เรื่อง...อลเวงหัวใจพบรัก คำโปรย รู้ทั้งรู้ว่าเป็นแค่การแสดง แต่ทุกครั้งที่เธอถูกเนื้อต้องตัว นอกจากเขาจะเสียเงิน ยังเหมือนถูกเธอลวนลามอีกด้วย (เรื่องราวจะอลเวงขนาดไหน ใครได้กำไร ใครขาดทุน ติดตามได้ในเรื่องนะคะ) แนะนำตัวละคร ปราโมทย์ (ปราชญ์) อายุ 32 ปี เจ้าของโรงแรมชื่อดังของจังหวัด เขาหล่อ รวย จึงไม่แปลกที่จะมีสาวๆเข้ามามากมาย แต่เขาไม่ต้องการ จึงอยากหาไม้กันหมาสักคน มากันผู้หญิงพวกนั้นออกไป เมธาวี (เมล์) อายุ 22 ปี พนักงานใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานในโรงแรม เธอสวย น่ารัก ขี้งก ความสามารถเรื่องงานไม่มี แต่เรื่องใช้ปากเธอถนัด @@@@@@ นิยายรัก ฟีลกู๊ด ฟินๆ เหมือนเดิมค่ะ
ตอนที่ 1 พบเจอ
ณ โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศ ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และภูเขา ในความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ที่นี่จึงเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งที่โรงแรมแห่งนี้ยังมีอาหารให้เลือกหลากหลาย รสชาติอร่อย ห้องพักสวย หรูหรา สะอาดสะอ้านเป็นส่วนตัว ตลอดทั้งปีของโรงแรมแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนกันมาพักผ่อน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดจะแน่นเป็นพิเศษ
"ไอ้หมอก...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกลูกน้อง หมอกเป็นพนักงานของที่นี่มีตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการโรงแรม
นอกจากหมอกแล้ว ยังมีตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการรองจากหมอกอีกหนึ่งคน เขาคนนั้นชื่อเกม ทั้งสองคนนี้อายุยี่สิบกลางๆนอกจากจะเป็นลูกน้องแล้ว ยังเป็นเพื่อนและคู่หูให้กับคุณปราชญ์เจ้าของโรงแรมที่นี่อีกด้วย
“ครับบอส"
"ช่วงนี้โรงแรมมีปัญหาอะไรมั้ย"
"พนักงานน้อยครับ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ การบริการในด้านต่างๆไม่มีปัญหา แต่พนักงานของเราบ่นว่าเหนื่อยครับ" ช่วงนี้ฤดูฝนต้นไม้ภูเขาค่อนข้างเขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวจึงพากันมาสัมผัสธรรมชาติ
"มีคนมาสมัครงานบ้างหรือเปล่า"
"พอมีเข้ามาครับ แต่ส่วนมากจะเป็นเด็กนักศึกษาจบใหม่ ไม่ค่อยมีประสบการณ์"
"รับเข้ามาเถอะ เอามาฝึกเอา ขอแค่ให้ขยันและอดทนกับงานบริการ เรื่องอื่นคงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง"
"รับทราบครับ เดี๋ยวผมจะรีบจัดการให้ครับ"
"อือ..."
"มีอีกเรื่องครับ" ในขณะที่ชายหนุ่มทั้งสองกำลังยืนคุยกันอยู่นั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวสวยเสื้อผ้าค่อนข้างรัดรูป เดินตรงมาทางด้านหลังที่ปราชญ์กำลังยืนอยู่พอดี
"ว่ามา..." หมอกยืนหันหน้าไปทางด้านที่หญิงสาวคนนั้นกำลังเดินเข้ามา เขารีบส่งสายตาบอกเจ้านายหนุ่มทันที แต่มันคงไม่ทันแล้วเพราะเธอคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เกือบจะถึงตัวแล้ว
"มาโน้นแล้วครับ" ทันใดนั้นเองเธอคนนั้นก็รีบส่งเสียงหวานๆมาแต่ไกล
"ปราชญ์ขา..."
"ทำไมมึงไม่บอกให้เร็วกว่านี้!" เขาเบื่อผู้หญิงที่เข้ามาเกาะแกะเขาเหลือเกินแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ด้วยอาชีพงานบริการที่ทำอยู่ต้องค่อนข้างรักษาหน้าตาให้ตัวเองเป็นพิเศษ เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจของตัวเอง สิ่งที่ทำได้ก็แค่ตามน้ำไปเท่านั้น เพราะทุกคนที่เดินเข้ามาในพื้นที่ของเขานอกจากลูกน้องแล้ว คนอื่นๆก็คือลูกค้า
"ผมก็เพิ่งเห็นครับ"
"ปราชญ์ขา...ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ ต้นหอมอยากชวนคุณไปทานอาหารกลางวันค่ะ"
"ผมยังไม่หิวครับ" เขาพยายามปฏิเสธแต่คงไม่เป็นผล
"แสดงว่ายังไม่ได้กิน ไปเถอะนะคะ ไปทานเป็นเพื่อนต้นหอมหน่อย" เฮ่อ...
"ไอ้หมอก..." ปราชญ์รีบกระซิบส่งสายตาให้ลูกน้องช่วย แต่!
"พักเที่ยงพอดี ผมขอตัวก่อนนะครับ" มีลูกน้องแบบนี้มันน่าไล่ออกจริงๆ...ปราชญ์คิดในใจ
"ก็ได้ครับ" ในที่สุดเขาก็ยอมพาต้นหอมไปนั่งรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน โดยเลือกทานที่ห้องอาหารมุมหนึ่งของโรงแรมของเขานี่แหละ
ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่นั้น อยู่ๆก็มีหญิงสาวอีกคนเดินเข้ามาทักทายเจ้าของโรงแรมด้วยท่าทางออดอ้อน
"พี่ปราชญ์ขา...คิดถึงจังเลยค่ะ"
"ครับ"
ผู้หญิงพวกนี้ เธอเป็นคนในพื้นที่ฐานะค่อนข้างดี ส่วนมากจะเป็นพวกลูกสาวนักธุรกิจหรือลูกสาวนักการเมืองในพื้นที่ ซึ่งเขาเองก็ไม่สามารถปฏิเสธพวกเธอได้ ทุกๆคนชอบแวะเวียนมาทานอาหารที่นี่เป็นประจำ สาเหตุหลักก็เพื่อต้องการจะได้พบหน้าเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ ตราบใดที่เขายังโสดปัญหานี้ก็คงไม่ยอมหมดไปง่ายๆ
"ช่วงนี้ฟ้าไม่ค่อยได้มาหาพี่ปราชญ์ที่นี่เลย พอดียุ่งๆอยู่กับงานไม่โกรธนะคะ"
"อ๋อ...ไม่หรอกครับ"
"โกรธอะไรกัน เธอไม่มาปราชญ์คงสบายใจขึ้นเยอะเลย ใช่มั้ยคะปราชญ์"
"นี่ป้า ถ้าให้ฉันเดา ชวนผู้ชายสินะ หน้าไม่อาย" ทั้งสาวน้อย สาวใหญ่ แม่ม่ายก็มีแวะเวียนมาบ้าง ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน
"นี่เธอ!"
"พอเถอะครับ" ฝ่ามือเรียวใหญ่ยกขึ้นกุมขมับ ไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้าดี ทั้งหมดนี้คงต้องโทษตัวเขาเองที่ไม่ยอมปฏิเสธพวกเธอตั้งแต่แรก
"ปราชญ์...คุณก็ดูสิคะ ยัยนั่นมาหาเรื่องต้นหอมก่อน" ในขณะที่หญิงสาวทั้งสองคนกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งก็มีหญิงชายสองคนกำลังเดินตรงเข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้ อีกคนเดินหนี อีกคนตามตื้อไม่ยอมเลิก
"น้องเมล์ครับ น้องเมล์ หยุดก่อนครับ" ฉันชื่อเมธาวีหรือเรียกง่ายๆว่าเมล์ ฉันหยุดเดินกะทันหัน ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเท้าเอว พี่เอกจึงรีบเดินมาดักอยู่ทางด้านหน้าของฉันทันที
ฉันมองหน้าพี่เอก ผู้ชายหน้าจืดสวมแว่นหนาอยากนึกรำคาญ ด้านหน้าของฉันถัดออกไปไม่ไกลมากนัก กำลังมีผู้หญิงสองคนยืนเถียงกันอยู่ ซึ่งฉันก็มองไปที่ผู้หญิงสองคนนั้นอย่างนึกรำคาญเช่นกัน เพราะผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงนั้นทำหน้าเบื่อโลกไม่ได้แตกต่างไปจากฉันเลย
"กลับไปเถอะ อย่ามาเสียเวลากับฉันเลย" ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังชัดเจน ฉันเบื่อผู้ชายขี้ตื้อที่สุด บอกว่าไม่ชอบๆตามอยู่ได้!
"เดี๋ยวสิครับ...ถ้าน้องเมล์รับรักพี่ พี่สัญญาจะดูแลน้องอย่างดี รับรักพี่เถอะนะครับ" ยังไม่ยอมหยุดอีก! เฮ่อ...ป่วยหรือเปล่าวะเนี่ย พูดขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีก
"ฉันมีแฟนแล้ว พี่กลับไปเถอะ แล้วไม่ต้องมาอีก...รำคาญ!” บ้านของพี่เอกอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับฉัน แต่ไม่ได้พบกันบ่อยนักหรอก เพราะเขาทำงาน ส่วนฉันเพิ่งจะเรียนจบกลับมา เขาตามจีบฉันมาหลายปีแล้ว
“แฟนที่ไหนพี่ไม่เคยเห็น โกหกพี่ใช่มั้ย”
“นั่นไงแฟนฉัน” ฉันชี้ไปที่ผู้ชายตัวสูงคนนั้น ฉันไม่รู้จักเขาหรอก แต่ฉันอยากตัดความรำคาญ ขาสั้นๆของฉันรีบก้าวไปหาผู้ชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว แล้วดึงคอเสื้อของเขาเอาลงมาใกล้ๆ ริมฝีปากนุ่มนิ่มของฉันประกบจูบกับเขาทันที ทันใดนั้นเสียงทะเลาะกันก่อนหน้าเงียบกริบ
“กรี๊ด!!!!” เสียงกรี๊ดของผู้หญิงสองคนที่ยืนทะเลาะกันอยู่ก่อนหน้า ทำให้ฉันยอมผละจูบออกมาจากผู้ชายตัวสูงคนนี้
“นี่ไงแฟนฉัน พี่กลับไปเถอะ” ฉันหันไปบอกพี่เอก ผู้ชายที่เดินตามฉันไม่เลิก โดยไม่ได้สนใจพี่ผู้หญิงสองคนที่กำลังทำหน้าไม่พอใจ
“พี่ไม่เชื่อ”
“ถ้าไม่เชื่อก็ถามเขาดูสิ ที่รักคะ เราเป็นแฟนกันใช่มั้ยคะ” ฉันส่งสายตาขอความช่วยเหลือ คิดว่าถ้าฉลาดสักนิดก็น่าจะเข้าใจ
“ชะ...ใช่ครับ” คำตอบของเขาทำให้ฉันเลือกที่จะส่งยิ้มหวานๆไปให้เขา เป็นการแสดงให้พี่เอกเห็น
“ไปกันเถอะค่ะ” ฉันรีบจูงมือเขาเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ได้ยินเสียงกรี๊ดของผู้หญิงสองคนนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นเขาที่จูงมือฉันเดินนำหน้า ขายาวๆของเขาทำให้ฉันก้าวตามแทบไม่ทัน
“ปล่อย...” ฉันสะบัดมือออกจากการจับกุมของเขาค่อนข้างแรง
“สาวน้อย...” เขาหันมามองหน้าฉันด้วยสายตานิ่งๆ ไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกอื่นแต่อย่างใด
“ฉันชื่อเมล์ ไม่ใช่สาวน้อยของใคร” น้ำเสียงของเธอช่างน่าหมั่นไส้ซะจริง เมื่อกี้ใครกันนะที่จูบผมก่อน แถมยังเรียกผมว่าที่รักอีกด้วย
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน