พจน์ศรัช โคฟาวเดอร์ หนุ่มที่ได้โคจรมาพบกับธาสิกา คู่หมั้นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เรื่องราวชุลมุนยิ่งขึ้นเมื่อคู่หมั้นคนก่อนเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาในสถานอโคจรที่เขาต้องมีเอี่ยวไปด้วย งานนี้ธาสิกาจึงต้องลงมือสืบสาวเรื่องราวด้วยตัวเอง งานแต่งยังคงดำเนินต่อไป และใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของยศรินทรา แฝดพี่ของธาสิกา ไม่รู้ว่าจะเรียกพรหมลิขิตเขียนไว้หรือจะเป็นบาปเวรแต่ชาติปางไหน...เมื่อหัวใจรักของเขาทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
เวลา 17.00 น.
ลิฟต์แก้วของโรงแรมหรู ‘ท็อปฟอร์เอฟเวอร์’ ไต่ระดับขึ้นจากล่างสุดไปจนถึงชั้นสิบห้า
ร่างสูงเงยหน้ามองไปยังตัวเลขดิจิทัลที่แสดงบนหน้าปัดบอกเวลาเล็ก
ไม่นานนักประตูลิฟต์พลันเปิดขึ้นตามด้วยร่างโปร่งก้าวเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
งานสัมมนาโรงแรมหรูระดับห้าดาว ท็อปฟอร์เอฟเวอร์
แชนเดอเลียส่องประกายวาววับจับตาถูกแขวนไว้บนเพดานลายสวยของดอกกุหลาบพันปีเกี่ยวกระหวัดกับเถาวัลย์เครือใหญ่ที่คุณมาร์กจิตรกรมากฝีมือบรรจงวาดเอาไว้
แขกเหรื่อในงานนี้ล้วนเป็นนักธุรกิจพันล้าน พจน์ศรัชมองเหล่านักธุรกิจซีอีโอสาวที่แต่งตัวในลุคทำงานอย่างตื่นเต้น…ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเสียที
สายตาคู่คมกวาดตามองกลุ่มนักผู้ประกอบการสุภาพบุรุษ พวกเขาสวมชุดสูทจากห้องเสื้อเกรดดีทับกับเชิ้ตราคาแพงที่พจน์ศรัชคาดว่า ดูแล้วน่าจะอิมพอร์ตมาจากเมืองนอกพากันเดินเข้างานอย่างพร้อมเพรียง
บริกรของโรงแรมเริ่มทยอยเตรียมของว่างและเครื่องดื่มใส่ถาดสแตนเลสชุบสีทองให้ผู้เข้าร่วมงาน
ทันทีที่พจน์ศรัชสังเกตเห็นบริกรเริ่มเดินเสิร์ฟน้ำ มือหนาของเขารีบกดรับสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาทันที…ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องประชุมอีกห้องอย่างรวดเร็ว
เสียงปลายสายถามขึ้นอย่างเกรี้ยวกราดจนพจน์ ศรัชที่เอาหน้าแนบลงกับโทรศัพท์สมาร์ตโฟนต้องสะดุ้งโหยง
“ตาพัชมาหรือยังพจน์ศรัช” ปลายสายถามขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเสียเต็มประดา
“ผมคิดว่าตอนนี้คุณพัชกำลังมาครับ”
“ถ้าคุณพัชไม่มาโทรตามฉัน”
“ครับ...คุณผู้หญิง” ชายหนุ่มในวัยยี่สิบเก้าปีเอ่ยขึ้นพลางกดวางสายโทรศัพท์ลงในทันที
พจน์ศรัชสาวเท้าออกไปจากห้อง ในหัวของชายหนุ่มครุ่นคิดถึงคำพูด ‘คุณผู้หญิงจิตรา’ อย่างไม่สบอารมณ์มากนัก
เขายืนสงบสติอารมณ์อยู่เพียงชั่วครู่ แต่แล้วพจน์ศรัชพลันได้ยินเสียงเรียกของหญิงสาวคนหนึ่งดังมาจากข้างหลัง
ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มหันไปตามเสียงเรียกของสตรีตรงหน้า
“ขอโทษนะคะ ห้องน้ำไปทางไหนคะ” เสียงหวานดังมาจากหญิงร่างเล็ก
ดวงตาคู่สีดำสนิทภายใต้แว่นกันแดดสีชาลอบมอง ‘ผู้ถามทาง’ อย่างจับสังเกต
คนตรงหน้ามีรูปร่างผอมบาง หล่อนสวมเดรสสั้นสีครีมอ่อนมีระบายตรงปกเสื้อ ชุดที่เธอสวมใส่มีป้าย GUUZZI ติดอยู่ที่ด้านหลัง
แบรนด์กูดสิเป็นร้านห้องเสื้อที่โด่งดังจากเมืองน้ำหอม อาภรณ์ใส่อยู่บ่งบอกถึงฐานะของเจ้าตัวว่ามั่งคั่งเพียงใด
ดวงตาของสาวปริศนากลมโตสุกใสราวกับหยาดน้ำค้างยามอรุณรุ่ง เรียวปากอวบอิ่มได้รูปแต้มสีชมพูระเรื่อชวนให้หลงใหลอยู่ไม่น้อย
“อ้อ ห้องน้ำไปทางขวาครับ” พจน์ศรัชหันไปเอ่ยกับหญิงสาวคนนั้นอย่างสุภาพ แล้วผายมือออกทางด้านขวา
ธาสิกาลอบมองอากัปกิริยาของชายหนุ่มตรงหน้อย่างงุนงง
ภาพที่อยู่ด้านหน้าเจ้าหล่อนเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง เขาสวมแว่นกันแดดสีชา ชายคนนี้สวมสูทสีขาวสะอาดตา ธาสิกาอดรู้สึกไม่ได้ว่าเธออาจเคยพบกับชายผู้นี้มาก่อน
ธาสิการีบสะบัดไล่ความคิดยุ่งเหยิงในหัวของเธอออกอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากของหล่อนขยับเพียงเล็กน้อย
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณชายหนุ่มวัยกลางคนตรงหน้า ดวงหน้าหวานของธาสิการะบายรอยยิ้มกว้าง
“ไม่เป็นไรครับ” พจน์ศรัชกล่าวอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ชายหนุ่มหันมองไปทางอื่นราวกับว่าเขากำลังสนใจบางสิ่งที่อยู่ด้านนอก
‘หญิงคนเมื่อครู่’ หายไปแล้ว ทว่าพจน์ศรัชยังคงได้กลิ่นหอมอ่อนเบาคล้ายดอกมะลิโชยมาแตะจมูกอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
ชายหนุ่มคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาเคยเจอหญิงสาวที่ไหนมาก่อน หากแต่นึกเท่าไหร่ พจน์ศรัชก็ยังนึกไม่ออก
“กริ๊ง” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งดึงสติชายหนุ่มออกจากภวังค์
มือเรียวดึงโทรศัพท์เจ้าปัญหาออกจากกระเป๋ากางเกงออกอย่างรวดเร็ว
พจน์ศรัชมองเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอมือถือรุ่นล่าสุดแล้วถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ นิ้วเรียวกดสไลด์หน้าจอปัดขึ้นทันที
“ศรัช...วันนี้ฉันไม่ไปแล้วนะ นายขึ้นพูดแทนได้เลย” ปลายสายบอกด้วยน้ำเสียงเริงร่า
ทันทีที่แฝดน้องได้ยินเสียงอันคุ้นหูของแฝดพี่ คิ้วดำของพจน์ศรัชขมวดเป็นปมขึ้นมาทันที
“หมายความว่าอย่างไรครับคุณพัช ตอนนี้คุณพัช อยู่ที่ไหนเหรอครับ” พจน์ศรัชพยายามเอ่ยถามอย่างควบคุมสติตนเอง เขาเค้นหาความจริงจาก ‘แฝดผู้พี่’ ด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“เออน่า...ฉันให้นายขึ้นพูดแทนแล้วกันนะแฝดน้อง” คนปลายสายตอบมาอย่างไม่ยี่หระ ท้ายประโยคคล้ายกับอีกฝ่ายกลั้วเสียงหัวเราะหึ ๆในลำคอ
“ครับ” พจน์ศรัชเอ่ยขึ้นอย่างยอมรับจำนนในโชคชะตาของเขา ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้ถามต่อ หูเจ้ากรรมพลันได้ยินบางอย่าง
“พี่พัชขา” เสียงหวานแหลมมีจริตเล็ดลอดเข้ามาในสายโทรศัพท์ ก่อนที่ปลายสายจะตัดลงอย่างรวดเร็ว
“เวร” พจน์ศรัชสบถขึ้นอย่างอารมณ์เสียถึงที่สุด
หุ้นส่วนหนุ่มกรอกตาบนอย่างเบื่อหน่าย…
นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่กันที่แฝดพี่ปัดความรับผิดชอบเรื่องงานใน HK กรุ๊ปแล้วปล่อยให้พจน์ศรัชเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวทุกครั้งไป
“คุณพัชนะ เฮ้อ” พจน์ศรัชเอ่ยอย่างแผ่วเบากับตนเอง เขาพ่นลมหายใจอย่างกลัดกลุ้มกับการกระทำแฝดพี่และคุณจิตราแม่เลี้ยงที่ชอบบงการชีวิตพวกเขา
ทว่าความคิดชายหนุ่มต้องหยุดลงเพียงเท่านั้นเมื่อเลขานุการประจำบริษัทเดินเข้ามาหาด้วยทีท่ากระหืดกระหอบ
“เป็นอย่างไรบ้างครับคุณพจน์ศรัช ติดต่อคุณพัชได้ไหมครับ” เสียงเข้มของพนักงานหนุ่มที่จัดคิวอีเว้นท์ร้องถามเขา
“ไม่ได้ แต่นักธุรกิจหน้าใหม่ ๆ มาร่วมงานกันเยอะแล้วใช่ไหม” พจน์ศรัชถามพนักงาน HK กรุ๊ปอย่างสุภาพ เขารีบซ่อนโทรศัพท์ด้านหลังจนมิดชิดเพื่อกัน ‘คนจัดคิว’ เห็น
“ใช่ครับ ผู้ลงทะเบียนมากันครบจำนวนที่แจ้งแล้วครับ” เลขาหนุ่มตอบคำถามพจน์ศรัช พลางมองสีหน้าของเจ้านายหนุ่มอย่างวิตก
“ถ้าอย่างนั้น คุณพจน์ศรัชขึ้นบรรยายแทนคุณพัชได้ไหมครับ”
พจน์ศรัชมองผ่านแว่นกันแดดสีชาอย่างลังเลเล็กน้อย แต่ในเวลาเชานนี้เขาไม่มีทางเลือกอีกต่อไป
“ครับ” พูดจบเขาก็รีบจัดเสื้อสูทให้เรียบร้อยแล้วเดินนำเข้างานประจำปีไป
+++
นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า
“เพ่ยอินเหยาข้านี่แหละยอดขุนพลสตรี เล่ม 1” นิยายรักจีนโบราณสายบู๊และบุ๋น ‘อินตูตู’ ขุนพลสตรีผู้มีศักดิ์เป็นแม่ทัพคุมค่ายพลทหารชาวฉินเพื่อออกรบในสมรภูมิทีเดิมพันด้วยชีวิตอย่างแคว้นฉี หากการมาแคว้นฉีไม่ได้มีเพียงแค่สงครามระหว่างแคว้นเท่านั้น ทว่าการมาครั้งนี้ของนางมาเพื่อแก้ปมปริศนาสตรีที่หายไปในแคว้นฉินด้วยต่างหาก สงครามระหว่างแคว้นฉินและฉีจะจบลงเช่นไร แล้วใครกันเป็นผู้บงการเกมที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!
"วันดับนางริษยา" นิยายแนวสยองขวัญกระตุกประสาทที่จะมาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ มาร่วมค้นหาบทสรุปในนิยายเล่มนี้กันค่ะ
"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า
กรี๊ด” พราวนภาหวีดร้องสุดเสียงยามเมื่อเรือนร่างอรชรกำลังเสียหลัก พราวนภาหลับตาลงด้วยความหวาดกลัว “คุณครับ...เป็นอะไรไหมครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เวลานี้พราวนภากำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ธนพรั้งเอวอรชรมาใกล้ตัว พราวนภาลืมตาโพลง แม่ม่ายสาวใหญ่สังเกตเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายระยับ คิ้วเข้มจนเน้นให้ใบหน้าหล่อดูคมคาย ดวงหน้าคมคายอยู่ใกล้ใบหน้านวลผ่องแค่คืบ พราวนภาสัมผัสได้ถึงหัวใจของตนเองที่เต้นระรัว “ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้นขณะยืนตัวตรง ม่ายสาวจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยกว่าเดิม “ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” พราวนภาเอ่ยขณะสบสายตาชวนหวามใจของชายหนุ่มตรงหน้า “ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้นขณะลอบมองใบหน้าของสตรีตรงหน้าที่เว้นระยะห่างออกมา “ฉันสายแล้วยังไงก็ขอบคุณคุณมากค่ะ” พราวนภาเอ่ยขณะก้มเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือของตนเอง “ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างสุภาพ หญิงสาวเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว หากแต่ธนพยังยืนอยู่ที่เดิม เหตุการณ์เมื่อครู่อดทำให้ใจของเขาสั่นระรัวไม่ได้ ดวงหน้านวลผ่องหมดจดไร้ไฝฝ้าทำให้เขาคาดคะเนไม่ถูกว่า สตรีคนนั้นมีอายุเท่าใดกันแน่ ++++ พราวนภาร้องครางเสียงหลงยามเมื่อมือหนาของธนูเอื้อมมาใกล้กับกระโปรงของเธอ ธนูถลกกระโปรงของพราวนภาขึ้นแล้วบรรจงใช้นิ้วเรียวสอดไปในช่องทางสวรรค์ นิ้วมือเรียวของธนูดั้นเข้าไปอย่างซุกซน พราวนภาสัมผัสได้ราวกับตนกำลังโผผินบินได้ดั่งใจหมาย พราวนภาครวญกระชั้นยามเมื่อธนูขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แววตาคู่นั้นเบิกกว้างกว่าเดิม ยามเมื่อริมฝีปากบางบดขยี้จูบอย่างรุนแรง หญิงสาวรู้สึกราวกับนกผกผินได้ เมื่ออารมณ์ของเธอเตลิดจนกู่ไม่กลับ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี