ในเมื่ออยากได้ไตของเขาเธอต้องเอาตัวเข้าแลกเท่านั้น! "ฉันไม่มีเงิน จะให้ทำอะไรก็ได้ช่วยพ่อฉันด้วยนะคะ" "เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ก็แค่..คุณมานอนกับผมแค่ครั้งเดียวก็น่าจะเกินพอ เพราะผมไม่ชอบกินของอะไรซ้ำ ๆ"
แสนรักอยู่ในชุดซาฟารีสีเข้มจากทีมอาสากู้ภัยทางภาคใต้ ปักชื่อแซ่พร้อมสรรพนั่งมองนักท่องราตรีสาว ๆ ที่แต่งตัวด้วยชุดสั้นเสมอหูจากรถกู้ภัยคันเก่าและแก่ ทางตอนหน้าด้วย แววตาเหนื่อยหน่าย ถ้าไม่ใช่เพราะพวกนางแต่งตัวกันมาเพื่อยั่วยวนกวนกิเลสแบบนี้ คิดว่าสังคมคงไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่มักจะเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันแน่ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าไม่มีพวกหล่อน อาสาอย่างพวกเธอก็คงจะตกงานเช่นกัน หรือถ้าจะให้เรียกแบบหยาบ ๆ ก็ไม่มีจะแดกจากค่าหัวคิวนั่นแหละ
พยาบาลสาวที่วันนี้มาในคราบอาสากู้ภัยกระตุกมุมปากคล้ายแสยะเล็กน้อยให้กับโชคชะตาของตัวเอง จนอมยิ้มที่อยู่ในปากเกือบหลุด ถ้าโชคดีวันนี้มีเหตุด่วนฉุกเฉินมากกว่าสามราย เธออาจได้ค่าน้ำร้อนน้ำชาจากผู้ประสบภัยหรือไม่ก็ได้จากรพ.ที่นำเคสไปส่งให้ ชื่อขึ้นว่าทำเพื่อการกุศล แต่เบื้องลึกเบื้องหลัง สลับซับซ้อน การกินนอกกินใน กินเส้นไม่กินเส้นกันระหว่างกลุ่มอาสาฯ และแก่งแย่งคนไข้กันระหว่างรพ. เรื่องราวมีเยอะแยะจนน่าปวดหัว ช่างปะไร เธอเป็นมนุษย์หาเงินตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน๊อต ใครจะสนความถูกผิด ขอแค่คุ้มค่าเหนื่อยที่อุตส่าห์เอาวันหยุดมารับจ๊อบพิเศษแทนเพื่อนก็เพียงพอแล้ว
จากหัวค่ำจนถึงตอนนี้เจอเคสไม่หนักหนา แค่รถเฉี่ยวชนกันเล็กน้อย ไม่ถึงกับสมองไหล แขนหัก ต้องเข้าผ่าตัดด่วน สองเคสก่อนหน้าสบายชิลล์กันไป พอได้ค่าขนมเก็บสะสมเป็นค่ารักษาพยาบาลให้พ่อที่นอนรอรับความช่วยเหลือด้วยโรคภาวะไตวายเรื้อรังในห้องไอซียู
กริ๊งงงง เสียงเตือนจากโทรศัพท์มือถือรุ่นกลางเก่ากลางใหม่หากมันก็ยังใช้ได้ดี คุ้มค่าและราคาที่ซื้อมาแพงแสนแพงในความรู้สึกตอนนั้น
"เฮ๊ย! ไอ้แสน ว่างหรือยัง ส่งเคสเรียบร้อยแล้วใช่ป่ะ"ปราโมทย์เพื่อนอาสาฯที่ยกโอทีวันนี้ให้เธอเพราะเมียกำลังอยู่ในห้องคลอด รอปากมดลูกเปิดอยู่ คุณพ่อมือใหม่ตื่นเต้นจนไม่รู้จะทำตัวยังไง โทรมาหาเธอทุกสิบนาที จนน่าหงุดหงิด
"เพิ่งส่งไปเมื่อ สิบนาทีที่แล้ว ตอนนี้มานั่งเฝ้าชะนีนุ่งสั้นเสมอหูหน้าผับอยู่" แสนรักพูดกับโทรศัพท์น้ำเสียงเนือย ๆ
"เอ้อ! เมื่อกี้พยาบาลบอก.."
"กี่เซนต์? ปากมดลูกเปิดกี่เซนต์แล้ว!"เธอพูดสวนกลับเพื่อนทันควัน ทั้งที่ไอ้เพื่อนรักพูดไม่ทันจบคำดีด้วยซ้ำ
"มึงรู้ได้ไง ว่ากูจะพูดอะไร"
"กูรู้เพราะมึงรายงาน กูทุกสิบนาที อยู่นี่ไง"ปกติเธอไม่ค่อยนิยมใช้คำไม่สุภาพนักหรอก แต่กับไอ้เพื่อนคนนี้ขอเว้นมันคนหนึ่งก็แล้วกัน
"กูตื่นเต้นนี่มึง"
"มึงก็เก็บอาการหน่อยดิวะ กูเป็นพยาบาลห้องฉุกเฉินนะเว้ย ไม่ใช่พยาบาลห้องคลอด หรือมึงจะให้กูออกเวรตอนนี้ ไปอยู่ให้มึงหายตื่นเต้นตรงหน้าเลยดีไหม"แสนรักตะคอกผ่านโทรศัพท์ กรอกหูไอ้เพื่อนสนิทด้วยความเดือดดาล
"เอ้อ! อย่าให้ถึงคราวมึงคลอดลูก กูจะคอยดูหนังหน้าผัวมึงว่าจะทำตัวยังไงคอยดู แค่นี้แหละ ไอ้เพื่อนไม่รัก"
"ไอ้! ยั้ยยย" ไอ้เพื่อนบ้ามันพูดอวยพรทิ้งท้ายเสียจนเธอขนลุกซู่ ท้องกะผีอ่ะสิไอ้บ้า!
ปึง ปึง!!
"เฮ๊ย!" โทรศัพท์ในมือเกือบหลุด เมื่อได้ยินเสียงทุบหนัก ๆ จากตัวรถด้านนอก
"เปิดประตู!"แสนรักเหลือบสายตาไปมองตามเสียงเข้มดุจากคนที่ทุบกระจกรถฝั่งคนขับที่เธอนั่งอยู่ หากมองจากมุมนี้กลับเห็นใบหน้านั้นไม่ชัดนัก
"ไอ้บ้าที่ไหนกันวะ รนหาที่ตายหรือยังไงกัน จะมาปล้นกู้ภัยเนี่ยนะ สิ้นคิดไปหรือเปล่าพวก"พยาบาลสาวที่ขึ้นชื่อว่าขาโหด เปิดประตูผลัวะใส่ไอ้โจรตาถั่วอย่างตั้งใจ
"อุ๊บ!"และนั่นก็ได้ผล เมื่อมุมประตูปะทะจุดยุทธศาสตร์ของมันอย่างถนัดถนี่เลยทีเดียว ร่างสูงหนาของหมอนั่นถึงกับเสียหลักนั่งคุกเข่าลงไปกุมเป้าตัวเอง คงเจ็บปวดน่าดูล่ะสิท่า..
"เล่นกับใครไม่เล่นไอ้หนู แม่จะเสยด้วยปลายเท้าเป็นของแถมให้ก็แล้วกัน"สายป่านก้าวขาเข้าไปยืนตรงหน้าร่างที่คุดคู้ของไอ้โจรกระจอกหมายจะหวดให้เต็มข้อเสียหน่อย
"ช่วยผม! อยากได้อะไรผมให้คุณได้หมด" เสียงเข้มปนหอบเหนื่อยคล้ายร่างนั้นกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่าง ทำให้พยาบาลสาวหยุดฝีเท้าที่กำลังทำท่าเหวี่ยงใส่เป้าหมายชะงักไว้ได้ทัน แต่ที่ฉุดไม่ให้ปลายเท้าที่สวมด้วยรองเท้าผ้าใบยี่ห้อคอนเวิร์สของแท้ ไว้ได้นั่นก็คือธนบัตรสีทองปึกหนึ่งถูกชูหราขึ้นมาตรงหน้าต่างหากเล่า
"นะ..นายเอาเงินพวกนี้มาจากไหน"ยอมรับว่าใจเธออ่อนยวบไปแล้วตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นเงินนั่น แต่จิตใต้สำนึกอันดีงามของเธอยังอุตส่าห์เปล่งคำถามแบบผู้ดีออกไป
"อย่ามากเรื่อง จะเอาหรือไม่เอา"
"เฮ๊ย! จะใจร้อนไปไหนเฮีย อุ๊บ!"หมอนั่นกระโจนเข้าหาร่างของพยาบาลสาวทันที ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่ได้ตั้งตัว ใช้ร่างกายที่สูงใหญ่กว่าโถมทับร่างเล็กจ้อยให้ล้มลงไปในเบาะรถที่เธอเผลอเปิดประตูทิ้งไว้ พร้อมกับมือหยาบหนาโปะทับมาทั้งใบหน้าของแสนรักจนแทบหายใจหายคอไม่ออก
"เฮ๊ย! แม่งมันหายไปไหนเร็วนักวะ กูเห็นหลังไว ๆ วิ่งมาทางนี้นี่หว่า"
"ก็เออดิวะ เ..ี๊ยเอ๊ย!"
"อ๊วย..อ๊วย!"แสนรักได้ยินเสียงชายวัยฉกรรจ์สองคนวิ่งมาบริเวณที่เธออยู่ จึงร้องเสียงอู้อี้ผ่านมือหนาแม้ไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นจะได้ยินเธอหรือไม่ก็ตาม
"ชู่ว์..เงียบไว้ ห้ามส่งเสียง"
"แอ..อะ..อำ..อะ..ไอ.." ฉายาพยาบาลสาวขาโหดไม่ได้มาง่าย ๆ หญิงสาวร่างเล็กหลับหูหลับตาทั้งถีบทั้งดัน ไม่รู้เป้าหมายว่าโดนอะไรไปบ้าง
"บอกให้เงียบยังไงเล่า พูดไม่ฟังเลยใช่ไหมฮึ!"
แม่บอดี้การ์ดสาวจอมเปิ่นจำหน้าหล่อๆของเขาไม่ได้ เบ้าหน้าฟ้าประทานอย่างแดเนียลเฉินนักร้องชื่อดังก้องโลกถูกยัยเด็กนั่นเมินใส่!คอยดูเถอะเขาจะจับเธอให้มาหลงรักจนหัวปักปำเลยคอยดู
นาธานผู้ชายหล่อ ..รวย.. ล่ำ ..น่าปล้ำ..มาทำสามีแห่งชาติ แต่ไหงกลับคลั่งรักสาวไทยหน้าตาบ้านๆ อย่างนางสาวธารใสเอามากๆ หากเจ้าหล่อนกลับชอบถีบหัวส่งเขาตลอดเวลาที่เข้าใกล้มันเพราะอะไรกันเล่า !!!
จะทำอย่างไรดี กับหัวใจดวงน้อย ๆ ของนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ซึ่งเพื่อน ๆ ชอบเรียกว่า “ จอมจุ้น” ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่ดั๊น..ไปตกหลุมรักชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ ซึ่งเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนรักเพื่อนเลิฟของหล่อนเอง ล้อมดาว ก้องกังวาลไกล เข้าจังเบ้อเริ่ม ในงานวันเกิดเพื่อนรัก เพียงแค่แวบเดียวที่ได้เจอหน้าเขาหล่อนก็เผลอพูดออกมาด้วยฤทธิ์กามเทพ หรือเพราะฤทธิ์น้ำส้มก็ไม่รู้ และไม่อาจเดาได้ ถึงได้โพล่งวาจาราวกับจะสาบานกับเบื้องบน “ อยากใช้นามสกุลเดียวกับพี่ชายตัวจังเลยล้อม” และจะด้วยฤทธิ์คำขอส่ง ๆของเธอคงไปถึงหูท่านคิวปิด เลยให้เธอได้เข้าไปทำงานเป็นเบ้ในบริษัทของเขา จับพลัดจับผลู ได้เลื่อนขั้นเป็นถึงเลขาของเจ้านายสุดหล่อ แต่..ความหวังอันเลือนรางของหล่อนจะเป็นจริงขึ้นมาได้อย่างไรล่ะ ก็เจ้านายเธอน่ะสิเจอหน้ากันทีไรเป็นต้องทำหน้ายักษ์ใส่ อย่างกับโกรธกันมาสักร้อยชาติ ทำอะไรก็มีแต่จะคอยส่งสายตาดุ ๆ มาให้อย่างอย่างนั้น แถมยังโดนว่าสารพัดทำอะไรก็ดูเหมือนจะผิดไปหมด เฮ้อ! ชักจะเริ่มท้อแล้วสิ จอมขวัญเพิ่งคิดได้ว่าคนระดับสูงแบบเขาคงไม่มีทางมามองพนักงานธรรมดา ๆ อย่างหล่อนหรอกช่วงหลัง ๆ จึงพยายามที่อยู่ห่าง ๆ จากเจ้านายจอมเฮี้ยบเสีย เพื่อเก็บหัวใจตัวเองไว้ให้รอดปลอดภัยจากคำว่าอกหัก! มัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกล ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หล่อเหลาเอาการแถมยังอิมพอร์ตมาจากเมืองนอก ด้วยมาดนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ก้าวเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัวแทนบิดา ทำให้วงการธุรกิจด้านการโรงแรมและรีสอร์ท ต่างก็ตื่นตัวกับฝีไม้ลายมือ บวกกับความสุขุมรอบคอบ เอาจริงเอาจังกับงานอย่างเขา เป็นที่น่าจับตามองจากคู่แข่งเป็นอย่างมากการงานไปได้สวย แต่เรื่องหัวใจเขากลับไม่มีใครที่จะสามารถทำให้หัวใจอันแข็งแกร่งของเขาหวั่นไหวได้ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ทำงานมา ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะให้ความสนิทสนมกับเพศตรงข้ามเลย ไม่ใช่เพราะว่าเข็ดขยาดเรื่องความรักแต่อย่างใด เพียงแต่เขาต้องการทุ่มเทให้กับงานมากที่สุดเท่าที่มีกำลังจะทำได้ กอปรกับภาระหน้าที่อันหนักหน่วง ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาไปกุ๊กกิ๊กกับใคร จนมาพบกับสาวน้อยหน้าตาสดใส ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้ให้ความสนสนใจอะไรหล่อนมากมายนักหรอก หากพอนานเข้า เขากลับเป็นคนหลงเจ้าหล่อนจนหัวปักหัวปำ แทบถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว แต่ไหงสาวเจ้ากลับมีท่าทีไม่สนในเขา อย่าหวังว่าจะหนีเขาพ้น คนอย่างนายมาร์คลองได้รักแล้วไม่มีวันไม่ปล่อยหล่อนไปง่าย ๆ แน่ "อย่ามายั่วให้รัก แล้วจากไปแบบนี้ ผมไม่ยอมแน่ "
เขา:คัทซึฮิโกะ ฮิโรยูกิ นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น พ่อค้าอัญมณีเพชรพลอยที่มีมูลค่ามากมายมหาศาล เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยบ่อย จนแทบจะนับได้ว่าเป็นบ้านเกิดของเขาอีกที่หนึ่ง จุดประสงค์หลักที่ทำให้เขาต้องเดินทางมาที่เมืองไทย ไม่ได้เพียงเพื่อนำสินค้ามาแสดงเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อตามหาแหวนเพชรอันล้ำค่าทางใจของท่านปู่ของเขา และแล้ว..โชคชะตาก็นำพาให้เขาได้พบของสิ่งนั้นจนได้..แต่น่าแปลกที่ของมีค่าราคาแพงขนาดนั้นกลับตกอยู่ในมือของผู้หญิงไทยตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง หล่อนเป็นใคร? และเกี่ยวข้องอะไรกับแหวนวงนั้น? ที่สำคัญหล่อนได้มันมายังไง? หรือว่า..หล่อนขโมยมันมา.. ไม่ได้การล่ะเขาจะต้องเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมาเพื่อพิสูจน์หาความจริงให้จงได้ เธอ:น้ำริน ฤทธิ์รณชัย พยาบาลสาวหน้าใส ที่โดนข้อหาว่าเป็นขโมยแหวนเพชรมูลค่าราคาหลายล้านบาท จากนายหน้าหล่อที่เจอกันบนเครื่องบิน แถมเขายังลักพาตัวหล่อนไปที่ญี่ปุ่นด้วย อะไรกันเนี่ย?! ฉันไม่ได้ขโมยของ ๆ คุณมานะ มีคนให้ฉันมาเอง!..
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"