ญารินหญิงสาวผู้มีความฝันอยากมีพื้นที่เปิดนิทรรศการแสดงผลงานเซรามิกของตนเอง เธอมีบ้านที่อยากได้มากที่สุดและใช้เวลาขอเช่าพื้นที่กับเจ้าของบ้านนานนับปีกว่าเจ้าของจะยอมปล่อยให้เช่า ทว่าวันที่นัดเซ็นสัญญาเช่า กับเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ไปเซ็นสัญญาไม่ทัน โดยเขาเตชินทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของห้างดัง ที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพื่อรอเวลานัดเซ็นสัญญาครั้งใหม่ ในอีกหกเดือนข้างหน้า ญารินจำเป็นต้องเช่าพื้นที่ชั่วคราวไปก่อน โดยมารู้ทีหลังว่าเป็นห้างของเขา จึงจะขอยกเลิกสัญญาแต่ชายหนุ่มไม่ยอม ขู่ว่าหากยกเลิกสัญญาต้องจ่ายค่าปรับ แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องมาเสียเงินให้กับเขาฟรีๆ จึงจำใจต้องทนอยู่ให้ครบสัญญา แต่การมาเปิดหน้าร้านที่ห้างของเขาไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ญารินทั้งโกรธและไม่ชอบขี้หน้าเตชินเอามากๆ แต่ชายหนุ่มก็ชอบเอาหน้าหล่อๆมาให้เห็นบ่อยๆ มิหนำซ้ำยังตามตื๊อเธอไม่เลิก แล้วโชคชะตายิ่งทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งสอง
10.00 น.
อากาศในกรุงเทพวันนี้เย็นสบายกว่าทุกๆวัน ถึงจะเป็นช่วงสายของวันแล้วก็ตาม ญารินสาวน้อยที่หลงใหลงานศิลปะโดยเฉพาะศิลปะงานเพ้นท์ลงเซรามิก วันนี้เธอมีนัดสำคัญกับเจ้าของบ้านสวนสไตล์ญี่ปุ่นย่านชานเมือง ที่เธอตามตื๊อขอเช่าสถานที่ไว้สำหรับโชว์ผลงาน และหวังใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่รังสรรค์ผลงานศิลปะเซรามิกของตนเองในพื้นที่เกือบหนึ่งไร่
กว่าเจ้าของจะยอมปล่อยเช่า เธอต้องยกเหตุผลร้อยแปดขึ้นมา ที่สำคัญทำเลที่นี่เหมาะกับการทำงานศิลป์อย่างมาก ตัวบ้านมีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมสมัยจากการตกแต่งของเจ้าของเดิม ตัวบ้านด้านหลังเป็นกระจกใสรอบด้านเห็นวิวบ่อปลาสไตล์ญี่ปุ่นด้านนอก ที่ตกแต่งได้ร่มรื่นแบบสามร้อยหกสิบองศา มองไปด้านไหนก็รู้สึกเย็นสดชื่นสบายตา บรรยากาศโดยรวมน่าอยู่มาก
เธอรู้จักสถานที่แห่งนี้จากเพื่อนที่รู้จักแนะนำมาเห็นว่าเจ้าของไม่ได้ใช้งานอะไร ยิ่งได้มาเห็นสถานที่จริงยิ่งอยากได้
“พี่คะขับเร็วอีกหน่อยได้มั้ย” เมื่อมองนาฬิกาข้อมือแล้วขืนเป็นแบบนี้เธอไปไม่ทันนัดแน่
“เร็วกว่านี้มันอันตรายนะน้อง”
“ขอร้องล่ะค่ะ ช่วยหน่อยคือมันเป็นนัดที่สำคัญ หนูกลัวไปไม่ทัน”
“งั้นก็ได้ จับแน่นๆนะ”
ถึงอากาศจะดีแต่สภาพการจราจรกับไม่ดีตาม รถติดหนาแน่นจนแทบไม่ขยับญารินติดอยู่บนถนนมานานร่วมสองชั่วโมง จนต้องเปลี่ยนมาใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์แทน ในที่สุดเธอก็มาถึงสถานที่นัดหมายและต้องรีบเข้าไปด้านในให้ทันเวลานัด
“ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องทอน” เธอบอกวินมอเตอร์ไซค์ก่อนวิ่งไปยังตึกชินเพลส เป็นตึกที่รวบรวมออฟฟิศไว้มากมายเป็นสถานที่นัดคุยงานของคนรุ่นใหม่ ที่เธอนัดกับเจ้าของบ้านไว้
อีกด้านเตชิน หนุ่มหล่อทายาทบริษัทธีรวัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายได้มากที่สุดของประเทศ และเป็นเจ้าของห้างดังเปิดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งธน วันนี้เขามีนัดคุยโปรเจกต์ร้อยล้านกับลูกค้าที่ร้านอาหารในอาคารชินเพลสซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ด้วยความที่รถติดหนักมากทำให้เขามาสายเช่นกัน
ทันทีที่รถจอดเทียบด้านหน้าตึก ร่างสูง185เซนติเมตร รีบก้าวเท้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินตรงเข้าไปด้านในทันที จังหวะที่ทั้งคู่ต่างคนต่างรีบ กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาด้วยความเร็วเป็นจังหวะที่เด็กน้อยวิ่งถือลูกโป่งมาตัดหน้า เตชินที่ไม่ทันระวังหลบเด็กน้อยจนทำให้ไปชนกระแทกกับหญิงสาวอีกคน ทำร่างเล็กๆเซล้มลงไปยังบ่อน้ำพุด้านข้างอย่างจัง
“ว้าย อ๊าย” เสียงร้องตกใจ ดวงตาโตเบิกกว้าง สองมือพยายามคว้าจับอากาศ
“นี่คุณ” เสียงเข้มร้องตกใจไม่แพ้กันเขาพยายามคว้ามือเธอไว้แล้วแต่ไม่ทัน
ตุบ! ร่างน้อยตกลงไปในบ่อน้ำพุที่ตั้งโชว์เด่นสร้างความสวยงามหน้าตึก ตามด้วยร่างสูงใหญ่ของเขาที่เสียหลักตกลงไปตามเธอ ทั้งคู่อยู่ในสภาพเปียกปอนแต่หญิงสาวนี่สิหนักกว่าเยอะเธอล้มลงไปทั้งตัว เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่วนเขาเพียงแค่ลงไปยืนอยู่ในน้ำเท่านั้น
“เป็นอะไรมั้ย”
คนตัวโตถามขณะโน้มตัวลงไปช่วยพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้น ญารินจับแขนแข็งแรงพยุงตัวลุกขึ้นยืน ดวงตาเบิกกว้างจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง เห็นแล้วว่าเธอโกรธแต่จะให้ทำยังไงเขาไม่ได้ตั้งใจนิ
“เดินภาษาอะไรเนี่ย ไม่เห็นคนรึไง”
ใบหน้าสวยเงยหน้าต่อว่าคนที่บังอาจมาชนเธอ แต่เขากับไม่เป็นอะไรเลย
“.....” ไม่มีเสียงตอบกลับเขาเพียงสำรวจคนตรงหน้าคิดว่าเธอคงไม่เป็นอะไรมากไม่อย่างนั้นก็คงไม่ยืนด่าเขาได้ฉอดๆๆแบบนี้หรอก
“ไอ้เต!เป็นอะไรมั้ย” ยังไม่ทันจะได้ตอบก็มีผู้ชายอีกคนตะโกนลงมาถาม ญารินได้แต่มองตามด้วยความไม่พอใจ
“ไม่เป็นไรไปเอาชุดใหม่ในรถมาเปลี่ยนเร็ว” ชายหนุ่มตอบคนด้านบน ก่อนก้าวขาเดินมาประชิดคนด้านหน้า
“คุณเจ็บตรงไหนมั้ย” เสียงทุ้มถามอีกครั้ง
“เจ็บสิถามมาได้”
คิ้วเข้มเลิกสูงเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เขามองเธอที่กวาดสายตามองตามกระดาษสีขาวที่ลอยอยู่เหนือน้ำอย่างรู้สึกผิด
“คุณขึ้นมาก่อนผมรีบ” เขาบอกน้ำเสียงเรียบเฉย ทำคนฟังโมโหรู้สึกไม่พอใจ
“คุณรีบเป็นคนเดียวรึไง คุณทำเอกสารสัญญาของฉันเปียกน้ำหมดแล้ว”
เธอบอกน้ำเสียงราวกับจะร้องไห้ แล้วไอ้น้ำตาที่คลอๆนั่นอีก เขามองใบหน้าสวยที่จ้องตาเขาไม่วางตาแล้วต้องสบถออกมา
“ให้ตายสิ ”
คนเหงาที่ใช้ชีวิตโสดโดดเดี่ยวมานาน พลาดพลั้งพบกับสาวสวยขี้อ้อน ที่มาพร้อมกับความสดใส ถึงการพบกันครั้งแรกไม่สวยงามนัก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก... ............................... “ดึกแล้วเรารีบขึ้นข้างบนกันดีกว่า” เขาบอกพร้อมกับรอยยิ้มร้ายที่ผุดออกจากมุมปาก “จะพาดาวไปไหนคะ” “ไปนอนไงครับ” “แต่นี่เลยห้องดาวแล้วค่ะ” “คืนนี้นอนห้องพี่” “แต่...” ยังไม่ทันได้ทัดทานริมฝีปากบางอวบอิ่มก็ถูกเขากดจูบอย่างดูดดื่ม...
คนอื่นเขาข้ามมิติมาเป็นนางร้ายแล้วได้กับพระเอก ทว่าหวางเสี่ยวเหยาเข้าร่างนางร้ายแล้ววิ่งตามตัวประกอบชายแสนจืดจาง เพื่อตามเขามาปลูกผักซะงั้น…
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
' "เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด" องค์มกุฎราชกุมารแห่งประเทศความาร์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่ถูกพระมารดาบังคับให้แต่งงานด้วย เขาเต็มไปด้วยความชิงชังเมื่อเห็นหล่อนเดินเฉิดฉายอยู่ในผับยามค่ำคืน ท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาของหล่อนที่พยายามแสดงออกมานั้นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขาแทบยากจะอาเจียนออกมา เพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนไม่มีทางเป็นชายาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก... นางบำเรอ!
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"