“อารักศรัย รักศรัยมากๆ รู้ไหม อาถึงอยากมีลูกกับศรัยหลายๆ คน” “รักมากนะหนูรู้ แต่มันไม่เกี่ยวกันเลยที่ต้องมีลูกหลายคน” “ก็จริงค่ะ ไม่ว่าจะมีลูกมากหรือน้อยหรือไม่มีเลยความรักที่อามีต่อยายหนูของอาก็ไม่ได้ลดลงเลย แต่ที่อยากมีลูกหลายคนเพราะนึกถึงตัวเอง นึกถึงหนู การเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้องอยู่ใกล้ๆ มันเหงาค่ะหรือหนูไม่เหงา” เขาถามในตอนท้าย “ไม่เหงาเลยเพราะอาศิลาอยู่ใกล้หนูตลอดเวลา ถึงตัวจะไกลกันแต่หนูรู้ว่าหัวใจอาศิลาอยู่กับหนู” “รู้ได้ยังไงคะ” “เพราะหนูสวย หนูเก่ง หนูคือศรัย ชัชวาลโชติเด็กหัวแข็งของบ้านไงคะ” “ฮ่าๆ มันเกี่ยวกันได้ยังไงนี่” “หรืออาจะเถียง” หล่อนหันไปจ้องตาเขา ศิลาก้มลงมาจูบแก้มนวลเนียนแล้วพูด “ไม่เถียงครับเพราะหัวใจของอาอยู่กับเด็กหัวแข็งคนนี้มานานแล้วจริงๆ อารักศรัยนะครับ” “หนูก็รักอาศิลาค่ะ”
พรหมลวง
บทนำ
อาคารสองชั้นดูเก่าทรุดโทรมด้วยคราบน้ำฝนเหลืองปนเขียวคล้ำของตะไคร่เกาะผนังภายนอก ต้นไม้ใหญ่ริมหน้าต่างยืนต้นตายทิ้งใบเหี่ยวแห้งกองเต็มพื้นเหลือไว้แต่กิ่งแห้งผุคาต้น เถาวัลย์เหี่ยวเฉาโรยเถาย้อยลงเรี่ยเกลี่ยดิน โคนต้นสุมด้วยใบไม้เหี่ยวแห้งทับถมจนเน่าเปื่อยน่าขยะแขยงหากจะเดินย่ำไป
มองไม่เห็นความเจริญหูเจริญตาจนหญิงสาวเผลอคิดในใจ
‘บ้านคนแน่หรือ’
ทันใดนั้นก็มีเสียงตอบดังขึ้นทันที
“ถ้าหล่อนเป็นคน ที่นี่ก็บ้านคนย่ะ”
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวกับเสียงคุ้นหูแต่น้ำเสียงกระโชกโฮกฮากเหมือนโกรธกันมาสักสิบชาติ แต่ที่แน่ๆ หล่อนมาที่นี่คนเดียว แล้วใครกันที่มาตะคอกใส่
หญิงสาวหันกลับไปช้าๆ ใจสั่นมือเย็นเหงื่อชื้น แล้วเบิกตาโพรงกับเจ้าของคำพูดที่เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ นั่งห้อยขาอยู่บนยอดไม้สูงจนไม่คิดว่าจะมีใครปีนขึ้นไปเล่น เด็กคนนั้นค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและเติบโตเป็นหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนหล่อนราวกับส่องกระจก
“กรี๊ด!”
หญิงสาวลืมตาโพรง ตกใจตื่นกับเสียงกรีดร้องในความฝันที่ยังจำติดตา
นางสาวศรัย ชัชวาลโชติมองหน้ามารดาแทนคำถามว่าแน่ใจหรือ พูดอีกครั้งได้ไหมและพูดจริงๆ หรือนี่ เพราะมัทนาแม่วัยกลางคนของหล่อนบอกในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการกระทำในอดีตที่เคยหลีกหนีมาจากอาณาจักรชัชวาลโชติของผู้เป็นปู่ตั้งแต่หล่อนยังอยู่ในท้องเสียด้วยซ้ำ แม่ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมหอบท้องมาอยู่กับตายายที่ออสเตรเลียทั้งที่พ่อกับแม่ก็ยังรักกันดี พ่อบินมาหาเยี่ยมเยียนพวกเราบ่อยๆ บางครั้งก็พาแม่กับหล่อนกลับไปเยี่ยมปู่กับย่า แต่แม่ไม่เคยพำนักในคฤหาสน์หลังใหญ่ของปู่เลย เราเข้าพักที่โรงแรมแล้วไปหาปู่กับย่าอยู่ปรนนิบัติท่านทั้งสองทั้งวันจนค่ำมืดจึงกลับมานอนที่โรงแรมโดยมีพ่อตามมานอนด้วย
อันที่จริงหล่อนก็เห็นว่าแม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในครอบครัวของพ่อซึ่งประกอบไปด้วย ปู่แสวง ย่าคิ้ม อาศิตาน้องสาวแสนสวยของพ่อกับอามานิตย์สามี ที่อยู่รวมกันในบ้านหลังใหญ่พร้อมด้วยอสิตาลูกสาวที่อายุน้อยกว่าหล่อนหนึ่งปี แบบนี้เรียกว่าลูกอิจฉาก็คงไม่ผิด เพราะอาศิตาอยู่กินกับอามานิตย์ก่อนพ่อกับแม่จะแต่งงานกันเสียด้วยซ้ำแต่ไม่มีลูกเสียที พอแม่มีหล่อนอาศิตาก็มีอสิตา แต่หล่อนกับลูกผู้น้องคนนี้ก็รักใคร่สนิทสนมกันดี
แม้กระทั่งย่าน้อยประยงค์ภรรยารองของปู่หรือที่อาศิตาเรียกว่านังเมียน้อย กับอาศิลาลูกชายคนเล็กที่เกิดจากย่าน้อยซึ่งอายุมากกว่าหล่อนประมาณห้าหกปี ทั้งสองคนพักในตึกเล็กหลังคฤหาสน์ใหญ่ ก็สนิทสนมกันดีกับแม่
ทุกคนต่างเป็นมิตรที่ดียามกลับไปเยี่ยมเยียน หากพ่อบินมาหาพวกเราคนที่ชัชวาลโชติต่างก็ฝากของมาให้สม่ำเสมอ และอาศิลาเองเมื่อครั้งที่มาเรียนต่อก็แวะมาหาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ เรียกได้ว่าสนิทสนมกันมากทีเดียว ขนาดหล่อนโตเป็นสาวแล้วอาศิลายังฝากขนมมาให้เรื่อยๆ จนเมื่อพ่อบินมาหาครั้งล่าสุดก่อนพ่อจะจากไปก็ยังฝากขนมที่หล่อนชอบมามากมาย
เมื่อพ่อเสียชีวิตจากเหตุคาดไม่ถึงทุกอย่างเหมือนจะเปลี่ยนไป พวกเรากลับไปร่วมงานศพพ่อท่ามกลางความห่างเหินของคนในครอบครัว พวกเขามองเหมือนเราทำให้พ่อตายเหมือนแม่เป็นฆาตกรทั้งที่ตอนพ่อทำอัตวินิบาตกรรมนั้นหล่อนกับแม่อยู่ต่างประเทศ ส่วนพ่อก็ยิงตัวตายในห้องทำงานที่โรงงานแปรรูปอาหารทะเลซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวซึ่งปู่แสวงเป็นผู้บุกเบิกและริเริ่ม การกระทำของพ่อไม่มีเค้ารางใดๆ ให้คิดว่าพ่อมีเรื่องอัดอั้นตันใจหรือหาทางออกไม่ได้จนต้องตัดช่องน้อยลาโลกไปตามลำพัง
เมื่อตอนได้รับข่าวร้ายหล่อนแทบช็อกร้องไห้ฟูมฟายกอดอาศิลาที่มาส่งข่าวด้วยตนเองเพราะมาติดต่อการค้าให้ปู่ที่ออสเตรเลียพอดี แต่แม่กลับนิ่งงันไปชั่วครู่ก่อนบอกให้เตรียมตัวเดินทางกลับ แล้วแม่ก็รีบไปบอกตากับยาย ส่วนอาศิลารีบจองตั๋วเครื่องบินให้พวกเรา
งานศพพ่อผ่านไปอย่างอาดูรแต่บรรยากาศในครอบครัวดูห่างเหินแตกแยก และแม่พาพวกเราบินกลับออสเตรเลียทันทีที่เก็บเถ้ากระดูกพ่อไปลอยอังคารเสร็จ จากวันนั้นมาร่วมสองปีแล้วที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมปู่ย่าเลย แต่มาบัดนี้แม่ทำให้หล่อนแปลกใจด้วยการเดินเข้ามาบอกว่าจะย้ายกลับไปอยู่เมืองไทย กลับไปดูแลปู่ย่าและพักในคฤหาสน์ชัชวาลโชติ
“อยากถามแม่ใช่ไหมว่าทำไม” แม่ถามอย่างรู้ใจ ศรัยจึงพยักหน้าพร้อมยิ้มขวยเขินที่ไม่เคยเก็บสีหน้าหรือแววตาได้
“แม่กลับไปดูแลปู่กับย่า ศรัยก็ต้องไปช่วยทำงานที่บริษัท ปู่จะให้ลูกทำงานแทนพ่อ ไหวหรือเปล่า” แม่มีคำถามต่อท้าย
“ทำงานนะไหวอยู่แล้วค่ะ แต่งานที่พ่อเคยทำมีคนอื่นทำแล้วไม่ใช่หรือคะ”
“แต่ปู่บอกให้ลูกกลับไปทำ เพราะศรัยคือทายาทคนเดียวที่จะรับสืบทอดกิจการของชัชวาลโชติ”
“เอ๊ะ! ทำไมปู่พูดแบบนี้ละคะ อาศิตากับอาศิลาก็ยังอยู่”
“ไม่รู้สิ อาจหมายถึงทายาทรุ่นหลานกระมัง”
“รุ่นหลานยังมีอสิอีกคนนะคะแม่”
“แม่ไม่รู้ใจปู่หรอกหนูอย่าถามให้มากเรื่องเลย เตรียมตัวเดินทาง แล้วไปลาคุณตาคุณยายกัน”
“ต้องรีบขนาดนั้นเลยหรือคะ”
“ปู่จองตั๋วเครื่องบินให้แล้ว” แม่บอกแล้วเดินกลับเข้าห้องนอน คงจะเตรียมของเพื่อเดินทางกลับเมืองไทย ซึ่งย่อมไม่เหมือนการกลับไปในช่วงสั้นๆ อย่างที่ผ่านมา
แม้ไม่มีแผ่นดิน หากแต่เรายังไม่สิ้นลมหายใจ ถึงสิ้นชาติหากแต่รักของเรามิได้สิ้นลง บราลี เป็นบอดี้การ์ดมือใหม่ ที่ทำงานพลาดจนถูกไล่ออกจากงาน ในวันเดียวกันนั้น บ้านของเธอก็ถูกไฟไหม้ แม่ถูกไฟคลอกบาดเจ็บ พ่อตกใจจนโรคหัวใจกำเริบ ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก เมื่อเธอจะหันไปพึ่งแฟนหนุ่มที่รักกันมาหลายปี กลับพบเขากำลังคลุกวงในกับผู้ชายอีกคน!! เมื่อชีวิตมันบัดซบขนาดนี้ เธอจึงคิดฆ่าตัวตาย ... และทำจริง!! แต่ไม่ตาย มีคนมาช่วยไว้ ... พอรอดตายก็มีคนยื่นข้อเสนอแปลกประหลาด ... ให้เธอไปเป็นบอดี้การ์ดให้เจ้านาย แลกกับเงินมหาศาล และกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร บราลีกับเพื่อนร่วมงานอีกสองคน ก็ได้ข้ามเวลาย้อนอดีตไปซะแล้ว
เมื่อความรักที่มีมากเหลือล้น ไวกูณฐ์นั้นอยากแต่งงานเสียทันทีที่เดินทางกลับมาจากเรียนต่อ หากแต่ จิรัฐิติกาลกลับกลัวการใช้ชีวิตคู่จึงปฏิเสธไป แต่เพราะอุบัติเหตุที่บังเกิดขึ้นทำให้ไวกูณฐ์ตาบอด จิรัฐิติกาลจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขาในทันทีเพื่อเป็นการรับผิดชอบ เพราะการแต่งงานที่ไม่พร้อมทำให้อุปสรรคแห่งรักนั้นมีมาให้พิสูจน์หัวใจกันเนืองๆ
เจ้าฟ้าหญิงจิรัฐิติกาลในคราบชายหนุ่มดูจะเกษมสำราญเป็นอันมากเมื่อได้ออกมาท่องโลกกว้าง แม้จะไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่บ้างที่มี 'ผู้คุม' เป็นไวกูณฐ์ ชายหนุ่มอ่อนแอ เจ้าหนอนหนังสือใส่แว่นลูกชายองครักษ์คนสนิทของพระบิดา แต่ถ้าไม่ยินยอมร่วมทางไปกับเขา เจ้าพ่อก็คงไม่ปล่อยออกจากกรงทอง เธอจำใจร่วมทางและสร้างความยุ่งยากเป็นภาระใหญ่หลวงให้เขา แต่ในคราเดียวกันความใกล้ชิด ความใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกพิเศษเกิดขึ้นในใจ แต่จะทำอย่างไร เมื่อเธอฝังใจว่าเขาไม่ใช่ "ชายจริง" นิยายภาคต่อของ ลิขิตรักบัลลังก์หัวใจ
เมื่อต้องเสียแผ่นดินจากการช่วงชิงของพระเจ้าอา ทรรศินากัลยามาส เจ้าฟ้าหญิงรัชทายาทแห่งมธุรรัฐจำต้องเสด็จหนีจากแผ่นดินเกิด แฝงกายเข้าไปในสิงขรรัฐ จากที่คิดจะปลอมตัวเป็นนางกำนัล กลับตกกระไดพลอยโจนถวายตัวเป็นสนมของเจ้าหลวงรัฐสิงห์สีหนาทในนามลูกของศัตรู!? รอจนถึงวันทวงบัลลังก์คืน กล้วยไม้ป่าแรกแย้มเพิ่งผลิรับฤดูฝน เจ้าหลวงเอื้อมไปหมายจะเด็ด ก็ถูกพระหัตถ์เล็กๆ ตีเผียะลงบนหลังมือ "ดอกไม้จะสวยงามที่สุดเมื่ออยู่กับต้นเพคะ" ดำรัสขึงขัง "แต่พี่จะเก็บให้เธอ" รับสั่งกลับอ่อนโยน "ท่าจะเด็ดดอกไม้แรกแย้มเสียจนเคย" เจ้าฟ้าหญิงประชดตรงๆ เจ้าหลวงยกพระหัตถ์ในท่าสาบาน "สาบาน ต่อไปพี่จะไม่เด็ดดอกไม้ ไม่ว่าดอกไหน จะรอดอกฟ้าตรงหน้านี้ดอกเดียวเท่านั้น"
เมื่อซากีน่าน้องสาวอันเป็นที่รักถูกฆ่าข่มขืน หลักฐานในมือคือแผ่นเงินฉลุลวดลายสวยงาม ซาห์ราจำได้ทันทีว่าใครเป็นเจ้าของของสิ่งนี้ การตามล้างแค้นจึงเกิดขึ้น ชีคฮาซัน บินญาบิร อัล บุสตานีย์ กลายเป็นเหยื่อความแค้นที่เขาไม่ได้ก่อ ถูกหล่อนทรมานต่างๆ นานาและต้องสูญเสียเมียสาวในคืนวันแต่งงานจากน้ำมือซาห์รา แต่เมื่อความจริงปรากฏว่าใครเป็นฆาตกรที่แท้จริง ซาห์ราจะชดใช้สิ่งที่ทำลงไปให้แก่เขาด้วยชีวิต ตามกฏชีวิตแลกชีวิต แต่ชีคฮาซันกลับต้องการให้หลอนชดใช้ด้วย หัวใจ
เมื่อธิดาองค์น้อยเริ่มเติบโต ชีคกาเบรียนที่อยากให้ลูกรู้จักภาษาของแม่บังเกิดเกล้า จึงมองหาครูสอนภาษาชาวไทย แต่กลับได้ทโมนไพรไปแทน นางสาวกฤติกา หรือแม่ดาวลูกไก่ นอกจากสอนภาษาไทยให้ธิดาองค์น้อยของชีคแล้ว ยังสอนปีนต้นไม้กลายเป็นลิงเป็นค่าง จนพระนมของชีคเอือมระอา ทว่าท่าทางแก่นกะโหลกของดาวลูกไก่กลับจับใจต้องตาชีคกาเบรียนจนกลายเป็นความรัก แต่ปัญหาสงครามแบ่งแยกดินแดนในประเทศยังไม่สงบ เมื่อดาวลูกไก่ถูกจับตัวไปเพื่อต่อรอง แม้พระองค์ไม่อาจยกแผ่นดินเพื่อแลกกับผู้หญิงที่รักได้ แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจเหมือนครั้งที่เสียสนมคนอื่นไป ทรงลอบออกจากวังเพื่อไปช่วยหญิงอันเป็นที่รักด้วยตนเอง
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้