปที่ใดได้อีก..” 💫อารัมภบท💫 พญาครุฑหนุ่มนามว่า พระมหิงส์เวหะ ราชโอรสแห่งเมืองครุฑดินแดนทักษิณ เมืองสินธุ เป็นพญาครุฑหนุ่มรูปงาม ผิวสีเข้ม คมคร้าม นัยน์ตาสีชาด(สีเลือด) รูปกายสง่างาม ยากจักหาครุฑาหนุ่มตนใดมาเปรียบได้ ครั้นเมื่อพญาครุฑหนุ่มต้องสูญเสียต้องสูญเสียคู่หมั้นที่ตนรักให้แก่กษัตริย์อสุราตนหนึ่งไป ..ใจพญาครุฑหนุ่มมันแสนเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียนางไปแต่กลับทำอันใดมิได้เลย มิหนำซ้ำนางยังมีใจแก่กษัตริย์อสุราตนนั้นอีก แต่ทว่า! เมื่อพระมหิงส์เวหะได้พบกับ นรีทิพย์อัปสร ญาติผู้น้องของกษัตริย์อสุราตนนั้น ความเจ็บปวดที่มีอยู่กลับแปลเปลี่ยนไปโดยเขาไม่รู้ตัว พญาครุฑหนุ่มได้ฉุดคร่าอัปสรตัวน้อยกลับไปถิ่นฐานของตน เพียงใคร่จักเอาคืนกษัตริย์อสุราตนนั้น และได้เชยชมนางจนสมใจ แต่กว่าจะรู้ตัว พญาครุฑหนุ่มก็ทั้งรักทั้งหลงนางอัปสรตัวน้อยจนถอนตัวถอนใจมิได้เสียแล้ว ________💫_________ เรื่อง : พญาครุฑอุ้มสม (เล่ม๑) ผู้เขียน : รดามณีนัฐฐ์ ภาพปก : Dayny_white พิสูจน์อักษร : รดามณีนัฐฐ์ นิยายเรื่องนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามทำการคัดลอด เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วน ใดส่วนหนึ่งของานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ________💫_________ #คำเตือน นิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับนักอ่านที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี โปรดใช้วิจารณญาณก่อนอ่าน นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากความคิดและจินตนาการของไรต์ล้วน ๆ เป็นเรื่องราวของความรักในยุคของวรรณคดี ที่ไม่เคยปรากฏอยู่ในวรรณคดีใดมาก่อน ลักษณะความพิเศษของตัวละครมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติและสถานที่ต่าง ๆ จึงเป็นเพียงสิ่งที่สมมุติขึ้นมาเท่านั้น อาจผิดแผก แปลกไปจากตำนานที่เล่าขานกันมา เพราะฉะนั้น ภาษาที่ใช้ จะเป็นภาษาที่มาจากหลายยุคหลายสมัยรวมกัน มีเนื้อหารุนแรง และเนื้อหาบรรยายฉากร่วมรักระหว่างหญิงชายอย่างโจ่งแจ้ง เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมของตัวละครที่ ไม่สมควรลอกเลียนแบบ ________💫_________
...เมื่อกษัตริย์อสุรารูปงาม เกิดต้องตาต้องใจเชลยสาวตั้งแต่แรกเห็น และเขาหมายจะครอบครองนาง แต่ทว่า! เชลยศักดิ์ผู้เลอโฉมนั้นกลับแสนพยศ อีกทั้งยังประกาศกร้าว ว่านางจะไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาเป็นอันขาด! #หมายเหตุ : นิยายโรมานซ์ แนวพีเรียดแฟนตาซี เซตนี้มีทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกันนะคะ เรื่องแรก : ยักษ์ครุฑี เป็นคู่ของ พี่ยักษ์ กับ น้องครุฑีตัวน้อย (พระสุวรรณเมฆา / นิศามณี) มี 2 เล่ม เรื่องที่สอง : ปราบพยศเชลยยักษ์ เป็นคู่ของ พนาสูรย์ กับ กรรณา (พระราชธิดายักษ์) คือเรื่องนี้ เรื่องที่สาม : พญาครุฑอุ้มสม เป็นคู่ของ พี่ครุฑ กับ น้องอัปสรตัวน้อย (พระมหิงส์เวหะ / นรีทิพย์) #คำเตือน : นิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับนักอ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
‘คทา’ มาเฟียหนุ่มวัย 32 ปีที่ต้องมาเป็นคุณอาแบบกะทันหัน เมื่อพี่ชายต่างมารดาได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกับภรรยา แต่ก่อนจะสิ้นใจเขาได้ฝากให้มาเฟียหนุ่มช่วยอุปการะบุตรสาวบุญธรรมวัยเพียง17ปีของเขา ‘มัสลิน’ เด็กสาวจำต้องกลายมาเป็นหลานสาวมาเฟียแบบไม่ทันตั้งตัว ทว่าเพียงแค่เห็นหน้าลูกสาวบุญธรรมของพี่ชาย มาเฟียหนุ่มก็คิดจะกินหลานสาวนอกไส้ของตัวเองเสียอย่างงั้น คทา แสงไท วัย 32 ปี มาเฟียหนุ่มโสดรูปหล่อ เจ้าของธุรกิจครบวงจร รวมทั้งผับและบ่อนคาสิโนมากมาย มัสลิน แสงไท หรือ อ้อน บุตรบุญธรรมของดนัย พี่ชายมาเฟียหนุ่ม สาวน้อยวัย 17 ปี ที่ร่างกายกำลังเข้าสู่วัยสาว หน้าตาดี ผิวพรรณขาวใสหมดจด กับรูปร่างที่โตเกินวัยเด็ก ส่วนเว้าโค้งเอวคอดกิ่ว หน้าอกหน้าใจล้นทะลักเกินตัว #สปอย “ เหอะ! แล้วใครบอกคุณ ว่าหนูจะไปอยู่ด้วยไม่ทราบ? ” ใบหน้าสวยดวงตาใสไร้เดียงสาเชิดขึ้นสบกับดวงตาคมพร้อมกับน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ก่อนดวงตาคู่สวยจะเบนสายตาไปทางอื่นเพื่อหลบนัยน์ตาสีเข้มของมาเฟียหนุ่มที่จ้องมองมาไม่กระพริบ “ หึ...ดื้อ ” คทาหัวเราะเสียงต่ำในลำคอก่อนจะเอ่ยสั้นๆ “ หนูจะกลับบ้านของหนู ” “ ไม่ได้!! หนูจะต้องกลับไปกับอา ” “ คุณไม่ใช่อาของหนูจริงๆซักหน่อย.. ” “.....” คทานิ่งไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าเด็กสาวจะกล้าเถียงเขาก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น “ จะใช่หรือไม่ อาก็ได้สิทธิ์เลี้ยงดูหนูอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ” “ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ ไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาเลี้ยงดู..” “ อวดเก่ง..” “ เก่งอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้อวด ” เด็กสาวตอบกลับอย่างไม่ลดละด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เมื่อสองอาหลานถกเถียงกันอยู่กลางฟลอร์อย่างไม่มีใครยอมใคร ต่อหน้าพนักงานทั้งผับ ____
คำโปรย : “นี่คุณ!! ”‘ เธอยังบริสุทธิ์!! เป็นไปได้ไง? ’ ไหนว่าเป็นหม้าย??!! ..เมื่อมาเฟียหนุ่มได้ช่วยเหลือหม้ายสาวแสนสวยที่ถูกวางยา... ทว่า!ก็กลับต้องแปลกใจ ที่เขาดันเป็นคนแรกของเธอ #สปอย “ อื้อออออ.. ” เสียงครางต่อสู้กับความต้องการบางอย่างที่เริ่มรุนแรงขึ้นทุกขณะ รินรดาหน้าแดงก่ำ เริ่มกัดรีมฝีปากล่างจนแดงเอ่อ สองขาหนิบบิดหากันแน่น เสียดสีกันไปมาในอ้อมแขนของมาเฟียหนุ่ม สติของเธอกำลังเตลิด และเริ่มที่จะคบคุมตัวเองไม่ได้อีกครั้ง มือบางอยู่ไม่สุข คว้าเอาสาปเสื้อเชิ้ตสีดำของคนอุ้ม ก่อนดึงกระชากจนกระดุมหลุดขาดกระเด็น มืออีกข้างเริ่มเลื้อยลงไปผลุบตรงส่วนล่างของตัวเองอย่างควบคุมไม่ได้ ภาพอันรัญจวนใจตรงหน้า ทำเอามาเฟียหนุ่มใจเต้นแรงส่วนล่างของเขากำลังปวดหนึบแทบจะดันทะลุเป้ากางเกง กับสิ่งยั่วยวน ชวนชิม ที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง มาเฟียหนุ่มเองก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว “ คุณริน.. คุณรินครับ ตั้งสติหน่อย ” ลำแขนแกร่งพยายามเขย่าตัวร่างบางอีกครั้งเพื่อเรียกสติก่อนที่ประตูลิฟท์ชั้นบนสุดจะเปิดออก ปภาวินโอบอุ้มคนตัวเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงดิ่งไปยังห้องพักตัวเอง ผ่านส่วนห้องรับแขกตรงไปยังห้องนอนของตัวเองบอดี้การ์ดวิ่งไปเปิดประตูให้คนเป็นนาย เมื่อประตูห้องนอนถูกปิดลง แขนแกร่งรีบวางร่างเล็กอ่อนปวกเปียกที่กำลังบิดกายไปมาลงบนเตียงนุ่ม ก่อนผละออกมายืนอยู่ตรงปลายเตียง จ้องมองดูร่างระทวยอย่างใจสั่นไหว มาเฟียหนุ่มขมกรามแน่นอย่างข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเอง มองดูร่างบางที่กำลังดิ้นเร่าบิดกายไปมาอย่างทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด รู้สึกสงสารเธอเหลือเกินที่ถูกคนเลวคิดทำร้าย “ ร้อน.. รินร้อน.. ทรมานเหลือเกิน อื้ออออ ” เสียงครางหวานแหบพร่า ที่ต่อสู้กับความทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด เริ่มขาดๆหายๆ “ อิ้อออ นะ..น้ำ ห้องน้ำ พารินไปห้องน้ำ รินต้องอาบน้ำ ” เสียงครางกระเส่ากับสติที่ยังหลงเหลืออยู่อันน้อยนิด คิดได้ว่าน้ำอาจช่วยลดความร้อนรุ่มภายในกายได้ ร่างบางอ่อนปวกเปียกกำลังตะเกียกตะกายลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล คนที่ยืนมองอยู่ได้ยินแบบนั้น ก็รีบเข้าไปช้อนร่างบางขึ้นไว้ในอ้อมแขนแกร่งแล้วตรงไปยังห้องน้ำทันที ลำแขนแกร่งประคองร่างเล็กให้ยืนอยู่ใต้ฝักบัวอาบน้ำขนาดใหญ่ รินรดาหวังเพียงใช้น้ำเพื่อดับความร้อนรุ่มในกาย ฝ่ามือหนาไม่รอช้ารีบเปิดน้ำให้เธออย่างรวดเร็ว สายน้ำจากฝักบัวไหลพรมลงบนร่างเล็กจนเปียกชุ่มทั้งตัว ทำให้ชุดเดรสสั้นที่เธอสวมใส่มานั้นเปียกชุ่มจนแนบเนื้อ เผยให้เห็นเนื้อเนียนภายใต้ชุดนั่น “ อึก!” สัดส่วนเว้าโค้งเอวคอดกิ่วของร่างเล็กนั่นอย่างชัดเจน ทำเอาคนที่กำลังยืนมองถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ลงคอ มาเฟียหนุ่มใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเขาเห็นเนินอกอวบอิ่มที่ไร้บรา มีแค่เพียงจุกปิดยอดถัน แม้จะอยู่ภายใต้ชุดเดรสแต่ก็ยังเห็นเด่นชัด ส่วนล่างของเค้ามันกำลังเริ่มคับแน่น เขากำลังเกิดอารมณ์เพราะร่างเล็กที่เปียกชุ่มเป็นต้นเหตุ #มาเฟียหนุ่มได้ช่วยเหลือหญิงหม้ายที่ถูกวางยาปลุกเซ็กซ์ ทว่าเขากลับต้องตกใจ!เธอจะเป็นหม้ายได้ไง? ในเมื่อรู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ และเขาเป็นคนแรก มาเฟียหนุ่มหลงเสน่ห์หญิงหม้ายที่ว่าเพียงชั่วข้ามคืน ‘ปภาวิน’ (30) มาเฟียหนุ่มโสด หล่อ หน้าตาดี เป็นทายาทตระกูลมาเฟียใหญ่ที่มีธุรกิจโรงแรมมากกว่า 40 แห่ง รวมถึงธุรกิจสีเทามากมายอีกทั้งยังมีสาวๆในสต็อกมากมาย ‘ รินรดา’ (36) หม้ายสาวแสนสวยใบหน้าอ่อนกว่าวัยราวกับเด็กสาวมหา’ลัย เจ้าของธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่เธอออกแบบและสร้างมันกับมือ Talk.. Set มาเฟียร้าย สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน นามปากกา รดามณีนัฐฐ์ นะคะ ชื่อเล่นว่า นา ค่ะ ขอบคุณสำหรับการตอบรับนะคะ Set มาเฟียร้าย ทั้งหมดมี 3 เรื่องนะคะ เรื่องแรกเริ่มต้นที่คู่ของ ปภาวิน & รินรดา มาเฟียร้ายหลงบ่วงหม้ายเสน่หา ค่ะ เรื่องที่ 2 เป็นคู่ของ คทา & มัสลิน ร้อนรักคุณอามาเฟีย นะคะ เรื่องที่ 3 เป็นคู่ของ หมอสันต์ & ผักหวาน รักร้ายหมอมาเฟีย ฝากติดตามผลงานของไรท์ด้วยนะคะ
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"