เรื่อง...ประทับใจยัยขี้เมา นิยายเรื่องนี้...เขียนต่อจากเรื่อง อลเวงวิญญาณพบรัก (รุ่นลูก) คำโปรย สัมผัสที่หกของเธอได้รับถ่ายทอดมาจากผู้เป็นแม่ ซึ่งมันจะหายไป ก็ต่อเมื่อเธอได้พบกับรักแท้เท่านั้น แนะนำตัวละคร ขุนเขา (พี่ขุน) อายุ 29 ปี งานแต่งที่กำลังจัดขึ้นอย่างใหญ่โตเกือบต้องยกเลิกเพราะเจ้าสาวของเขาหนีไป แต่อยู่ๆก็มีใครบางคนเสนอตัวอยากแต่งงานกับเขาในค่ำคืนนี้ เฟื่องฟ้า (ฟ้า) อายุ 25 ปี การที่เธอสามารถมองเห็นวิญญาณได้เป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ แต่อยู่ๆก็มีวิญญาณเด็กมาขออยู่ด้วยและเรียกเธอว่าแม่ แค่นั้นยังไม่พอ ยังมาขอร้องให้เธอหาพ่อให้อีกด้วย “แม่...หนูอยากเกิด” ตัวละครเรื่อง...ชาตินี้ชาติไหนพี่ก็รัก (แต่งแยกเรื่อง) เพลงพิณ (เพลง) อายุ 25 ปี เธอคือ...น้องสาวพี่ขุนและยังเป็นเพื่อนรักกับเฟื่องฟ้า ภูธเรศ (พี่ภู) อายุ 28 ปี เขาคือ...คนรักของเพลงพิณเมื่อชาติที่แล้ว (ชาติก่อน~เพลงพิณเป็นพญานาค ส่วนภูธเรศเป็นมนุษย์) @@@@@@ 🌼นิยายเซตนี้🌼 1.อลเวงวิญญาณพบรัก (รุ่นแม่) 2.ประทับใจยัยขี้เมา (รุ่นลูก) 3.ชาตินี้ชาติไหนพี่ก็รัก (2&3 เนื้อเรื่องต่อกัน แนะนำให้อ่านคู่ค่ะ)
ตอนที่ 1 ไม่ชอบในสิ่งที่ตัวเองเป็น (รุ่นลูก)
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเฟื่องฟ้า หรือจะเรียกง่ายๆว่าฟ้าเฉยๆก็ได้ ตอนนี้ฉันอายุ 22 ปี กำลังจะเรียนจบแล้ว
ตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันก็สามารถมองเห็นวิญญาณได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ฉันไม่ชอบเอาเสียเลย
คุณแม่บอกกับฉันว่า สิ่งที่ฉันเป็น เมื่อก่อนท่านก็เคยเป็น แต่ตอนนี้ท่านไม่เห็นวิญญาณพวกนั้นแล้ว กลับกลายเป็นฉันที่เห็นแทนท่าน
คุณแม่เคยเล่าให้ฟังและบอกกับฉันว่า ความพิเศษนี้มันน่าจะถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่ออะไรบางอย่าง ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครรู้
ในขณะที่ฉันกำลังแต่งตัวเตรียมที่จะออกไปมหาวิทยาลัย อยู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเรียก ซึ่งจากสัญชาตญาณของฉัน แน่นอนว่าฉันรู้ว่าต้องไม่ใช่คนแน่ๆ
"แม่..." ใครเรียกวะ...ฉันคิดในใจแอบขมวดคิ้วเล็กน้อย วันนี้มาแปลกเรียกแม่...มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว ฉันพยายามไม่สนใจ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ฉันไม่ใช่คนกลัวผี คนต่างหากน่ากลัวกว่าผี
"แม่..." เรียกอีกและ ผัวยังไม่มีจะไปเอาลูกที่ไหนมา...
"แม่!!" อยู่ๆก็มีเด็กอ้วนคนหนึ่งปรากฏตัวให้ฉันเห็น
"เฮ้ย! ตกใจหมด มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง" ฉันหันไปด่า เห็นเป็นเด็กผู้ชายตัวอ้วนผิวขาว หน้าตาน่ารัก กำลังมองมาที่ฉันตาแป๋ว
"หนูส่งเสียงแล้วนี่ไง ถ้าไม่อย่างนั้นแม่จะได้ยินเหรอ" แม่...โอ๊ยอยากจะบ้า!
"หลงแม่หรือไง ไปๆ ไปที่ชอบๆ" ฉันไล่...ไม่มีเวลามาเล่นด้วยหรอกนะ แล้วเจ้าเด็กคนนี้เข้ามาในบ้านของฉันได้ยังไงเนี่ย ปู่เจ้าที่ไปไหน...ฉันแอบบ่นเจ้าที่ที่ปกปักรักษาอยู่ในบริเวณบ้านของฉัน
"หนูชอบที่นี่" แล้วยังไง!
"เอ๊ะ! ไอ้เด็กนี่...ฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นด้วยหรอกนะ" ฉันยกมือทั้งสองข้างขึ้นเท้าเอวแล้วหันไปมองหน้าวิญญาณเด็ก ด้วยสายตาติดรำคาญ จากนั้นฉันก็หยิบหนังสือแล้วเดินออกจากห้องไป
"แม่จะไปไหน..." และแล้วเสียงนั้นก็เอ่ยถามฉันอีกครั้งพร้อมกับเดินตามมา
"ฉันจะไปโรงเรียน แล้วฉันก็ไม่ใช่แม่ของนาย...มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะ"
"แม่ครับ...มีคนบอกให้หนูมาอยู่กับแม่"
"ใครบอก..." ฉันขมวดคิ้วถาม...
"หนูก็ไม่รู้...เขาให้หนูมาเกิดในท้องแม่" ห๊ะ!! ไร้สาระ!
"โอ๊ย...จะไปกันใหญ่แล้ว ฉันยังเรียนไม่จบเลย ไปหาแม่ใหม่ก่อนเถอะไป!" พูดด้วยน้ำเสียงติดรำคาญนิดหน่อย จากนั้นฉันจึงเดินลงชั้นล่างไป เห็นคุณพ่อกับคุณแม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารก่อนแล้ว
"เป็นอะไรไปลูก อารมณ์ไม่ดีแต่เช้าเลย" เป็นเสียงของคุณแม่ ฉันจึงเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆท่าน
"มีผีเด็กมาขออยู่ด้วยค่ะ ฟ้ารำคาญ" เรื่องที่ฉันเห็นผี จะมีไม่กี่คนที่รู้และเชื่อฉันจริงๆ ส่วนคนไม่เชื่อเขาก็ว่าฉันบ้า...
"เอาน่าลูก...ถ้าเขาไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อนให้เราก็ช่างเขาเถอะ"
"แล้วเมื่อไหร่ฟ้าจะเลิกเห็นสิ่งที่คนส่วนมากมองไม่เห็นสักทีล่ะคะ" ฉันรู้สึกว่ามันเป็นปัญหากับชีวิตประจำวันของฉันมาก
"เมื่อถึงเวลา...แม่เชื่อว่าการที่หนูได้สิ่งพิเศษนี้มาก็เพื่อต้องทำภารกิจบางอย่าง เหมือนเรื่องของแม่ไง" เมื่อก่อนคุณแม่ก็เห็นวิญญาณเหมือนกับฉัน ส่วนเรื่องราวของท่านกับคุณพ่อนั้นมันวิเศษมากๆ
"ภารกิจอะไร...แล้วทำไมต้องเป็นหนูด้วย ทำไมไม่เป็นคนอื่น" ฉันน้อยใจในโชคชะตานี้มาก ฉันเหมือนคนผิดปกติในสายตาของคนทั่วไป
"แม่ขอโทษนะลูก..." คุณแม่เขยิบเข้ามาหาฉัน ท่านยกมือขึ้นลูบศีรษะของฉันเบาๆ เป็นการปลอบ
"คุณแม่...ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ฟ้าไม่ได้โทษคุณแม่ ฟ้าขอโทษ ฟ้าไม่ได้ตั้งใจ" ฉันไม่ได้โทษคุณแม่...ฉันโทษชะตาชีวิตของฉันเองต่างหากล่ะ
"ไม่เป็นไรลูก...แม่เข้าใจ เมื่อก่อนแม่เองก็เคยมีความรู้สึกเหมือนที่ฟ้ากำลังเป็นอยู่"
"คุณพ่อขา...ฟ้าขอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้มั้ยคะ" ฉันคิดเรื่องนี้มาได้สักพักแล้ว...ฉันอยากหนีไปอยู่ในที่สงบๆสักพัก
"ไปไกลหูไกลตาแบบนั้นพ่อเป็นห่วง..."
"ฟ้าอยากหายไปจากสิ่งที่ฟ้าเป็นสักพัก...นะคะคุณพ่อ" น้ำเสียงออดอ้อนของฉันหวังว่าคุณพ่อจะยอมใจอ่อนให้ฉันไป
"คุณแม่ขา...ช่วยฟ้าพูดกับคุณพ่อให้หน่อยสิคะ"
"แม่อยากจะบอกฟ้าว่า...ฟ้าไม่มีวันหนีสิ่งที่ฟ้าต้องเผชิญพ้น แต่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนั้นมันคือเรื่องอะไร และเมื่อไหร่มันจะเกิดขึ้น"
"ฟ้าทราบค่ะ ฟ้าแค่อยากออกไปจากสังคมนี้สักพัก...นะคะคุณแม่" ทุกวันนี้ในสายตาของคนรอบข้างมองฉันเป็นตัวประหลาด...พวกเขาคิดว่าฉันพูดคนเดียวแต่ฉันไม่ได้พูดคนเดียว อธิบายไปก็ไม่มีใครเข้าใจ บ้างก็กลัวในสิ่งที่ฉันอธิบาย บ้างก็หาว่าฉันประสาท พักหลังๆมาฉันพยายามจะไม่สนใจไอ้ผีพวกนั้นที่มันชอบมาชวนฉันคุย...ขอหวยแม่งก็ไม่เคยให้!
"คุณคะ ให้ลูกไปเถอะนะคะ เมื่อก่อนฉันเองก็อึดอัดเหมือนแก ต้องออกมาอยู่คนเดียวจนได้เจอกับคุณนั่นแหละ"
"เอาล่ะ...ถ้าฟ้าอยากไป พ่อจะให้ลูกน้องของพ่อหาที่เรียนและที่พักใกล้ๆให้ หนูอยากไปประเทศไหนล่ะ" ในที่สุดคุณพ่อก็ยอม..เย่! ดีใจจังเลย
"ใกล้ๆก็พอ...อื้อ..." ฉันทำท่าคิด
"นิวซีแลนด์แล้วกันค่ะ บรรยากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อน"
"ใกล้บ้านแกสิ...ก็ได้ เดี๋ยวพ่อให้ลูกน้องจัดการให้" ฉันยิ้มหวานแล้วรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เข้าไปกอดคุณพ่อทันที
"ขอบคุณค่ะ ฟ้ารักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดเลย"
"ไม่ต้องมาอ้อน ไปเรียนได้แล้วมั้งเดี๋ยวสาย"
"ค่า..." ฉันตักข้าวต้มเข้าปากอีกสองสามคำแล้วหยิบหนังสือเดินออกจากบ้านไป
@มหาวิทยาลัย
"ฟ้า..." เสียงไอ้เพลงเพื่อนรักของฉันดังขึ้น
"อ้าว...เพลง" ฉันหันไปตามเสียงเรียก แล้วส่งยิ้มให้เพื่อน
"เมื่อวานแกหายไปไหนมา ทำไมถึงไม่มาเรียน" ฉันถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง สำหรับฉันเพื่อนกันไม่จำเป็นที่จะต้องคุยกันทุกวันก็ได้ ถ้ามันไม่โทรมา ฉันจะคิดว่าเพื่อนไม่สะดวก ฉันก็จะให้พื้นที่ความเป็นส่วนตัว ซึ่งฉันเองก็เป็นคนชอบความสงบมากเช่นกัน และคิดว่าคนอื่นก็น่าจะต้องการพื้นที่ความเป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน
"โรคประหลาดฉันกำเริบน่ะ ฉันก็เลยไม่อยากมา...เมื่อไหร่เรื่องบ้าๆพวกนี้จะหายไปสักทีนะ ไม่รู้เวรกรรมอะไรของฉัน"
"เฮ่อ...ฉันก็ไม่รู้ เบื่อเหมือนกัน เออ...ปีหน้าฉันขอคุณพ่อไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์แหละ อยากไปจากที่นี่สักพัก"
"แล้วฉันล่ะ แกก็รู้ว่าฉันเพื่อนน้อย" อ้าว...
"ฉันเองก็มีแกเป็นเพื่อนคนเดียว...ไปด้วยกันมั้ยล่ะ ไปต่อโทที่โน่น เรียนจบแล้วค่อยกลับ" ถ้าไอ้เพลงมันยอมไปเรียนต่อด้วยกันกับฉันก็คงดี
"ต้องลองไปขอที่บ้านก่อน นิวซีแลนด์ใช่มั้ย"
"อือ...อากาศดีเหมาะแก่การไปพักผ่อนหรือแกว่าไง" ฉันหมายถึงว่าถ้ามันอยากเปลี่ยนประเทศก็ได้นะ
"ไม่ว่าอะไร...ฉันจะได้ไปบอกที่บ้านถูก"
"ป่ะ...ได้เวลาเข้าเรียนแล้วไปกัน" ฉันกับไอ้เพลงพากันเดินเข้าห้องเรียนตามปกติ
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ