เธอเป็นแค่เหยื่อของแม่เลี้ยงขี้อิจฉา และวางแผนกำจัดเธอให้ออกไปจากชีวิต แล้ววันหนึ่งยายแม่เลี้ยงก็ทำสำเร็จ เมื่อเธอถูกมอมยาและนำตัวไปขายซ่อง เขาเป็นเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย แต่เธอกลับคิดว่า เขาคือคนที่คิดทำลายและทำร้ายเธอ เขาเพียงเห็นเธอในครั้งแรก หัวใจของเขาก็เต้นแรง และยิ่งใกล้ชิดเธอมากเท่าใด เขาก็ประจักษ์แก่ใจว่า เขาอยากจะเป็นคนดูแลและคุ้มครองเธอไปตลอดชีวิต ต้องกราบขออภัยหากชื่อกับนามสกุลไปพ้องกับใคร และชื่อสถานที่ต่าง ๆ เป็นเพียงการสมมุติขึ้นมาเท่านั้นค่ะ คุณธิดาขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อุดหนุนผลงานของคุณธิดามาโดยตลอด เป็นกำลังใจที่มากล้นจนไม่อาจละจากงานเขียน คุณธิดาพยายามปั่นผลงานใหม่ ๆ ออกมาสู่สายตาของทุกท่านแบบตั้งใจ หวังว่าคงจะสนุกกับเรื่อง กรงรักร้อนภรรยาคนเถื่อนนะคะ เป็นอีกเรื่องที่อยากให้คุณได้อ่านค่ะ คำโปรย “คุณมันเป็นคนร้ายใช่ไหม คุณกล้าดียังไงถึงทำกับฉันแบบนี้” มยุรดามุ่งเข้ามาทำร้ายเขา และทุบตีอินทนิลยกใหญ่ “ไปกันใหญ่แล้วคุณ ผมเป็นคนช่วยคุณนะ” เขาหวากใส่หน้าของเธอเช่นกัน อินทนิลพยายามปกป้องตัวเอง เขารวบมือและแขนของเธอเอาไว้ แล้วกอดรัดร่างที่มุ่งจะทำร้ายเขาให้สงบนิ่งลง “หลักฐานอยู่ทนโท่ว่าคุณเป็นผู้ร้ายลักพาตัว คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอยังลั่นปากพูดในสิ่งที่อยากพูด รู้ทั้งรู้ว่าเสียเปรียบ และเธออยู่ในฐานะที่ไม่สามารถสู้เขาได้ด้วยซ้ำไป “จะเล่ายังไงดีนะ” อินทนิลพูดคุยกับเธอตลอดตอนที่เธอไม่ได้สติ ตอนนี้ร่างเล็ก ๆ และนุ่มนิ่มของมยุรดาอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอนั่งอยู่บนตักของร่างใหญ่ ลำแขนของเขาพาดกอดรัดรวบหน้าอกหน้าใจ ปลายคางแหลม ๆ ของเขาจรดวางอยู่ที่ต้นคอของเธอ ในหัวใจของมยุรดาเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่เคยมีชายใดได้เข้ามาใกล้เธอแบบนี้ นอกจากคุณพ่อเท่านั้น อินทนิลขยับตัวให้ตัวเองนั่งดี ๆ และไม่มีทีท่าจะปล่อยหญิงสาว “อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันกลัวแล้ว ฉันขอร้องล่ะ” เธอพูดกับเขาอย่างแผ่วเบา รับรู้ได้ถึงลมหายใจของชายหนุ่มที่เป่ารดอยู่ข้างแก้ม เขาถอนหายใจดังเฮือก เหมือนที่คุณหมอสุชาดาบอกว่า ระวังจะโดนผู้หญิงคนนี้เข้าใจผิด แล้วตอนนี้เธอก็กำลังเข้าใจเขาผิดอยู่จริง ๆ “อย่าทำอะไรฉันนะ” น้ำเสียงสั่นเครือ อินทนิลรู้สึกสงสารเธอจับใจ ไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าบอกเธออย่างไร เพื่อลบล้างในสิ่งที่เธอคิด
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2532
พันวาวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาแพรทอง เขาทิ้งตัวลงไปนั่งใกล้
“พี่มีเรื่องอะไรหรือ ถึงให้คนไปตามฉัน” เขาถามออกมาด้วยอาการที่เหนื่อยหอบ
แพรทองที่นั่งชันเข่าอยู่บนแคร่หันมาทางน้องชาย
“ข้าเบื่อ ข้าเบื่อมาก” น้ำเสียงและสีหน้าของเธอดูเบื่อหน่ายจริง ๆ
“เบื่อเรื่องอะไรกันอีกล่ะพี่ พี่แพรก็อยู่ดีมีสุขในบ้านของพ่อเลี้ยงหาร”
“เอ็งไม่มาเป็นข้า เอ็งจะรู้อะไร” หน้าตาออกแนวคนพาล
“อ้าวพี่ พี่มีอะไร พี่ก็เล่าให้ผมฟังสิ”
พี่สาวหันมานั่งจับเข่าคุยกันกับพันวา แววตาดูจริงจัง
“ไอ้พัน เอ็งรักข้าจริงเหรอ”
“โถพี่ก็ถามแปลก ๆ เราสองคนเป็นพี่น้องท้องเดียวกันนะ แล้วตอนนี้เราก็เหลือกันแค่นี้ จะไม่ให้ผมรักพี่ได้ยังไง พี่แพรเลี้ยงดูผมตั้งแต่พ่อแม่ของเราเสียไป พี่ส่งผมให้เรียนจนได้ทำงานทำการดี ๆ”
“เออ เอ็งคิดอย่างนี้ก็ดีแล้ว ไม่ได้อยากจะทวงบุญคุณกับเอ็งหรอกนะ”
“แล้วพี่มีเรื่องไม่สบายใจอะไรล่ะ ถึงได้หน้าบูดเป็นตูดเป็ดแบบนี้” พันวาถามด้วยความเป็นห่วง เขารักแพรทองพี่สาวที่ห่างกับเขาถึงเกือบสิบปีจริง ๆ
แพรทองก็ยังนั่งถอนใจแบบคนที่คิดมาเยอะแล้ว
“ครั้งนี้มันเรื่องอะไรเงินหรือพี่ พ่อเลี้ยงหารไม่ให้เงินพี่ใช้หรือไง”
“ไม่ใช่เรื่องเงิน พ่อเลี้ยงไม่เคยไม่ให้เงินข้า แต่ที่คิด ข้าคิดถึงอนาคตต่างหาก”
“อนาคต พี่อยู่กับพ่อเลี้ยงหาร พี่ก็ไม่ต้องห่วงอนาคตอะไรอีกแล้ว”
“หึ เอ็งนะมันโง่ ข้าก็แก่ขึ้นทุกวัน จะให้สาวสวยเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ วันไหนไม่รู้พ่อเลี้ยงอาจจะเฉดหัวข้า”
“ไม่มีทางหรอกมั้ง พี่คิดดูสิ ตั้งแต่เมียพ่อเลี้ยงตาย แกก็มีแต่พี่เพียงคนเดียว ไม่เห็นพ่อเลี้ยงมีคนอื่น”
“นั่นมันก็จริง ถึงพ่อเลี้ยงจะไม่มีใคร แต่เขามีลูก”
“ยายหยกนะเหรอ”
“จะมีใครอีกละ ข้าละเกลียดมันนัก เกลียดสายตาที่มันมองข้าสุดแสนจะดูถูก มันคงคิดว่า ข้าเป็นคนทำให้แม่มันตาย” สีหน้าแววตาชิงชังจริง ๆ
“แม่มันเป็นมะเร็งตายเองต่างหาก”
“มันยังไม่ยอมญาติดีกับพี่อีกหรือ”
“เชอะ มันหาว่า ข้าเป็นเมียน้อยแม่มัน เท่ากับส่งเสริมให้แม่มันตายเร็วขึ้น ข้าถามเอ็งเถอะไอ้พัน ถ้าข้าไม่เป็นเมียน้อยแม่มัน ไม่ไปช่วยนอนเอากับพ่อเลี้ยงแทนแม่มันนะ พ่อเลี้ยงจะมีแรงลุกไปทำงานไหม” พูดเสียเห็นภาพ
“อีหยกมันจะมีปัญญามาทำอะไรพี่”
“ถ้าพ่อเลี้ยงจดทะเบียนยกข้าออกหน้าออกตาก็ว่าไปอย่าง วันไหนหมดบุญพ่อเลี้ยง อีนั่นมันจะถีบหัวข้าส่งนะสิ”
“พี่ก็ได้อะไรจากพ่อเลี้ยงมาเยอะแล้วนะ”
“แต่ข้าจะเอาทั้งหมด” ความหมายแปลเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
“เอ็งรู้ไหม ว่ามันเรียนจบมาแล้ว”
“แล้วยังไงล่ะพี่”
“พ่อเลี้ยงบอกข้าว่าจะถอยรถให้มันแทนคันเก่าที่มันใช้อยู่ แล้วเอ็งดูรถของพี่เอ็งสิ” แพรทองชี้นิ้วให้พันวาดูรถของตัวเองที่จอดอยู่ตรงหน้า มันทั้งเก่าและก็ผุ หมดสง่าราศี
“ดูรถข้าดิ เก่าแสนเก่า ข้าใช้มาเป็นสิบ ๆ ปี ทีข้าขอให้เอาไปเทิร์น เอาไปเปลี่ยน พ่อเลี้ยงพูดยังไงรู้ไหม”
“ว่ายังไงล่ะพี่”
“มันยังใช้ได้อยู่ เชอะ ที่กับอีนางหยกจะขออะไรก็ให้หมด”
“ก็เขาเป็นพ่อลูกกันนี่นา”
“เอ้อ... เอ็งจะเข้าข้างมันใช่ไหม”
“เปล่าจ้ะพี่ ฉันแค่อยากพูดให้พี่สบายใจ”
“ชิ รอไปก่อน รอไปก่อน ทุเรศจริง ๆ” เหนื่อยหน่ายและเบื่อโลกไปหมด
“เวลาข้าขับเข้าไปในตลาดน่ะ คนเขาก็มองกัน แล้วซุบซิบ บางคนไม่เกรงใจข้าเลย พูดให้ได้ยิน เป็นถึงเมียพ่อเลี้ยง”
“พี่แพร พ่อเลี้ยงก็ให้พี่มาเยอะแยะแล้วนะ” พันวาอยากจะให้แพรทองลดอาการอิจฉาลงบ้าง
“แต่มันก็ยังน้อยกว่าอีหยก”
“เขาเป็นพ่อลูกกันนะพี่ พี่อย่าลืมสิ”
“ไอ้พัน สรุปเอ็งจะมาเข้าข้างข้า หรือเอ็งจะมาเข้าข้างอีหยกนั่น”
พันส่ายหน้า พูดพลางถอนหายใจ
“ที่พี่พูดมาทั้งหมดนี่ พี่ต้องการอะไรล่ะ” พันพูดให้ตรงจุด
“ข้าอยากให้เอ็งช่วยข้ากำจัดอีหยก”
“หา! เอ่อ ถึงต้องฆ่าต้องแกงกันเลยหรือพี่” สีหน้าของพันตกใจ
“เอ็งฟังไม่ผิดหรอก ข้าอยากจะกำจัดมันให้ออกไปจากบ้านหลังนั้น ข้าไม่อยากจะเห็นหน้ามันเฉย ๆ ข้ามองดูทีไร ก็นึกถึงแม่มันทุกที”
“เรื่องมันก็นานโขแล้วนะพี่แพร”
“ใช่ แต่ข้าไม่เคยลืม สมัยนั้น พ่อเลี้ยงก็สนใจข้ามากกว่าอีพวงแม่ของอีหยกอีก แต่อีพวงมันแย่งพ่อเลี้ยงไป หน้าด้านนอนให้พ่อเลี้ยงเอาจนท้อง” แพรทองคิดถึงความหลัง
“พี่อย่าพูดเรื่องเก่าเลยดีกว่านะ ฉันไม่อยากให้พี่ไม่สบายใจ สรุปพี่จะให้ฉันกำจัดมัน แล้วเราจะจำกัดมันยังไง แบบว่าไม่ให้มันตาย”
แพรทองเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในดวงตาลุกโชนด้วยประกายไฟริษยาที่อยากเผาผลาญลูกเลี้ยงให้เป็นจุณ
“ข้าได้ข่าวมาว่าไอ้สิงหามันกำลังมาหาสาว ๆ ในอำเภอของเราเพื่อไปทำงานที่ภาคใต้”
“แล้วยังไง” พันวาทำท่าสนอกสนใจ
“เอ็งทำยังไงก็ได้ให้อีหยกมันไปอยู่ในรถของไอ้สิงหา ข้าจะขายมันให้กับไอ้สิงหา ให้มันไปอยู่ในซ่องที่ปักษ์ใต้”
“พี่แพร” พันอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“พี่ไม่กลัวพ่อเลี้ยงจะรู้หรือ ถ้าพ่อเลี้ยงรู้เข้า เราสองคนต้องเหลือแต่ชื่อ”
“เชื่อข้าเถอะน่า พ่อเลี้ยงไม่มีทางรู้หรอก ข้าเตรียมการเอาไว้หมดแล้ว”
“ยังไงล่ะพี่”
“ข้าจะทำให้พ่อเลี้ยงไม่อยู่บ้านในวันนั้น แล้วข้าจะแต่งจดหมายบอกพ่อมันว่า อีหยกมันจะไปอยู่กับเพื่อนมันต่างจังหวัดสักระยะหนึ่ง”
“พี่จะเขียนตัวหนังสือยังไงให้เหมือนมันเขียนเอง”
“เอ็งรู้ไหม ข้าหัดเขียนหนังสือ ลอกเลียนตัวหนังสือของอีหยก แม่ง... ถ้าเอ็งได้เห็นและเทียบดูนะ มันเหมือนเปี๊ยบเลย ข้าจะเขียนจดหมายบอกพ่อมันว่ามันจะไปอยู่กับเพื่อน”
“แล้วยังไงต่อล่ะพี่”
“ข้าจะวางยาอีหยก ข้าจะเอายาให้มันกิน ไอ้พัน เอ็งมีหน้าที่พามันไปให้ไอ้สิงหา”
กามเทพแสนกลช่างล้อเล่นกับความรักของสามคู่หนุ่มสาว ให้เกิดความรักที่มีทั้งความสุข ทั้งความทุกข์ปะปนกันไป พรหมลิขิต หรือว่า เนื้อคู่ ใครนะที่จะมีด้ายสีแดงผูกกันไว้ หากสองเราเป็นคู่กันแล้วคงไม่แคล้วกันจริงหรือ หลิน สาวน้อยจากเชียงรายผิวขาวเนียนสวย สะอาดสะอ้าน ปากนิด จมูกหน่อย ยิ้มเก่ง ขยันทำงาน และตั้งใจเรียน ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง จะมาเสียเอาตอนสุดท้าย กับชายหนุ่มที่ทั้งหล่อและรวย หลินจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิต จากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับพี่พีค นายพีระ หรือว่า พี่พีค ซีอีโอหนุ่ม เจ้าของโรงแรมใหญ่กลางกรุง หน้าตาดีหล่อเหลา ฐานะร่ำรวย ร่างกายกำยำ หุ่นกระชากใจ เป็นที่หมายปองของสาว และเขาได้ชื่อเป็นคาสโนว่าตัวพ่อ ถ้าเขาจะคบกับผู้หญิงคนไหน เขาจะให้เวลาเธอแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ชายหนุ่มผู้ที่ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ความสัมพันธ์นั้นที่มันเกิดขึ้น คือ ความผิดพลาด หรือความตั้งใจกันแน่ ในเมื่อตัวเธอรักเขาเข้าไปแล้ว ความรักที่เกิดขึ้นของหลิน เธอจะทางสมหวังในความรักหรือเปล่า พีคจงใจนอนกับหลิน หญิงสาวที่แสนจะธรรมดา ที่ทำไมดึงดูดใจเขายิ่งนัก เขาคิดยังไง มันเป็นแค่ความใคร่ หรือความต้องการของผู้ชายกันแน่ หรือ เขาแค่อยากชนะผู้หญิง ที่วิ่งหนีเขาก็เท่านั้น เพียงชั่วข้ามคืน สิ่งที่เขาทำ มันจะเปลี่ยนชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งไปตลอดกาล ในเรื่องยังมีอีกหลายคู่ ความรักของแพรวาและกฤษ รักแรกของกันและกัน รวมถึงความรักของพ่อหนุ่มเนื้อหอมเจ้าเสน่ห์อย่างอย่างนายภุชงค์ มาติดตามกันค่ะว่า ผู้หญิงแบบไหนจะกลายมาเป็นเจ้าสาวของพ่อหนุ่มคนนี้ และเธอคนนั้นจะเป็นคนหยุดเขาได้หรือไม่ ขนมผิงกับติ๊ดชึ่ง ทอมกับผู้ชายเนิร์ด พี่คีตากับหญิง รุ่นพี่ที่รักจริงหวังฟัน และคู่เกย์น่ารัก กุ้งเต้นกับตุ๊กตุ่น คู่วายในเรื่อง --------- เขาทำดีกับเธออย่างนี้คนเดียว หรือว่ากับผู้หญิงทุกคนนะ คิดถึงเรื่องแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกหนาวเข้าไปในใจ ‘พี่พีคคงเห็นเราเป็นของเล่นชิ้นใหม่ ของใหม่ เขาคงยังไม่เบื่อ แล้วถ้าเขาเบื่อเราล่ะ ไม่... ฉันจะไม่รอให้เขามาบอกลา หรือทิ้งฉันก่อนแน่ ๆ’ หลินรีบเก็บโต๊ะอาหาร เธอหยิบกระเป๋าถือ รีบเดินออกจากห้องไปทันที ++++++ สปอย “เอ่อ...ก็รู้แล้วลงจากตัวเขาได้ยัง” เธอผลักอกเขาเบา ๆ “ไปอาบน้ำด้วยกันนะ เดี๋ยวเขาอาบให้มี่เอง” เขาชักชวนเธอ เพราะรู้สึกตรงกลางร่างงามฉ่ำแฉะไปหมดแล้ว “มี่รู้ไหมเขามีความสุขที่สุดเลย” บอกเธอด้วยน้ำเสียงดีใจปนปลื้มสุด ๆ “อือ...” เธอยิ้มกลับส่งสายตาหวานให้ “แต่เดี๋ยวเขามีเรื่องจะถาม” ลีโอเอ่ยมาน้ำเสียงจริงจัง จ้องหน้าโดยใช้นิ้วมือของเขายึดใบหน้าเธอให้ตรึงอยู่กับที่ “เรื่องอะไร...” “ทำไมมี่ใส่ถุงยางอนามัยคล่องจัง เขายังไม่ค่อยเป็นเลย” เขาถามน้ำเสียงจับผิด เธอส่ายหน้าหน้าแดงไม่ยอมตอบ “บอกมาเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นเขาจะเอาตัวเองต่อ” พูดพลางขยับอัดแท่งลงร่องแน่น “บ้าเหรอลีโอเดี๋ยวถุงแตก” เธอร้องห้ามบิดตัวหลบปลายจมูกที่ซุกไซ้ลงมา “ไหนบอกมาก่อนเร็ว ๆ” เขาหยัดร่างใช้สองมือคร่อมหน้าเธอไม่ให้ขยับ “แหม...อยู่หอ ไอ้พวกเด็กหอมันไม่มีอะไรทำกัน ก็เลยซื้อมาลองหัดใส่ดูเผื่อได้ใช้” เธอตอบคำถามทำหน้าอาย ๆ “ผู้หญิงสมัยนี้มันจริง ๆ เลย” เขาพูดขึ้นก่อนจะก้มลงจุ๊บไปที่ปากที่กำลังจะเถียง “แต่ก็ได้ใช้เห็นไหม” “ครับที่รัก มีมี่ของลีโอเก่งไปทุกเรื่อง แต่เรื่องบนเตียงเราค่อยมาเรียนรู้พร้อมกันนะ พรุ่งนี้เขาจะหาท่าใหม่ ๆ มาบ้าง ตัวเองจะได้ไม่เบื่อ” พูดส่งเสียงทะเล้นปนทะลึ่ง “บ้า...ลีโอเนี่ย...” ว่าพลางทุบหน้าอกเขาอีกครั้ง “ไปอาบน้ำดีกว่า ดึกแล้วนะพรุ่งนี้ขอบตาเขาจะช้ำ” เธอรีบบอกเขา เพราะเลยเวลานอนมามากโขแล้ว “เขาว่าอย่างอื่นอาจจะช้ำมากกว่าขอบตาอีกนะ” พูดจบก็แกล้งกระแทกลำตัวเบา ๆ “ไอ้ลีโอ ไอ้ลามก...” “มี่เรียกเขาว่า ไอ้...ใช่ไหม ต้องลงโทษสถานเดียว” ลีโอกอดรัดมีมี่แน่น ซุกไซ้จมูกและปลายลิ้นไปทั่ว กว่าสองคนจะได้อาบน้ำนอนก็ใกล้รุ่งเต็มที...ฟ้าเหลืองเลยงานนี้
ณ ไร่สิงขร มีคุณสิงขร หรือ ดำ (40 ปี) เป็นเจ้าของ มีทั้งสวนลำไย ลิ้นจี่ บ่อเลี้ยงปลา ไร่ นา อีกเป็นพันๆ ไร่ เขาแต่งงานกับคุณเด่นนภา หรือ ไก่ มีลูกสาวคนโตชื่อ ข้าวผัด หรือ นางสาวดรุณี (18 ปี) ลูกชายคนเล็ก (15 ปี) ชื่อว่า สีหราชย์ หรือ ข้าวโพด ครอบครัวสิงขรรับเอา ไผท หรือ ไผ่ (36 ปี) เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่เรียนรวมสถาบันเดียวกันที่มาขออาศัยพึ่งใบบุญ เพราะไผทรักกันกับดาริน (30 ปี) หรือ เหมย ลูกสาวคนจีนในตลาดเมืองกำแพงเพชร และเขาได้พาเธอออกจากบ้าน เป็นวิวาห์เหาะมาเมื่อ 5 ปี ก่อน เพราะครอบครัวของดารินจะจับเธอคลุมถุงชนกับลูกเจ๊กในตลาดเช่นเดียวกัน แต่เพราะดารินตั้งท้องลูกของไผท ก่อนสิ้นปีนั้นดารินก็ได้คลอดน้อง ผิงผิง หรือเด็กหญิงดาริกา ซึ่งกำลังน่ารักน่าชัง พูดจ้อๆ ร้องเพลงทั้งวัน สวรรค์กลั่นแกล้งคุณพ่อของดารินตามมาเจอ แล้วก็ฉุดเอาลูกสาวของพวกเขากลับไป โดยไม่ฟังเสียงร้องของไผทและเด็กสาวตัวน้อยๆ ดารินร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาให้ และพาเธอไปอยู่ด้วยที่อเมริกาทันทีหลังเสร็จพิธีแต่ง ทำให้ไผทที่เคยเป็นผู้ชายที่รักลูกรักเมียทำแต่งาน เสียใจเอามากๆ เขากลายเป็นนักดื่มที่สามารถดื่มได้ทุกเวลา ภาระในการเลี้ยงดูเด็กหญิงดาริกา จึงตกเป็นของข้าวผัดไปโดยปริยาย ข้าวผัดพยายามทำดีกับน้าไผทและตั้งใจว่าจะให้เขากลับมาเป็นคนเดิมให้ได้ น้าไผทคือผู้ชายที่ดรุณีรักและประทับใจ แต่สิ่งที่เธอเดิมพันเอาไว้ คือหัวใจของเธอ และชีวิตที่เหลืออยู่ แต่อุปสรรคไม่ได้มีแค่เรื่องอายุ แต่มีทั้งคุณสิงขรและคุณเด่นนภาที่ไม่อยากเห็นลูกสาวของพวกเขาต้องได้สามีเป็นพ่อหม้ายลูกติด เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป มาติดตามกันค่ะ
ด้วยคำว่า “เงิน” คำเดียว และฐานะที่ด้อยกว่า ที่ทำให้คนอย่างบุรินทร์ เขาตัดสินพวกเธอว่า เป็นพวกสิบแปดมงกุฎที่กำลังเข้ามาปอกลอกบูรณี พี่สาวของตัวเอง เขาไม่คิดว่า อติคุณ ผู้ชายที่อายุน้อยกว่าจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่อายุแก่กว่าเป็นสิบปีได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงแก่กว่าคนนั้น เธอมีเงิน และอรุณวนา เธอผู้เป็นพี่สาวของพี่เขยที่เขาคิดว่าเป็นตัวแสบ เธอจะต้องรับผิดชอบในการกระทำของน้องชาย เพื่อพิสูจน์ว่าความรักแท้นั่นมีอยู่จริง แต่สุดท้ายคนที่พ่ายแพ้ต่อเล่ห์ร้ายของตัวเอง ก็คือตัวเขาเอง และเมื่อถึงเวลานั้น เธอจะให้อภัยและยอมรักว่าเธอรักเขา และพร้อมที่จะใช้ชีวิตไปกับผู้ชายคนนี้ที่ตั้งแง่รังแกและรังเกียจเธอตั้งแต่ต้นหรือไม่
ปอป่านถูกอาเฟื่องรัตน์เรียกตัวกลับเมืองไทย แต่ในวันที่จัดงานต้อนรับเธอ คุณอากลับประกาศนี่คืองานหมั้น พร้อมกับ นายธราเทพ หญิงสาวทั้งน้อยใจและตัดพ้อว่าทำไมคุณอาทำแบบนี้ เฟื่องรัตน์ป่วยเป็นเนื้องอกที่สมองและเธอคิดว่าคงไม่มีเวลาที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว เธอจึงตัดสินใจเลือก ธราเทพ เพื่อนและพี่จ๋าในวัยเด็กของปอป่านให้เขาเป็นสามีเฉพาะกิจของหลานสาว ธราเทพบอกกับเฟื่องรัตน์ว่าเขารักปอป่าน และเป็นผู้พิทักษ์ของเธอ ด้วยทรัพย์สินที่มากเกินไป กับคุณอาชัยนันท์ลูกนอกสมรสของคุณปู่และลูกของเขาคงสร้างปัญหาให้กับปอป่านบ้าง เธอตั้งป้อมกับเขา แต่ธราเทพจะเอาชนะหัวใจของหญิงสาวได้หรือไม่
หัวใจเจ้าสาวจอมเกเร อีวาน บันตี ดารุจ พี่ชายต่างมารดาที่รักน้องสาวมาก เขาแค่อยากช่วยให้งานแต่งงานของน้องสาวไร้อุปสรรค ไม่ให้มีอะไรมาขัดขวาง เขาจึงตัดสินใจทำเรื่องบ้าบอลงไป อีวานจับเอาดาวประดับ ลูกสาวเจ้าปัญหาของคุณเภาเจ้าบ่าวของน้องสาวไปกักขัง หลังจากนั้นก็มีเรื่องอลหม่านและอลเวงเกิดขึ้นมากมายให้นักอ่านได้ติดตามลุ้นไปกับนักเขียนค่ะ เรามาลุ้นไปด้วยกันว่า เรื่องของอีวานกับดาวประดับจะลงเอยอย่างไร สุดท้ายแล้วนิยายของคุณธิดาแทบทุกเรื่องจะเป็นนิยายโรมานซ์ มี NC ให้พอเลือดสูบซีด อย่างไรฝากให้ทุกท่านติดตามผลงานของคุณธิดาไปตลอด ให้สนุกไปกับการอ่านนะคะ และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกายและสุขาภพใจแข็งแรง มีเงินใช้กันทั่วหน้าค่ะ
ผู้เป็นย่าเป็นคนที่มีเซนส์ ท่านรู้อะไรล่วงหน้าเสมอ แทบจะไม่เคยพลาด และครั้งนี้ก็เหมือนกัน เนื้อคู่ที่แท้จริงของหลานชายกำลังจะมา ทำให้ท่านดี๊ด๊ามากกว่าทุกคน เฝ้ารอคอยอย่างใจจดจ่อ แล้วหญิงปริศนาก็โผล่มา มาทำให้หัวใจของเขาต้องปั่นป่วน และปลุกความเป็นชายให้ลุกโชน แต่ไปดูว่า แท้จริงแล้วใครเป็นคนทำให้พระเอกของเราแข็ง อุบ... (ไม่เอา ไม่เล่าสิ ปิดปากตัวเองให้สนิทเลย) ไปติดตามกันได้เลยค่ะ ฝากเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ ++++ บนหนทางแห่งชีวิตรัก เวลาไม่ใช่ตัวกำหนดความมั่นคง แต่เป็นหัวใจรักที่ภักดีต่อกันต่างหาก อดีตที่เคยเลวร้ายของทั้งมณียาและอาคเนย์ คงทำให้เขาและเธอได้นำมาเป็นบทเรียนของชีวิต ที่จะครองคู่สุขสมใจกันไปตลอดจนหมดลมหายใจ แล้วตายจากกัน โดยที่ทั้งคู่จะไม่หวั่นแม้อุปสรรคใด ๆ ที่จะเกิดมาในวันข้างหน้า ขอเพียงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในตอนนี้ให้มีความสุขมากที่สุดก็พอ
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
แรกเริ่มเขา 'ซื้อ' เธอมาเพื่อบำบัดความใคร่ เมียชั่วคราวที่มีไว้แก้เหงา แต่สุดท้ายแล้ว...เมียชั่วคราวนั่นแหละ ที่อยากได้เป็นเมียจริงๆ ผู้หญิงสู้ชีวิตอย่างนับดาว...ไม่ยอมแพ้โชคชะตาที่นำพาตนเองไปรับบทน่าอดสู เธอถูกหลอกจากคนที่ไว้ใจที่สุด!! กับการ 'ขายตัว' เขาเหยียดหยามสารพัด ดุถูกจนเธอเจ็บช้ำเจียนตาย เธอเลือกทางหนี เพื่อจบปัญหาน่าปวดหัวครั้งนี้.... ขอเริ่มต้นใหม่ กับชีวิตแบบใหม่ แต่ทำไมล่ะ?...ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอ ในเมื่อเขาชิงชังเธอนักหนานี่นา?????
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"