เพราะความเมาหรือความหิวผู้ชายจนหน้ามืดตามัวก็ไม่รู้ทำให้ดวงมณีสาวแก่วัยขึ้นคานแบบเธอลากหนุ่มรุ่นลูกมากินอย่างตะกละตะกาม แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกชายหนุ่มคนนั้นดันเป็นหนุ่มเนิร์ดที่ทำงานในบริษัทเธออีก
เสียงเพลงดังไปทั่วร้านเหล้าผีเสื้อราตรีต่างโยกย้ายเล่นไฟ หนุ่มหล่อสาวสวยต่างเดินกันให้ควัก
วันนี้ดวงมณีโดนเพื่อนสาวอย่างฮันนี่ชื่อที่บ้านเรียกชาติชาย ที่อกหักในรอบที่ห้าของเดือนชวนเธอที่ไม่มีผัวไม่มีแม้แต่แฟนมาหากินข้างนอกในที่แปลกใหม่
ไม่รู้ฮันนี่ไปหาร้านนี้เจอได้ยังไงแต่ร้านนี้มีแต่ผู้ชายงานดีทั้งนั้นจนดวงมณีที่ตอนแรกอิดออดไม่อยากจะมา
แทบน้ำลายหกเวลาที่หนุ่มน้อยนุ่งแค่กางเกงในตัวเดียวขึ้นไปเต้นโยกย้ายบนเวทีล่อตาล่อใจเหล่าแม่ยกกระเป๋าหนักๆอย่างพวกเธอให้หลงเสน่ห์
"วันนี้นะนังดวงแกต้องหาเด็กไปกินสักคนหยากไย่ขึ้นเต็มหว่างขาแกไปหมดแล้ว"
"นังฮันนี่ปากดีนักนะ ถึงไม่มีผัวแต่มีมือโว้ย! ช่วยตัวเองได้"
ดวงมณีตอบกลับเพื่อนสาวที่กล้าดียังไงมากล่าวหาว่าเธอหยากไย่ขึ้นก็แค่เธอขาดผู้ชายมาประมาณสองเอ๊ะหรือสามปีหรือสี่ว่ะ
เออนั่นแหละเธอมัวแต่ยุ่งกับงานจะให้ทำยังไงได้ แม่ของเธอก็บ่นทุกวันจนหูชาไปหมดด้วยว่าอยากเลี้ยงหลาน บอกให้ไปรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามาก็ไม่เอา ค่อยแต่จะมากดดันเธออยู่ได้ ไม่เข้าใจคำว่าหาผัวไม่ได้หรือไงไม่รู้
"ยังไงก็ตันย่ะ แกต้องหาผู้ชายทะลวงเข้าไปไม่งั้นแกตายไปยมบาลถามว่ามีเซ็กส์ล่าสุดเมื่อไหร่แกจะตอบท่านยมไม่ได้เอานะยะ"
ฮันนี่พูดด้วยความหมั่นไส้พามาหาผัวยังมาเรื่องมากอีก
"เออๆ จัดมาเลยขี้เกียจเถียงอีกอย่างตายคาอกเด็กดีกว่าตายคาเตียงโรงบาลอย่างเดียวดาย ไป๊!ฉันจะต้องได้ผัว"
สองสาวตกลงกันได้แล้วก็รีบเดินเข้าไปโชนที่ชายหนุ่มหล่อน่ากินยืนเรียงแถวกันอยู่
"นังดวงน้องผมทองนั่นฉันจองนะ" ฮันนี่บอกเมื่อเจอหนุ่มที่ตรงสเปกแล้ว
"เออๆ ผ่านๆไม่ใช่สเปก"
ดวงมณีบอกปัดและมองไปยังหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่ยืนเด่นสะดุดตาเธออยู่ สายตาเย็นชามองมาสบตาเธอเข้าพอดี เหมือนมีไฟฟ้าสถิตทำให้ดวงมณีขนลุกเพียงแค่สายตาเย็นชาที่มองมา
"แกเด็กนั่นน่ากินว่ะ หล่อ เย็นชา ดูเข้าถึงยากดีว่ะ "
ดวงมณีพูดขึ้นเมื่อหนุ่มน้อยคนนั้นหันไปมองทางอื่นไม่สนใจเธอแล้ว สเปกไม่สิพรหมลิขิตต้องใช้แน่ๆ ดวงมณีบอกตัวเองพร้อมกับยกมือขึ้นมาเช็คน้ำลายมุมปาก
"น้องมังกร แกหาคนใหม่เลยชะนีคนนี้ยาก แกไม่เห็นเหล่าแม่ยกที่ยืนจ้องจะงาบนางอยู่เหรอ คนนี้นางไม่สนใจเงินจ๊ะ พอใจก็ไปดูท่าเส้นใหญ่พอสมควร"
"เอ่อตุ๊ดไหนแกบอกเพิ่งเคยมา"
ดวงมณีละสายตาจากหนุ่มหล่อแล้วหันมาสนใจเพื่อนสาวที่อยู่ยืนข้างตนเอง
"เพิ่งเคยมากับแกไง ไม่เอาไม่คุยกับแกแล้วชะนีหาคนใหม่ฉันจะไปหาน้องคนนั้นเดี๋ยวมีชะนีนางอื่นหรือเก้งกวางแย่งของฉันไปกินก่อน "
พูดจบฮันนี่ก็เดินไปเลยทิ้งให้ดวงมณียืนงงงวยอยู่ในดงเหล่าแม่ยก
ดวงมณีมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนบนเวทีอีกรอบก็เห็นมีหญิงสาวคนหนึ่งเข้าไปคุยกับเขาอย่างสนิทสนมแถมยังจับมือถือแขนกันอีก
ไม่ได้การแล้วฉันต้องหาความมั่นใจให้กับตัวเอง ดวงมณีรีบตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์แล้วสั่งเหล้าผสมปนเปกันไปหมดแบบแรงๆเพื่อเพิ่มความมั่นหน้าและใจกล้าหน้าด้านเข้าไปหาเขา
เมื่อคิดว่าตัวเองเริ่มเมาได้ที่แล้ว เพราะความใจกล้ามาเกินร้อยแล้ว ดวงมณีตรงดิ่งไปหาชายหนุ่มที่ตนหมายตา แล้วเข้าไปคว้าแขนเขากระชากมาหาตนอย่างแรง
"คนนี้ของฉัน คืนนี้เขาจะไม่ไปกับเธอแน่นอน"
พอเดินเข้ามาใกล้ดวงมณีถึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงอายุไล่เลี่ยกันกับชายหนุ่มคนที่เธอจับแขนอยู่นี้
"ป้ามั่นใจได้ยังไงคะ หนูมาก่อนยังไงมังกรก็ต้องเป็นของหนู "
"มังกรอันนี้ของฉันย่ะ ถ้านายไปกับฉัน ฉันจะขายบ้านขายรถขายบริษัทเพื่อมาเปย์นายคนเดียวเลย"
เอาสิ๊! ดวงมณีหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ยังยืนนิ่งอยู่ไม่แม้แต่จะสะบัดแขนออกทั้งที่เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงมาแย่งหรือทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าเขา
สิ้นคำพูดของดวงมณีแววตาที่เธอบอกว่าเย็นชากลับสั่นระริกแล้วกระตุกคล้ายกับเจ้าตัวกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่
"ฉันพูดจริงนะ อีกอย่างยัยเด็กผู้หญิงนี่ก็ไม่แซ่บเท่าฉันหรอก จะลองดูก็ได้นะ"
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือการที่ดวงมณีขาดแคลนผู้ชายมานานก็ไม่รู้ได้
เธอถึงกับยอมทิ้งทุกอย่างแถมพรีเซ้นส์ตัวเองสุดฤทธิ์เพื่อให้ได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครอง
"ตกลง ผมจะไปกับคุณ" ชายหนุ่มที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น
"ไม่ได้นะคะมังกรวันนี้คุณบอกว่าถึงคิวฉันแล้วนิคะ" สาวหมวยคนนั้นพูดด้วยความไม่พอใจ
"ผมเปลี่ยนใจแล้ว เชิญคุณไปหาคนใหม่ได้เลยครับ"
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับหันมาสนใจดวงมณี ที่ตอนนี้ใบหน้าสวยคมผิวขาวอมชมพูแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
มันน่ารักแถมน่ามองอีก คนอะไรสวยฉิบหาย แถมยังดูท่าทางจะแซ่บน่าดูแต่ว่าไม่ได้ของแบบนี้เขาต้องรองถึงจะรู้
" หื้ย! ฝากไว้ก่อนเถอะอีป้า"
หญิงสาวคนนั้นหันมาพูดกับเธอแล้วก็กระทืบเท้าเดินออกไปด้วยความไม่พอใจ
"เราไปกันได้รึยังครับ แม่สาวร้อนแรงของผม"
ชายหนุ่มเข้ามากระซิบชิดใบหูขาวพร้อมกับขมเม้นเบาๆจนดวงมณีขนลุก
"อะ เออ..ไปสิ"
ดวงมณีมีท่าทางตกใจเล็กน้อยแต่ก็ใจสู้ พร้อมกับเดินนำชายหนุ่มออกไปที่รถ
"จะไปโรงแรมผมหรือจะไปที่ของคุณ" ชายหนุ่มถามเมื่อเตรียมจะออกรถ
ดวงมณีได้แต่สงสัยว่าเขาแค่ทำงานบาร์โฮสถึงกับขับรถซูเปอร์คาร์คันหรูขนาดนี้เลยเหรอ สงสัยจะมีแม่ยกเปย์หนักน่าดู
ดีที่วันนี้เธอเตรียมมาเมาเต็มที่เลยไม่ได้เอารถของตัวเองมา
"ไปโรงแรมนายสิ "
"เรียกผมว่ากร" ชายหนุ่มหันมาบอก
"อ๋อ ฉันดวงนะ ดวงมณี"
เมื่อเขาบอกเธอจึงจำเป็นต้องบอกชื่อตัวเองไปด้วยตามมารยาท
"ครับ" ชายหนุ่มแค่ตอบรับยิ้มๆแล้วขับรถพุ่งออกไปทันที
เพราะรักจึงทำให้หนูนิดทำทุกอย่างเพื่อผู้มีพระคุณของเธอ ยอมแม้กระทั้งแต่งงานกับชายคนที่เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยสักนิด แถมเขายังควงคนอื่นมาเยาะเย้ยเธอให้เจ็บใจอีกทั้งๆที่รู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน
"กล้ามากเลยนะเอยที่นอกใจฉัน กล้ามากที่พามันมาถึงที่นี่แถมยืนจูบกันอยู่หน้าห้องไม่อายฟ้าดินแบบนี้" "เอยไม่ได้จูบนะคะ เอยจะล้มคุณนทีเลยพยุงหน้าเลยใกล้กันแบบนั้น " เจ้าขาอธิบายตามความจริง "ทำไมโทรมาไม่รับ ข้อความอ่านแล้วก็ไม่ตอบเธออยากให้ฉันเป็นบ้าเหรอเอย" เขาถามเธอเสียงเครียดไม่เคยต้องเป็นแบบนี้มาก่อนเลยไม่รู้ว่าต้องจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง มันทั้งคิดถึงโหยหาแต่ก็กลัวเธอจะหาว่าเขาพูดเกินจริง นอกจากเธอจะไม่เชื่อแถมมองว่าเขาบ้าอีกเพราะเธอรู้จักเขาดีกว่าใครดีมากจนเขานึกอายเรื่องที่ผ่านมา แม้มันไม่ใช่ความผิดเขาในเมื่อตอนนั้นเขายังไม่ทำสัญญาและรู้สึกแบนนี้กับเธอ "เอยไม่คิดว่าคุณขุนจะคิดมากขนาดนี้ ก็เห็นวันก่อนบอกจะเรียกสาวๆ มาแก้เหงาไงคะ" เธอยังน้อยใจเรื่องนี้ไม่หายแม้รู้ว่าไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขา "เธอก็รู้ว่าตั้งแต่มีเธอฉันก็ไม่เคยเรียกใครมาอีก ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังเธอฉันติดเธอแค่ไหนทำไมเธอถึงมองไม่เห็นหรือตั้งใจจะมองข้ามมันคิดว่าฉันเป็นของเล่น" ......................................................................................................................................... "อื้อ! " มือเรียวยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกจนหมดอย่างรู้หน้าที่ ก่อนที่มือเล็กจะไล้ลงมาที่เข็มขัดราคาแพงของเขา แกร๊ก! "ถ้ารีบปล่อยมันออกมาเดี๋ยวก็ควบคุมไม่อยู่" "เอยคิดถึงคุณขุนมากนะคะ อื้อ!! " ได้ยินแบบนั้นคนที่ใจตรงกับเธอก็ก้มลงจูบปากฉ่ำหวานอีกรอบ ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้าไปดูดกลืนความหวานในนั้นด้วยความตะกละตะกลาม
สาวแสนสวยสุดมั่นแต่ก็ยังโดนทิ้งตลอดไม่ว่าจะคบหากับใครยิ่งคนล่าสุดที่เธอคาดหวังเอาไว้มากๆว่าคือชายที่จะแต่งงานด้วย แต่เขาก็ยังทิ้งเธอเพียงคำง่ายๆว่าเธอหวงตัวเกินไป งานนี้ต้องลำบากเพื่อนสนิทอย่างแทนไท ที่บังคับกึงขอร้องให้มาสอนบทรักที่เร่าร้อนให้จะได้ไม่โดนดูถูกแต่ทำไมเธอถึงลืมคืนนั้นไม่ลง แถมเพื่อนสนิทก็ยังมีท่าทีว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกด้วย "อื้ออ อย่ามากวนคนจะนอน " "แต่ฉันเป็นผัวเธอนะ จะทำอะไรก็ได้" หญิงสาวที่ยังหลับสนิทไม่รู้ตัวเพียงแค่ละเมอบอกปัดอย่างลำคาญเพียงเท่านั้น มือหนาลูบไล้ตามผิวเนียนนุ่มไปมาอย่างหลงไหลปากหนาเองก็พรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานซึ้งยิ่งอยู่ใกล้เธอเขายิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ ความอดทนอดกลั้นที่มีมา 4-5ปีพังทลายลงเพราะคืนเดียว ไอ้ที่ปากเก่งว่าลืมเธอได้แล้วมันเป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาหลอกตัวเองทั้งนั้น "อื้อ แทนบอกแล้วไงว่าอย่ามากวนแพร คนบ้า" เสียงแว้ดของเธอทำให้แทนไทต้องผงกหัวขึ้นมาดู ปรากฏว่าแม่เสือสาวของเขาเพียงแค่ละเมอแว้ดออกมาเพียงทำนั้น "ดีนะที่พูดชื่อผัวตัวเองถ้าพูดชื่อคนอื่นพ่อจะเอาให้จมเตียงทั้งวันทั้งคืนไม่ให้ไปไหนได้เลย" อีโรติก
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป