โกนัมจุนคือคนดีที่ตายแล้วได้เกิดเป็นยมฑูต มีหน้าที่สังหารคนเลวที่ถึงคราวต้องตายเพื่อเอาวิญญาณมันไปลงโทษในนรก และรับวิญญาณคนดีที่เสียชีวิตเพื่อส่งขึ้นสวรรค์ เขามีพี่เลี้ยงยมฑูตรุ่นพี่ชื่อเด็กหญิงจีวอน เธอเป็นเด็กแปดขวบมาร้อยปีแล้วและไม่โตขึ้นอีกเลย
ยมทูตก๊องแก๊ง
ตอน มีรุ่นพี่เป็นเด็กอายุ100ปี
สายลมเย็นเฉียบพัดผ่านร่างของโกนัมจุน เขายืนงงงวยอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าเหนือศีรษะไม่ใช่สีฟ้าสดใสอย่างที่คุ้นเคย แต่เป็นสีม่วงอ่อนระยิบระยับคล้ายมีละอองดาวโปรยปรายอยู่ทั่ว เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่มิใช่ชุดทำงานสูทผูกไทที่เขาใส่เป็นประจำ แต่เป็นชุดฮันบกสีขาวบริสุทธิ์เนื้อนุ่มละเอียด สัมผัสได้ถึงความเบาสบายอย่างประหลาด
"ที่นี่มันที่ไหนกัน?" นัมจุนพึมพำกับตัวเอง ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือภาพรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งฝ่าสัญญาณไฟแดงเข้ามา จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบ
"ที่นี่คือ 'ทุ่งพักวิญญาณ' น่ะสิ เจ้าหนุ่ม"
เสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากด้านหลัง นัมจุนหันขวับไปมอง ร่างเล็กจ้อยของเด็กหญิงในชุดฮันบกสีชมพูหวานแหววยืนกอดอกมองเขาอยู่ ดวงตากลมโตสีนิลเป็นประกายวิบวับ ผมยาวสลวยสีดำขลับถูกรวบเป็นเปียสองข้างประดับด้วยปิ่นดอกไม้เล็กๆ ดูแล้วอายุไม่น่าเกินแปดขวบ
"หนูเป็นใครน่ะ แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉัน..." นัมจุนยังพูดไม่ทันจบ เด็กหญิงก็พูดแทรกขึ้น
"ข้าชื่อจีวอน เป็นยมทูตระดับอาวุโส และเป็นพี่เลี้ยงของเจ้ายังไงล่ะ โกนัมจุน" เธอยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้ม "ยินดีต้อนรับสู่ชีวิตหลังความตาย และการเริ่มต้นใหม่ในฐานะยมทูตฝึกหัด!"
นัมจุนอ้าปากค้าง "ยม ยมทูต หมายความว่าฉันตายแล้วเหรอ บ้าน่ะอีหนู?"
"เออสิ ไม่ตายแล้วจะมาเดินเล่นในทุ่งพักวิญญาณได้ยังไงล่ะ" จีวอนทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
"ไม่ต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีขนาดนั้นก็ได้น่า ถึงเจ้าจะกลายเป็นผีไปแล้วก็เถอะ แต่เป็นผีมีเกียรตินะจะบอกให้"
"แต่ว่า ฉันยังไม่อยากตายเลยนะ ยังมีอะไรต้องทำอีกตั้งเยอะ" นัมจุนรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพังทลาย เขาเป็นคนดีมาตลอดชีวิต ทำบุญใส่บาตร ช่วยเหลือคนแก่ข้ามถนน ไม่เคยเบียดเบียนใคร ทำไมสวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้งเขานัก
จีวอนถอนหายใจยาว "ฟังนะนัมจุน การตายไม่ใช่จุดจบเสมอไปหรอก โดยเฉพาะสำหรับคนดีอย่างเจ้า"
เธอกระโดดขึ้นไปนั่งบนก้อนหินใหญ่ใกล้ๆ แล้วตบแปะๆ ที่ว่างข้างตัวเป็นเชิงเรียกให้นัมจุนนั่งลง
"ด้วยคุณงามความดีที่เจ้าสะสมมาตอนมีชีวิต ท่านพญายมเลยเมตตาให้เจ้าได้มาเป็นยมทูต มีหน้าที่สำคัญสองอย่าง"
นัมจุนค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เด็กหญิง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ลอยมาแตะจมูก "หน้าที่อะไรเหรอ"
"อย่างแรก คือการไปรับวิญญาณคนดีที่หมดอายุขัย เพื่อนำทางพวกเขาไปสู่สวรรค์" จีวอนชี้ไปยังปลายทุ่งดอกไม้ที่ดูเหมือนจะมีแสงสีทองส่องประกายอยู่รำไร
"ส่วนอย่างที่สองคือการไป 'เก็บ' วิญญาณคนชั่วที่ถึงฆาต เพื่อลากคอมันลงไปรับโทษในนรกภูมิ" เด็กหญิงทำเสียงเข้มขึ้น ดวงตาเป็นประกายอย่างมุ่งมั่น
"เก็บวิญญาณคนชั่ว หมายถึง ฆ่าพวกมันเหรอ?" นัมจุนเบิกตากว้าง เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไรแบบนี้
"จะเรียกว่าสังหารก็ได้ หรือจะเรียกว่าปลดปล่อยโลกจากภาระก็ไม่ผิด" จีวอนยักไหล่
"พวกมันทำเลวมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องชดใช้กรรมซะบ้าง อีกอย่างเจ้าจะมีอาวุธประจำกาย ไม่ต้องห่วงว่าจะสู้มือเปล่า"
ทันใดนั้นเอง ที่เอวของนัมจุนก็ปรากฏดาบเล่มยาวสีเงินวาววับขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ฝักดาบทำจากไม้สีดำสนิทแกะสลักลวดลายเมฆไหลอย่างงดงาม ด้ามจับพันด้วยไหมสีแดงสด เมื่อลองชักดาบออกมา ใบดาบก็ส่องประกายเย็นเยียบ มีอักขระโบราณสลักอยู่บนนั้น มันเบามืออย่างไม่น่าเชื่อ แต่กลับรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่แฝงอยู่
"ว้าว ตายแล้วเป็นแบบนี้ก็ไม่เลวว่ะ" นัมจุนอุทานออกมาเบาๆ เขาลองควงดาบไปมาสองสามครั้ง รู้สึกคล่องแคล่วราวกับเคยใช้มันมานานนับปี ด้วยอำนาจของร่างกายทิพย์
"นั่นคือ 'ดาบพิพากษา' อาวุธคู่กายของยมทูตทุกคน" จีวอนอธิบาย
"มันจะปรากฏขึ้นเมื่อเจ้าพร้อม และจะเปลี่ยนรูปร่างไปตามความถนัดของแต่ละคน ของข้าเป็นเคียวอันใหญ่ยักษ์เท่กว่าของเจ้าเยอะ"
เด็กหญิงพูดพลางเสกเคียวสีดำทมิฬด้ามยาวออกมาอวด มันยาวเกือบสองเมตรดูน่าเกรงขามเกินกว่าที่เด็กตัวเล็กๆ เช่นเธอจะถือไหว
นัมจุนมองดาบในมือสลับกับมองใบหน้าไร้เดียงสาแต่แฝงไว้ด้วยความเก๋าของจีวอน "แล้ว... ผมต้องทำยังไงต่อคุณ เอ่อหนูจีวอน?"
"เรียกพี่จีวอนสิยะ!" เด็กหญิงทำตาเขียวปั๊ด "ถึงตัวข้าจะเล็ก แต่ข้าเป็นยมทูตมาร้อยกว่าปีแล้วนะยะ เป็นรุ่นพี่ของเจ้าหลายขุม"
"เออ ๆ ขอโทษครับ พี่จีวอน" นัมจุนรีบแก้ไขคำพูด
"เอาล่ะ ตามข้ามา" จีวอนกระโดดลงจากก้อนหิน ชุดฮันบกสีชมพูของเธอพลิ้วไหวตามการเคลื่อนไหว "ได้เวลาไปดูสถานที่ทำงานใหม่ของเจ้า และทำความรู้จักกับกฎระเบียบต่างๆ ของยมโลกแล้วล่ะ เจ้าหนูยมทูตฝึกหัด"
โกนัมจุนสูดหายใจเข้าลึก มองดาบพิพากษาในมืออีกครั้ง ถึงแม้จะยังสับสนและใจหายกับการตายของตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกถึงความท้าทายและความรับผิดชอบใหม่ที่กำลังรออยู่ บางที การเป็นยมทูตก็อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้กระมัง
เขาก้าวตามร่างเล็กของจีวอนไป ทุ่งดอกไม้สีขาวเริ่มเลือนหาย กลายเป็นทางเดินหินขรุขระที่ทอดยาวเข้าไปในอุโมงค์มืดทะมึน จีวอนพาเขาไปย้งนรกภูมิ พาดูคนชั่วที่ถูกทำโทษต่างๆตามขุมนรกแต่ละขุมก่อนจะนำมายังห้องสมุดที่อยู่ในถ้ำ โยนหนังสือคู่มือการเป็นยมทูตให้หนุ่มหล่ออ่าน เขาจำได้เพียงว่านั่งอ่านอยู่ตรงนั้นจนลืมวันลืมคืน ไม่รู้สึกหิวหรืออ่อนแรงลงเลยแม้แต่น้อย...
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
รวมเรื่องสวิงกิ้งจากสาวๆและสามีหลายๆท่าน มีหลายตอน หลายเหตุการณ์ สัมผัสถึงรสชาติสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ นอกกายแต่ไม่นอกใจ
เรื่องราวของนดา สาวสวยทายาทตระกูลดังที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เธอมีความทรงจำในอดีตที่ยากเกินจะลืมเลือน ชอบการหลับนอนกับคนที่ไม่รู้จักแม้ชื่อ ยินยอมให้ชายที่ไม่ใช่สามีมอบความซาดิสม์และรุนแรงให้กับตัวเอง สามีก็ดันเป็นใจหาผู้ชายเถื่อนๆมาให้เธออีกด้วย
รวมเรื่องเล่าประสบการณ์แอบมีชู้ นอกใจคนรัก ร้อนแรง ผิดบาป ncทุกตอน มีหลายเรื่องราว
เรื่องราวของเอมิ ภรรยาสาวสวยของหนุ่มออฟฟิศที่เปิดร้านกาแฟเล็กๆอยู่หน้าบ้าน วันนึงเธอเกิดใจอ่อนกำสารวัตรหนุ่มที่เข้ามาจีบ ยิ่งสามีเย็นชากับเธอยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ลับของเธอกับชายชู้ประทุขึ้นจนหยุดความใคร่เอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"