เมื่อความเป็นเพื่อนแปรเปลี่ยนเป็นความรัก เลยต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ
เมื่อความเป็นเพื่อนแปรเปลี่ยนเป็นความรัก เลยต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ
1
“เธอชื่ออะไรเหรอ” หนูน้อยปราชญ์เอ่ยถามเพื่อนบ้านตัวน้อยที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังใกล้ ๆ กัน
“เราชื่อนลิน เรียกเราว่าลินก็ได้” เด็กน้อยวัยเดียวกันตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
“เราชื่อปราชญ์เรียกเราว่าปราชญ์ก็ได้ มาเป็นเพื่อนกับเราไหม”
“เอาสิ นายเรียนที่ไหนเหรอ”
“เราเรียนโรงเรียนอนุบาลหวานเย็น”
“จริงเหรอ แม่เราก็จะพาเราไปฝากเรียนที่นั่นด้วย นายก็ต้องใส่ชุดหมี สะพายเป้ พากระบอกน้ำสวยๆ แบบเราสิ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ดีจัง”
“ดียังไงเหรอ”
“จะได้มีเพื่อนเรียนที่เดียวกันไง”
เด็กน้อยทั้งสองเป็นเพื่อนกัน หลังจากทักทายกันวันนั้น เรียกว่าเรียนที่เดียวกันตลอด ไปไหนไปกัน ลุยแหลก วีรกรรมวีเวรจากประถมถึงมัธยมเป็นที่เลื่องลือ
“เย่! ในที่สุดเราก็เรียนจบแล้ว” หมวกบัณฑิตและช่อดอกไม้ถูกโยนขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่ทั้งสองจะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ
“เรียนจบแล้วลินไปทำงานกับเรานะ” ปราชญ์เอ่ยชวนเพื่อนสาว
“ตกลง นายชวนทั้งทีไม่ไปได้ไง แต่ต้องให้เงินเดือนสูงๆ นะ ไม่งั้นจะเล่นตัว”
“ขอมาเลย เราพร้อมจ่าย แต่ไปทำงานกับเรา ในตำแหน่งเลขานะ”
“เลขาเหรอ” เธอทวนประโยคของเขา ปราชญ์เป็นครอบครัวนักธุรกิจใหญ่ ในขณะที่ครอบครัวของเธอเป็นศิลปิน แต่ใช่ว่าจะรวยน้อยกว่าเขา เพราะบิดานั้นมีพรสวรรค์ในการวาดรูปแต่เด็ก รูปวาดของท่านมีราคาหลักล้านไปจนถึงหลายร้อยล้านบาท และบิดาของปราชญ์ก็เป็นแฟนคลับบิดาของเธอด้วย
มารดานั้นเป็นแม่บ้าน ชอบทำอาหาร ท่านทำช่องยูทูบเพื่อเผยแพร่สูตรการทำอาหารที่สืบทอดมาจากคุณยาย เธอไม่ได้พ่อมาสักเสี้ยวเดียว แต่ได้แม่มาเต็ม ๆ เลยชอบทำอาหารเหมือนกับท่าน แต่ที่เธอมาเรียนคณะเดียวกันกับปราชญ์ก็เพราะเธอแพ้เดิมพัน เขาบอกว่าถ้าเธอแพ้เดิมพันเขา เธอจะต้องมาเรียนคณะบริหารเหมือนกันกับเขา ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“ใช่”
“เป็นเลขาต้องทำอะไรบ้าง”
“ดูแลปราชญ์ทุกเรื่อง” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะยิ้มใส่ตา
“ดูแลทุกเรื่องเลยเหรอ” เธอเบี่ยงหน้าหนีเล็กน้อย ก่อนจะดันใบหน้าของเขาออกห่าง
“ใช่” เขาพยักหน้ารับ
“เรียนจบแล้วนายจะทำงานเลยเหรอ”
“ยังก่อน เราไปเที่ยวกันไหม ความฝันของลินคืออยากไปเที่ยวให้ฉ่ำปอดก่อนทำงานไม่ใช่เหรอ”
“จริงดิ ปราชญ์จะพาลินไปเที่ยวเหรอ”
“จริงสิ เคยสัญญาเอาไว้แล้วไง” เขายื่นมือไปเกี่ยวนิ้วก้อยของเธอ
“สุดยอดไปเลย เราจะไปไหนกันดีล่ะ” ตอนเรียนก็ตั้งใจเรียน พอเรียนจบก็อยากเที่ยวพักผ่อนให้ฉ่ำปอดก่อนจะทำงานอย่างจริงจัง เธอเคยขอเรื่องนี้เขาเอาไว้
เขารู้ดีว่าปราชญ์เพื่อนรักไม่เคยผิดสัญญา รับคำอะไรเอาไว้ ก็จะทำตามนั้นไม่เคยเกี่ยงงอน แต่ถ้าสิ่งไหนเขาทำไม่ได้ เขาก็จะไม่รับปากพร่ำเพรื่อ
“ไปเที่ยวป่า ปีนเขา เที่ยวทะเล แบบที่เราชอบกันไง ลินไปไหม”
“ไปสิ เราลุยแหลกอยู่แล้ว” เธอเป็นขาลุย ไปไหนไปกัน
เขาพาเธอไปเที่ยวทะเล ซึ่งมีบ้านพักอยู่ที่นั่น เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน กินอาหารทะเลสดๆ สุดแสนอร่อย พักผ่อนอีกสองถึงสามวัน หลังกลับจากทะเล ก็ไปปีนเขากันต่อ จบทริปด้วยกันไปเดินป่าและค้างคืนในป่า
“นี่ถ้าปราชญ์ไม่ใช่เพื่อนลิน พี่กฤษไม่ให้ลินมากางเต็นท์นอนในป่ากับปราชญ์หรอก” กฤษเป็นแฟนหนุ่มของนลิน พอเธอพูดถึงแฟนหนุ่ม ปราชญ์ก็ชะงักมือที่กำลังจัดการกับเต็นท์อยู่ในทันที
“เลิกพูดถึงหมอนั่นสักทีเถอะ”
“ทำไมถึงไม่ชอบพี่กฤษล่ะ พูดถึงทีไร ปราชญ์ก็หงุดหงิดทุกที”
“ก็มันจะมาหลอกลินไง มันเจ้าชู้จะตาย คบไปได้ไงคนแบบนี้”
“นั่นมันในอดีต ตอนนี้พี่กฤษมีลินคนเดียว ไม่เจ้าชู้อีกแล้ว”
“รู้ได้ไงว่ามันไม่เจ้าชู้อีกแล้ว มันอาจจะทำลับหลังก็ได้”
“เลิกพูดเถอะ เดี๋ยวทะเลากัน”
“ใครเริ่มก่อนล่ะ” ปราชญ์ผละจากการกางเต็นท์ ก่อนจะเดินไปตักน้ำริมลำธาร เขาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดแรงๆ เติมพลังชีวิตให้กับตัวเอง
แต่พลังชีวิตที่ดีที่สุดสำหรับเขานั้น คือเพื่อนรักอย่างนลิน เธอเป็นชีวิตของเขา ทำให้เขารู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่อยู่ได้ใกล้ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นหน้า และทำให้เขาหายเหงาได้เป็นอันมาก เนื่องจากบิดามารดาทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเวลาให้เขานัก แตกต่างจากครอบครัวของเธอที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกมากกว่าครอบครัวของเขาเสียอีก เขาจึงได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเธอแบบเนียน ๆ อาศัยว่าเป็นเพื่อนบ้านและเป็นเพื่อนลูกสาวเจ้าของบ้าน ไปกินไปอยู่ที่บ้านของเธอเหมือนสมาชิกคนหนึ่งก็ไม่ปาน
พ่อแม่ของเธอเป็นคนใจดี หัวเราะ ยิ้มง่าย จิตใจดี เขาชอบชีวิตอิสระ ง่าย ๆ สบายมากๆ มากกว่าความตึงเครียดเหมือนครอบครัวตัวเอง ที่บิดามารดาต้องรักษาหน้าตาทางสังคมและค่อนข้างเคร่งเครียดกับงานที่ทำอยู่
มีเงินมากมายไม่ได้หมายความว่าสบาย มีแล้วก็อยากมีอีก บิดามารดามีเงินมากมายแล้ว ก็ยิ่งงานยุ่ง แทบไม่มีเวลาให้กับเขาซึ่งเป็นลูก
เขาเคยคิดอยากให้พวกท่านพอแค่นี้ เงินก็เยอะแล้ว น่าจะเกษียณตัวเองได้แล้ว นอกจากพวกท่านจะไม่หยุด กลับยกหน้าที่อันหนักอึ้งให้เขาได้สืบทอดกิจการของท่าน เรียนจบเขาเลยต้องับช่วงต่อกิจการ ทำงานต่อจากบิดามารดา และต้องนำพาธุรกิจของท่านไปให้ได้
“ที่นี่อากาศดีจัง เราจะพักกันสักกี่คืน” หญิงสาวเดินตามลงไป ก่อนที่จะวักน้ำมาล้างหน้า และเอ่ยถามเพื่อนชายคนสนิท
“สักสองสามวันแหละ อยากพักให้เต็มที่เดี๋ยวก็ต้องทำงานแล้ว” เขามองซีกหน้าสวยหวานของเธอแล้วรู้สึกหวง ที่เขาพาเธอมาที่นี่ เพราะอยากแยกเธอจากแฟนหนุ่ม เห็นอีกฝ่ายอี๋อ๋ออยู่กับหมอนั่นแล้วเขาบังเกิดความรู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมา
“เครียดหรือเปล่า ต้องรับภาระอันหนักอึ้งจากคุณลุงกับคุณป้า”
“ไม่นะ แต่ปราชญ์จะไม่ทำงานเหมือนพ่อกับแม่นะ”
เธอเป็นคู่หมั้นคู่หมายกับเขามานานหลายปี แต่เขาไม่อยากหมั้นและแต่งงานกับเธอ เขามีคนที่รักอยู่แล้ว เธอจึงกลายเป็นส่วนเกิน บิดามารดามาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้เธอไร้ที่พึ่งพิง ในเมื่อเขาไม่รักใคร่ไยดี เธอก็พร้อมถอยห่าง แต่เขากลับตามติดไม่ยอมให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา
เขาเจอเธอเมื่อวันก่อน ทำให้เขาตกหลุมรักเธอในทันที เขาได้เจอเธออีกครั้งในสภาพบาดเจ็บและความจำเสื่อม โดยไม่รู้ว่าแท้ที่จริงเธอคือคู่หมั้นวัยเด็กของเขา แต่เพราะเขาตกหลุมรักเธอ จึงโกหกเธอไปว่าเขาคือสามี!
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เพราะประกาศิตจากแม่และยายให้เธอกลับไปแต่งงานกับคนที่หาไว้ ทางรอดสุดท้ายคือเธอต้องหาผู้ชายที่เพียบพร้อมกว่ากลับไปฝาก แต่ทุกอย่างก็ดันผิดแผนไปหมด เมื่อเธอดันสะเพร่าเข้าผิดห้อง สุดท้ายใครจะคิดว่าชีวิตของ แวววิวาห์จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะคีย์การ์ดใบเดียวแท้ๆ เลยที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกผันถูกภาคิน ประธานบริษัทจอมเผด็จการและเอาแต่ใจที่สุดในสามโลกคอยกดขี่ข่มเหง ใช่! เขาทั้งกด ขี่ แล้วก็ขย่ม เอ๊ย! ข่มเหงจนเธอแทบไม่ได้ลงจากเตียง “จูบห้าพัน แต่ถ้าจูบดูดดื่มรุกล้ำหมื่นนึง” “กอดห้าพัน แต่ถ้ากอดลูบไล้ล้วงลึกก็หมื่นนึง ถ้าคุณไม่จ่าย ฉันจะถือว่าคุณหลงเสน่ห์ฉัน และเราต้องแต่งงานกัน” “แล้วถ้ามากกว่านั้นล่ะ” เสียงเขากระเส่าพลางโน้มใบหน้าลงไปถามใกล้ๆ
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
© 2018-now MeghaBook
บนสุด