ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...
ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...
ใต้เวหาเยียบเย็นในเมืองปีศาจ ปักษาที่จมปลักในบ่อโคลน เงยหน้าขึ้นมองหางสีนิลตัดกับสีชาดทั้งเก้าพลิ้วไหวลู่ลมเบื้องหลังร่างสูงกำยำ อาภรณ์สีเดียวกันนั้นปักทอด้วยด้ายทองแลดูสง่างามเยี่ยงบุรุษผู้สูงศักดิ์ รองเท้าผ้าหุ้มด้วยกำมะหยี่ล่องลอยอยู่เหนือพสุธา
“พวกเจ้ากลับไปก่อน ข้ามีธุระต้องจัดการ” เสียงเข้มออกคำสั่ง ลูกสมุนจิ้งจอกทั้งสามพลันอันตรธานไปในพริบตา
ร่างเปื้อนโคลนกะพริบปริบปรือนัยน์ตาอ่อนล้าด้วยท่าทางน่าเวทนา หลังจากที่พยายามดิ้นรน ส่งเสียงร้องโวยวายจนหมดสิ้นฤทธิ์แรง ไม่มีผู้ใดยื่นมือเข้าช่วยเหลือแม้มองเห็นตัวอะไรสักอย่างขยับดิ้นขลุกขลัก สำลักดินขมบาดคอ น้ำโคลนกระเด็นเข้าตาจนเหลือการมองเห็นเพียงดวงตาข้างซ้ายข้างเดียว
“เจ้าปักษาตัวน้อยมาติดอยู่ในโคลนพิษได้ยังไงกัน?”
ใบหน้าหล่อเหลาแลดูฉงนสงสัย ‘ฮุ่ยเฟิน’ เพียงพลิกฝ่ามือเบา ๆ ปรากฏไอหยินครอบคลุมผืนโคลน เขาดึงร่างปักษาเล็กเท่าฝ่ามือขึ้นมาจับกุม กรงเล็บสีนิลจิกลงบนขนคอเปรอะเปื้อนดินโคลน จนโลหิตไหลซึม
ร่างปักษาลอบกลืนน้ำลายลงคอ ขณะสบมองนัยน์ตาทอประกายใต้แสงจันทราสีชาด ทั้งเขี้ยวขาวคมตรงมุมปากหนาหยักได้รูป รอยยิ้มเล่ห์ร้ายบนใบหน้าหล่อเหลาทำให้ตระหนักรู้ได้ว่าโอกาสรอดชีวิตช่างริบหรี่
ต่อให้รอดพ้นจากการจมลงไปในโคลนพิษ น่าจะกลายเป็นอาหารมื้อค่ำของจิ้งจอกอยู่ดี
ปักษาผู้น่าสงสารมิได้ล่วงรู้ว่าบุรุษจิ้งจอกกำลังให้ความสนใจแววตาหวาดหวั่นพรั่นพรึงของนาง ด้วยความคิดเป็นตรงกันข้าม เขาว่านางน่าสนใจนัก
“เจ้าตัวนี้น่าเอ็นดู ปีกสีขาวสะอาด นัยน์ตาสีมรกต ชั่วชีวิตข้ามิเคยพบเห็นปักษางดงามเช่นนี้มาก่อน” ในน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ฮุ่ยเฟินสะบัดมือซ้ายตีลงบนอากาศ กลุ่มเมฆาสีนิลห้อมล้อมรอบกาย นำพาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เดินทางสู่สถานที่ห่างไกลในชั่วอึดใจ
นครอันมืดมิดปกคลุมด้วยไอหยิน เรือนสี่ประสานใหญ่โตโอ่อ่าดังพระราชวังบนโลกมนุษย์ ตั้งตระหง่านเหนือพสุธาเขียวชอุ่ม โดยรอบบริเวณเรือนไม้รโหฐานมีสุนัขจิ้งจอกในร่างบุรุษอาภรณ์สีนิลสนิท คอยสลับเปลี่ยนหน้าที่กันเฝ้าเวรยาม บางตนกำลังคาบเหยื่อซึ่งเป็นนกตัวเล็ก ๆ มากัดกินในโพรงหินเล็กแคบ บริเวณสวนหย่อมด้านหลังเรือน ที่พำนักอาศัยระหว่างการทำงาน
ฮุ่ยเฟินไม่ชอบกิริยาเช่นนั้น จึงมักว่ากล่าวตักเตือนบรรดาลูกสมุน มิให้ประพฤติตนเช่นเดรัจฉาน ส่งเสียงดังระหว่างการทำงานด้วยวิสัยเยี่ยงสุนัข ขอให้รักษาเกียรติของการเป็นปีศาจจิ้งจอก ในเมื่อพวกเขาต่างมีร่างของบุรุษสตรี
“ทหาร พวกเจ้าเฝ้าเวรยามให้ดี สถานการณ์นอกเมืองไม่ค่อยสงบนัก” พูดพลางสอดส่องสายตาไปสุดท้องนทีกว้างใหญ่ ซึ่งกั้นกลางระหว่างอาณาเขตปีศาจราตรี ถึงพบเพียงความนิ่งสงบ ไม่อาจไว้วางใจ
การสู้รบระหว่างเผ่าพันธุ์ไม่เคยสงบลงสักราตรีหนึ่ง ด้วยนิสัยของสุนัขจิ้งจอก มักกัดกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสิ้นลมหายใจ ปีศาจราตรีและปีศาจอื่น ๆ ไม่ใคร่รักสันติ หากชอบการทะเลาะวิวาทเป็นนิจ
“ขอให้นายท่านไว้วางใจเรื่องความปลอดภัย พวกพ้องของเรามีมากมายเหลือประมาณเทียบเท่ากองทัพราชาแห่งสวรรค์ กำลังพลจิ้งจอกต่างร่วมใจเป็นหนึ่ง รัชสมัยของท่านฮุ่ยเฟินเข้มแข็ง เกรียงไกร!”
ราชาฮุ่ยเฟิน! ราชาฮุ่ยเฟิน! เสียงจิ้งจอกเห่าหอนตามกัน จากตัวหนึ่งไปอีกตัว ราวกับว่าเป็นธรรมเนียมการส่งเสียงของสุนัข ด้วยความเคยชินของพวกเขาชื่นชอบการเยินยอหัวหน้าฝูง จวบจนนายท่านยกฝ่ามือข้างที่เหลืออยู่จากการจับคอปักษาขึ้นปัดป่ายไปมา
“พวกเจ้าอย่าเห่าหอนเสียงดังมากนัก จะเป็นที่เอิกเกริกในยามวิกาล”
“พวกข้าขออภัยที่ทำให้ท่านฮุ่ยเฟินรำคาญใจ” บุรุษร่างกำยำยกมือประสานไว้ข้างหน้าด้วยความเคารพยำเกรง “เพียงแต่การปกครองของเจ้านครปีศาจ ราชาจิ้งจอกผู้รวบรวมดินแดนให้เป็นปึกแผ่นเนิ่นนานนับสามหมื่นปีทำให้ข้าอดใจมิได้ ที่จะยกย่องสรรเสริญท่าน”
“ข้าไม่ถือสา ถึงพวกเจ้าจะส่งเสียงน่ารำคาญหูอยู่เป็นประจำ”
ทหารปีศาจคุ้มกันประตูหินสูงเสียดฟ้าเข้ามาคำนับเจ้าแห่งปีศาจ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเลื่อมใส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามนี้บ้านเมืองสงบสุขนัก มิได้เกิดศึกสงครามครั้งใหญ่ มีเพียงการทะเลาะวิวาทของปีศาจทั่วไป
ขณะสายตาหลายคู่เลื่อนมองไปยังปักษาเปื้อนโคลนในกรงเล็บสีนิลทั้งห้า ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วเบาลง จะตายแหล่มิตายแหล่ ทหารยามยกมุมปากขึ้น ปรากฏเขี้ยวคมอย่างปีศาจ หางทั้งสามโบกไหวไปมา อีกตนหนึ่งเป็นหัวหน้าทหารยาม นับเป็นจิ้งจอกห้าหาง เจ็ดหาง ปีศาจนับสิบตนถึงกับน้ำลายสอ
“นางไม่ใช่เหยื่อ กินไม่ได้ ครั้นจะยกให้พวกเจ้าไปกัดแทะเล่น ข้าเกรงว่าไม่เหมาะสม...”
เมื่อท่านผู้นำเคยตกลงด้วยวาจาว่าจำต้องรักษากิริยา เหล่าทหารจึงเก็บเขี้ยวเล็บ ขณะที่หางยังโผล่พ้นเฉกเช่นราชาจิ้งจอกผู้มีหางสีนิลสนิทครบทั้งเก้าหาง แลดูสง่างามยิ่งนัก
“หากว่าพวกเจ้าหิว เข้าไปหาอะไรกินในเมือง เจ้าไปบอกสหายของเจ้ามาผลัดเฝ้าประตูเมืองเสีย ข้าอนุญาตให้ได้สักวันหนึ่ง”
“เป็นพระคุณของข้าน้อยขอรับนายท่าน! ข้าจะรีบดับกระหาย รีบกลับมาทำงานขอรับ”
ธรรมดาปีศาจมักหิวกระหายพลังวิญญาณอยู่เสมอ เรื่องปากท้องคงรอนานไม่ได้
ฮุ่ยเฟินตรวจตราประตูเมือง สั่งงานทหารยามจิ้งจอกเรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเข้าห้องพักในจวนกว้าง พบองครักษ์เพิ่งปรากฏตนหลังกลุ่มเมฆาสีนิลสงบนิ่ง เหล่าจิ้งจอกล้วนแปลกใจ เหตุใดนายท่านอารมณ์ดีกว่าทุกวัน
“ข้าจะพานางไปอาบน้ำแปรงขน”
สิ้นคำนั้น จางเหว่ย ตงหยาง มองตามปักษาเปื้อนโคลน เนื้อตัวสั่นเทาเหลือกตาลนลานมองกลับไปทางพวกเขา องครักษ์ทั้งสามเป็นผู้ติดตามที่ดี ตามไปดูนายท่านนำถังไม้ใบหนึ่ง พลิกฝ่ามือเรียกน้ำใสสะอาดซึ่งไหลวนจากบ่อมรกตเข้ามาเป็นละอองสาย จุ่มนางลงไปทั้งตัว
วันละสามเวลามากกว่าอาหาร เห็นจะเป็น สุรา สุรา สุรา... ท่านอามัวแต่ร่ำสุรา เมื่อใดจะร่ำนารีบ้างเล่า -------------------- “ทำไมเจ้าไม่ลองปรนนิบัติข้าด้วยวิธีอื่น ไม่ดีกว่าหรือ? เจียลี่ งานดูแลความสะอาดให้บ่าวรับใช้ทำไป” “ท่านอาจะให้ข้าทำอะไร?” คำถามเต็มใบหน้าของนาง หวังเฟยถอนหายใจหนัก “เอาเถอะ เจ้ายังเป็นเด็กสาว คงจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ให้เจ้าไปว่าจ้างโสเภณีในเมืองมาบำรุงบำเรอข้าดีกว่า” เจียลี่เบิกตากว้างตกใจ นางละล่ำละลักพูด “ไม่ ๆ ท่านอา ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าพอรู้เรื่องราวระหว่างชายหญิง ข้าเคยอ่านตำรากามาด้วย ข้าเพียงเห็นว่าไม่เหมาะ หญิงขาไม่ดีอย่างข้า ไม่คู่ควรกับผู้ดีอย่างท่าน” “อย่างไรถึงจะเหมาะ?” “อย่างไรก็ไม่เหมาะ” ในน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงนั้นไม่ได้กระด้างกระเดื่องต่อท่านอา เขาอาจโกรธนางและไล่ตะเพิดนางได้ หลังจากที่เหล้าเข้าปากแล้วเขาจะกลายเป็นคนละคนทีเดียว นางรีบแก้ต่าง “ท่านอาหวังเปรียบดังเทวดาของเจียลี่ผู้แสนต่ำต้อย ข้ามิบังอาจ” “เทวดาบ้าบออะไรของเจ้า เลิกพร่ำเพ้อพรรณนาเรื่องบุญคุณนี่เสียที ท่านอาขี้เมาของเจ้าน่ะ...” ร่างสูงโน้มลงหานาง กระซิบข้างหูทีละคำ “อสุรกายจากขุมนรกทีเดียว” กว่าจะเจียลี่จะเข้าใจท่านอาผู้ไม่ได้ดูแคลนนางเหมือนกับที่ผู้อื่นรังเกียจนาง หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วแรง น้ำเสียงสะเทือนอารมณ์ของเขา ยากที่นางจะต้านทาน “ข้าชอบกลิ่นเด็กสาวตัวหอม ๆ อย่างเจ้าซะด้วย”
เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...
‘แม่แก้ว’ ลูกสาวเศรษฐีโรงฝิ่นมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับ ‘คุณหลวงจัน’ เพื่อรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลและชื่อเสียงของหล่อน ทว่าหลังแต่งงานไปกลับต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาด ความลับบางอย่างของคุณหลวงและคุณพระบ้านนี้ ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
Arachné Tailors ‘เพราะบุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากเสื้อผ้า’ เป้าหมายสายตาเสื้อผ้าหน้าผมโดนใจ เข้าสโลแกนหน้าร้านบนป้ายตัวเบ้อเริ่ม หลายคนยังได้ยิน ‘ตรึงใจ’ ถูกหัวหน้างานเรียก ตามด้วยเจ้านายหนุ่ม ภายใต้รูปลักษณ์หล่อเหลา เอาการเอางาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องเสื้อสูทชื่อดัง แท้จริงแล้วคือปีศาจแมงมุม! ผู้มาพร้อมสัญญาแห่งความปรารถนา ซึ่งเธอจะต้องเสียสละวิญญาณเข้าแลก และกฎแรงดึงดูดเที่ยงตรงเสมอ... “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี...” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา! หญิงสาวก็ยังพลาด จนเกิดแต่เรื่องประหลาด ๆ ยิ่งสัมผัสจากเจ้านายหนุ่มช่างแตกต่างจากใคร เขาแสนอ่อนโยนกับเธอที่เผลอใจเต้นตึกตัก แต่นั่น... ก็จนกระทั่งเรียวปากหนาหยักได้รูปอ้ากว้าง คายเจ้าแมงมุมตัวสีดำออกมา... ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ! อีกหนึ่งผลงานโรมานซ์ทริลเลอร์ แฟนตาซี 18+ ของพันพราย ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน - ภพคุณหลวง - (พีเรียด) พันวาเสน่หา
ชายหนุ่มนามว่า ‘จัน’ ผู้ต้องคำสาปมนตร์ตาละวัน นั่นก็คือเขาจะต้องกลายเป็นจระเข้ในเวลากลางคืน เป็นบุรุษรูปงามผู้โดดเดี่ยวเดียวดายในเวลากลางวัน เจ้าสาวจระเข้เท่านั้นที่จะทำให้หลุดพ้นจากคำสาป แน่นอนว่าความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาไม่ใช่ความตาย ตัวเขาและบ่าวคนสนิทจึงใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาตลอดหลายร้อยปี จนได้พบเจ้าของพรหมลิขิตผู้ชี้ชะตาชีวิตอย่าง ‘กัญญาวีร์’ ทว่าเธอดันเป็นถึงพนักงานขายอันดับหนึ่งของโรงงานผลิตหนังจระเข้! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป... จระเข้หน้ามึนอย่างนายจันจะต้องตายหรือไม่? ฤาจะโดนกุดหาง ถลกหนังไปเป็นกระเป๋าให้แม่แก้วตาดวงใจ ร้ายที่สุดคงได้กลายเป็นสเต๊กจระเข้ในยุคข้าวยากหมากแพง “เนื้ออิ่มอวบแนบเนื้อ นวลนาง ขยับถอดสอดแท่งกาม เข้าไซร้ เคลื่อนอีกท่าคว้าดารา ได้ต่อ หนอแม่ กี่ราตรีควบขี่ข้าง พี่นี้ ดุร้าย นำพา” “ลามกจกเปรต! ผู้ชายที่ไหนเขาแต่งกลอนแนว Sexual Harassment จีบสาวกัน” กระแทกเสียงบริภาษว่า ทั่วทั้งวงหน้าหวานเต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด แก้มแดงก่ำเพราะโกรธและอับอาย หนุ่มใหญ่กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม “แล้วน้องต้องการเยี่ยงไร?” “สายเปย์ค่ะ พ่อบุญทุ่มหมดตัวหมดใจ กลับบ้านตรงเวลา ไปไหนกับใครส่งข้อความบอก สำคัญที่สุดคือไม่เจ้าชู้มีหลายเมีย กันไม่ชอบ ไม่เอาเด็ดขาด กลัวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผัวร่วมกับใคร มีไม่ดีไม่มีดีกว่า...” กัญญาวีร์หน้าบึ้งตึงใส่คนข้างกายที่อยู่ในชุดโบราณ นุ่งโจงกระเบนสีดำ อกกว้างกำยำเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวเหลืองนวลทอประกายสีทองอ่อนราวสีสันของแสงอรุณยามเช้า สตรีนางไหนได้เห็นคงต้องตาต้องใจทันทีเว้นเพียงเธอ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสติสำนึกรู้ตน ไม่สบตา ไม่แม้แต่จะสนใจเส้นผมดำขลับมัดเกล้าแซมสีขาวเทาเป็นปอย ขนานไปกับกรามแกร่งราวม่านน้ำ บุรุษรูปงามราวกับว่าเป็นเทวดาบนสรวงสวรรค์ ทว่าคงไม่ใช่... ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด