เมื่อความเป็นเพื่อนแปรเปลี่ยนเป็นความรัก เลยต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ
1
“เธอชื่ออะไรเหรอ” หนูน้อยปราชญ์เอ่ยถามเพื่อนบ้านตัวน้อยที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังใกล้ ๆ กัน
“เราชื่อนลิน เรียกเราว่าลินก็ได้” เด็กน้อยวัยเดียวกันตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
“เราชื่อปราชญ์เรียกเราว่าปราชญ์ก็ได้ มาเป็นเพื่อนกับเราไหม”
“เอาสิ นายเรียนที่ไหนเหรอ”
“เราเรียนโรงเรียนอนุบาลหวานเย็น”
“จริงเหรอ แม่เราก็จะพาเราไปฝากเรียนที่นั่นด้วย นายก็ต้องใส่ชุดหมี สะพายเป้ พากระบอกน้ำสวยๆ แบบเราสิ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ดีจัง”
“ดียังไงเหรอ”
“จะได้มีเพื่อนเรียนที่เดียวกันไง”
เด็กน้อยทั้งสองเป็นเพื่อนกัน หลังจากทักทายกันวันนั้น เรียกว่าเรียนที่เดียวกันตลอด ไปไหนไปกัน ลุยแหลก วีรกรรมวีเวรจากประถมถึงมัธยมเป็นที่เลื่องลือ
“เย่! ในที่สุดเราก็เรียนจบแล้ว” หมวกบัณฑิตและช่อดอกไม้ถูกโยนขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่ทั้งสองจะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ
“เรียนจบแล้วลินไปทำงานกับเรานะ” ปราชญ์เอ่ยชวนเพื่อนสาว
“ตกลง นายชวนทั้งทีไม่ไปได้ไง แต่ต้องให้เงินเดือนสูงๆ นะ ไม่งั้นจะเล่นตัว”
“ขอมาเลย เราพร้อมจ่าย แต่ไปทำงานกับเรา ในตำแหน่งเลขานะ”
“เลขาเหรอ” เธอทวนประโยคของเขา ปราชญ์เป็นครอบครัวนักธุรกิจใหญ่ ในขณะที่ครอบครัวของเธอเป็นศิลปิน แต่ใช่ว่าจะรวยน้อยกว่าเขา เพราะบิดานั้นมีพรสวรรค์ในการวาดรูปแต่เด็ก รูปวาดของท่านมีราคาหลักล้านไปจนถึงหลายร้อยล้านบาท และบิดาของปราชญ์ก็เป็นแฟนคลับบิดาของเธอด้วย
มารดานั้นเป็นแม่บ้าน ชอบทำอาหาร ท่านทำช่องยูทูบเพื่อเผยแพร่สูตรการทำอาหารที่สืบทอดมาจากคุณยาย เธอไม่ได้พ่อมาสักเสี้ยวเดียว แต่ได้แม่มาเต็ม ๆ เลยชอบทำอาหารเหมือนกับท่าน แต่ที่เธอมาเรียนคณะเดียวกันกับปราชญ์ก็เพราะเธอแพ้เดิมพัน เขาบอกว่าถ้าเธอแพ้เดิมพันเขา เธอจะต้องมาเรียนคณะบริหารเหมือนกันกับเขา ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“ใช่”
“เป็นเลขาต้องทำอะไรบ้าง”
“ดูแลปราชญ์ทุกเรื่อง” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะยิ้มใส่ตา
“ดูแลทุกเรื่องเลยเหรอ” เธอเบี่ยงหน้าหนีเล็กน้อย ก่อนจะดันใบหน้าของเขาออกห่าง
“ใช่” เขาพยักหน้ารับ
“เรียนจบแล้วนายจะทำงานเลยเหรอ”
“ยังก่อน เราไปเที่ยวกันไหม ความฝันของลินคืออยากไปเที่ยวให้ฉ่ำปอดก่อนทำงานไม่ใช่เหรอ”
“จริงดิ ปราชญ์จะพาลินไปเที่ยวเหรอ”
“จริงสิ เคยสัญญาเอาไว้แล้วไง” เขายื่นมือไปเกี่ยวนิ้วก้อยของเธอ
“สุดยอดไปเลย เราจะไปไหนกันดีล่ะ” ตอนเรียนก็ตั้งใจเรียน พอเรียนจบก็อยากเที่ยวพักผ่อนให้ฉ่ำปอดก่อนจะทำงานอย่างจริงจัง เธอเคยขอเรื่องนี้เขาเอาไว้
เขารู้ดีว่าปราชญ์เพื่อนรักไม่เคยผิดสัญญา รับคำอะไรเอาไว้ ก็จะทำตามนั้นไม่เคยเกี่ยงงอน แต่ถ้าสิ่งไหนเขาทำไม่ได้ เขาก็จะไม่รับปากพร่ำเพรื่อ
“ไปเที่ยวป่า ปีนเขา เที่ยวทะเล แบบที่เราชอบกันไง ลินไปไหม”
“ไปสิ เราลุยแหลกอยู่แล้ว” เธอเป็นขาลุย ไปไหนไปกัน
เขาพาเธอไปเที่ยวทะเล ซึ่งมีบ้านพักอยู่ที่นั่น เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน กินอาหารทะเลสดๆ สุดแสนอร่อย พักผ่อนอีกสองถึงสามวัน หลังกลับจากทะเล ก็ไปปีนเขากันต่อ จบทริปด้วยกันไปเดินป่าและค้างคืนในป่า
“นี่ถ้าปราชญ์ไม่ใช่เพื่อนลิน พี่กฤษไม่ให้ลินมากางเต็นท์นอนในป่ากับปราชญ์หรอก” กฤษเป็นแฟนหนุ่มของนลิน พอเธอพูดถึงแฟนหนุ่ม ปราชญ์ก็ชะงักมือที่กำลังจัดการกับเต็นท์อยู่ในทันที
“เลิกพูดถึงหมอนั่นสักทีเถอะ”
“ทำไมถึงไม่ชอบพี่กฤษล่ะ พูดถึงทีไร ปราชญ์ก็หงุดหงิดทุกที”
“ก็มันจะมาหลอกลินไง มันเจ้าชู้จะตาย คบไปได้ไงคนแบบนี้”
“นั่นมันในอดีต ตอนนี้พี่กฤษมีลินคนเดียว ไม่เจ้าชู้อีกแล้ว”
“รู้ได้ไงว่ามันไม่เจ้าชู้อีกแล้ว มันอาจจะทำลับหลังก็ได้”
“เลิกพูดเถอะ เดี๋ยวทะเลากัน”
“ใครเริ่มก่อนล่ะ” ปราชญ์ผละจากการกางเต็นท์ ก่อนจะเดินไปตักน้ำริมลำธาร เขาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดแรงๆ เติมพลังชีวิตให้กับตัวเอง
แต่พลังชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับเขานั้น คือเพื่อนรักอย่างนลิน เธอเป็นชีวิตของเขา ทำให้เขารู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่อยู่ได้ใกล้ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นหน้า และทำให้เขาหายเหงาได้เป็นอันมาก เนื่องจากบิดามารดาทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเวลาให้เขานัก แตกต่างจากครอบครัวของเธอที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกมากกว่าครอบครัวของเขาเสียอีก เขาจึงได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเธอแบบเนียน ๆ อาศัยว่าเป็นเพื่อนบ้านและเป็นเพื่อนลูกสาวเจ้าของบ้าน ไปกินไปอยู่ที่บ้านของเธอเหมือนสมาชิกคนหนึ่งก็ไม่ปาน
พ่อแม่ของเธอเป็นคนใจดี หัวเราะ ยิ้มง่าย จิตใจดี เขาชอบชีวิตอิสระ ง่าย ๆ สบายมากๆ มากกว่าความตึงเครียดเหมือนครอบครัวตัวเอง ที่บิดามารดาต้องรักษาหน้าตาทางสังคมและค่อนข้างเคร่งเครียดกับงานที่ทำอยู่
มีเงินมากมายไม่ได้หมายความว่าสบาย มีแล้วก็อยากมีอีก บิดามารดามีเงินมากมายแล้ว ก็ยิ่งงานยุ่ง แทบไม่มีเวลาให้กับเขาซึ่งเป็นลูก
เขาเคยคิดอยากให้พวกท่านพอแค่นี้ เงินก็เยอะแล้ว น่าจะเกษียณตัวเองได้แล้ว นอกจากพวกท่านจะไม่หยุด กลับยกหน้าที่อันหนักอึ้งให้เขาได้สืบทอดกิจการของท่าน เรียนจบเขาเลยต้องับช่วงต่อกิจการ ทำงานต่อจากบิดามารดา และต้องนำพาธุรกิจของท่านไปให้ได้
“ที่นี่อากาศดีจัง เราจะพักกันสักกี่คืน” หญิงสาวเดินตามลงไป ก่อนที่จะวักน้ำมาล้างหน้า และเอ่ยถามเพื่อนชายคนสนิท
“สักสองสามวันแหละ อยากพักให้เต็มที่เดี๋ยวก็ต้องทำงานแล้ว” เขามองซีกหน้าสวยหวานของเธอแล้วรู้สึกหวง ที่เขาพาเธอมาที่นี่ เพราะอยากแยกเธอจากแฟนหนุ่ม เห็นอีกฝ่ายอี๋อ๋ออยู่กับหมอนั่นแล้วเขาบังเกิดความรู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมา
“เครียดหรือเปล่า ต้องรับภาระอันหนักอึ้งจากคุณลุงกับคุณป้า”
“ไม่นะ แต่ปราชญ์จะไม่ทำงานเหมือนพ่อกับแม่นะ”
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง