อุบัติเหตุรถชนทำให้พี่สาวต้องตายจาก เธอจำต้องอยู่ในคราบพี่สาวฝาแฝดเพื่อให้เป็นที่รักของบิดามารดา บิดามารดาที่รักแต่พี่สาวของเธอ แต่เกลียดเธอสุดหัวใจ เพราะเธอเกิดมาแล้วทำให้พวกท่านหุ้นตก ธุรกิจย่ำแย่ แต่นั่นคงไม่เท่ากับว่า เธอไปหลงรักผู้ชายที่เคยโดนพี่สาวสลัดรัก เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาเพียงแค่อยากแก้แค้นเธอเพียงแค่นั้น ***** ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "พี่กรคะ ขอคุยด้วยหน่อยสิคะ" เสียงสั่นระริกเอ่ยขึ้นทางด้านหลัง กรการณ์รอเวลานี้มานานแล้ว จึงเอ่ยขอตัวจากแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดี "พี่กร มันหมายความว่ายังไงคะ" รุ้งรวิดาเอ่ยถามเสียงสั่น "ก็อย่างที่เห็น" "พี่รักเธอเหรอคะ" "มันสำคัญด้วยเหรอ" "สำคัญค่ะ เพราะระหว่างเรา ไม่สิต้องถามว่าเรื่องของเราพี่จริงจังแค่ไหน" "เราก็แค่ลองคบหากันไม่ใช่เหรอ ไปต่อไม่ได้ก็แค่ถอยห่างกันไป" "คนที่ไม่อยากไปต่อคือพี่กรฝ่ายเดียวหรือเปล่าคะ ไม่ใช่เรา" รุ้งรวิดาเอ่ยถามเสียงสั่น "แล้วแต่จะคิด" เขาตอบอย่างไม่แยแส ท่าทีรู้สึกสะใจของเขาทำให้เธอเพิ่งได้สติว่าที่แล้วๆ มา มันคือความรักจอมปลอม เต็มไปด้วยความหลอกลวงทั้งเพ "พี่มีเธออยู่แล้วเหรอคะ มีเธออยู่อีกคนทั้ง ๆ ที่เราคบกัน" "ไม่นะ เมื่อก่อนเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่พี่เพิ่งรู้ว่าเธอมีค่ามากที่สุด เลยอยากพัฒนาความสัมพันธ์จากเพื่อนเป็นคนรัก" "แล้วทำไมตอนนั้นพี่ไม่บอกกันตรง ๆ ล่ะคะ" เสียงของรุ้งรวิดาสั่นระริกยิ่งกว่าเดิมเสียอีก "ตอนนั้นพี่ยังไม่ได้คิดกับนภาแบบนั้น แต่ตอนนี้พี่เริ่มคิด กับเธอพี่คิดว่าเราก็เป็นแบบนี้ไปตลอดได้นะ เราต่างมีความสุขกันทั้งคู่" "เป็นแบบนี้ต่อไป หมายความว่าจะให้รินเป็นคนในความลับต่อไปเหรอคะ" "ถ้าเธอไม่ขัดเราก็มีกันสามคนได้นะ" เขาพูดอย่างใจร้าย ทำเอารุ้งรวิดาอึ้งไป "ทำไมพี่ใจร้ายแบบนี้" เธอเอ่ยถามเขาทั้งน้ำตา พยายามไม่ให้น้ำตารินไหลให้อับอายและโดนดูถูก แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งทำให้น้ำตาไหลมากยิ่งขึ้น "..." เขานิ่งไม่ตอบอะไร แต่เธอเห็นแค่ความสะใจในแววตาของเขา "พี่ทำไปเพราะอยากแก้แค้นเหรอคะ" เพิ่งสำนึกได้ก็ตอนนี้ แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นถึงเพียงนี้ "ไม่ใช่ พี่ก็แค่ทำเหมือนที่เธอทำ คบกับพี่ แต่เธอก็ยังคบกับคนอื่นได้ทีละหลายๆ คน ถึงพี่จะมีนภา พี่ก็มีเธอได้ เราอยู่กันแบบนี้ได้นะ ไม่เห็นแปลก เอาเป็นว่าเธอมีปัญหาเรื่องเงินเหมือนเมื่อก่อนก็ขอพี่ได้นะ แค่ว่าเมื่อก่อนไม่ได้นอนด้วยกัน แต่ตอนนี้อาจจะต้องนอนด้วยกันบ้างเพื่อแลกกับเงินที่เสียไป พี่ก็โอเคนะ เป็นการหาความสุขใส่ตัวในรูปแบบหนึ่ง" "พี่กรคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ" รุ้งรวิดาถึงกับน้ำตาซึม เธอตกใจ เสียใจ ผิดหวัง และรู้สึกเศร้าจนหัวใจเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด ที่ยังยืนอยู่เพราะไม่อยากล้มลงไปให้เขาเหยียบย่ำให้จมดินไปมากกว่านี้ "ใช่ ถ้าเธอไม่ติด พี่ก็ไม่ติด" เพียะ!!! เสียงฝ่ามือดังขึ้น ใบหน้าของกรการณ์หันไปตามแรงตบ "ตบนี้สำหรับที่พี่หลอกกัน รุ้งคงไม่ทำตัวแบบนั้นหรอกค่ะ รุ้งเป็นคนรักใครรักจริง ไม่มีทางใช้ผู้ชายร่วมกับใครแน่นอน" "ก็ดี คบทีละหลายๆ คน เลือกได้หรือยังล่ะว่าจะเอาคนไหน แต่อย่าให้มันรู้นะว่าเสียจิ้นให้พี่แล้ว แต่เอ๊ะ! น่าจะไม่ใช่ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ทันสมัย บางทีที่เห็นคับๆ แน่นๆ อาจจะไม่ใช่จิ้น แต่เป็นรีแพร์ยกกระชับช่วงล่างที่หลวมโพรกไปแล้ว" แม้จะสะดุดหูกับคำว่ารุ้ง แต่จำได้ ที่เธอบอกว่าเคยใช้ชื่อนี้และมาเปลี่ยนชื่อในภายหลัง เขาจึงปล่อยผ่านไม่คิดจะสนใจ ปากคอเราะรายของเขาทำให้รุ้งรวิดาหายใจแทบไม่ออก "ทำไมพี่เลวแบบนี้" เธอสะอื้นจนตัวโยน เขาไม่ปลอบโยน ไม่รู้สึกผิดสีหน้าแลดูสะใจ ยืนดูเงียบๆ อย่างพึงพอใจ จนเธอรู้สึกโหวงในอก นี่น่ะเหรอผู้ชายที่เธอรักหมดใจ "ลาก่อนนะคะ" เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เธอควรพอแค่นี้ จะอยู่ให้เขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไปทำไมกัน เธอหมุนกายเดินจากมา น้ำตาร่วงพรูอีกรอบ แรกเริ่มเดิมทีเพื่อที่จะมาขอความช่วยเหลือจากเขา แต่ในตอนนี้เธอหมดหนทางแล้วนั่นเอง นอกจากเขายังจะไม่ช่วยเหลือแล้ว ยังมีแต่จะสมน้ำหน้าให้อีก
ซีรีส์อย่ารักคนใจร้าย
เล่ม 1 อย่ารักคนใจร้าย
“พี่รินอย่าเป็นอะไรนะคะ เราต้องรอด” รุ้งรวิดาตะกองกอดร่างของพี่สาวเอาไว้แนบอก
เลือดไหลเจิ่งนองไปหมด เพราะเธอกับพี่สาวประสบอุบัติเหตุรถชน เนื่องด้วยถนนลื่น รถจึงตกไหล่ทาง
ในระหว่างช่วงความเป็นความตาย เธอก็ลากร่างของพี่สาวออกมาจากรถได้สำเร็จ
“พี่คงไม่รอดแล้วรุ้ง” รินลดาพูดเสียงแผ่ว วันนี้เธอตั้งใจขับรถไปรับน้องสาวฝาแฝดเพียงคนเดียวมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่คิดว่าจะเป็นวันจากลาของกันและกัน
เธอรักน้องสาวมาก เพราะมีกันแค่สองคนพี่น้อง แต่บิดามารดานั้นไม่รักรุ้งรวิดาเลย พวกท่านโทษว่าธุรกิจที่บ้านมีปัญหาเพราะรุ้งรวิดาคือตัวซวย หุ้นในพอร์ตสีเขียวตอนเธอลืมตาดูโลก แต่พอรุ้งรวิดาที่คลอดตามออกมาอีกไม่กี่นาที หุ้นก็ร่วงกราว เป็นสีแดงไปทั้งพอร์ต ทำให้บิดาหงุดหงิดเป็นอันมาก
“พี่ริน อย่าพูอะไรน่ากลัวแบบนั้นสิคะ เราต้องรอดสิ รุ้งจะพาพี่ไปหาหมอ” เธอควานหาโทรศัพท์แต่มันพัง รินลดารีบจับมือของน้องสาวเอามากุมเอาไว้ ลมหายใจรวยรินเพราะกำลังจะสิ้นใจ
“พี่ขอเป็นครั้งสุดท้าย” ด้วยความที่รักน้องสาวมาก บิดามารดาไม่เลี้ยงน้องสาวของเธอ พาไปทิ้งเอาไว้กับคุณยาย แต่เธอรักน้องมาก มีเวลาก็จะไปเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ
ตอนนี้คุณยายเสีย เธอขอร้องอ้อนวอนบิดามารดาขอไปรับน้องมาอยู่ด้วย โดยการแลกกับที่เธอสอบได้คะแนนเต็มทุกวิชา และทุกอย่างก็สมหวัง เมื่อเธอทำได้ดังปากพูด
“พี่รินจะขออะไร รุ้งให้พี่ได้ทุกอย่าง”
“เมื่อพี่ตาย จงเป็นพี่ เฮือก! จงเป็นพี่”
“ไม่ ไม่ ไม่ พี่ต้องไม่ตาย”
“รับปากสิ เฮือก!” รินลดาจับมือของน้องสาวแน่น รุ้งรวิดาร้องไห้จนสายตาพร่ามัวไปหมด เธอมองมือของพี่สาวที่เต็มไปด้วยเลือด ที่กำลังจับมือของเธอแล้วบีบแน่น
“รุ้งรับปากพี่ทุกอย่าง ขอแค่พี่ไม่ตาย ฮือ ๆ พี่ห้ามตายนะ เราเพิ่งจะได้อยู่ด้วยกันเอง” รุ้งรวิดาส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม
“เป็นพี่นะรุ้ง พ่อกับแม่จะได้รัก รุ้งจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่”
“พี่ริน ไม่นะ ไม่ ไม่ ไม่ พี่ห้ามเป็นอะไรนะ” รุ้งรวิดากอดพี่สาวแนบอก ก่อนที่จะสลบไป
เธอผวาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
“ริน รินเป็นยังไงบ้างลูก” เรวดีโผเข้ากอดลูกสาวก่อนจะเอ่ยถาม
“ริน” รุ้งรวิดาอึกอักอ้ำอึ้ง
“พ่อกับแม่ดีใจที่รินปลอดภัย”
“รินปลอดภัย แล้วรุ้งล่ะคะ” รุ้งรวิดาไม่รู้ว่าทำไมบิดามารดาถึงเข้าใจว่าเธอคือพี่สาว แต่ก็อดที่จะถามถึงอีกคนไม่ได้ ถามถึงตัวเอง แต่บิดามารดากลับคิดว่าเป็นพี่สาว
“ยายรุ้งตายแล้วลูก เขาไปสบายแล้ว หมดเวรหมดกรรมกันเสียที” เรวดีพูดแล้วถอนใจเฮือกใหญ่
รุ้งรวิดายกมือขึ้นอุดปากก่อนจะสะอึกสะอื้นออกมา เธอกัดมือตัวเองเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น
พี่สาวของเธอตายแล้ว ตายแล้วจริงๆ อย่างนั้นเหรอ
“ดีนะที่รินปลอดภัย ก็ปัทมาน่ะสิ ขับรถผ่านไปทางนั้นพอดี เลยช่วยรินเอาไว้ ศพก็ใส่โลงไปแล้ว ปัทมาเขาจัดการให้ พ่อกับแม่ก็เลยได้มาเฝ้าลูกไง”
“ตะ... ตายแล้วเหรอคะ”
“ไม่ต้องเศร้าหรือเสียใจไปหรอก ยายรุ้งไปสบายแล้ว ก็ดีเหมือนกัน”
“ดะ... ดียังไงคะ” รุ้งรวิดาเอ่ยถามมารดา ไม่มีความเศร้าสลดในแววตาและน้ำสายเลยสักนิด นั่นทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง
คนป่วยรู้สึกรับไม่ได้ ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง กัดฟันเอาไว้ไม่ให้ตัวเองสะอื้นออกมา
“รินก็รู้ว่ายายรุ้งน่ะมันตัวซวย เกิดมาพ่อกับแม่ก็หุ้นตก ธุรกิจครอบครัวตกต่ำย่ำแย่ พอเอามันไปให้คนอื่นเลี้ยงครอบครัวของเขาก็กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง นี่ขนาดลูกขับรถไปรับมัน ยังเกิดอุบัติเหตุขนาดนี้ คิดดูว่าตัวซวยขนาดไหน”
รุ้งรวิดาได้แต่อึ้ง เธอนอนตัวงอ กัดมือกลั้นเสียงสะอื้น เสียใจจนเจ็บปวดรวดร้าวไปหมดทั้งอก
“รินเป็นอะไรลูก ไม่สบายอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรค่ะ” รุ้งรวิดาเสียงสั่น นี่ใช่ไหมคำขอครั้งสุดท้ายของพี่สาว ให้เธอเป็นรินลดา อย่าเป็นรุ้งรวิดาเลย เพราะเธอมันตัวซวย
“คุณพ่อกับคุณแม่รู้ได้ยังไงคะว่าหนูคือรินลดา ไม่ใช่รุ้งรวิดา” รวบรวมจิตใจได้ รุ้งรวิดาก็เอ่ยถามเสียงสั่นสะท้าน รู้สึกเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก
“ก็กระเป๋าที่หนูสะพายอยู่มันเป็นกระเป๋าตังค์และบัตรประชาชนของหนูไง แล้วหนูก็ถักเปียแค่ด้านหลังอันเดียว ไม่เหมือนยายรุ้ง ขานั้นชอบถักเปียสองข้าง ปัทมาก็บอกว่าใครคือริน ใครคือรุ้ง เพื่อนเราเองทำไมจะจำเราไม่ได้ล่ะ” คำตอบของมารดาทำให้รุ้งรวิดานิ่งคิด
ก่อนขับรถมาที่บ้าน และเกิดอุบัติเหตุนั้น รินลดาเอากระเป๋าสตางค์ของเธอไปสับเปลี่ยนกับอีกฝ่าย บอกว่าวันนี้อยากเป็นเธอ ให้เธอเป็นพี่สาวดูสักวัน เริ่มจากการถักเปียและแลกข้าวของกันใช้
เหตุนี้ใช่ไหมบิดามารดาถึงเข้าใจว่าเธอคือรินลดา รุ้งรวิดากัดปาก แต่จะบอกว่าคนที่
ตายไม่ใช่เธอ แต่คือรินลดา บิดามารดาคงรับไม่ได้ที่ตัวซวยอย่างเธอทำให้พี่สาวต้องตาย
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด