โปรย : สภาวะของโลกที่เปลี่ยนไปเนื่องมาจากโรคระบาด Covid ทำให้หนุ่มเกียร์ขี้หลีอย่าง เตชิน ต้องดิ้นรนมาแลนดิ้งดิ่งตรงลงสุวรรณภูมิแอร์พอร์ตกลับสู่อ้อมอกเมืองไทย สถานที่กักตัว ASQ โรงแรมระดับห้าดาวด้วยฝีมือแม่ชักแม่สื่ออย่าง ขวัญฤดี ที่อยากได้ลูกสะใภ้นักหนา จึงไปเที่ยวปล่อยเงินกู้ด้วยดอกเบี้ยแสนถูก ยื่นข้อเสนอออฟชั่นพร้อมให้เลือกลูกชายได้ทั้งสามคน! เขาจึงได้พบน้องพิมพ์สาวงามสมญานาม สวยทะลุแมสก์! สายรุกบุกอ่อย คอยส่งงานยั่วอย่างหนัก สมิงหนุ่มผู้หิวกระหายเคยโลดโผนอยู่ในป่าดงดิบ ไม่ได้ออกล่าเหยื่อมามาแรมปี ตั้งแต่สาวน้อยนามว่าโคโรน่าถือกำเนิดบนโลกนี้ จะจับเธอขย้ำเสียก็ได้ ถ้าไม่ติดว่าน้องพิมพ์... เด็กแม่! คือของต้องห้าม ++++++++++++++++++++++++ "น้อง... หมดเวลาไปกับการย้อมสีผมเหรอ? โรงแรมนี้มีบริการกักตัวซาลอนด้วยหรือยังไงกัน?" "กวนนะคะพี่เต... ถ้าไม่ใช่เพราะพี่หน้าตาดี พิมพ์คงไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน" เธอพูดผ่านรอยยิ้มใต้แมสก์ดำ ยิ้มอันแฝงไปด้วยจุดประสงค์บางอย่าง "มีอะไรล่ะครับ? กักตัวไม่สบาย หรือว่าเหงาเลยอยากมาเจอคนหล่ออย่างพี่เต" เตชินยังหลงตัวเองเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน หญิงสาวแค่เงียบไป มองคนในฝั่งตรงข้ามกันด้วยแววตาแน่วแน่ ในสิ่งที่เธอคิดว่าตัวเองตัดสินใจมาดีแล้ว "พิมพ์อยากมีหลานให้ป้าขวัญค่ะ" เธอรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไปตรงข้ามกับอีกคนที่นั่งนิ่งอึ้ง เตชินเห็นอยู่ก่อนหน้านี้ว่าเธอไม่ชอบให้เขาจีบ พูดจาหยอด หรือแสดงกริยาว่าชอบพอต้องการได้เธอมาเป็นคู่ควงจะชั่วคราวหรือตลอดไปก็ตาม พิมพ์ลภัสเป็นคนประหลาด... กว่าที่เขาคิดเอาไว้... พันพรายขอฝากอีกหนึ่งผลงานไว้ในใจด้วยนะคะ และอย่าลืม... การ์ดอย่าตก!
“อะไรนะ? พ่อไม่มีตังสักบาทเลยเหรอ...?” เสียงสูงถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
พิมพ์ลภัสเคยเป็นลูกผู้ดีมีเงินเหลือกินเหลือใช้ จบโรงเรียนเอกชนนานาชาติ ต่อปริญญาเมืองนอกด้วยทุนทรัพย์ของพ่อแม่
เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากนายเศรษฐีอย่างพ่อด้วยซ้ำ...
[พ่อไม่มีตังเลยลูก ตอนนี้พ่อต้องไปยืมเพื่อนฝูง กู้เงินมาหมุนส่งธนาคาร พ่อไม่อยากกวนลูกหรอกนะ พ่อเกรงใจ]
เสียงผ่านปลายสายไม่ค่อยดีนัก หัวคิ้วเรียวงามเหนือดวงตาคู่สว่างใสชนเข้าหากัน
ร่างอ้อนแอ้นอรชรในเดรสทำงานสีขาวสลับดำ กระโปรงยาวประเข่าทำให้เธอดูสวยสุภาพงามอย่างหญิงไทย หยุดยืนอยู่หน้าสัมภาระกระเป๋าลากใบใหญ่สี่ใบในห้องพักของเธอเอง ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
นับได้สามปีกว่าแล้วที่ ‘ธาดาแฟชั่น อัญมณี’ ตกอยู่ในสภาวะขาดทุน ธุรกิจมีรายได้ลดลงด้วยสาเหตุหลายอย่าง ไม่มีกำไรเหมือนสมัยเก่าก่อนแค่พอจ่ายเงินเดือนพนักงาน หมุนส่งธนาคารเดือนชนเดือน
ลูกสาวเพียงคนเดียวจึงต้องละทิ้งความเป็นลูกคุณหนูไปเป็นการถาวร มาตั้งต้นชีวิตใหม่ในอังกฤษตามคำชักชวนของเพื่อนสมัยเรียนว่าเงินเดือนดี ทำงานตัวเป็นเกลียว ส่งเงินให้พ่อแม่ใช้เดือนละเหยียดแสน
“ที่พิมพ์ส่งไปให้ไม่พอส่งแบงก์เหรอพ่อ? แม่บ้าน พ่อครัว คนขับรถบ้านเราออกไปหมดแล้วนี่ พนักงานร้านพลอยพ่อรวมทุกสาขาแล้วยังเหลือไม่ถึงร้อยคน...”
คุณพ่อทอดถอนหายใจยาว หนักใจที่จะต้องบอกลูกว่าครอบครัวลำบาก
[ธุรกิจพ่อหลายปีมานี้มันขาดทุนมากกว่ากำไร พอมาเจอโควิดยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ แต่พ่อผ่อนธนาคารไปเยอะแล้วล่ะ... อยู่ได้แบบพอไหว บางเดือนก็ไม่เหลือ]
เหตุผลข้อหลังเป็นส่วนหนึ่งของการล้มครั้งใหญ่ในรอบปีของร้านอัญมณีเก่าแก่ มีมาตั้งแต่รุ่นทวด
ไวรัสโคโรน่าหรือที่รู้จักกันว่า COVID-19 สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วผ่านการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ผ่านทางละอองเสมหะจากการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย
โรคระบาดนี้สร้างความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจไปทั่วโลก ตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้คนเริ่มจับจ่ายใช้สอยน้อยลง
พิมพ์ลภัสเป็นเด็กดี เข้าใจพ่อแม่ในทุกเหตุผล เธอเสียสละเพื่อครอบครัวมาตลอด แม้ตอนนี้...
มือเรียวเล็กจับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แน่นด้วยความรู้สึกผิด ความผิดของเธอคือปล่อยให้พ่อแม่ต้องตกระกรำลำบาก หนีมาใช้ชีวิตสุขสบายอยู่เมืองนอกคนเดียว
เธอคงต้องหาทางแก้ปัญหาเท่าที่เธอสามารถทำได้ก่อน
“พิมพ์มีเงินก้อนหนึ่งอยู่ที่บริษัทโฆษณาในกรุงเทพฯ เดี๋ยวพิมพ์ให้เพื่อนโอนให้พ่อกับแม่ใช้ก่อน สักห้าหมื่นพอไหม?”
[ขอบใจมากนะลูก อยู่อังกฤษไม่ลำบากใช่ไหม? พิมพ์...]
“ก็ไม่เหนื่อยเท่าไรนะพ่อ งานบริษัทโฆษณาพิมพ์ไม่หนักมากแค่ไม่มีวันหยุด เงินพอกินพอใช้ เหลือโอนให้แม่อีก แต่พิมพ์ว่า...” เธอเงียบไป ปิดลงถอนหายใจ เพื่อครอบครัวและพ่อแม่ที่น่ารักของเธอจำเป็นต้องตัดสินใจ
“พิมพ์จะกลับไปหางานทำที่เมืองไทย พิมพ์เบื่อจะอยู่อังกฤษละ พ่อรอหน่อยนะ”
[แล้วแต่ลูกตัดสินใจละกัน พิมพ์จะกลับมาเมื่อไรล่ะ? พ่อได้ยินว่าสนามบินเพิ่งเปิดแต่ไม่ได้รับนักท่องเที่ยว คนไทยกลับมาก็ต้องกักตัว...]
“พิมพ์จัดการเอง ไม่ต้องห่วงค่ะ พ่อกับแม่ดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าคิดมากเรื่องเงิน... พิมพ์พอหาให้ได้”
ภาระทั้งหมดคงตกเป็นหน้าที่ของพิมพ์ลภัสที่ยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินที่ไหนมาเฉ่ง!
เธอพยายามทำความเข้าใจว่าหนี้ของพ่อไม่ใช่หนี้เสีย เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้แต่ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองทำให้ต้องประคองกันไป อย่าให้ต้องถึงขั้นปิดกิจการ
หญิงสาวเริ่มเก็บของใส่กระเป๋าเสื้อผ้า ขยับตัวหยิบของจากชั้นวางในห้องพักสี่เหลี่ยมเล็กแคบ โดยไม่ได้วางสายจากพ่อ เหมือนทุกวันที่เธอมักคุยกับพ่อแม่ผ่านโปรแกรมแชท ซึ่งประหยัดเงินมากกว่าการโทรทางไกล อาจมีสัญญาณขาดหายบ้างแต่เล็กน้อยเท่านั้น
ชัชชัยบ่นเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองไปเรื่อยเปื่อย ยังมีความเป็นห่วงเป็นใยลูกสาว
[แน่ใจนะลูก? จะกลับมาเมืองตอนนี้น่ะ พ่อว่างานลูกดีอยู่แล้วนะ...]
“ที่นี่ไม่ได้ดีมากหรอกพ่อ เทียบกับเมืองไทยคนติดเชื้อหลักหมื่นกว่า ตั้งแต่โดนมาตรการล็อกดาวน์รอบสอง บอสพิมพ์ปลดพนักงานออกไปตั้งเยอะ” เธอบ่นพลางส่ายหน้าไปมา เดินวกไปหยิบเสื้อผ้าจากตู้ยัดใส่กระเป๋าลากสีชมพูบนพื้น ข้าวของเครื่องใช้ของเธอไม่ได้มีอะไรมากนอกจากเดรสทำงาน ชุดนอนผู้หญิง
“ที่อังกฤษติดเชื้อเกิน 2.6 ล้าน เสียชีวิตไปแล้วกว่า 75,000 คนนะพ่อ”
[พ่อฟังข่าวอยู่ แม่เขาก็บ่น ๆ ว่าเป็นห่วงลูก...] ปลายเสียงแผ่วไปด้วยความเป็นกังวล คนลูกรู้สึกว่ามันชักเงียบผิดปกติจากที่ควรจะมีเสียงโวยวายของแม่
คุณแม่ของพิมพ์ลภัสเป็นศรีภรรยาที่ดี ถนัดทั้งงานบ้าน งานเรือน ยังช่วยคุณพ่อทำบัญชี ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกันตั้งแต่เธอยังไม่ลืมตาดูโลก
ร้านค้าเครื่องประดับ อัญมณี ปัจจุบันมีคู่แข่งทางช่องทางออนไลน์มากขึ้นทำให้รายได้ลดลง ตัวร้านในกรุงเทพฯ ที่อยู่ได้เพราะนักท่องเที่ยวก็รายได้หดหาย ยิ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านพ่อเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน พ่อลำบากแม่คงต้องอยู่ในสถานะเดียวกัน
นั่นคือเรื่องที่เธอเป็นกังวล...
วันละสามเวลามากกว่าอาหาร เห็นจะเป็น สุรา สุรา สุรา... ท่านอามัวแต่ร่ำสุรา เมื่อใดจะร่ำนารีบ้างเล่า -------------------- “ทำไมเจ้าไม่ลองปรนนิบัติข้าด้วยวิธีอื่น ไม่ดีกว่าหรือ? เจียลี่ งานดูแลความสะอาดให้บ่าวรับใช้ทำไป” “ท่านอาจะให้ข้าทำอะไร?” คำถามเต็มใบหน้าของนาง หวังเฟยถอนหายใจหนัก “เอาเถอะ เจ้ายังเป็นเด็กสาว คงจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ให้เจ้าไปว่าจ้างโสเภณีในเมืองมาบำรุงบำเรอข้าดีกว่า” เจียลี่เบิกตากว้างตกใจ นางละล่ำละลักพูด “ไม่ ๆ ท่านอา ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าพอรู้เรื่องราวระหว่างชายหญิง ข้าเคยอ่านตำรากามาด้วย ข้าเพียงเห็นว่าไม่เหมาะ หญิงขาไม่ดีอย่างข้า ไม่คู่ควรกับผู้ดีอย่างท่าน” “อย่างไรถึงจะเหมาะ?” “อย่างไรก็ไม่เหมาะ” ในน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงนั้นไม่ได้กระด้างกระเดื่องต่อท่านอา เขาอาจโกรธนางและไล่ตะเพิดนางได้ หลังจากที่เหล้าเข้าปากแล้วเขาจะกลายเป็นคนละคนทีเดียว นางรีบแก้ต่าง “ท่านอาหวังเปรียบดังเทวดาของเจียลี่ผู้แสนต่ำต้อย ข้ามิบังอาจ” “เทวดาบ้าบออะไรของเจ้า เลิกพร่ำเพ้อพรรณนาเรื่องบุญคุณนี่เสียที ท่านอาขี้เมาของเจ้าน่ะ...” ร่างสูงโน้มลงหานาง กระซิบข้างหูทีละคำ “อสุรกายจากขุมนรกทีเดียว” กว่าจะเจียลี่จะเข้าใจท่านอาผู้ไม่ได้ดูแคลนนางเหมือนกับที่ผู้อื่นรังเกียจนาง หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วแรง น้ำเสียงสะเทือนอารมณ์ของเขา ยากที่นางจะต้านทาน “ข้าชอบกลิ่นเด็กสาวตัวหอม ๆ อย่างเจ้าซะด้วย”
ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...
เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...
‘แม่แก้ว’ ลูกสาวเศรษฐีโรงฝิ่นมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับ ‘คุณหลวงจัน’ เพื่อรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลและชื่อเสียงของหล่อน ทว่าหลังแต่งงานไปกลับต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาด ความลับบางอย่างของคุณหลวงและคุณพระบ้านนี้ ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
Arachné Tailors ‘เพราะบุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากเสื้อผ้า’ เป้าหมายสายตาเสื้อผ้าหน้าผมโดนใจ เข้าสโลแกนหน้าร้านบนป้ายตัวเบ้อเริ่ม หลายคนยังได้ยิน ‘ตรึงใจ’ ถูกหัวหน้างานเรียก ตามด้วยเจ้านายหนุ่ม ภายใต้รูปลักษณ์หล่อเหลา เอาการเอางาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องเสื้อสูทชื่อดัง แท้จริงแล้วคือปีศาจแมงมุม! ผู้มาพร้อมสัญญาแห่งความปรารถนา ซึ่งเธอจะต้องเสียสละวิญญาณเข้าแลก และกฎแรงดึงดูดเที่ยงตรงเสมอ... “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี...” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา! หญิงสาวก็ยังพลาด จนเกิดแต่เรื่องประหลาด ๆ ยิ่งสัมผัสจากเจ้านายหนุ่มช่างแตกต่างจากใคร เขาแสนอ่อนโยนกับเธอที่เผลอใจเต้นตึกตัก แต่นั่น... ก็จนกระทั่งเรียวปากหนาหยักได้รูปอ้ากว้าง คายเจ้าแมงมุมตัวสีดำออกมา... ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ! อีกหนึ่งผลงานโรมานซ์ทริลเลอร์ แฟนตาซี 18+ ของพันพราย ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน - ภพคุณหลวง - (พีเรียด) พันวาเสน่หา
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"