"วันดับนางริษยา" นิยายแนวสยองขวัญกระตุกประสาทที่จะมาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ มาร่วมค้นหาบทสรุปในนิยายเล่มนี้กันค่ะ
คฤหาสน์มอนอฟอยด์
“กรี๊ด” เสียงหวีดร้องแหลมสูงของใครบางคนหวีดเสียงลั่นห้องหับโอ่โถง
“นังนุ่นนังผู้หญิงแพศยา” อัญมณีกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
มือหยาบกร้านภายใต้ถุงมือสีดำแสนสวยฉวยหยิบมีดด้ามคมกรีดไปยังรูปถ่ายงานแต่งงานสายฟ้าฟาดของหลานชายเป็นทางยาว
ทว่านั่นยังไม่สาแก่ใจของอัญมณี คุณอาสาวหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดภาพระหว่างนรีกุลและนัฐธวีร์จนขาดวิ่นไปทันที
แต่ไหนแต่ไรมาอัญมณีไม่เคยเกลียดและชิงชังผู้หญิงคนไหนเท่านังนรีกุลนี่มาก่อน เพราะนังหญิงแพศยานั้นคนเทียวที่ทำให้นัฐธวีร์หลานชายที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
อัญมณีแอบรักหลานชายนอกไส้อย่างนัฐธวีร์มาตลอดเวลา จนกระทั่งเขาเลือกที่จะเดินออกมาจากอ้อมอกของผู้เป็นมารดา และกรพจน์ พี่ชายของอัญมณีไปนอนกกผู้หญิงเชื้อสายจีนอย่างนรีกุลทำให้อัญมณียิ่งทวีความเกลียดชังในตัวของหญิงสาวมากกว่าเดิม
เพราะหล่อนเชื่ออย่างสุดใจว่าผู้หญิงอย่างนรีกุลจะหาดีอะไรได้ นอกเสียจากจะมีเงินมีทองให้หลานนอกไส้ผลาญเล่นก็เท่านั้นเอง
“แอนหล่อนจับตามองนังนุ่นไว้ให้ดี ฉันเชื่อว่านังนุ่นมันจะต้องกลับมาอีกแน่ อีมารหัวใจของฉัน…อีนรีกุล” อัญมณีคำรามเล็ดลอดไรฟัน
“เจ้าค่ะคุณอา” แอนรับคำแล้วจึงเดินออกมาทิ้งให้อัญมณียืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว
ก็ใครเล่าจะไปโง่อยู่ในสภาวะที่ ‘คุณอาอัญมณี’ เกรี้ยวกราดเช่นนี้ได้
อัญมณีตบโต๊ะฉาดใหญ่ส่งเสียงดังลั่น แววตาของหล่อนเวลานี้ดุร้ายคล้ายกับเดรัจฉานก็ไม่ปาน
“อีนรีกุล…แกอย่าหวังเลยว่าแกจะมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป” อัญมณีรำพึงกับตนเองด้วยแรงโทสะที่ยากเกินจะยับยั้งได้
ห้องนอนของคฤหาสน์ฝั่งปีกด้านขวา
“แหมวีร์คะ” นรีกุลล่าวขึ้นขณะกำลังหยอกล้อเล่นกันกับนัฐธวีร์อย่างมีความสุข
“ไม่ต้องมาพูดเลย เมื่อวานผมเป็นห่วงคุณแทบแย่” ชายหนุ่มแสร้งทำเมินหล่อนเสียดื้อ ๆ
มือเรียวของนรีกุลที่กำลังจับแก้มชายคนรักหยุดชะงัก ขณะมองเรียวปากบางของชายหนุ่มยังคงขยับต่อ
“นุ่น…คุณไม่ได้ลงมาชิมอาหารสูตรใหม่ของคุณอาอัญมณี นุ่นคุณรู้ไหมว่าอาหารพวกนี้อร่อยมาก ๆ แค่ไหน” นัฐธวีร์ไม่พูดเปล่าเขายกมือจับแก้มของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา
ลมหายใจของหญิงสาวกระตุก ในยามที่ชายคนรักเอ่ยขึ้นเรื่องนี้ขึ้นมา หากนัฐธวีร์ยังคงเล่าต่ออย่างสนุกปากสนุกคำ
สามีของหล่อนไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยว่าหญิงคนรักเริ่มรู้สึกคลื่นไส้อย่างไรชอบกล ๆ เขายังคงบรรยายถึงอาหารมื้อค่ำต่อไป…
“วีร์คะ…นุ่นมีอะไรบางอย่างอยากจะบอกวีร์ค่ะ” นรีกุลกล่าวขึ้นขณะสบสายตาจริงจังของนัฐธวีร์ที่มองมา
“นุ่นว่าอาหารของคุณอาไม่อร่อยเลยค่ะ” นรีกุลกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ สีหน้าของหล่อนดูไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก
แม้ว่านรีกุลอยากจะบอกความจริงกับชายหนุ่มมากเพียงใด หากแต่หล่อนไม่มีหลักฐานไม่มากพอที่จะเปิดโปงความชั่วร้ายของคุณอาอัญมณีได้เลย
หล่อนจำต้อง ‘กลืน’ ความรู้สึกที่อยากบอกเรื่องราวมากมายในคฤหาสน์กับเขาลงไป ก่อนที่นัฐธวีร์จะมองว่าเธออาจจะป่วยเป็นโรคทางระบบประสาทเสีย
“วีร์ค่ะ” นรีกุลเอ่ยขึ้นแล้วมองมาทางใบหน้าของนัฐธวีร์ด้วยนัยน์ตาจริงจัง
“ครับนุ่น” นัฐธวีร์กล่าวพลางทอดมองใบหน้าสวยของหญิงสาว ที่เวลานี้มีหยดน้ำเกาะพราวบริเวณริมฝีปากอวบอิ่ม
“นุ่นว่า…”
“ปากเลอะครับนุ่น” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือหนาของเขาเขี่ยบริเวณริมฝีปากของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
เจ้าหล่อนรู้สึกร้อนที่ใบหน้าผะผ่าวขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงหน้าของนรีกุลแดงระเรื่อ ริมฝีปากสวยขยับเอ่ยบางสิ่งบางอย่างออกมา
“นุ่นว่าที่นี่มีอะไรแปลก ๆ ค่ะ” ในที่สุดนรีกุลก็กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
คิ้วเข้มของชายหนุ่มขมวดมุ่นเข้าหากันเป็นปมใหญ่ เรียวปากหยักเอ่ยถาม
“แปลกยังไงเหรอครับ” ชายคนรักถามเสียงเข้มขณะจ้องมองใบหน้าหญิงสาวอย่างเริ่มมีโทสะ
“วีร์คะนุ่นยอมรับนะคะว่านุ่นรู้สึกแปลก ๆ กับกับคฤหาสน์มอนอฟอยด์ ที่นี่ทำให้นุ่นรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนคฤหาสน์ผีสิงอย่างไรก็ไม่รู้ค่ะ” พูดจบเจ้าหล่อนเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น
“นุ่น” นัฐธวีร์เอ่ยเรียกชื่อของหล่อนด้วยน้ำเสียงดัง เขาย่นหัวคิ้วเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่า…เขาไม่รู้สึกว่าคฤหาสน์แห่งนี้กำลังแอบซ่อนอะไรไว้ แต่ทว่าหาก ‘คุณอาอัญมณี’ มาได้ยินเรื่องนี้คงไม่ดีต่อศรีภรรยาของเขาเป็นแน่
แต่จะทำอย่างไรได้เล่า…นัฐธวีร์เองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ชายหนุ่มสบสายตาภรรยาด้วยแววตาจริงจัง แล้วเปิดปากออกมาว่า
“นุ่นจะคิดอย่างนั้นก็ได้นะ…ถ้านุ่นคิดว่าที่นี่ไม่เหมาะกับนุ่น ผมจะพานุ่นกลับไปส่งที่บ้านเก่าเหมือนเดิม” นัฐธวีร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม
หญิงสาวมีสีหน้าเผื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด หล่อนมองชายหนุ่มคนรักอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
“ไม่ค่ะ…นุ่นไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ นุ่นจะอยู่ที่นี่ต่อไปค่ะวีร์” เจ้าหล่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า
ความหวาดหวั่นแล่นเข้าสู่ขั้วหัวใจ หล่อนนึกไว้แล้วไม่มีผิดว่าการณ์จะต้องเป็นเช่นนี้ นรีกุลส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“ก็ได้ครับนุ่น แต่อย่าพูดอย่างนี้อีกผมไม่ชอบ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจจนนรีกุลรู้สึกได้
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เจ้าหล่อนได้เห็นดวงตาแข็งกระด้างไร้ซึ่งความปรานีเช่นนี้ กระนั้นนรีกุลยังไม่ละความพยายาม
“วีร์คะ…ถ้านุ่นพิสูจน์ได้ล่ะคะว่าที่นี่มีอะไรบางอย่างแอบซ่อนไว้ วีร์จะเชื่อใจนุ่นได้ไหมคะ” นรีกุลกล่าวเสียงอ่อนเบา
“ถ้าคุณจะพิสูจน์ก็ได้นะนุ่น…แต่ตอนนี้ผมไม่อยากได้ยินเรื่องของคฤหาสน์ผีสิงที่มอนอฟอยด์แห่งนี้อีก คฤหาสน์หลังนี้เป็นสถานที่ที่ผมรักมาก ผมหวังว่าคุณคงจะเข้าใจผมบ้างนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกนั่งบนเตียง
“ก็ได้ค่ะวีร์ นุ่นจะไม่พูดเรื่องนี้อีก” หญิงสาวรับปากคนรักหนุ่ม
“ตกลงนุ่น…งั้นผมจะถือว่าผมไม่ได้พูดเรื่องนี้กับนุ่นแล้วกันนะ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันกว่าเดิม
เสียงโทรศัพท์มือถือของคนรักหนุ่มดังขึ้น นัฐธวีร์สวมรองเท้าแตะแล้วเดินเลี่ยงออกมาคุย ทิ้งให้นรีกุลที่นอนอยู่บนเตียงมองไปทางเขาอย่างไม่สบายใจ
“ฮัลโหลครับ” นัฐธวีร์กรอกเสียงลงไปตามปลายสายที่โทรเข้ามา
“อะไรนะครับ”
เจ้าหล่อนมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อในเสียงที่ก้องในโสตประสาท เธอเข้าใจมาตลอดว่านัฐธวีร์รักเธอมากจนถึงขั้นยอมแต่งงานอยู่กินกับเธอ เธอมั่นใจว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไปไหน
หากแต่คำพูดและท่าทีเมื่อครู่ของนัฐธวีร์บอกหญิงสาวได้ว่า จากนี้ไปหล่อนควรจะทำตัวเช่นไร
หยาดน้ำใสไหลคลอเบ้าตา หล่อนเงยหน้าขึ้นหวังจะกลั้นไม่ให้น้ำตา ‘ร่วง’ ลงมาอาบแก้มสองข้าง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีสิ่งใด ‘รั้ง’ มันไว้ได้
เวลานี้หญิงสาวรู้สึกคล้ายกับว่าเจ้าหล่อนเหมือนคนกำลังจะขาดอากาศหายใจในน้ำ และไม่สามารถเรียกร้องให้ใครช่วยได้อีก
‘อาการน้ำท่วมปากเป็นแบบนี้นี้เอง’
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างเชื่องช้า เป็นตายร้ายดีอย่างไรหล่อนก็จะไม่ไปจากคฤหาสน์ผีสิงนี้เด็ดขาด หากนัฐธวีร์อยู่ได้ นรีกุลก็อยู่ได้เช่นกัน!
+++
นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า
พจน์ศรัช โคฟาวเดอร์ หนุ่มที่ได้โคจรมาพบกับธาสิกา คู่หมั้นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เรื่องราวชุลมุนยิ่งขึ้นเมื่อคู่หมั้นคนก่อนเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาในสถานอโคจรที่เขาต้องมีเอี่ยวไปด้วย งานนี้ธาสิกาจึงต้องลงมือสืบสาวเรื่องราวด้วยตัวเอง งานแต่งยังคงดำเนินต่อไป และใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของยศรินทรา แฝดพี่ของธาสิกา ไม่รู้ว่าจะเรียกพรหมลิขิตเขียนไว้หรือจะเป็นบาปเวรแต่ชาติปางไหน...เมื่อหัวใจรักของเขาทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
“เพ่ยอินเหยาข้านี่แหละยอดขุนพลสตรี เล่ม 1” นิยายรักจีนโบราณสายบู๊และบุ๋น ‘อินตูตู’ ขุนพลสตรีผู้มีศักดิ์เป็นแม่ทัพคุมค่ายพลทหารชาวฉินเพื่อออกรบในสมรภูมิทีเดิมพันด้วยชีวิตอย่างแคว้นฉี หากการมาแคว้นฉีไม่ได้มีเพียงแค่สงครามระหว่างแคว้นเท่านั้น ทว่าการมาครั้งนี้ของนางมาเพื่อแก้ปมปริศนาสตรีที่หายไปในแคว้นฉินด้วยต่างหาก สงครามระหว่างแคว้นฉินและฉีจะจบลงเช่นไร แล้วใครกันเป็นผู้บงการเกมที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!
"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า
กรี๊ด” พราวนภาหวีดร้องสุดเสียงยามเมื่อเรือนร่างอรชรกำลังเสียหลัก พราวนภาหลับตาลงด้วยความหวาดกลัว “คุณครับ...เป็นอะไรไหมครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เวลานี้พราวนภากำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ธนพรั้งเอวอรชรมาใกล้ตัว พราวนภาลืมตาโพลง แม่ม่ายสาวใหญ่สังเกตเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายระยับ คิ้วเข้มจนเน้นให้ใบหน้าหล่อดูคมคาย ดวงหน้าคมคายอยู่ใกล้ใบหน้านวลผ่องแค่คืบ พราวนภาสัมผัสได้ถึงหัวใจของตนเองที่เต้นระรัว “ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้นขณะยืนตัวตรง ม่ายสาวจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยกว่าเดิม “ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” พราวนภาเอ่ยขณะสบสายตาชวนหวามใจของชายหนุ่มตรงหน้า “ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้นขณะลอบมองใบหน้าของสตรีตรงหน้าที่เว้นระยะห่างออกมา “ฉันสายแล้วยังไงก็ขอบคุณคุณมากค่ะ” พราวนภาเอ่ยขณะก้มเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือของตนเอง “ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างสุภาพ หญิงสาวเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว หากแต่ธนพยังยืนอยู่ที่เดิม เหตุการณ์เมื่อครู่อดทำให้ใจของเขาสั่นระรัวไม่ได้ ดวงหน้านวลผ่องหมดจดไร้ไฝฝ้าทำให้เขาคาดคะเนไม่ถูกว่า สตรีคนนั้นมีอายุเท่าใดกันแน่ ++++ พราวนภาร้องครางเสียงหลงยามเมื่อมือหนาของธนูเอื้อมมาใกล้กับกระโปรงของเธอ ธนูถลกกระโปรงของพราวนภาขึ้นแล้วบรรจงใช้นิ้วเรียวสอดไปในช่องทางสวรรค์ นิ้วมือเรียวของธนูดั้นเข้าไปอย่างซุกซน พราวนภาสัมผัสได้ราวกับตนกำลังโผผินบินได้ดั่งใจหมาย พราวนภาครวญกระชั้นยามเมื่อธนูขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แววตาคู่นั้นเบิกกว้างกว่าเดิม ยามเมื่อริมฝีปากบางบดขยี้จูบอย่างรุนแรง หญิงสาวรู้สึกราวกับนกผกผินได้ เมื่ออารมณ์ของเธอเตลิดจนกู่ไม่กลับ
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง