เรื่องราวของมาเฟียหนุ่มผู้จับโจรสาวที่ย่องเข้าบ้านมาทำเมียบำเรอ เขาทั้งดุและโหดหื่น เล่นเอาโจรสาวถึงกับไปไหนไม่ได้ สุดท้ายโจรสาวแสนสวยกับมาเฟียหนุ่มจะลงเอยยังไงเชิญติดตามรับชมกันเลยค่ะ
ปล้นบ้านผิดชีวิตเปลี่ยนแปลง
ตอน โจรสาวกับมาเฟีย
เวลาตีสอง ในเมืองใหญ่ ผู้คนส่วนใหญ่กำลังหลับไหล
พีอาร์สาวอายุยี่สิบต้นๆกำลังเดินออกจากผับเล็กในซอยที่แออัดแห่งหนึ่ง เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งขณะสวมชุดเดรสรัดรูปสีแดงสด
"สืบอยู่เกือบเดือนกว่าจะเจอบ้านไอหมอนั่น"
คนสวยเอ่ยขณะใช้ยางรัดรวบมัดผมตัวเอง เธอหยุดยืนอยู่หน้ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าคาเฟ่ ก้มฉีกชายชุดเดรสของตัวเองให้กลายสภาพเป็นกระโปรงแหวกข้างก่อนจะขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์สีดำแล้วเสียบกุญแจสตาร์ท
วืน! ๆ ๆ มือน้อยบิดรถแล่นฉิวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ผมยาวที่มัดไว้ปลิวไหวไปข้างหลัง
"พี่ไอแน่ใจนะว่าจะปล้นบ้านไอหมอนั่นจริงๆ" เสียงเด็กผู้หญิงดังเข้ามาในสมอทอร์คไร้สายที่เหน็บหูข้างขวา
"อืม แน่สิ" สาวสวยตะเบงเสียงตอบขณะตั้งหน้าตั้งตาขับรถบิ๊กไบค์ไล่ตามหลังรถsuvสีดำ
"ใช่แล้ว พวกเราต้องกินคำโต" เสียงเด็กชายแทรกเข้ามาอีกคน
"ถูกต้อง ถ้าเราปล้นคนจนๆก็ต้องปล้นทุกวัน ถ้าปล้นคนรวยๆเผลอๆทำงานปีละครั้งก็พอ เผลอๆเหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ" ไอตอบน้องๆ
เอี๊ยด! รถsuvแล่นมาจอดหน้าบ้านหรูสี่ชั้นที่มีกำแพงรั้วสูงเกือบสองเมตร มีผู้ชายสูทดำตัวใหญ่สองคนยืนเฝ้าหน้าประตูบ้าน บนหน้าของพวกเขามีรอยแผลเป็นเสียด้วย
สาวเดรสแดงปิดกุญแจ ปล่อยรถไหลลงเนินมาจอดซ่อนอยู่ในพุ่มหญ้าไกลๆ จากนั้นถลกชายเดรสจนเห็นขาอ่อน ใช้มือล้วงกล้องส่องอินฟาเรดที่เหน็บไว้ตรงขาขวา ขาซ้ายก็มึสายรัดและมีดเสียบอยู่เช่นกัน
อืม! "ทำไมดึกแล้วยังมึคน บ้านนี้มันดูแปลกๆนะ" ไอเอ่ย
"แสดงว่าต้องรวยมากเลยสิท่า" เสียงเด็กชายพูดสาย
"เดี๋ยวดูให้" เด็กหญิงพูดแทรก จู่ๆก็มึโดรนบังคับบินมาอยู่เหนือหัวสาวสวยแล้วจู่ๆก็พุ่งตรงขึ้นในแนวดิ่งจนสูงลับตา
"โอ้โห เป็นกองทัพ" เด็กหญิงร้องอุทาน
"แล้วเข้าไปได้ไหม" ไอเอ่ย
"ไม่ได้ มีคนเดินเต็มบ้าน หลังประตูสอง หน้าบ้านอีกสอง หลังบ้านสอง ด้านซ้ายและขวาอีกฝั่งละสอง" เด็กสาวตอบ
"สิบพอดี งั้นเอายังงี้ ใช้กลยุทธ์โจมตีโต้รุ่ง" เด็กชายเอ่ย
"มันคือแบบใด" พี่สาวคนสวยถาม
"ก็รอไปก่อนถึงตีสี่ เวลานั้นทุกคนจะง่วง มันคือเวลาที่จอมทัพใช้โจมตีข้าศึกไง ตำราพิชัยสงคราม"
"พอ ๆ หยุด ๆ เข้าใจแล้ว โอเค ตีสี่นะ" พี่สาวเอ่ยตัดบท
"เอาแห้งหรือน้ำ" น้องสาวถาม
"แห้ง ไม่เผ็ดนะ" พี่สาวตอบ
ฟ้าว! โดรนบังคับวิทยุบินผ่านหัวสาวสวยไปด้วยความเร็วสูง ราวๆสิบนาทีมันก็บินกลับมาพร้อมบะหมีถ้วยสำเร็จรูปในถุงหิ้ว
ไอนั่งพิงโคนต้นไม้กินบะหมี่แห้งร้อนๆจนอิ่ม นั่งเล่นเกมส์ยิงปืนกับน้องชายและน้องสาวในมือถือจนถึงตีสี่
"น่าจะเข้าไปได้แล้วนะ" เด็กชายเอ่ยผ่านสายโทรศัทพ์มือถือ
"บินดูแล้ว พวกนั้นหงายเก๋ง ไม่มีใครยืนซักคน เข้าไปข้างในแล้วระวังตัวด้วย อยู่ในนั้นช่วยมองอะไรไม่ได้แล้ว" เด็กหญิงตอบขณะบังคับโดรนบินกลับบ้าน
ตุบ! ๆ ๆ สาวชุดแดงวิ่งปรี่มาประชิดรั้วบ้านก่อนจะกระโดดสูงชูมือจับขอบรั้วที่สูงเกือบสองเมตร จากนั้นดึงตัวห้อยโหนขึ้นไปยืนบนขอบรั้วอย่างน่าหวาดเสียว
แฮ่ก! ๆ ๆ "วิชาเก่ายังได้ผล" ไอเอ่ยขณะนึกถึงตอนที่เธอเรียนวิทยาลัยพละ สมัยเป็นตัวแทนเยาวชนกีฬากระโดดสูง
เธอหันหลังกลับเข้าทางบ้านก่อนจะห้อยโหนขอบรั้ว พยายามหย่อนเท้าลงมาให้ต่ำที่สุดแล้วปล่อยตัวร่วงลงข้างล่าง
ตุ๊บ! เสียงร่างเพรียวบางกระทบพื้นหญ้าก่อนจะกลิ้งมาหลบตรงพุ่มดอกไม้อย่างชำนิชำนาญ
เมื่อมองซ้ายขวาไม่เห็นใครแล้วจึงย่องตัวท่ามกลางความมืดมาทางหน้าต่างแล้วก็ใช้มีดสั้นที่เหน็บสายรัดขางัดหน้าต่างจนเปิด
"ฮิ! ใช้คนเยอะก็จริง แต่น่าเสียดายที่มีแต่คนโง่ๆ" โจรสาวเอ่ยขณะปีนหน้าต่างเข้ามาในบ้าน
เธออ้าปากค้างเมื่ออยู่ตรงห้องนั่งเล่น ในนี้มีตู้โชว์ที่เก็บของโบราณเอาไว้มากมาย มีทั้งเครื่องกระเบื้อง ชุดเกราะและปืนคาบศิลา แต่ละอันมันเก่าแก่จนตีราคาไม่ออกเลย
"เอาอะไรดีนะ ช่วยคิดหน่อยสิ" โจรสาวเอ่ยขณะเดินผ่านตู้โชว์สูงท่วมหัวและชายตามองของมีค่าต่างๆนานา
"ทำไมเงียบ" สาวสวยเอ่ย พอยกมือทาบหูก็เพิ่งรู้ว่าสมอลทอร์คหลุดร่วงไปเสียแล้ว
เห็นสร้อยหยกอันหนึ่งเด่นสง่าอยู่กลางห้อง มันดึงดูดสายตาราวกับมีแรงแม่เหล็กให้ย่างเข้าไปหา
"สวยจัง" ไอเอ่ยขณะยกมือลูบสร้อยหยกอันใหญ่ มันทำด้วยหยกเขียวหลายชิ้นที่รวมกันเป็นรูปหงส์ ดูหรูหราและเก่าแก่คล้ายๆกับสร้อยไทเฮาอะไรเทือกนั้น
มือน้อยดึงสร้อยหยกขึ้นจากแท่นวางเอามาทาบคอ
ตี๊ด! ๆ ๆ ๆ จู่ๆเสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังขึ้น ฟังดูคล้ายๆเสียงระเบิดเวลาที่นับถอยหลัง
หนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคายสีแทนย่างกรายเข้ามายืนด้านหลังสาวเดรสแดง ว่องไวราวกับเงาของปีศาจ
"นี่เธอ" เสียงดุๆดังอยู่ข้างหลัง
ห๊ะ! โจรสาวเหลียวหลังมาแหงนมองหนุ่มตัวสูง
เปรี้ยง! ด้ามปืนสั้นทุบเข้ามาตรงหน้าผากโจรสาวพอดี ตาพร่ามัวในพลันใด ไอรู้สึกเลยว่าโลกกำลังหมุนๆรอบตัวเธออยู่
และแล้วภาพสุดท้ายที่เห็นก็คือใบหน้าถมึงทึงของหนุ่มหล่อผิวแทน ก่อนจะร่วงลงมานอนหงายแผ่หราอยู่บนพื้นอันแข็งและเย็นเฉียบ
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
นางเอกเปิดสำนักไถ่บาป สร้างลัทธิหลอกลวงผู้คนให้บริจาคเงิน แถมยังใช้ร่างกายที่สวยและสาวยั่วยวนเหล่าคนรวยบ้าตัญหาจนยอมเปย์ให้ทุกอย่าง นอกเหนือจากนั้นยังยั่วสวาทเหล่าหนุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ให้มาเป็นสมุนรับใช้งานต่างๆ เพื่อแลกกับการได้สัมผัสกับร่างกายอันไร้ที่ติของศาสดาสาว
กระต่ายถูกเก็บมาเลี้ยงในตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทว่าเธอกลับพลาดพลั้งไปมีอะไรกับพี่ชาย พอน้องเห็นเข้าก็แบล็คเมล์เธออีก ไปๆมาๆก็โดนคุณปู่ด้วยอีกคน ในไม่ช้าก็คงไม่พ้นพ่อเลี้ยง สรุปแล้วผู้ชายทั้งบ้านโดนเด็กสาวคนเดียวที่เก็บมาเลี้ยงกินตับจนหมด เธออยากได้อะไรก็ต้องให้ เธออยากไปไหนก็ต้องตามใจ เพราะทุกคนต่างก็คลั่งรักเด็กสาวที่ทั้งสวยและสดใส
นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"