“หนูชื่นคะ หนูจะฟันแล้วทิ้งพี่ไปแบบนี้ไม่ได้นะ พี่เสียหาย”
บทนำ
หน้าจอสี่เหลี่ยมของสมาร์ตโฟนเครื่องบางปรากฏภาพของหนึ่งในไพ่ยิปซีอย่าง The Chariot หรือก็คือไพ่เทพแห่งสงคราม พร้อมการอ่านไพ่ที่ว่าด้วยหมวดหมู่ของความรักที่ตนเป็นคนกดเลือก
‘คุณจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งรอบตัวจนมิอาจสนใจเรื่องความรักได้ แต่ก็ใช่ว่าไม่มีโอกาสพบรักเลย สำหรับคนโสดอาจทำให้พบรักได้ แต่หากว่าไปชอบใครอยู่ก็ต้องลุยเข้าไปจีบถึงจะมีลุ้น ถ้าไม่ทำอะไรรับรองว่าชวดแน่ๆ’
ชื่นพธูถอนหายใจพรืด พึมพำกับตัวเอง “ไม่สนแล้วฉันจะเลือกหมวดนี้ทำไมยะหล่อน”
นานแล้วที่เธอก้าวเข้าสู่วงการไพ่ยิปซี ในทุกๆ เช้าจะต้องเข้ามาเลือกไพ่ในเว็บไซต์ชื่อดังที่สามารถดูดวงได้ฟรี หลักๆ เพราะมันฟรี เพื่อที่จะได้รู้ว่าดวงวันนี้เป็นอย่างไร ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง ปะปนกันไป แต่มันกลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำไปเสียแล้ว
ช่วงเรียนเธอค่อนข้างหมกหมุ่นอยู่กับหมวดการเรียน ทว่าหลังจบมาก็เปลี่ยนมาเป็นการเงินและการงาน แต่ตั้งแต่หัวใจเริ่มไม่รักดี ปาทูคิดมีรัก รู้ตัวอีกทีมันก็เปิดเป็นแต่หมวดนี้
ชื่นพธู ชื่น หรือปาทู เรียกชื่อไหนเธอก็หัน เดิมทีชื่อชื่นเฉยๆ แต่ปาทูได้มาจากพธู หลายคนเรียกเธอเช่นนั้น ด้วยมองว่าน่ารักดีจึงนับเป็นอีกชื่อของเธอ
นัยน์ตากลมโตจดจ้องประโยคท้ายอย่างคิดไม่ตก เธอเข้าใจดีว่าควรทำอะไรสักอย่าง แต่อะไรสักอย่างที่ว่ามันเสี่ยงเกินไป ก็ถ้าคนที่เธอปันใจให้ไม่ได้คิดเหมือนกัน มันแปลได้ว่าเธอและเขาอาจจะเข้าหน้ากันไม่ติดอีกเลย
แบบนั้นมันก็แย่มิใช่หรือ
ก่อนจะได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น หน้าจอพลันเปลี่ยนจากไพ่ยิปซีเป็นชื่อของเพื่อนสนิทที่โชว์หราพร้อมเสียงเรียกเข้าที่ดังกระทบโสตประสาท นิ้วเรียวแตะเพื่อกดรับสายอย่างไม่รอช้า
(อยู่หน้าหอแล้ว)
“โอเค เดี๋ยวลงไป”
เธอเลิกสนใจเรื่องไพ่ความรักประจำวันเพราะอย่างไรก็ไม่กล้าหาญมากพอที่จะเดินเกมรุก อาจจะเพราะเธอไม่ได้เก่งแบบพี่สาวคนสนิทที่จีบคนที่ตัวเองชอบจนตอนนี้เป็นว่าที่คุณแม่ไปแล้วอย่างพินรี ทว่าตอนนี้เจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ เพราะกลับไปอยู่บ้านเกิดเนื่องจากมีอาการแพ้ท้อง หากจำไม่ผิดก็เข้าเดือนที่สองแล้วกระมังที่แม่ค้าน้ำหอมหายหน้าหายตาไป ไม่ต่างกับบาริสต้าสาวสวยอย่างอัปสรากับมือขวานามว่าสดายุ
หนึ่งเดือนแล้วที่ชื่นพธูต้องทำงานกับเจ้าของร้านเพียงสองคนเพราะอัปสราลาคลอด ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงจะเป็นเร็วๆ นี้ที่เธอจะได้เป็นคุณน้า
ขาเรียวก้าวออกจากห้องพักที่อยู่มาตั้งแต่สมัยเรียน เพราะหลังเรียนจบก็เลือกที่จะทำงานในร้านกาแฟใกล้ๆ กัน ทำให้ไม่ต้องหาที่พักใหม่ ทันทีที่เดินออกไปก็พบเข้ากับกัทลี ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน
เป็นคนช่างจ้อที่เอ่ยทักทายก่อน “มาถึงนานยัง”
“ตอนโทร. ไปนั่นแหละ”
“งั้นไปกันเถอะ”
สองสาวจึงพากันไปยังห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองเพื่อใช้เวลาในวันหยุดไปด้วยกันอย่างที่มักทำเป็นประจำ แม้ว่าจะทำงานคนละที่ พักคนละหอ แต่ก็ไม่เคยขาดการติดต่อกัน ยังคงนัดเจอกันอยู่บ่อยครั้งด้วยพวกเธอก็มีกันอยู่แค่สองคน
ระหว่างทางชื่นพธูก็ชวนคุย “วันนี้ดวงฉันไม่ค่อยดีเลย”
“ดวงเธอมันเคยดีด้วยหรือไง”
คนบ้าดวงทำหน้าซังกะตายพร้อมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ “มันต้องมีสักวันที่เป็นวันของฉันแหละ แต่มาช้าโคตรๆ”
รถเมล์แล่นไปตามท้องถนน ชื่นพธูก็เบือนหน้าออกไปสนใจด้านนอก แต่พอนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ผินหน้ากลับมาทางคนข้างกาย
“สรุปว่าเธอไม่เปลี่ยนใจจริงเหรอเกี๊ยะ”
เจ้าของชื่อครางรับสั้นๆ “เรื่อง?”
“ก็เรื่องที่จะไป Road Trip กับพวกพี่ใหญ่ตอนต้นเดือนหน้าไง”
กัทลีส่ายหน้าเบาๆ ประกอบคำพูด “เธอไปเถอะ ไม่สนิทอะ ไม่ค่อยอยากไปด้วย”
“ไม่มีเพื่อนไปคงเหงาแย่เลย” สิ้นคำนั้นชื่นพธูก็ได้รับสายตาเรียบสนิทของกัทลี เจ้าหล่อนเพียงปรายตามองนิ่งๆ เรียวคิ้วสวยเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม “หือ มีไรเหรอ”
“เปล่า”
“เปล่าอะไร เธอมองฉันแปลกๆ นะเกี๊ยะ มันทำไมฮึ”
“ไม่มีอะไร”
“เดี๋ยวนี้หัดโกหกเพื่อนเหรอยะ”
เจ้าของผมยาวสลวยเพียงระบายยิ้มกลับไปให้เพื่อนสาวร่างเล็ก ผมสั้นระลำคอขาวผ่องที่เพิ่งไปตัดมาเมื่อเดือนที่แล้ว นัยน์ตากลมโตสีดำขลับ จมูกรั้นนิดๆ ปากบางหน่อยๆ เครื่องหน้าของชื่นพธูจัดว่าน่ารักแต่ไม่รู้ทำไมคนน่ารักคนนี้ถึงหาแฟนไม่ได้สักที
สาวระยองทอดสายตาออกนอกหน้าต่างพร้อมคิดถึงใครบางคนไปด้วย
หัวสมองก็เริ่มจินตนาการภาพตัวเองได้นั่งที่เบาะข้างคนขับโดยมีคนคนนั้นนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ขับรถไปเรื่อยๆ ตามท้องถนน เปิดเพลงคลอไปตลอดทาง นั่นคงจะเป็นการเดินทางที่แสนวิเศษ
เมื่อไรจะเดือนหน้านะ...?
หน้าปัดสีดำเข้มของ Rolex Yacht-Master 42 ราคาครึ่งล้านบอกเวลาสิบเอ็ดโมงนิดๆ ราวกับต้องการย้ำกับเจ้าของว่าใช้เวลาตรงนี้ไปมากเกินพอดีและควรจากไปได้แล้ว
ทว่าเสียงหวานเจือความหนักใจก็ดังกระทบโสตประสาทอีกครั้ง เรียกให้นัยน์ตาดำขลับคาดเดาได้ยากละจากข้อมือไปมองทางต้นเสียง
“เรารู้ว่าพี่ช่วยเราได้”
เขาเลือกที่จะไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
หญิงสาวย้ำ “พี่ตง”
“อือ ว่า”
“ช่วยเราอีกสักครั้งนะ ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ”
ไตรทศระบายลมหายใจอย่างไม่ปิดบัง แววตาฉายชัดถึงความเบื่อหน่ายระคนเอือมระอาใจ “ครั้งที่แล้วก็บอกว่าครั้งสุดท้าย” ไม่วายยังถามแกมตำหนิ “เธอใช้เงินเป็นเบี้ยแบบนี้ได้ไง”
“มันจำเป็น”
“พ่อกับแม่ล่ะ”
“เขาบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของเขา ให้เราแก้ปัญหาเอง”
“ก็ถูกแล้ว ปัญหาของเธอทำไมไม่หาทางแก้เอง”
สาวเจ้าสวนเสียงเจือสะอื้น โดยมีความขุ่นเคืองแฝงอยู่ทุกอณู “ไหนตอนนั้นพี่บอกว่าถ้ามีปัญหาอยากให้ช่วยก็ติดต่อได้ตลอด พี่เป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอ ก็ตอนนี้เรามีปัญหาพี่จะไม่ช่วยหรือไง”
ผู้ชำนาญการประจำตัวสส. ระดับประเทศได้แต่มองหน้า ‘แฟนเก่า’ ด้วยสายตาเรียบสนิทไร้คลื่นอารมณ์ ที่ผ่านมาเขารู้สึกติดค้างในใจอยู่เสมอว่าดูแลคนรักได้ไม่ดี ไม่มีเวลาให้เธอเพราะง่วนอยู่กับการทำงาน ตรงนี้เขายอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกทางกันไปจึงยังหวังดีอยู่เสมอ และอยากช่วยเหลือเพื่อชดใช้ความผิดของตัวเองตลอดเวลาที่คบหากัน
แต่มันมากเกินไป เธอมีเรื่องให้เขาช่วยมากเกินงามและเขาไม่อยากช่วยเหลืออีกแล้ว
ก่อนคนอายุน้อยกว่าจะลดเสียงลง “นะพี่ ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ”
“ที่ผ่านมาพี่ช่วยเธอทุกครั้งนะเข็ม แต่มันไม่เคยพอเลย เงินที่พี่ให้ไปเพราะเห็นว่าครั้งหนึ่งเราก็เคยรักกัน พี่เองก็อยากให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันถึงจะเลิกกันไปแล้วก็เลยให้ไป แต่แค่ไหนถึงจะพอ ที่สำคัญนะ...”
คู่สนทนาสบตากับเขานิ่งๆ
“เธอไม่เคยคืนพี่เลย นับๆ ดูแล้วพี่ให้ไปไม่ต่ำกว่าแสนแน่ๆ”
“ถ้าเรามีเราจะคืน เราคืนแน่นอน”
“ไม่จำเป็น ที่ให้ไปแล้วพี่ไม่คิดเอาคืน พี่คิดให้เธอตั้งแต่แรกเพราะรู้ว่าถ้ารอเธอคืนเงินเธอคงไม่คืน แต่มันเกินลิมิตจะให้แล้ว จากนี้มันไม่ได้แล้วเข็ม”
มือบางกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดเด่นชัด ถึงกระนั้นใบหน้างามก็ยังไร้แววขุ่นเคือง น้ำสีใสไหลมาคลอหน่วยอยู่ที่เบ้าตา มันเริ่มแดงก่ำและร้อนผ่าวแลดูน่าสงสาร
หล่อนเอ่ยเสียงอ่อยอย่างขอความเมตตา “พี่ตง”
แต่นัยน์ตากร้าวสีเข้มกลับมองมายังหญิงสาวอย่างไม่นึกแยแส “เธอก็ทำงานไม่ใช่รึ แฟนเธอก็ทำ”
“ก็มันไม่พอใช้”
“ใช้ไรเยอะแยะ ใช้เท่าที่หาได้สิ”
“พี่ไม่เข้าใจ” เจ้าหล่อนยกมือมากุมขมับอย่างเครียดจัด ก่อนสบสายตาเข้ากับชายหนุ่ม “แต่เศษเงินของพี่ช่วยชีวิตเราได้ ขอร้องเถอะนะพี่ตง”
เขาเอาแต่เงียบจนเขมจิราใจไม่ดี
“นะพี่ แค่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย”
หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็ต้องได้เงินห้าหมื่นจากไตรทศ ไม่อย่างนั้นเธอและแฟนหนุ่มแย่แน่ๆ
“ครั้งที่แล้วต่างหากสุดท้าย”
เธอเปลี่ยนมาตัดพ้อ “พี่เป็นคนใจร้ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน”
“เพราะไม่ช่วยครั้งหนึ่งเลยใจร้ายรึ นี่ถ้าพี่ช่วยเธออีกพี่ก็ยังเป็นคนใจดีอยู่ใช่ไหม”
ไตรทศรู้ดี สิบลบหนึ่งไม่เคยเหลือเก้า มันเหลือศูนย์ ต่อให้ทำดีมาสิบครั้งแต่ทำไม่ดีครั้งเดียว สิ่งที่หมั่นทำมาตลอดก็กลายเป็นไม่มีค่าให้ใครมองเห็น
หล่อนเอ่ยเจือสะอื้น รู้สึกว่าครั้งนี้ตึงมือกว่าครั้งไหนๆ “ไม่ใช่นะ พี่เป็นคนใจดี พี่ช่วยเราทุกครั้งที่เรามีปัญหา เราก็แค่หวังว่าครั้งนี้พี่จะช่วยเราอีก เราสัญญานะพี่ตงว่าหลังจากนี้เราจะไม่ขอความช่วยเหลืออะไรจากพี่อีกแต่จะพยายามเก็บเงินมาคืนพี่ให้ครบทุกบาททุกสตางค์”
ขณะนั้นเองที่สายตาคู่คมมองออกไปนอกกระจกของร้านเครื่องดื่มภายในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่นัดหมายของเขาและแฟนเก่า ก็ดันเห็นใครบางคนที่พอจะรู้จักอยู่ในครรลองจักษุ
เขาเหลือบสายตามายังโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ก่อนคว้ามาถือไว้แล้วลดมือลงไปอยู่ใต้โต๊ะ
เขมจิรายังคงพยายามหว่านล้อมให้ไตรทศเห็นใจและยอมโอนเงินครึ่งแสนให้กับตนเอง เพราะเจ้าหนี้ที่แฟนหนุ่มไปกู้เงินเพื่อไปเล่นพนันออนไลน์ขีดเส้นตายแค่พรุ่งนี้ ถึงเธอไม่อยากบากหน้ามาหาเขาแต่เขาก็ดันเป็นท่อน้ำเลี้ยงเดียวที่เธอมี คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครให้หยิบยืม และเงินมากมายขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ไตรทศก็ไม่รู้แล้วว่าจะไปหาเอาจากใคร
“เรารู้ว่าพี่คงไม่พอใจที่เราเอาแต่ขอเงิน แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากมาเจอพี่ในสภาพแบบนี้”
ไตรทศละสายตาจากช่องแชตของน้องชายคนสนิทไปมองคู่สนทนา เขมจิราในวันนั้นกับวันนี้ต่างกันมาก เธอซูบกว่าเดิม ขอบตาคล้ำเหมือนพวกอดหลับอดนอน แต่เท่าที่เขาได้เคยช่วยเหลือในฐานะคนเคยรักกันก็ถือว่าทำได้ดีไม่มีอะไรบกพร่อง หรืออาจจะดีกว่าหลายๆ คู่ที่จากกันด้วยดีด้วยซ้ำ
หล่อนยังคงส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความอ้อนวอนไปให้เขา “เราไม่รู้จะพึ่งใครนอกจากพี่แล้ว มีแค่พี่คนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยเหลือเราได้ ตอนนี้เรามืดแปดด้าน แม้แต่ที่บ้านยังไม่คิดยื่นมือมาให้จับ แล้วเราจะทำยังไงถ้าไม่บากหน้ามาหาพี่ที่เป็นคนเดียวที่คอยช่วยเหลือเรามาตลอด”
ชายหนุ่มลอบถอนหายใจ เลือกที่จะปฏิเสธออกไปตรงๆ โดยไม่คิดถึงความสัมพันธ์อันดีในอดีต เพราะเขาก็ไม่ใช่ตู้เอทีเอ็มให้ใครมากดเงินตามใจชอบ “ไม่ได้หรอกเข็ม พี่ช่วยเธอไม่ได้อีกแล้ว”
“ทำไมล่ะ ที่ผ่านมาพี่ก็ช่วยเรามาตลอด ช่วยอีกครั้งไม่ได้เหรอ อีกอย่างเราสัญญาว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ”
“ไม่ได้ พี่ไม่อยากมีปัญหา”
“ปัญหาอะไร” หญิงสาวเอ่ยเสียงแข็งกระด้าง “พี่ไม่ได้ขัดสน เรารู้ว่าพี่รวย” ก่อนสายตาผู้พูดจะเหลือบไปยังนาฬิกาหรูที่อยู่บนข้อมือซ้ายของอดีตคนรัก “พี่มีของแพงประโคมตัวเยอะแยะไปหมด เงินพี่มีเหลือใช้ขนาดนั้นจะมีปัญหาเรื่องอะไรอีกพี่ตง”
“แฟน”
หัวคิ้วคนฟังมุ่นจนจะผูกเป็นโบได้ “หมายถึง...?”
“แฟนพี่คงไม่พอใจแน่ๆ ถ้ารู้ว่าพี่ยังติดต่อกับแฟนเก่า”
เธอยิงคำถามใส่ทันที “พี่มีแฟน?”
“อาฮะ”
“ทำไมเราไม่รู้”
“แล้วทำไมเธอต้องรู้ด้วย มันเรื่องของพี่”
ก่อนไตรทศจะพิมพ์อะไรยิกๆ ลงไปในมือถือของตน
คุณตง: ยี่ ขอไลน์น้องปาทูหน่อย
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย