ความทรงจำอันเลวร้ายในอดีต เธอจำฝังใจ และเมื่อเขากลับเข้ามาในชีวิต หญิงสาวที่เคยอ่อนแอ ยอมจำนนทุกอย่าง ลุกขึ้นสู้ชายใจร้าย ใจดำ ให้รู้ว่า เธอไม่ได้อ่อนแอ ไม่ได้เป็นเบี้ยล่างเขาอีกต่อไป เขาต่างหาก ที่ต้องสิโรราบ หมอบกราบแทบเท้าตน ...................... "ได้โปรด...อย่าทำเอย เอยกลัวแล้วค่ะคุณยักษ์" ณศรินทร์ ยกมือไหว้ขอความเมตตา กระเถิบตัวหนีร่างสูงใหญ่ที่กำลังถอดเสื้อผ้า นัยน์ตาเขาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย พร้อมฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ "เธอร่านไม่ใช่เหรอ ฉันคงทำให้เธอไม่อิ่ม เธอถึงได้เที่ยวร่านไปแบให้ใครต่อใคร วันนี้ฉันจะทำให้เธอกระอักอิ่มไปหลายวัน" ............... "ต่อให้คุณกราบเท้าฉัน ขอร้องอ้อนวอนฉัน ทำดีกับฉันต่างๆ นานา เพื่อให้ฉันอภัยคุณ บอกไว้นะว่า ต่อให้คุณกราบเท้าฉันจนมือทะลุลงไปใต้ภิภพ ทำดีกับฉันจนตัวตาย ฉันก็ไม่มีวันยกโทษ คุณต้องได้รับโทษที่ทำไว้กับฉัน ฉันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหมาข้างถนน ที่ไม่มีใครต้องการ" ณศรินทร์กล่าวไว้
1
หนึ่งปีแล้ว...
หนึ่งปีที่เขาทำตัวเหมือนหมา เป็นสุนัขรับใช้ เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ คอยเฝ้า คอยดูแลหล่อนกับลูกอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีสิทธิ์พูดคุย หรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเหมือนอดีต ได้แต่มองดูหล่อนมีความรักครั้งใหม่ด้วยใจชอกช้ำ
หัวใจกรชวิลไม่ต่างกับต้นไม้ ที่ถูกมือหล่อนปลิดใบไม้ออกจากลำต้น จนตอนนี้ไร้ใบไม้สักใบ กำลังกลายเป็นต้นไม้แห้งตายในไม่ช้า
ตอนนี้กรชวิลยังไม่ตาย เขามีลมหายใจ และกำลังเผชิญอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าว อย่างแสนสาหัส ความรู้สึกนี้น้อยกว่าที่หล่อนได้รับจากเขา คล้ายกับว่า ชายหนุ่มกรรมตามสนอง เคยทำอะไรไว้กับณศรินทร์ เวลานี้ย้อนกลับมาหาตัว ชนิดที่ว่า เอาคืนกลับสิบเท่า
หากอดีตกรชวิลไม่ใจร้ายใจดำ ไม่ทำร้ายจิตใจหล่อน และยอมรับความรู้สึกตัวเอง เขาคงไม่ทรมานใจและกายเช่นนี้
แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องนอน บอกให้รู้ว่า ชีวิตประจำวันเริ่มต้นขึ้นแล้ว หลายคนออกจากบ้านไปทำกิจวัตรของตัวเอง แต่สำหรับณศรินทร์ หล่อนทำเช่นคนอื่นไม่ได้ เพราะตอนนี้หน้าที่ลับๆ ของหล่อนยังไม่เสร็จสิ้น หญิงสาวปล่อยตัว ปล่อยใจให้ชายใจร้ายที่ไม่มีวันได้ความรู้สึกดีดีกลับมาเชยชม
กรชวิลกลับมาถึงบ้านเกือบเช้ามืด มาถึงเขาตรงดิ่งมายังห้องนอนณศรินทร์ ไม่ว่าเวลาไหน สถานที่ใด หากร่างกายเขาพล่านไปด้วยแรงปรารถนา และต้องการปลดปล่อย หล่อนก็ต้องพร้อมรับพายุอารมณ์อย่างไม่เกี่ยงงอน
อารมณ์เขาในแต่ละครั้งต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์เขา ณ เวลานั้น แต่ที่หนักและรุนแรงสุดคือ ยามเขาโกรธใครมา ร่างกายณศรินทร์คือที่ระบายอารมณ์
ภารกิจสวาทจบลงในเวลาหกนาฬิกานาที กรชวิลเอนตัวลงนอนข้างณศรินทร์ที่หอบหายใจเหนื่อยอ่อน ต่างกับเขาที่ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางปกติ แม้เพิ่งผ่านกิจกรรมใช้แรงมาหมาดๆ ดึงเครื่องป้องกันออกจากกายชาย โยนทิ้งลงไปในถังขยะ
“ห้องของออยเสร็จหรือยัง” เขาถามขณะลุกขึ้นนั่งริมเตียง หยิบกางเกงยีนส์และบ็อกเซอร์บนพื้นขึ้นมาสวมใส่
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” หล่อนตอบเสียงเบา
“วันนี้ตอนเที่ยงเอาดอกคาร์เนชั่นไปไว้ที่ห้องออยด้วยล่ะ อ้อ...เอาแต่สีชมพูนะ ออยชอบสีนี้ที่สุด” ช่างรู้ใจกันเหลือเกิน ฟังแล้วน้ำตาณศรินทร์ตกใน เป็นความเศร้าเสียใจที่หล่อนเปิดเผยให้ชายใจร้ายใจดำรู้ไม่ได้ “ทำไมไม่ตอบรับ ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งหรือไง”
เสียงตวาดดังลั่น ณศรินทร์ช้อนตามองผู้พูด ที่ชักสีหน้าไม่พอใจ
“ค่ะ” น้ำเสียงแผ่วเบาตอบกลับ “เอยจะทำตามคำสั่งพี่ยักษ์ค่ะ”
กรชวิลพอใจกับคำตอบ เขาลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันทีที่สวมใส่เสื้อผ้าเสร็จ ณศรินทร์มองร่างสูงใหญ่ที่ปักใจรักเขาแน่นมาก ถึงได้ยอมเจ็บช้ำระกำทรวง เป็นนางบำเรอมอบความสุขให้เขามานานร่วมหนึ่งปีครึ่ง โดยไม่สนใจว่า ตัวเองร้าวรานใจมากแค่ไหน
รักคนอื่นได้ แต่ลืมรักตัวเอง...
อาณาจักรไร่ชวนชมไม่ใช่น้อยๆ มีพื้นที่กว่าหนึ่งพันไร่ พื้นที่แบ่งออกเป็นสามส่วน ไร่ดอกไม้นานาพันธ์ ที่มีดอกไม้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ไร่กาแฟขี้ชะมด รายได้หลักของเจ้าของสถานที่ และในส่วนรีสอร์ทที่สร้างบนเนินเขาลูกเตี้ยมีห้องพักราวหกสิบห้อง มีทั้งแบบบ้านเป็นหลัง และในตัวอาคาร ที่ทุกห้องมองเห็นวิวในไร่ รวมถึงโดยรอบได้แบบถนัดตา
ฤดูเหมันต์มาเยือนครั้งใด ไร่ชวนชมมีนักท่องเที่ยวหนาตากว่าทุกฤดู ที่พักถูกจองเต็มจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีกองถ่ายโฆษณาและละครจองคิวมาถ่ายทำหลายกอง ในส่วนสวนดอกไม้ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะช่วงฤดูนี้ ดอกไม้บานสะพรั่ง แข่งกันเบ่งบาน เหมาะกับการถ่ายรูปและชื่นชมธรรมชาติอันงดงาม
ความที่วันนี้นักท่องเที่ยวมากกว่าทุกวัน เพราะเป็นวันเสาร์ พนักงานและคนงานในไร่ต่างพากันยุ่ง ณศรินทร์ที่ต้องจัดดอกไม้ใส่แจกันไปวางไว้ในห้องนอนอรัญญา น้องสาวต่างบิดา จึงไปเอาดอกไม้ดอกคาร์เนชั่นสีชมพูที่สั่งให้คนงานตัดเตรียมรอไว้เอง
แต่ก่อนไปเอาดอกไม้ ณศรินทร์จัดเตรียมของว่างให้เจ้าของบ้าน ของว่างยามสายวันนี้คือ แซนวิชทูน่ากับชาร้อนกลิ่นมะลิ ขณะกำลังวางทั้งหมดลงบนถาด อ้นกับเภาสองสาวใช้เดินเข้ามาในครัว ในมือแต่ละคนถือถุงอาหารสดและแห้งมาเต็มมือ ทั้งสองวางของลงบนโต๊ะจัดเตรียมอาหาร ก่อนช่วยกันลำเลียงเข้าตู้เย็น
“คุณป้าจะทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าอ้น ซื้อของมาเยอะเชียว” ณศรินทร์ถามอ้น
“ไม่รู้” อ้นตอบเสียงห้วน ไม่มองหน้าคนถาม คล้ายไม่อยากเสวนาด้วย
“ที่อ้นตอบว่าไม่รู้ เพราะคนที่สั่งให้ซื้อของพวกนี้มาคือคุณยักษ์ค่ะ คุณยักษ์จะทำอาหารต้อนรับคุณออยค่ะ” คนให้คำตอบแบบชัดเจนคือเภา ที่ดูเป็นมิตรกับณศรินทร์ที่สุด คนถามยิ้มอ่อน ซ่อนความเจ็บปวดไว้ในใจเต็มกำลัง
“ฉันดีใจมากๆ เลยที่คุณออยกลับบ้าน ไม่ได้กลับมาตั้งหลายเดือน คิดถึงที่สุดด้วย” อ้นจงใจพูดให้ณศรินทร์ได้ยิน “คนสำคัญของบ้านก็งี้แหละ มีแต่คนอยากให้กลับมา ต่างกับอีกคนที่อยากให้ออกไป แต่ก็ไม่ออกไปสักที”
เภามองหน้าคนพูด ตีแขนเพื่อนเบาๆ เชิงปราม เสมองณศรินทร์ที่หน้าเศร้าลงกว่าเมื่อครู่ ณศรินทร์ไม่พูดคำใด แม้วาจาอ้นเสียดทานความรู้สึกตัวเองมาก หล่อนอดกลั้นน้ำตาไว้สุดฤทธิ์ เดินถือถาดของว่างออกจากห้องครัว
“อ้น แกนี่จะร้ายเกินไปแล้วนะ พูดอย่างนี้ต่อหน้าคุณเอยได้ไง รู้ไหมว่าเธอเสียใจน่ะ” เภาตำหนิเพื่อน “คนเราน่ะ ไม่ต้องเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่ออีกคนมากก็ได้ แค่คนในบ้านเย็นชากับคุณเอยก็พอแล้ว อย่าให้ลามมาถึงคนรับใช้อย่างเราเลย ฉันสงสารคุณเอย”
“ฉันพูดความจริงนี่ พวกคุณๆ ไม่ชอบคุณเอย เพราะเป็นลูกเมียน้อย ที่สร้างความร้าวฉานให้ครอบครัวคุณออย บุญหัวเท่าไหร่แล้วที่คุณท่านเลี้ยงดู ส่งเสียให้เรียน ให้อยู่ร่วมบ้านด้วย เป็นฉันล่ะก็ ไม่สนใจหรอก จะส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าด้วยซ้ำไป” อ้นเหมือนนายว่าขี้ข้าพลอย “เลิกพูดถึงคุณเอยดีกว่า ไม่อยากอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ช่วยกันเตรียมของให้คุณยักษ์เถอะ คุณยักษ์มาจะได้ช่วยกันทำกับข้าวรับคุณออยกลับบ้าน”
อ้นให้ความสนใจของสดที่ซื้อมา มากกว่าคนที่ตนเอ่ยถึง เภาถอนหายใจเบาๆ ไม่เข้าใจว่า เหตุใดเจ้านายทั้งสามคนถึงแยกแยะไม่ได้ว่า ณศรินทร์ไม่มีความผิดสักนิดเดียว ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของผู้ใหญ่ ที่เคราะห์กรรมมาตกที่คนเป็นลูก
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"