เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
ร่างระหงของหญิงสาวที่ยักย้ายส่ายสะโพกอยู่บนเวทีที่เต็มไปด้วยแสงสีอลังการและเสียงดนตรีดังกระหึ่มนั้นก็ดูเหมือนจะธรรมดาของอาชีพนักเต้นที่เรียกว่าโคโยตี้และผับแห่งนี้ก็เป็นที่นิยมของเหล่าบรรดานักท่องราตรีทั้งหลายซึ่งส่วนใหญ่คนที่จะมาที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นคนระดับผู้มีอันจะกินและเป็นคนที่ทำงานแล้วและส่วนมากก็จะเป็นลูกค้าประจำของทางร้าน แต่ก็มีบ้างที่นักท่องราตรีขาจรอยากจะมาสัมผัสบรรยากาศ ผับไฮโซ ที่ชื่อว่า รูท39
อิฐ อันโตนิโอ ดักลาส ถอนหายใจออกมาหนักๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าจน ภีม มิลเลอร์ เฉิน เพื่อนรักต้องหันมามองอย่างสนใจอารมณ์ของอิฐ ภีมเป็นหนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย จีน อังกฤษ ผู้เป็นเจ้าของผับแห่งนี้ ใบหน้าขาวใสปากแดงๆ หน้าตาอินเทรนด์หนุ่มหล่อตี๋แบบในฝันของสาวๆ ภีมเป็นทั้งเจ้าของผับและเจ้าของธุรกิจนำเข้าเครื่องจักรโรงงานและยังมีกิจการโรงแรมและรีสอร์ต อีกหลายแห่งเพราะเป็นธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัว
“จะถอนใจให้ดินถล่มฟ้าทลายหรือไงวะไอ้อิฐ”
“นายไม่เข้าใจหรอกว่าการโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแต่มีแม่คอยหาเมียให้คอยบังคับให้แต่งงานมีครอบครัวเสียทีมันเซ็งแค่ไหน” อิฐพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ อีกครั้ง เขาเป็นลูกผสมระหว่างไทย อิตาลี อเมริกัน ใบหน้าเรียวยาวได้รูปประกอบด้วยคิ้วเข้มดวงตาเรียวใหญ่สีฟ้า จมูกโด่งคมสันรับเรียวปากหยักสวยสีชมพูเข้ม เรือนผมหยักศกสีดำสนิทตัดแต่งได้รูปทรงเป็นระเบียบ ร่างสูงใหญ่ตามเชื้อชาตินั้นสูงถึง 189 เซนติเมตรดูแข็งแกร่งด้วยที่แม้อยู่ในเสื้อผ้าแบรนด์หรูก็ดูออกว่ามันอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อตึงแน่นงดงามและอิฐก็ดูเหมือนคนต่างชาติมากกว่าและหากไม่มีใครรู้จักเขาเป็นการส่วนตัวก็แทบจะไม่มีใครรู้เลยว่าเลือดในกายของเขานั้นมีสายเลือดไทยอยู่ด้วย...
“นี่แสดงว่า...”
“คุณแม่ฉันจะให้ไปดูตัวสาวๆ ที่หาไว้ให้ ซึ่งแต่ละคนนะแกเอ๊ย อย่าให้พูดเลย เดี๋ยวจะหาว่าฉันปากร้าย”
“ปกติแกก็ปากไม่ดีอยู่แล้วล่ะไอ้อิฐ”
“นี่คือคำชม?”
“เอาที่แกสบายใจเถอะ แล้วไงต่อ”
“แกก็รู้ว่าฉันยังอยากสนุกกับสาวๆ พวกนี้อยู่” อิฐผายมือไปรอบๆ ซึ่งหมายความว่าเขายังไม่อยากมีพันธะใดๆ กับใครทั้งสิ้น ภีมพยักหน้าเข้าใจในส่งที่เพื่อนรักบอก
“นายก็บอกแม่ไปตรงๆ สิ”
“หึ คนอย่างคุณนายอรวีผู้ดีเก่า น่ะหรือจะยอม ตั้งแต่พ่อฉันเสียชีวิตตอนเรียนมหาวิทยาลัย แม่ก็เอาความรักที่มีมาทุ่มใส่ฉันแบบไม่ยั้ง กะเกณฑ์ฉันทุกอย่างตั้งแต่เรื่องงานยันเรื่องเรียน ความคาดหวังของแม่ฉัน ฉันรู้ดีว่ามันมากมายแค่ไหน อาจจะผิดที่ฉันไม่เคยทำให้ท่านเสียใจ ไม่เคยทำให้ท่านพลาดในสิ่งที่หวัง เรียนดี กีฬาเด่น โปรไฟล์ฉันเป็นเริดในปฐพี ตอนนั้นฉันขอแค่ว่าเรื่องเที่ยว เรื่องผู้หญิงฉันขออิสระ แต่พอมาถึงตอนนี้แม่ฉันทำไมต้องมากะเกณฑ์เอากับฉันด้วยวะ..” อิฐบ่นยืดยาวซึ่งมันเป็นจริงดังเขาว่า อิฐมีความรู้ระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรม เกียรตินิยมอีกต่างหาก นอกจากนี้ความรู้เรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์การบริหารจัดการที่ได้รับถ่ายทอดจากผู้เป็นมารดาก็ไม่ด้อยกว่าใครหยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง กิจการของทางครอบครัวบิดาก็มีมาก ทางมารดาก็มีไม่น้อย อิฐก็คือมหาเศรษฐีพันล้านดีๆ นี่เอง
“นายก็ว่าคุณแม่” ภีมหัวเราะกับคำประชดมารดาของอิฐซึ่งเขาเองก็พอรู้ว่ามารดาของอิฐนั้นเข้มงวดและเจ้ายศเจ้าอย่างเพียงใด
“แล้วนายจะทำไงต่อไปล่ะ”
“ยังไม่รู้ยังคิดไม่ออก แต่ฉันไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่ฉันหาให้แน่นอน นายคิดดูนะ แม่ฉันยังขนาดนี้ แล้วผู้หญิงที่แม่ฉันเลือกให้จะขนาดไหน”
“อาจจะดีเหมาะกับกับแกก็ได้”
“ไม่มีทาง สามครั้งที่ผ่านมาฉันไปดูตัวสาวๆ ที่แม่ฉันสรรหามาแล้วไม่อยากจะบรรยาย ฉันต้องการผู้หญิงฉลาดมีมันสมองแต่ไม่ได้ต้องการแม่คนที่สองหรือเด็กสาวที่ยังไม่หย่านมนะเว้ย ต่อให้เก่งงานบ้านงานเรือนแต่ทัศนคติไม่ตรงกัน งี่เง่างอแงฉันก็ไม่เอานะ อีกคนก็เริดหรูอลังการ อีกคนก็เหมือนผ้าพับไว้ไม่มีสองสั่งการของตัวเอง อีกคนก็มั่นใจในตัวเองสูงจนดูถูกคนอื่นไปเสียหมด คนแบบนี้ขืนอยู่ด้วยกันไปฉันเป็นโรคประสาทตาย” อิฐบ่นอย่างอารมณ์เสียเมื่อนึกถึงบรรดาสาวๆ เหล่านั้น
“นายเองก็มั่นใจในตัวเองสูงน่าอิฐ”
“ใช่ฉันรู้ แต่มันคนละอย่าง ฉันไม่เคยดูถูกใครที่ด้อยกว่านายก็รู้ ถึงฉันจะเป็นเพลย์บอยในสายตาใครๆ แต่ฉันก็มีมันสมองคิดเองตัดสินใจเองได้ไม่ใช่หรือไงวะ ที่สำคัญฉันไม่ได้ติดหรูนะเว้ย ฉันเบื่อนิสัยผู้หญิงแบบนั้น”
“อืม ฉันรู้ แต่ฉันไม่รู้จะช่วยนายยังไงว่ะ ก็นายไม่ลงหลักปักรักกับใครจริงๆ จังๆ สักทีนี่ว้า ก็สมควรหรอกที่คุณนายแม่ของนายจะหาห่วงคอให้”
“ขอบใจนะ นายช่วยได้มาก” อิฐเข่นเขี้ยวเพื่อนรักแล้วลุกขึ้น
“อ้าวจะกลับแล้วเหรอไม่หาสาวๆ ไปคุยเป็นเพื่อนสักคนเหรอ”
“วันนี้ไม่มีอารมณ์ว่ะ ไปล่ะแล้วเจอกัน” อิฐเดินออกจากห้องทำงานของเพื่อนรักเดินไปยังทางออกสำหรับเจ้าของร้านเท่านั้น
ร่างสูงเดินออกมายังลานจอดรถและกำลังจะไขกุญแจรถยนต์คันหรูของตนก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขึ้นด้วยความตกใจและเหมือนเธอกำลังขอความช่วยเหลือ...
“สวัสดีค่ะ ท่านผีปู่ผีย่าผีตาผียายท่านผีบรรพบุรุษทั้งหลายเจ้าขา หนูชื่อลลนานะคะ ชื่อเล่นว่านุ่มค่ะ ถูกคนใจร้ายหน้าตาดีแต่ปัญญานิ่มเข้าใจผิดจับตัวมาแล้วยังพูดจาทำร้ายจิตใจนุ่มต่างๆ นานา นุ่มเสียใจมากเลยค่ะและคิดถึงบ้านมากแล้วก็เป็นห่วงนิ่งที่อาการสาหัสอยู่ด้วย นุ่มอยากขอให้พวกท่านดลบันดาลให้เขาปล่อยตัวนุ่มกลับบ้านเร็วๆ ด้วยค่ะ และขอให้นุ่มพ้นจากอำนาจชั่วร้ายป่าเถื่อนของคนใจร้ายด้วยเถิ้ดดด และจะให้ดีนุ่มขอสามตัวตรงๆ งวดนี้เลยนะคะ นุ่มจะได้มีเงินมีความสุขสบายไม่ต้องทำงานกลางคืนให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่ต้องเจอผู้ชายนิสัยไม่ดีมาลวนลามทำร้าย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ดีมากๆ ก็ขอให้นุ่มได้สามีดีๆ หล่อๆ จิตใจดีไม่ปัญญานิ่ม และรวยมาก รักนุ่มมากๆๆๆ นะคะ สาธุๆๆ” “นี่เธอ พอได้แล้ว เลอะเทอะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว” สิงหาเอ็ดหญิงสาวที่บรรจงปักธูปด้วยรอยยิ้มอย่างหมั่นไส้เหลือคณา “อ้าว.. คุณนี่นะ ฉันขอในสิ่งที่ฉันอยากได้จริงๆ เผื่อท่านจะดลบันดาลให้ฉันได้ดังหวัง จะได้ไม่ต้องมาเจอคุณอีกไง” “อย่างกับฉันอยากจะเจอเธองั้นล่ะ” “แต่คุณก็จับตัวฉันมา” “โอ๊ย... โอเค ฉันผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ขอโทษ โอเคมั้ย พอใจรึยัง” สิงหาโวยเสียงขุ่นมองหน้าหญิงสาวที่ยิ้มยียวนด้วยความหมั่นไส้เหลือกำลัง พอรู้ว่าเขาผิดเจ้าหล่อนก็เล่นไม่เลิก
เพราะถูกแม่เลี้ยงใจร้ายเสือกไสไล่ส่งมาให้เป็นเมียขัดดอกของนายใหญ่แห่งหุบเขาคนเถื่อนที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขวัญกันว่า โหดร้ายน่ากลัว แต่แล้วเธอกลับพบว่า คนเถื่อนอย่างเขาก็มีหัวใจ และมีไว้เพื่อเธอคนเดียว ++++++++++ “พี่มาร์คไปแล้ว.. ทีนี้ก็เหลือแค่เรา..” ปิ่นกมลเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพัง และถิ่นเถื่อนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดูท่าทางเขาขัดเขินไม่น้อย “มีอะไรจะสารภาพกับปิ่นมั้ยคะ” “ไม่มีนี่นา..” “ใครกันนะบอกว่า เป็นผัวเมียกัน ต้องบอกกันทุกเรื่อง ให้ไว้ใจกันและกัน” ถิ่นเถื่อนทำอึกๆ อักๆ ท่าทางของคนตัวใหญ่โต แต่ดูเก้งก้างเมื่อตอนนี้เขามีความผิดติดตัว “ก็บางเรื่อง มันยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกไง..” “อ้ออออ.. หรือคะ แล้วพี่เถื่อนคิดว่าจะบอกปิ่นตอนไหนคะ และเรื่องไหนบ้าง” ปิ่นกมลเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วเงยหน้ามองเขายิ้มๆ ถิ่นเถื่อนเมินหน้าหนีน้อยๆ แต่ใบหูแดงก่ำ “ก็..” “ก็อะไรคะ..” ปิ่นกมลซักไซ้ ถิ่นเถื่อนหันกลับมามองหน้าคนช่างซักอย่างรู้สึกหมั่นไส้แกมเอ็นดูคนตรงหน้ายิ่งนัก “ก็.. ไปคุยกันบนห้องดีกว่าไง” “ว้าย... พี่เถื่อน ปล่อยปิ่นนะคะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย..” ปิ่นกมลหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อชายหนุ่มตวัดร่างบอบบางขึ้นไว้ในวงแขนแข็งแรงหน้าตาเฉย
สวย ดุดัน เข้ม หยาบคาย เผ็ด แซ่บ ตดเป็นตด ฟังไม่ผิดหรอก ตดน่ะถูกแล้ว นั่นคือ นิยามของ ฝันงาม ชื่อสวยหรูคุณหนูสุดๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเธอจะเป็นคุณหนูสายแบ๊ว เพราะเธอคือผู้ฉีกทุกกฎของคำว่ากุลสตรี .. +++++++ “จะมีผัวทั้งทีก็ต้องดูดีๆ สิคะ ธิดาหน่อทองไม่ได้กระจอกงอกง่อยนะ มีทั้งมงและสายตะพายพร้อมโล่เกลียดก็อด.. จะให้เอาพวกไม่มีอนาคตมาทำผัวเหรอ..” “ครับเมียพี่ฉลาดเก่งที่สุดในสามโลก เมียจ๋า.. พี่ร้อนแล้ว..” กวินเริ่มเสียงสั่นพร่าเมื่อมือเล็กร้ายกาจเลื่อนไปยังแก่นกลางกายที่เริ่มคึกคะนอง.. “วันนี้งามจะทำให้พี่วินลืมโศก ลืมเศร้า เราจะมันกันอย่างเดียว..” กวินหัวเราะลั่นกับคำพูดห่ามๆ ของเมียรักที่แสนจะตรงไปตรงมาและตรงใจเขาเหลือเกิน.. “งั้นแสดงฝีมือเลยเมียจ๋า หากฟ้าไม่เหลืองห้ามหยุดนะ..” กวินท้าทายฝันงามหรี่ตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน.. “อย่าร้องขอชีวิตก็แล้วกัน..” ปล. หนังสือเสียงนี้ได้รวมตอนพิเศษไว้ด้วยนะคะฟังกันเต็มอิ่มไปเลยจ้า
“จะอ่อยฉันอีกนานไหม...” เสียงห้าวดังขึ้นทำให้หญิงสาวลืมตาทันทีก่อนจะผละออกจากวงแขนแกร่งของเขาทันที ใบหน้านวลแดงปลั่งทั้งขัดเขินและอับอายกับคำพูดของเขาแต่เหนือสิ่งอื่นใดเธออับอายที่กำลังจะกลายเป็นสาวร่านร้อนเที่ยวกอดจูบกับผู้ชายมากกว่า “คนบ้า ปากเสีย... ฉะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเสียหน่อย...” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ แล้วถลึงตาใส่เขาพลางต่อว่าเขาเสียงเขียวแต่ข้างในใจสาวกลับสั่นไหวหวิวๆ แทบจะเป็นลมแข้งขาสั่นไปหมดจนขยับเดินไม่ได้...
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
CEO,เมียเก็บ,การเบรรยายแบบมัลติเธรด,สัญญารัก,โรแมนติก,นิยายอีโรติก,ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ซับซ้อน,การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน