/0/22732/coverbig.jpg?v=c259727edb57d5142566190aff28341e)
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
มันเป็นเพียงรุ่งเช้าของวันหนึ่ง ประตูลานบ้านใหญ่ตระกูลหยางที่ทางเข้าหมู่บ้านก็เปิดออกและปิดอย่างรวดเร็ว หวังซื่อถือตะกร้าในมือ มองไปทางซ้ายทีขวาที เมื่อเห็นว่าไม่มีใครบนถนน จากนั้นจึงรีบเดินไปทางฝั่งตะวันตกของหมู่บ้าน ฉินซื่อแม่ของหวังฉู่หรานเพิ่งลุกขึ้นและกำลังจะไปที่กระท่อมเพื่อปลดทุกข์ เมื่อเห็นหวังซื่อเดินผ่านประตูบ้านไป ฉินซื่อก็เปิดประตูและไล่ตามหวังซื่อไปทันที
“นี่ ภรรยาของหยางเอ้อร์ ข้าได้ยินว่าหยางจื้อซีตกจากภูเขาและกลายเป็นคนโง่ เป็นเรื่องจริงหรือไม่” จู่ ๆ ฉินซื่อก็ถามขึ้นทางด้านหลังทำเอาหวังซื่อตกใจแทบตาย หวังซื่อหันกลับมามองและหันกลับไปทันที ด้วยกลัวว่าฉินซื่อจะตามตอแยไม่เลิกรา หวังซื่อทำได้เพียงแค่หันไปตอบด้วยความไม่พอใจ
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ฉินซื่ออย่าได้สนใจเลย ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องไร้สาระเท่านั้น ข้าขอตัวก่อน”
“เหอะ กลายเป็นคนโง่ก็แค่ยอมรับว่ากลายเป็นคนโง่สิ จะกลัวอะไรนักหนา มีอันใดต้องปิดบังกัน” ฉินซื่อถุยน้ำลายลงพื้นจากนั้นก็หันหลังกลับบ้านไปทันที
เสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ทำให้หยางจื้อซีลืมตาขึ้นมาทันที มองดูกระท่อมที่ผุพังและทรุดโทรมแล้วหันศีรษะไปมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เห็นเด็กทั้งสองคนที่กำลังหลับอยู่นางก็ลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อตอนที่ถูกเพื่อนสนิทฆ่านั้น หยางจื้อซีคิดว่าตัวเองจะต้องตกตายไปแล้ว
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าตัวเองจะเดินทางข้ามเวลามาในโลกอันห่างไกลและล้าหลังเช่นนี้ การได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งมันก็ดีอยู่หรอก เพียงแต่ว่าสภาพร่างกายแบบนี้ กระท่อมผุพังเช่นนี้ เกรงว่าหากเป็นคนธรรมดาก็คงจะลำบากไม่น้อย หยางจื้อซีได้แต่ยืนนิ่งมองหลังคาที่ไม่รู้ว่าจะถล่มลงมาเมื่อใดอย่างโง่งม
ที่แห่งนี้เรียกว่าแคว้นต้าเซี่ย และหยางจื้อซีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านป่าหมอก อำเภอหยุนหมิง เมืองหยางโจวที่อยู่ทางเหนือของแคว้น เดิมทีหวังซื่อคิดว่าฉินซื่อกลับไปแล้ว แต่ทว่านางประเมินความอยากรู้อยากเห็นของฉินซื่อต่ำไป เมื่อหันกลับมาอีกทีก็พบว่าฉินซื่อนั้นได้เดินตามหลังตัวเองมาอีกครั้ง
“นี่หวังซื่อ เจ้าจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรเช่นนั้นรึ มีใครบ้างที่ไม่เห็นว่าหยางจื้อซีที่มีเลือดออกตามตัวขนาดนั้น เลือดที่เลอะเสื้อผ้าของนางเจ้าจะบอกว่าไม่ใช่เลือดของนางรึ เจ้าคิดว่าผู้ใดโง่กัน ครอบครัวของหยางซานหลางถูกพ่อแม่สามีของเจ้าตัดขาดแล้วเพราะเขาแต่งงานกับคนที่แม่สามีเจ้าไม่ชอบขี้หน้า หากว่าแม่สามีของเจ้าจับได้ว่าเจ้านำของมาให้บ้านหยางซานหลาง เจ้าว่าแม่สามีของเจ้าจะมีสีหน้าเช่นไร ดีไม่ดี อาจจะไล่พวกเจ้าออกมาอีกครอบครัวก็เป็นได้”
“ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แล้วทุกอย่าง เจ้าจะถามข้าไปเพื่ออันใดกัน ข้าว่าเจ้าเองก็ยุ่งเรื่องของคนอื่นให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะฉินซื่อ”
“ข้าก็แค่อยากไปดูจื้อซีเท่านั้นเอง เจ้าดูสิหลานสาวของเจ้าอายุสิบสามแล้ว มันเป็นเรื่องยากที่จะคุยเรื่องแต่งงานในอนาคตหากว่านางกลายเป็นคนโง่ เจ้าคิดว่าจะมีผู้ใดอยากแต่งภรรยาโง่งมเข้าบ้านกัน เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ บังเอิญว่าข้ามีหลานชายที่เป็นญาติฝั่งบ้านแม่ของข้าคนหนึ่งที่ยังไม่ได้แต่งงาน เจ้าว่า...”
ยังไม่ทันที่ฉินซื่อจะได้พูดจบ หวังซื่ออดรนทนฟังไม่ได้ก็รีบสาวเท้าเดินหนีออกมาทันที หากจะให้นางรั้งยืนอยู่นางก็ทนไม่ไหวกับความหน้าด้านหน้าทนของฉินซื่อ เดิมทีฉินซื่อคนนี้มักทำตัวน่ารังเกียจเช่นนี้อยู่เสมอ มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าญาติฝั่งแม่ของนางมีนิสัยเช่นไร นอกจากจะเป็นพวกขี้เกียจไม่เอาไหนแล้วยังเป็นพวกลักเล็กขโมยน้อยอีกด้วย ผู้ใดจะยอมให้ลูกสาวไปแต่งงานกับคนแบบนั้นกัน
“นี่ฉินซื่อ แม้ว่าจื้อซีของเราจะโง่เขลาขึ้นมาจริง ๆ บิดามารดาของนางคงไม่ยอมให้ลูกสาวออกเรือนไปกับพวกขี้เกียจ ไม่ทำงานอันใดนอกจากลักเล็กขโมยน้อยไปวัน ๆ บิดามารดาของนางย่อมต้องเก็บนางเอาไว้ในบ้านดีกว่าที่จะผลักลูกสาวเข้ากองไฟเช่นนั้น” หวังซื่อพูดออกมาด้วยความโมโห
“หวังซื่อ ข้าก็แค่แนะนำด้วยความหวังดี ไม่เห็นจะต้องพูดจาเช่นนี้กับข้าเลยนี่”
“หากมันดีจริงอย่างที่เจ้าว่า เหตุใดเจ้าไม่ให้แต่งกับลูกสาวของเจ้าเสียเองล่ะ ลูกสาวของเจ้าเองก็มีอายุที่ต้องคุยเรื่องหมั้นหมายแล้วนี่ ความหวังดีของเจ้าข้าไม่กล้ารับเลยจริง ๆ”
“นี่ เจ้าบอกข้าหน่อยสิ ในตะกร้าของเจ้ามีอันใดอยู่บ้าง มีแป้งขาวใช่หรือไม่ หรือมีเนื้ออยู่ หากแม่สามีของเจ้ารู้ว่าเจ้านำอาหารมาให้บ้านซานหลางจะเกิดอันใดขึ้น คงได้เป็นเรื่องใหญ่แน่” ฉินซื่อยังไม่เลิกรา
ผู้คนในชนบทตื่นแต่เช้าและออกมาดูความสนุก หวังซื่อยืนนิ่งทันที ความโกรธของนางเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมหัวและหันกลับมาจ้องมองไปที่ฉินซื่อที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านและชอบนินทา ตอนนี้หวังซื่ออยากจะถลกหนังหัวของฉินซื่อออกมาเสียจริง ๆ
แม้ว่าหยางจื้อซีจะไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับความคับข้องใจและความขัดแย้งของสมาชิกในครอบครัวที่สามของตระกูลหยางกับบ้านใหญ่หยาง แต่นางก็ไม่อยากทำให้หวังซื่อผู้ใจดีต้องอับอายและโมโห หยางจื้อซีเดินออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อพบและโบกมือให้หวังซื่อจากระยะไกลแล้วตะโกนว่า “ป้าสะใภ้รอง โปรดกลับไปเถอะเจ้าค่ะ”
“จื้อซี เจ้าจดจำป้าได้หรือไม่” หวังซื่อมีความสุขในตอนแรกและจากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า เอ้อร์หลางสามีของนางต้องการให้นางนำไข่มามอบให้กับหลานสาว แต่ในทางกลับกันมันจะทำให้ครอบครัวของจื้่อซีได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน แม่สามีไม่ชอบน้องสะใภ้สาม ดังนั้นนางทำได้เพียงถามจื้อซีถึงอาการบาดเจ็บเท่านั้น
“วันนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ยังปวดหัวอยู่หรือไม่ ?”
“ป้าสะใภ้รอง ข้าสบายดีเจ้าค่ะ ขอบคุณป้าสะใภ้รองเจ้าค่ะ ป้าสะใภ้รองไม่ต้องเป็นห่วง กลับไปเถอะเจ้าค่ะ หากว่าท่านย่ารู้เข้า ท่านจะเดือดร้อนเอาได้”
หวังซื่อมองดูหลานสาวคนโตของนางที่อายุสิบสามแล้วแต่ไม่สูงเท่ากับลูกสาวของนางที่มีอายุเพียงสิบเอ็ดปี หวังซื่อรู้สึกเศร้ามากจึงพยักหน้าและจากไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่หวังซื่อจากไป ฉินซื่อก็กลอกตาแล้วเดินไปหาหยางจื้อซีด้วยรอยยิ้ม
“จื้อซี ตอนนี้เจ้าก็อายุสิบสามแล้วนะ ป้า...”
“หุบปากของเจ้าเสียดีกว่านะ” หยางจื้อซีขัดจังหวะอย่างเย็นชา จากนั้นก็พูดต่อไปว่า
“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้อะไรเลย ถ้าคนขี้เกียจฉินเก่งขนาดนั้น เหตุใดไม่ให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเจ้าเสียล่ะ สิ่งดี ๆ ที่เจ้าเก็บไว้ก็จะไม่ตกเป็นของคนอื่น ไม่ดีหรือ แบบนี้ข้าว่ามันดีมากเลยนะ”
บริเวณใกล้เคียงก็มีคนเริ่มออกมาดูความสนุกสนานหลังจากได้ยินหยางจื้อซีพูด ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและบางคนถึงกับพูดตลกเสียงดังว่า
“นี่ฉินซื่อ จื้อซีพูดถูกแล้ว ถ้าหลานชายของเจ้าเก่งขนาดนั้นทำไมเจ้าไม่ให้หวังฉู่หรานลูกสาวของเจ้าแต่งเองเสียล่ะ อีกอย่างหากหลานชายของเจ้าดีจริงเหตุใดถึงยังไม่แต่งงานจนถึงตอนนี้เล่า ?”
ฉินซื่อรู้สึกอับอายหลังจากที่ทุกคนหัวเราะเยาะ นางจ้องหยางจื้อซีอย่างดุเดือดแล้วหันหลังกลับและวิ่งหนีไปด้วยความโมโห หยางจื้อซีหันหลังกลับเข้าบ้าน ก็พบว่าน้องชายและน้องสาวตื่นกันหมดแล้ว
“พี่สาว เหตุใดไม่รอข้า ท่านไม่รักข้าแล้วใช่หรือไม่” หยางเจวี๋ยวัยห้าขวบเป็นเด็กที่ได้รับการดูแลดีที่สุดในครอบครัวนี้ เขามีใบหน้ากลม ตาโต และวิธีที่เขามองนางด้วย คิ้วเล็ก ๆ ของเขาขมวดและเอียงศีรษะซึ่งมัน...น่ารักมาก
“ไม่ใช่ว่าเพราะพี่สาวอยากให้เจ้านอนมากหน่อยหรือ” หยางจื้อซียิ้มและตบหัวเล็ก ๆ ของเขา จากนั้นหันไปถามหยางอันวัยเก้าขวบว่า “ฉินซื่อคือใคร”
“ฉินซื่อเป็นแม่ของหวังฉู่หราน” เมื่อเห็นพี่สาวขมวดคิ้วหยางอันจึงอธิบายว่า
“หวังฉู่หรานเป็นหญิงปากร้ายในหมู่บ้าน และหวังเฉินเซิงน้องชายนางเขาก็เป็นคนอันธพาลที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านของเรา เพราะครอบครัวของเขาเป็นพวกร้ายกาจและขี้โกง พวกเขากล้าแม้กระทั่งต่อสู้กับหัวหน้าหมู่บ้าน ครอบครัวของพวกเขามีสมาชิกในครอบครัวเยอะมากและหาดีไม่ได้เลย ล้วนแล้วแต่เป็นพวกร้ายกาจกันทั้งนั้น ดังนั้นผู้คนในหมู่บ้านจึงไม่กล้ายุ่งกับพวกเขา”
หยางจื้อซีพยักหน้าแล้วหันหลังกลับและเข้าไปในครัว นางได้เห็นความยากจนของครอบครัวนี้แล้วเมื่อตอนมาถึงเมื่อวานนี้ หลิวซื่อแม่ของร่างเดิมซึ่งควรจะเป็นคนเลี้ยงดูครอบครัว ตอนนี้ป่วยหนักนอนอยู่บนเตียง หยางซานหลางพ่อของร่างเดิมต้องทำงานข้างนอกเป็นเวลาหลายปีเพื่อหาเงินในเข้าบ้าน
ภาระของครอบครัวตกอยู่กับหยางจื้อซีและหยางซานหลาง แม้ว่าหยางจื้อซีจะเป็นเพียงเด็กวัยสิบสามปี ในโลกโบราณแห่งนี้เด็กหญิงวัยสิบสามปีเริ่มคุยเรื่องแต่งงานและหาบ้านเจ้าบ่าวแล้ว แต่สำหรับหยางจื้อซีแม้ว่าจะอายุสิบสามแล้วแต่ยังไม่ได้คุยเรื่องงานแต่งงานเพราะครอบครัวที่ยากจนและมีแม่ป่วยนอนติดเตียง มีน้องสาวน้องชายที่อายุน้อย
ส่วนหยางซานหลางออกไปทำงานหาเงินนอกบ้าน ทำให้เรื่องแต่งงานของนางต้องปล่อยผ่านไปก่อน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเมื่อหยางจื้อซีคนใหม่มาถึง และนางไม่คิดว่าการแต่งงานตั้งแต่อายุน้อยเป็นเรื่องที่ควรทำ นางตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่แต่งงานในเร็ว ๆ นี้แน่นอน
“น้องรอง เจ้าไปทำโจ๊กให้ท่านแม่ ข้าจะออกไปตักน้ำ”
“เจ้าค่ะพี่หญิงใหญ่” หยางอันรับคำ
“พี่สาว ข้าเองก็อยากไปด้วย ให้ข้าไปตักน้ำที่ลำธารด้วยได้หรือไม่ขอรับ” หยางเจวี๋ย
“น้องชาย เจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ดีหรือไม่ เดี๋ยวพี่สาวกลับมาแล้วจะทำของอร่อยให้เจ้ากิน”
“พี่สาวไม่หลอกข้านะ มีของอร่อยจริง ๆ นะขอรับ”
“ย่อมต้องมีสิ พี่สาวเคยหลอกลวงเจ้าหรือไม่”
“ไม่เคยขอรับ”
“เช่นนั้นก็ไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ เข้าใจหรือไม่”
“ขอรับ ข้าจะไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่เดี๋ยวนี้”
เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ
ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"