เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
ตึก! ตึก! ตึก!
โยชิโอกะ ริว พาส่วนสูง185ซม.เปิดประตูเดินออกมาจากห้องนอนส่วนตัวชั้นสองภายในเพนท์เฮ้าส์ ที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นเหมือนกับบ้านเมืองที่เขาจากมา
ริวเป็นนายน้อยของตระกูลโยชิโอกะที่ถูกส่งมาประจำการอยู่ที่เมืองไทย เนื่องจากธุรกิจของตระกูลกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากการรุกรานของยากูซ่าต่างแก๊งที่เริ่มเข้ามายึดครองในเขตของประเทศแผ่นดินแม่
ที่ครอบครัวเขาขยายธุรกิจมาที่เมืองไทยหลังจากที่พ่อกับแม่ของเขาแต่งงานและมีบุตรชายคนแรกนั่นก็คือพี่ชายของเขา
และริวนายน้อยแห่งตระกูลโยชิโอกะที่มีเลือดครึ่งหนึ่งในตัวเป็นคนไทยเป็นลูกชายคนสุดท้องของตระกูล ที่ตัดสินใจอาสามาดูแลธุรกิจที่ไทยแทนพี่ชายที่ต้องการอยู่กับครอบครัวที่ญี่ปุ่นมากกว่าที่จะเดินทางมาดูธุรกิจที่ไทย
เนื่องจากลูกชายคนแรกหรือหลานชายคนแรกของตระกูลโยชิโอกะกำลังจะลืมตาดูโลกนี้ในอีก1เดือนข้างหน้า
ริวจึงอาสามาแทนพี่ชายท่ามกลางเสียงคัดคานของเหมือนฝันผู้เป็นมารดา ที่ออกจะเป็นห่วงลูกชายคนเล็กอย่างริวแบบออกหน้าออกตา
แต่ยังไงเสียก็ต้องจำใจยอมเพราะมันเป็นความประสงค์ของเจ้าตัวเธอจึงไม่กลัาจะขัดถึงแม้จะแอบไม่ชอบใจนักก็ตาม
ริวเกิดในต้นตระกูลยากูซ่าที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ต้นตระกูลของเขาชื่อเสียงโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่ง
เขาถูกฝึกมาอย่างดีจากผู้เป็นพ่ออย่างอิชิโร่ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้อย่างดาบหรือปืนซึ่งเขาไม่เป็นสองรองใคร แต่ที่ริวเก่งและดูจะชอบเป็นพิเศษคือการต่อยมวยเขาถึงขั้นมีสนามมวยเอาไว้ฝึกซ้อมกับลูกน้อง เพื่อคลายเครียดในวันที่เขาอยากออกกำลังกายหรือพักผ่อนสมอง
อย่างที่บอกต้นตระกูลของริวเป็นยากูซ่า เขาถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลรองจากพี่ชาย ที่ทำหน้าที่ดูแลต้นตระกูลและสืบทอดกิจการอยู่ที่ญี่ปุ่น
ริวในวัย29ปีเขาได้อิทธิพลการใช้ชีวิตมาจากพ่อและพี่ชายมาพอสมควร ใครๆก็รู้ว่ายากูซ่าน่ากลัวเพียงใดและริวก็เป็นแบบนั้นเพียงแค่เขาตวัดสายตาดุใส่ใคร คนๆนั้นก็ถึงกลับกลัวจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว ไม่เว้นแม้แต่ลูกน้องของเขาเองที่ต่างพากันกลัวนายน้อยแห่งตระกูลโยชิโอกะด้วยเช่นกัน
และอย่างที่รู้ๆกันริวเป็นนายน้อยของตระกูลโยชิโอกะผู้คนภายนอกมองเขาว่าเป็นคนโหดเหี้ยม เย็นชา บางครั้งดูน่าเกรงขามมากกว่าผู้เป็นพ่อและพี่ชาย และริวเองก็เป็นแบบนั้นตามคำที่เขาว่ากัน นั้นจึงทำให้เขาครองตัวเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้ ไม่มีผู้หญิงหน้าไหนกล้าเข้าใกล้เขาแม้แต่น้อย
ถึงแม้เขาจะมีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลายังกะนายแบบ แต่ความหน้ากล้วของริวก็ถูกปิดทับความอ่อนโยนที่อยู่ภายใน จึงไม่มีผู้หญิงคนไหนได้สัมผัสความอ่อนโยนของเขา จะมีเพียงแค่เหมือนฝันผู้เป็นมารดาเท่านั้นที่ได้สัมผัสความอ่อนโยนที่อยู่ภายในตัวของริว
ตัวเขาเองไม่ใช่ว่าไม่อยากจะมีแฟน เขาเองก็อยากมีคนรักเหมือนกับพ่อและพี่ชาย และก็อยากมีตัวเล็กๆเอาไว้สืบทอดตระกูล แต่เขาเองก็ยังไม่เจอคนที่ถูกใจและทำให้เขาหวั่นไหวใจเต้นแรงได้เลยสักคน
แต่เขาก็ตั้งใจเอาไว้แล้วเมื่อเมื่อไหร่ที่เขาได้เจอคนๆนั้นคนที่ทำให้เขาใจเต้นแรงได้ เขาจะไม่รีรอที่จะคว้าเธอมาแนบกายถึงแม้เขาจะไม่เคยจีบผู้หญิงคนไหนเลยก็ตาม แต่มันก็คงไม่ยากเกินความสามารถของเขา
มีอย่างหนึ่งที่ริวกังวลคือการจะมาเป็นแฟนยากูซ่าอย่างเขามันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้หญิงคนนั้นอาจจะต้องเจอบททดสอบอย่างที่แม่ของเขาและไอโกะพี่สะใภ้ต้องเจอ
ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รักเขามากพอหลังจากจบบทสอบแล้วเธอกับเขาก็ต้องจบความสัมพันธ์กัน
ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดไปรเวทเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำสวมเข้ากับชุดกางเกงยีนส์ขายาวสีดำเดินลงมาจากชั้น2ของเพนท์เฮ้าส์ ดวงตาคมเข้มสีน้ำตาลตวัดสายตามองลูกน้องที่พากันจัดแถวรอรับผู้เป็นนายอย่างเป็นระเบียบ
ฟุโดมือขวาของเจ้านายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดก้มหัวเคารพผู้เป็นนายตามด้วยลูกน้องคนอื่นๆ ตามจริงแล้วยังขาดไดจิผู้ที่เป็นมือซ้ายของริวอีกคน แต่ทันทีที่ย่างกรายมาถึงเมืองไทยเขาก็ได้รับคำสั่งจากริวให้แฝงตัวเข้าไปในบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของตัวเอง เพื่อสืบหาหนอนบ่อนไส้ที่มันขายข้อมูลของบริษัทให้กับแก๊งยากูซ่าคู่อริ
และนี่ก็เป็นสาเหตุให้นายน้อยแห่งตระกูลต้องมาประเทศไทยแบบลับๆก่อนถึงกำหนดการอีก2อาทิตย์
"นายจะรับอาหารเช้าเลยหรือเปล่าครับ?" ฟูโดเอ่ยทักทายผู้เป็นนายด้วยภาษาญี่ปุ่นอย่างลืมตัว ทำให้ริวตวัดสายตาดุไปที่ฟุโดมือขวาของเขาทันที
"กูเคยบอกกับมึงว่ายังไง?" น้ำเสียงเข้มถูกเปล่งออกไปด้วยประโยคตำหนิ
ก่อนมาที่ไทยเขาได้กำชับกับลูกน้องคนสนิทอย่างฟุโดและไดจิรวมถึงลูกน้องคนอื่นที่จะติดตามมาให้ใช้ภาษาไทยเป็นการสื่อสารเพราะเขาเองก็อาจจะต้องดูแลธุรกิจที่ไทยไปอีกนาน
"ผมขอโทษครับนาย" เมื่อรู้ว่าผิดฟุโดรีบก้มหัวขอโทษผู้เป็นนายทันที
"จำไว้ให้ขึ้นใจแล้วอย่าผิดอีก กูไม่ค่อยชอบ"
"ครับ" เป็นอีกครั้งที่ฟุโดก้มหัวขอโทษผู้เป็นนายก่อนจะเอ่ยถามประโยคต่อมา... "นายจะรับอาหารเช้าเลยไหมครับ?"
"ขอแค่กาแฟก็พอ" จบประโยคเขาก็เดินผ่านลูกน้องนับสิบตรงไปยังห้องทำงาน เพื่อที่จะศึกษาเอกสารคร่าวๆเกี่ยวกับบริษัทของตัวเอง
ธุรกิจของตระกูลโยชิโอกะที่ริวต้องมาดูแลเบื้องหน้าเป็นธุรกิจสีขาวอย่างเช่นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ บริษัทผลิตอาหารแช่แข็งและอย่างอื่นอีกมากมาย แต่ทว่าเบื้องหลังคือธุรกิจผิดกฎหมายล้วนๆที่สร้างรายได้ให้กับตระกูลเขาอย่างมหาศาลอย่างเช่น คาสิโน คลับและอาวุธเถื่อน
ครืด~ครืด~
โทรศัพท์เครื่องหรูกำลังแผดเสียงดังลั่นภายใต้ความเงียบในห้องทำงานที่ตกแต่งไปด้วยโทนสีดำ มีดาบซามูไรวางอยู่ด้านหลังสร้างความน่าเกรงขามให้คนที่อยู่ในห้อง
ริวละสายตาจากเอกสารตรงหน้าใช้ปลายนิ้วยกขึ้นมาดันกรอบแว่นสายตา ก่อนที่จะเอนหลังพิงไปกับเก้าอี้ผ่อนลมหายใจออกช้าๆล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดรับ โดยที่ฟุโดที่นั่งอ่านเอกสารอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องทำเพียงก้มอ่านเอกสารแบบเงียบๆไม่ได้ปรายตาขึ้นมามองเจ้านายหนุ่ม
"คิดถึงแม่จังเลยครับ" น้ำเสียงนุ่มถูกพ่นออกมาก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นไปนวดคลึงขมับของตัวเองเบาๆ
"(อย่ามาอ้อนหน่อยเลยลูกชาย ถ้าคิดถึงแม่จริงริวคงไม่ทิ้งแม่ไปอยู่ที่ไทยหรอก)" น้ำเสียงประชดประชันปนน้อยใจถูกส่งออกมาจากปลายสายแบบไม่จริงจังมากนัก
"ไม่เอาครับคนสวยของริว อย่างอนริวเลยนะ" น้ำเสียงอ้อนๆถูกเปล่งออกมาทำให้ปลายสายอย่างเหมือนฝันถึงกับใจอ่อนยวบกับน้ำเสียงอ้อนๆของลูกชายคนเล็ก
นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆเธอคงจะพุ่งตรงมาฟัดแก้มลูกชายอย่างที่ชอบทำ
"(อย่ามาพูดเลยริว ถึงจะทำเสียงอ้อนๆใส่แม่แบบนี้ แต่แม่ก็ไม่ยอมใจอ่อนให้หรอกนะ จะงอนจนกว่าริวจะกลับมาจากไทยนั่นแหละ)"
"หึหึ..." ปากหนากระตุกยิ้มหัวเราะในลำคอกับประโยคของผู้เป็นแม่
"(แล้วนี่ทำอะไรอยู่ลูกกินอาหารเช้าหรือยัง ที่ไทยกี่โมงแล้วเนี่ยแม่ยังไม่ได้ดูเวลาเลย?)"
"ผมกินกาแฟไปแล้วครับ ตอนนี้ที่ไทยประมาณ9โมงเช้า"
"(แล้วนี่ไดจิกับคุโดไปไหนทำไมลูกถึงได้กินแค่กาแฟแก้วเดียว หรือแม่ต้องตามลูกไปอยู่ที่ไทยกับลูกดีไหม?)"
"ถามพ่อหรือยังครับว่าจะให้แม่มาหรือเปล่า?" นายน้อยของบ้านถามออกมาอย่างอารมณ์ดี เขารู้ดีว่าพ่อของเขาติดแม่ของเขาหนักมาก เรียกได้ว่าเป็นพวกคลั่งรักเมียเลยก็ว่าได้
ไม่ต่างจากพี่ชายของเขาเองก็เหมือนกันภายนอกกลัวจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แต่พอใด้อยู่กับเมียก็ดูเป็นแมวน้อยออกจะคลั่งรักหนักมาก ซึ่งเขาเองก็คิดว่าตัวเองคงจะเป็นแบบนั้น
"(ถ้าแม่จะไปซะอย่างพ่อของลูกก็ขัดขวางอะไรแม่ไม่ได้หรอกนะ เอาล่ะริวหาอะไรกินด้วยนะอย่าทำให้แม่เป็นห่วง)"
"ครับ...เดี๋ยวผมจะให้ฟุโดยกอาหารมาให้ แม่ไม่ต้องห่วง"
"(จ๊ะ...ลูกชาย แค่นี้ก่อนนะลูกแม่ต้องวางแล้ว ต้องไปดูไอโกะซะหน่อยได้ยินว่าเจ้าตัวเล็กดิ้นแรงเลยเมื่อเช้านี้)"
"ครับแม่"
"(ก่อนวางสายแม่จะบอกอะไรให้นะริว สาวไทยสวยๆเยอะนะหาที่ถูกใจสักคนสิ แม่อยากได้ลูกสะใภ้เป็นคนไทยนะ)"
"คงไม่มีหรอกครับแม่ ใครๆก็ต่างกลัวผม"
"(อย่าลืมนะริวที่นั่นเมืองไทยไม่มีใครรู้ว่าลูกเป็นยากูซ่าผู้โหดเหี้ยมหรอก แม่เคยได้ยินว่าไม่ไกลจากเพนท์เฮ้าส์ของลูกมีมหาลัยด้วยนะ ช่วงเย็นออกไปดูสาวๆสิเผื่อจะถูกใจใครสักคน)"
"ไว้ผมจะคิดดูครับแม่"
"(จ๊ะ...แค่นี้ก่อนนะริว)"
"ครับ" สิ้นสุดคำพูดริวก็กดตัดสายก่อนจะวางโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน เลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัยเมื่อเห็นฟุโดมองเขาเหมือนจะพูดอะไร
"มึงมีอะไร?"
"เป็นอย่างที่นายหญิงใหญ่พูดครับ สาวไทยสวยจริงๆ" พูดจบเขาก็ยกยิ้มให้กับผู้เป็นนายไม่ได้กลัวใบหน้าที่เย็นชาของริว เพราะทั้งเขาและฟุโดถูกเลี้ยงควบคู่กันมากับนายน้อยของตระกูลโยชิโอกะ ลับตาลูกน้องพวกเขาก็เหมือนเพื่อนมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง
"มึงแอบฟัง" มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ก่อนที่จะพ่นควันขาวออกมาจากปากและจมูก
"มันได้ยินเองครับ"
"ไร้สาระ ออกไปยกอาหารเช้ามาให้กู"
"ครับ"
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด