ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...
ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...
ใต้เวหาเยียบเย็นในเมืองปีศาจ ปักษาที่จมปลักในบ่อโคลน เงยหน้าขึ้นมองหางสีนิลตัดกับสีชาดทั้งเก้าพลิ้วไหวลู่ลมเบื้องหลังร่างสูงกำยำ อาภรณ์สีเดียวกันนั้นปักทอด้วยด้ายทองแลดูสง่างามเยี่ยงบุรุษผู้สูงศักดิ์ รองเท้าผ้าหุ้มด้วยกำมะหยี่ล่องลอยอยู่เหนือพสุธา
“พวกเจ้ากลับไปก่อน ข้ามีธุระต้องจัดการ” เสียงเข้มออกคำสั่ง ลูกสมุนจิ้งจอกทั้งสามพลันอันตรธานไปในพริบตา
ร่างเปื้อนโคลนกะพริบปริบปรือนัยน์ตาอ่อนล้าด้วยท่าทางน่าเวทนา หลังจากที่พยายามดิ้นรน ส่งเสียงร้องโวยวายจนหมดสิ้นฤทธิ์แรง ไม่มีผู้ใดยื่นมือเข้าช่วยเหลือแม้มองเห็นตัวอะไรสักอย่างขยับดิ้นขลุกขลัก สำลักดินขมบาดคอ น้ำโคลนกระเด็นเข้าตาจนเหลือการมองเห็นเพียงดวงตาข้างซ้ายข้างเดียว
“เจ้าปักษาตัวน้อยมาติดอยู่ในโคลนพิษได้ยังไงกัน?”
ใบหน้าหล่อเหลาแลดูฉงนสงสัย ‘ฮุ่ยเฟิน’ เพียงพลิกฝ่ามือเบา ๆ ปรากฏไอหยินครอบคลุมผืนโคลน เขาดึงร่างปักษาเล็กเท่าฝ่ามือขึ้นมาจับกุม กรงเล็บสีนิลจิกลงบนขนคอเปรอะเปื้อนดินโคลน จนโลหิตไหลซึม
ร่างปักษาลอบกลืนน้ำลายลงคอ ขณะสบมองนัยน์ตาทอประกายใต้แสงจันทราสีชาด ทั้งเขี้ยวขาวคมตรงมุมปากหนาหยักได้รูป รอยยิ้มเล่ห์ร้ายบนใบหน้าหล่อเหลาทำให้ตระหนักรู้ได้ว่าโอกาสรอดชีวิตช่างริบหรี่
ต่อให้รอดพ้นจากการจมลงไปในโคลนพิษ น่าจะกลายเป็นอาหารมื้อค่ำของจิ้งจอกอยู่ดี
ปักษาผู้น่าสงสารมิได้ล่วงรู้ว่าบุรุษจิ้งจอกกำลังให้ความสนใจแววตาหวาดหวั่นพรั่นพรึงของนาง ด้วยความคิดเป็นตรงกันข้าม เขาว่านางน่าสนใจนัก
“เจ้าตัวนี้น่าเอ็นดู ปีกสีขาวสะอาด นัยน์ตาสีมรกต ชั่วชีวิตข้ามิเคยพบเห็นปักษางดงามเช่นนี้มาก่อน” ในน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ฮุ่ยเฟินสะบัดมือซ้ายตีลงบนอากาศ กลุ่มเมฆาสีนิลห้อมล้อมรอบกาย นำพาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เดินทางสู่สถานที่ห่างไกลในชั่วอึดใจ
นครอันมืดมิดปกคลุมด้วยไอหยิน เรือนสี่ประสานใหญ่โตโอ่อ่าดังพระราชวังบนโลกมนุษย์ ตั้งตระหง่านเหนือพสุธาเขียวชอุ่ม โดยรอบบริเวณเรือนไม้รโหฐานมีสุนัขจิ้งจอกในร่างบุรุษอาภรณ์สีนิลสนิท คอยสลับเปลี่ยนหน้าที่กันเฝ้าเวรยาม บางตนกำลังคาบเหยื่อซึ่งเป็นนกตัวเล็ก ๆ มากัดกินในโพรงหินเล็กแคบ บริเวณสวนหย่อมด้านหลังเรือน ที่พำนักอาศัยระหว่างการทำงาน
ฮุ่ยเฟินไม่ชอบกิริยาเช่นนั้น จึงมักว่ากล่าวตักเตือนบรรดาลูกสมุน มิให้ประพฤติตนเช่นเดรัจฉาน ส่งเสียงดังระหว่างการทำงานด้วยวิสัยเยี่ยงสุนัข ขอให้รักษาเกียรติของการเป็นปีศาจจิ้งจอก ในเมื่อพวกเขาต่างมีร่างของบุรุษสตรี
“ทหาร พวกเจ้าเฝ้าเวรยามให้ดี สถานการณ์นอกเมืองไม่ค่อยสงบนัก” พูดพลางสอดส่องสายตาไปสุดท้องนทีกว้างใหญ่ ซึ่งกั้นกลางระหว่างอาณาเขตปีศาจราตรี ถึงพบเพียงความนิ่งสงบ ไม่อาจไว้วางใจ
การสู้รบระหว่างเผ่าพันธุ์ไม่เคยสงบลงสักราตรีหนึ่ง ด้วยนิสัยของสุนัขจิ้งจอก มักกัดกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสิ้นลมหายใจ ปีศาจราตรีและปีศาจอื่น ๆ ไม่ใคร่รักสันติ หากชอบการทะเลาะวิวาทเป็นนิจ
“ขอให้นายท่านไว้วางใจเรื่องความปลอดภัย พวกพ้องของเรามีมากมายเหลือประมาณเทียบเท่ากองทัพราชาแห่งสวรรค์ กำลังพลจิ้งจอกต่างร่วมใจเป็นหนึ่ง รัชสมัยของท่านฮุ่ยเฟินเข้มแข็ง เกรียงไกร!”
ราชาฮุ่ยเฟิน! ราชาฮุ่ยเฟิน! เสียงจิ้งจอกเห่าหอนตามกัน จากตัวหนึ่งไปอีกตัว ราวกับว่าเป็นธรรมเนียมการส่งเสียงของสุนัข ด้วยความเคยชินของพวกเขาชื่นชอบการเยินยอหัวหน้าฝูง จวบจนนายท่านยกฝ่ามือข้างที่เหลืออยู่จากการจับคอปักษาขึ้นปัดป่ายไปมา
“พวกเจ้าอย่าเห่าหอนเสียงดังมากนัก จะเป็นที่เอิกเกริกในยามวิกาล”
“พวกข้าขออภัยที่ทำให้ท่านฮุ่ยเฟินรำคาญใจ” บุรุษร่างกำยำยกมือประสานไว้ข้างหน้าด้วยความเคารพยำเกรง “เพียงแต่การปกครองของเจ้านครปีศาจ ราชาจิ้งจอกผู้รวบรวมดินแดนให้เป็นปึกแผ่นเนิ่นนานนับสามหมื่นปีทำให้ข้าอดใจมิได้ ที่จะยกย่องสรรเสริญท่าน”
“ข้าไม่ถือสา ถึงพวกเจ้าจะส่งเสียงน่ารำคาญหูอยู่เป็นประจำ”
ทหารปีศาจคุ้มกันประตูหินสูงเสียดฟ้าเข้ามาคำนับเจ้าแห่งปีศาจ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเลื่อมใส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามนี้บ้านเมืองสงบสุขนัก มิได้เกิดศึกสงครามครั้งใหญ่ มีเพียงการทะเลาะวิวาทของปีศาจทั่วไป
ขณะสายตาหลายคู่เลื่อนมองไปยังปักษาเปื้อนโคลนในกรงเล็บสีนิลทั้งห้า ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วเบาลง จะตายแหล่มิตายแหล่ ทหารยามยกมุมปากขึ้น ปรากฏเขี้ยวคมอย่างปีศาจ หางทั้งสามโบกไหวไปมา อีกตนหนึ่งเป็นหัวหน้าทหารยาม นับเป็นจิ้งจอกห้าหาง เจ็ดหาง ปีศาจนับสิบตนถึงกับน้ำลายสอ
“นางไม่ใช่เหยื่อ กินไม่ได้ ครั้นจะยกให้พวกเจ้าไปกัดแทะเล่น ข้าเกรงว่าไม่เหมาะสม...”
เมื่อท่านผู้นำเคยตกลงด้วยวาจาว่าจำต้องรักษากิริยา เหล่าทหารจึงเก็บเขี้ยวเล็บ ขณะที่หางยังโผล่พ้นเฉกเช่นราชาจิ้งจอกผู้มีหางสีนิลสนิทครบทั้งเก้าหาง แลดูสง่างามยิ่งนัก
“หากว่าพวกเจ้าหิว เข้าไปหาอะไรกินในเมือง เจ้าไปบอกสหายของเจ้ามาผลัดเฝ้าประตูเมืองเสีย ข้าอนุญาตให้ได้สักวันหนึ่ง”
“เป็นพระคุณของข้าน้อยขอรับนายท่าน! ข้าจะรีบดับกระหาย รีบกลับมาทำงานขอรับ”
ธรรมดาปีศาจมักหิวกระหายพลังวิญญาณอยู่เสมอ เรื่องปากท้องคงรอนานไม่ได้
ฮุ่ยเฟินตรวจตราประตูเมือง สั่งงานทหารยามจิ้งจอกเรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเข้าห้องพักในจวนกว้าง พบองครักษ์เพิ่งปรากฏตนหลังกลุ่มเมฆาสีนิลสงบนิ่ง เหล่าจิ้งจอกล้วนแปลกใจ เหตุใดนายท่านอารมณ์ดีกว่าทุกวัน
“ข้าจะพานางไปอาบน้ำแปรงขน”
สิ้นคำนั้น จางเหว่ย ตงหยาง มองตามปักษาเปื้อนโคลน เนื้อตัวสั่นเทาเหลือกตาลนลานมองกลับไปทางพวกเขา องครักษ์ทั้งสามเป็นผู้ติดตามที่ดี ตามไปดูนายท่านนำถังไม้ใบหนึ่ง พลิกฝ่ามือเรียกน้ำใสสะอาดซึ่งไหลวนจากบ่อมรกตเข้ามาเป็นละอองสาย จุ่มนางลงไปทั้งตัว
วันละสามเวลามากกว่าอาหาร เห็นจะเป็น สุรา สุรา สุรา... ท่านอามัวแต่ร่ำสุรา เมื่อใดจะร่ำนารีบ้างเล่า -------------------- “ทำไมเจ้าไม่ลองปรนนิบัติข้าด้วยวิธีอื่น ไม่ดีกว่าหรือ? เจียลี่ งานดูแลความสะอาดให้บ่าวรับใช้ทำไป” “ท่านอาจะให้ข้าทำอะไร?” คำถามเต็มใบหน้าของนาง หวังเฟยถอนหายใจหนัก “เอาเถอะ เจ้ายังเป็นเด็กสาว คงจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ให้เจ้าไปว่าจ้างโสเภณีในเมืองมาบำรุงบำเรอข้าดีกว่า” เจียลี่เบิกตากว้างตกใจ นางละล่ำละลักพูด “ไม่ ๆ ท่านอา ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าพอรู้เรื่องราวระหว่างชายหญิง ข้าเคยอ่านตำรากามาด้วย ข้าเพียงเห็นว่าไม่เหมาะ หญิงขาไม่ดีอย่างข้า ไม่คู่ควรกับผู้ดีอย่างท่าน” “อย่างไรถึงจะเหมาะ?” “อย่างไรก็ไม่เหมาะ” ในน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงนั้นไม่ได้กระด้างกระเดื่องต่อท่านอา เขาอาจโกรธนางและไล่ตะเพิดนางได้ หลังจากที่เหล้าเข้าปากแล้วเขาจะกลายเป็นคนละคนทีเดียว นางรีบแก้ต่าง “ท่านอาหวังเปรียบดังเทวดาของเจียลี่ผู้แสนต่ำต้อย ข้ามิบังอาจ” “เทวดาบ้าบออะไรของเจ้า เลิกพร่ำเพ้อพรรณนาเรื่องบุญคุณนี่เสียที ท่านอาขี้เมาของเจ้าน่ะ...” ร่างสูงโน้มลงหานาง กระซิบข้างหูทีละคำ “อสุรกายจากขุมนรกทีเดียว” กว่าจะเจียลี่จะเข้าใจท่านอาผู้ไม่ได้ดูแคลนนางเหมือนกับที่ผู้อื่นรังเกียจนาง หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วแรง น้ำเสียงสะเทือนอารมณ์ของเขา ยากที่นางจะต้านทาน “ข้าชอบกลิ่นเด็กสาวตัวหอม ๆ อย่างเจ้าซะด้วย”
เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...
‘แม่แก้ว’ ลูกสาวเศรษฐีโรงฝิ่นมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับ ‘คุณหลวงจัน’ เพื่อรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลและชื่อเสียงของหล่อน ทว่าหลังแต่งงานไปกลับต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาด ความลับบางอย่างของคุณหลวงและคุณพระบ้านนี้ ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
Arachné Tailors ‘เพราะบุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากเสื้อผ้า’ เป้าหมายสายตาเสื้อผ้าหน้าผมโดนใจ เข้าสโลแกนหน้าร้านบนป้ายตัวเบ้อเริ่ม หลายคนยังได้ยิน ‘ตรึงใจ’ ถูกหัวหน้างานเรียก ตามด้วยเจ้านายหนุ่ม ภายใต้รูปลักษณ์หล่อเหลา เอาการเอางาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องเสื้อสูทชื่อดัง แท้จริงแล้วคือปีศาจแมงมุม! ผู้มาพร้อมสัญญาแห่งความปรารถนา ซึ่งเธอจะต้องเสียสละวิญญาณเข้าแลก และกฎแรงดึงดูดเที่ยงตรงเสมอ... “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี...” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา! หญิงสาวก็ยังพลาด จนเกิดแต่เรื่องประหลาด ๆ ยิ่งสัมผัสจากเจ้านายหนุ่มช่างแตกต่างจากใคร เขาแสนอ่อนโยนกับเธอที่เผลอใจเต้นตึกตัก แต่นั่น... ก็จนกระทั่งเรียวปากหนาหยักได้รูปอ้ากว้าง คายเจ้าแมงมุมตัวสีดำออกมา... ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ! อีกหนึ่งผลงานโรมานซ์ทริลเลอร์ แฟนตาซี 18+ ของพันพราย ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน - ภพคุณหลวง - (พีเรียด) พันวาเสน่หา
ชายหนุ่มนามว่า ‘จัน’ ผู้ต้องคำสาปมนตร์ตาละวัน นั่นก็คือเขาจะต้องกลายเป็นจระเข้ในเวลากลางคืน เป็นบุรุษรูปงามผู้โดดเดี่ยวเดียวดายในเวลากลางวัน เจ้าสาวจระเข้เท่านั้นที่จะทำให้หลุดพ้นจากคำสาป แน่นอนว่าความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาไม่ใช่ความตาย ตัวเขาและบ่าวคนสนิทจึงใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาตลอดหลายร้อยปี จนได้พบเจ้าของพรหมลิขิตผู้ชี้ชะตาชีวิตอย่าง ‘กัญญาวีร์’ ทว่าเธอดันเป็นถึงพนักงานขายอันดับหนึ่งของโรงงานผลิตหนังจระเข้! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป... จระเข้หน้ามึนอย่างนายจันจะต้องตายหรือไม่? ฤาจะโดนกุดหาง ถลกหนังไปเป็นกระเป๋าให้แม่แก้วตาดวงใจ ร้ายที่สุดคงได้กลายเป็นสเต๊กจระเข้ในยุคข้าวยากหมากแพง “เนื้ออิ่มอวบแนบเนื้อ นวลนาง ขยับถอดสอดแท่งกาม เข้าไซร้ เคลื่อนอีกท่าคว้าดารา ได้ต่อ หนอแม่ กี่ราตรีควบขี่ข้าง พี่นี้ ดุร้าย นำพา” “ลามกจกเปรต! ผู้ชายที่ไหนเขาแต่งกลอนแนว Sexual Harassment จีบสาวกัน” กระแทกเสียงบริภาษว่า ทั่วทั้งวงหน้าหวานเต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด แก้มแดงก่ำเพราะโกรธและอับอาย หนุ่มใหญ่กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม “แล้วน้องต้องการเยี่ยงไร?” “สายเปย์ค่ะ พ่อบุญทุ่มหมดตัวหมดใจ กลับบ้านตรงเวลา ไปไหนกับใครส่งข้อความบอก สำคัญที่สุดคือไม่เจ้าชู้มีหลายเมีย กันไม่ชอบ ไม่เอาเด็ดขาด กลัวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผัวร่วมกับใคร มีไม่ดีไม่มีดีกว่า...” กัญญาวีร์หน้าบึ้งตึงใส่คนข้างกายที่อยู่ในชุดโบราณ นุ่งโจงกระเบนสีดำ อกกว้างกำยำเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวเหลืองนวลทอประกายสีทองอ่อนราวสีสันของแสงอรุณยามเช้า สตรีนางไหนได้เห็นคงต้องตาต้องใจทันทีเว้นเพียงเธอ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสติสำนึกรู้ตน ไม่สบตา ไม่แม้แต่จะสนใจเส้นผมดำขลับมัดเกล้าแซมสีขาวเทาเป็นปอย ขนานไปกับกรามแกร่งราวม่านน้ำ บุรุษรูปงามราวกับว่าเป็นเทวดาบนสรวงสวรรค์ ทว่าคงไม่ใช่... ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
โปรยปราย... เมื่ออยากให้มหาเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง ‘ปวีร์’ ช่วยให้ ‘พิมพ์พิศา’ หลุดพ้นจากสภาพของสาวค้าบริการอย่างไม่สมยอม ไหนจะ ‘พ่อเลี้ยง’ บ้ากามที่จ้องคุกคามพรหมจรรย์ หญิงสาวบริสุทธิ์จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อ ‘จับ’ เขาไว้ให้อยู่หมัด ด้วยรู้ว่าอิทธิพลของเขาจะช่วยคุ้มภัยให้เธอไปตลอดกาล แต่นักธุรกิจทุกกระเบียดอย่างเขา จะช่วยใครย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง... ข้อนั้นพิมพ์พิศารู้ดี แต่ไม่รู้เลยว่า... เพียงเพื่อแลกกับอิสรภาพ เธอจะต้องมีทายาทให้เขา +++++++++++++++
© 2018-now MeghaBook
บนสุด