หนึ่งล้านบาทกับเวลาหนึ่งเดือนจากนั้นทุกอย่างก็จบ เงื่อนไขง่ายๆ ที่ใครก็อยากจะได้รับ และมนต์มีนาก็ผู้คนโชคดีคนนั้น เธอคิดว่าทุกอย่างจบ แต่เขาก็กลับมาหาเธออีกครั้งครั้งด้วยเงินที่เยอะกว่าเดิม แต่มนต์มีนาไม่ต้องการเงินอีกแล้วเธอต้องการแค่ใจ ใจต้องแลกด้วยใจแล้วเขาจะกล้าแลกกับเธอไหม
“ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้านะคะ ขอบคุณทุกท่านมากๆ ค่ะ สวัสดีค่ะ”
เสียงปรบมือดังขึ้นและค่อยๆ เงียบหายพร้อมกับไฟบนเวทีดับลง มนต์มีนาถอนหายใจและเดินลงมาด้านหลังเวทีไหล่ผึ่งผายด้วยความสง่างามยามเมื่ออยู่กลางแสงไฟลู่ลงใบหน้าสวยไร้รอยยิ้ม
“ไหวมั้ยมีน” ชาลิดาเดินมาประคองเพื่อนให้นั่งลงบนเก้าอี้
“ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละออย” มนต์มีนายิ้มอ่อน
“ออยว่าช่วงนี้มีนรับงานหนักมากเกินไปแล้วนะ วันนี้ก็ตั้งสามงาน” หญิงสาวพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะแต่ละงานก็ใช้พลังงานค่อนข้างเยอะและต้องยื่นนานๆ ขนาดตัวเองรับแค่งานเดียวยังเหนื่อยแทบแย่
“ขนาดมีนรับงานเยอะอย่างนี้ เงินยังไม่พอใช้หนี้เลยนะออย ตอนนี้บ้านก็กำลังจะถูกยึดแล้ว ส่วนเงินที่ไปกู้มาตอนรักษาแม่ดอกเบี้ยก็โหดเหลือเกินที่ทำทุกวันนี้แทบจะไม่ได้ส่งเงินต้นด้วยซ้ำ”
“เงินตั้งมากมายขนาดนั้นออยก็ไม่รู้จะช่วยมีนยังไงนะเหมือนกันนะเฮ้อ...” เพราะทางบ้านของชาลิดาเองก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรมากนัก ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันและวันนี้มนต์มีนาก็มาทำงานพิธีกรให้กับผลิตภัณฑ์แห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า โดยชาลิดาตามมาคอยดูแลเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ทั้งสองคนก็ไปเป็นพริตตี้ให้กับผลิตภัณฑ์แห่งหนึ่งมาแล้วถึงสองงาน แม้วันหนึ่งรายได้จะได้เยอะมากเมื่อเทียบกับงานพาร์ตไทม์ทั่วไปแต่มันก็ยังไม่พอกับภาระหนี้สินที่มนต์มีนาต้องจ่าย
“พรุ่งนี้มีนว่าจะเข้าไปที่โมเดลลิงสักหน่อย เผื่อว่าพี่ปานจะมีงานอะไรเพิ่ม ออยไปด้วยกันไหม”
“ได้สิ แต่วันนี้รีบกลับไปพักผ่อนกันนะดีกว่าพรุ่งนี้เจอกันสักสิบโมงเช้าดีไหม”
“ได้ๆ งั้นแยกกันตรงนี้นะเดี๋ยวรถเมล์จะหมดเสียก่อน”
“โอเคพรุ่งนี้เจอกันนะมีน กลับไปก็รีบนอนพักล่ะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
มนต์มีนารีบเดินออกมาหน้าห้างสรรพสินค้าเพื่อขึ้นรถเมล์กลับไปยังบ้านของเธอ
บ้านของหญิงสาวอยู่ในซอยลึกเมื่อลงรถเมล์หน้าปากซอยก็ยังต้องนั่งจักรยานยนต์เข้าไปแต่ส่วนใหญ่เธอเลือกจะเดินเข้าไปเองมากกว่าเพราะอยากประหยัดให้มากที่สุด
เมื่อลงจากรถเมล์วินจักรยานยนต์รับจ้างที่รู้จักกันก็ทักทายหญิงสาวขึ้น
“กลับดึกอีกแล้วนะมีน”
“ค่ะลุงศักดิ์ แล้วลุงศักดิ์ล่ะคะ ดึกแล้วทำไมยังอยู่ที่วินอีกล่ะ”
“เมื่อกี้ลุงเพิ่งไปส่งลูกค้ามาก็เลยแวะมาเอากระติกน้ำแล้วก็จะกลับบ้านเหมือนกัน มีนขึ้นมาเลยเดี๋ยวลุงไปส่ง” ลุงสมศักดิ์ขึ้นไปนั่งบนรถเตรียมจะออก
“ไม่เป็นใครหรอกค่ะ ลุงหนูเกรงใจ”
“จะเกรงใจทำไมในเมื่อลุงก็ต้องกลับบ้าน แล้วมันก็ผ่านบ้านหนู ตอนแม่หนูยังอยู่ก็เอื้อเฟื้อทำอาหารให้ลุงกับที่บ้านลุงกินประจำ มีนขึ้นมาเลยลูกไม่ต้องเกรงใจ”
“หนูขอจ่ายค่าโดยสารได้ไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ลุงไม่มีเงินทองมากมายช่วยหนูใช้หนี้ก็มีแต่น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ก็นี่แหละหนูอย่าคิดมากเลยจ้ะ”
“ขอบคุณค่ะลุงศักดิ์”
มนต์มีนาขึ้นไปนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์จากนั้นลุงสมศักดิ์ก็พาเธอมาส่งหน้าบ้าน
“ถ้ามีอะไรให้ลุงกับป้าช่วยก็บอกนะ”
“ค่ะลุง ขอบคุณมากนะคะ มีนฝากขนมให้เจ้าตัวเล็กสองคนด้วยนะคะ” หญิงสาวหยิบขนมที่ได้มาจากการทำงานวันนี้ให้กับลุงสมศักดิ์
“แล้วหนูไม่เก็บไว้กินเองหรือมีน” ลุงสมศักดิ์มองขนมในมือที่มีอยู่หลายชิ้น รู้สึกว่าราคาของมันคงจะแพง
“ลูกค้าให้มาเยอะเลยค่ะลุงศักดิ์แบ่งไปให้น้องๆ แล้วหนูก็ยังเหลืออีกหลายชิ้นค่ะ”
“ขอบใจนะมีน”
“หนูเข้าบ้านแล้วนะคะ”
“จ้ะ ลุงไปก่อนนะ”
เมื่อลุงสมศักดิ์ไปแล้วมนต์มีนาก็เปิดประตูรั้วเข้ามายังบ้านหลังเล็กที่แต่ก่อนมันเคยเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่พอมารดาไม่อยู่เธอก็รู้สึกว่าบ้านหลังเล็กมันกว้างขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนกลิ่นอายของมารดาก็ยังมีอยู่เต็มไปหมด
ตั้งแต่จำความได้เธอก็อยู่กับมารดาที่บ้านหลังนี้มาตลอดมารดาของเธอเป็นแม่ค้าขายขนมหวานในตลาด รายได้ก็พอเลี้ยงเธอได้เพราะนอกจากจะขายขนมหวานในตลาดแล้วยังทำส่งที่ร้านอาหารเยอะใหญ่ๆ อีกด้วย
มนต์มีนามีนามีความสุขในบ้านหลังนี้มากๆ จนกระทั่งเมื่อสองปีที่แล้วมารดาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สามและการทำคีโมหลายๆ ครั้งก็ไม่เป็นผล
มารดาของเธอสุขภาพแย่ลงจนทำขนมไม่ไหว ทำให้ต้องเอาบ้านไปจำนองแต่มันก็ยังไม่พอ หญิงสาวเลยไปกู้เงินจากเจ๊เจ้าของตลาดมาอีกสามแสนบาทเพื่อรักษามารดา เธอยอมจ่ายค่ายาแพงๆ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มารดาของเธอต่อสู้กับโรคมะเร็งปีครึ่งท่านก็จากไปโดยที่ยังไม่ทันเห็นความสำเร็จของเธอเลย
หญิงสาวเพิ่งเรียนอยู่ชั้นปีที่สามเหลืออีกเพียงแค่หนึ่งปีก็จะจบมาเป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษตามที่ตั้งใจไว้ แต่มาถึงตอนนี้มนต์มีนาไม่รู้ว่าจะสานฝันนั้นเพื่อใครในเมื่อเธอเหลือแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเปิดเทอมนี้จะทำยังไงต่อกับชีวิต จะกัดฟันหาเงินเรียนต่อให้จบหรือจะหาเงินมาใช้หนี้ ยังมีเวลาปิดเทอมอีกเกือบสี่เดือนแต่หนี้มากมายขนาดนั้นมันก็ยากเหลือเกินผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวจะหาเงินมาชำระให้หมดภายในระยะเวลาสั้นๆ
เสียงถอนหายใจดังเฮือกใหญ่จากนั้นมนต์มีนาก็อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนพรุ่งนี้เธอจะเข้าไปโมเดลลิงที่ตนเองสังกัดอยู่เพื่อถามทางเจ้าของว่าพอจะมีงานอะไรให้เธอทำมากกว่านี้อีกไหมเพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมเธออยากทำงานให้มันเต็มที่ เพื่อหวังจะลดหนี้ลงได้บ้าง ถ้าหากมันเป็นตามที่หวังเปิดเทอมก็จะเรียนต่อให้จบ
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
ใครจะคิดว่าคนที่เธอเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวในคืนนั้นจะกลายมาเป็นคนรักในวันนี้ แต่เขาไม่ใช่แค่คนรักธรรมดาเพราะเขาคือเจ้าของบริษัทที่เธอเพิ่งเข้าทำงานได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ แต่เธอต้องเก็บเป็นความลับก่อนจะผ่านช่วงทดลองงาน
เพราะชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนเธอความจำเสื่อม โดยมีตนเองเป็นต้นเหตุ หมออย่างเขาก็ไม่รีรอที่จะรับเธอไปดูแลในฐานะคนรัก
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"