เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
“คนนี้เหรอแกว่าที่คู่หมั้นท่านประธาน อ้วนจัง น่าเกลียดที่สุด เห็นว่านิสัยเสียด้วยนะ” เสียงซุบซิบนินทาของพนักงานระหว่างที่ฟองแก้วกำลังเดินเข้าไปในบริษัททำให้เธอหันขวับไปมอง พนักงานสองคนนั้นรีบหลบตาเดินหนี แต่ฟองแก้วเดินไปดักหน้าเอาไว้ในทันที
“เมื่อกี้เธอนินทาฉันเหรอ” ฟองแก้วถามตรง ๆ พนักงานสองคนนั้นก็รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“เปล่านะคะ”
“กล้าพูดแต่ไม่กล้ายอมรับ แปลกดีนะ” ฟองแก้วเดินเข้าหาด้วยสีหน้าเอาเรื่อง พนักงานทั้งสองถอยหนีด้วยท่าทีหวาดกลัว
“พวกเราไม่ได้ว่าคุณฟองแก้วจริง ๆ ค่ะ”
เพียะ!!! ใบหน้าของสองพนักงานหันไปตามแรงตบ
“นี่คุณกล้าตบพวกเราอย่างนั้นเหรอ”
“ตบพวกคุณต้องใช้ความกล้าด้วยเหรอ ไม่เคยมีใครนินทาฉันในระยะเผาขนแบบนี้มาก่อน ไม่อยากทำงานอยู่ที่นี่แล้วใช่ไหม”
“พวกเราไม่ได้เอ่ยชื่อเสียงหน่อย จะร้อนตัวทำไม”
เพียะ! ใบหน้าของสองสาวหันไปตามแรงตบอีกรอบ
“ตกใจอะไร เพิ่งโดนตบไปเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ”
“นี่เธอ เป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน กล้าดียังไงมาทำร้ายพนักงานในบริษัท พวกเราจะไปแจ้งความ”
“ได้ แจ้งเลย เสียค่าปรับไม่กี่บาท ฉันมีเงินจ่าย แต่พวกเธอถูกไล่ออกจากงานคุ้มใช่ไหม”
“นี่ขู่กันเหรอ”
“ค่ะอาตรี” แค่กดรับและเอ่ยชื่อว่าที่คู่หมั้นของตัวเอง ทำเอาสองสาวหน้าตาเลิ่กลั่ก
“ถึงไหนแล้ว” ปลายสายเอ่ยถามกลับมา
“กำลังเดินเข้าไปในบริษัทค่ะแต่เจอเข้ากับพนักงานสองคนเสียก่อน”
“พวกเราขอโทษ พวกเราไม่ได้ตั้งใจ” สองสาวรีบเอ่ยขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ บริษัทดี ๆ สวัสดิการดีๆ และเงินเดือนดีๆ แบบนี้หายาก แถมยังมีเงินสะสมเอาไว้ในยามเกษียณดียิ่งกว่าข้าราชการอีก สองสาวสำนึกว่าปากไม่ดี จึงรีบกลับลำอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีอะไรค่ะอาตรี อีกไม่กี่นาทีถึงห้องทำงานอาตรีค่ะ” สองสาวได้ยินแบบนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
“ถ้าฉันได้ยินอีก ฉันไล่พวกเธอออก” ฟองแก้วเอ่ยขึ้น ทำเอาสองสาวรีบขอโทษขอโพยอีกครั้ง ก่อนที่จะรีบเดินหนี ฟองแก้วมองตามไปอย่างเอาเรื่อง คนแบบเธอตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ยอมให้ใครมาพูดจาดูถูกดูแคลนได้ง่ายๆ เพราะเธอเองก็ไม่เคยทำไม่ดีแบบนั้นกับใครเหมือนกัน
เธอก้มมองสภาพของตัวเอง ก็ยอมรับว่าตัวเองอ้วนจริงๆ นั่นแหละ แต่เธออ้วนเพราะประสบอุบัติเหตุหลังจากพักรักษาตัวอยู่หลายเดือนและฟื้นตัวก็อ้วนอย่างที่เห็น
วันนี้เธอมาฝึกงานที่บริษัทว่าที่คู่หมั้น ตรีธารเป็นประธานบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่และร่ำรวยติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ
“สวัสดีค่ะคุณฟองแก้ว ท่านประธานรออยู่ด้านในนะคะ” รดาเอ่ยขึ้นในทันทีที่ฟองแก้วเดินเข้าไปหน้าห้องของเจ้านายหนุ่ม
“ค่ะพี่รดา” ฟองแก้วเอ่ยอย่างสุภาพเพราะรู้จักรดาเป็นอย่างดี บิดามารดาของเธอกับตรีธารสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
ฟองแก้วเดินเข้าไปในห้องทำงานหรูหราของตรีธารด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ
ที่เขาเป็นคู่หมั้นของเธอเพราะตกกระไดพลอยโจน จริง ๆ คนที่เธอต้องหมั้นด้วยคือตรีทศหลานชายของเขา แต่ทศไม่อยากหมั้นกับเธอเพราะเธออ้วนน่าเกลียด แต่เขากับเธอต้องรักษาความสัมพันธ์ของตระกูลเอาไว้ ทำให้เขาต้องหมั้นหมายกับเธอแทนหลานชาย
มีข้อตกลงกันว่าหมั้นให้ญาณินซึ่งก็คือมารดาของเขาสบายใจเพราะท่านอยากรักษาคำมั่นสัญญาระหว่างตระกูลที่คุณปู่ที่จากไปได้ให้เอาไว้ หลังจากนั้นทั้งตรีธารและเธอก็จะถอนหมั้นกันในวันที่เหมาะสม
“สวัสดีค่ะอาตรี” ฟองแก้วยกมือไหว้ตรีธารอย่างสุภาพ เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้าเลย แต่ปากก็เอ่ยให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา
“นั่งสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
“วันนี้มาทำงานวันแรกใช่ไหม” ตรีธารเอ่ยถามอย่างเป็นงานเป็นการ เขาทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ดีกับเธอเสมอ
สถานะของเธอกับเขาคือว่าที่คู่หมั้น แต่เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนญาติผู้ใหญ่กับหลานสาวเสียมากกว่า อาจเพราะเขาเป็นเพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดา และเคยเป็นอาหนุ่มของอดีตผู้ชายที่เกือบจะหมั้นหมายกับเธอนั่นเอง
“ค่ะคุณอา”
“เดี๋ยวอาจะให้รดาพาไปที่แผนกนะ” เขาเอ่ยอย่างเป็นงานเป็นการเช่นเดิม ท่าทีจริงจังกับการทำงานจนเธอนึกเกร็ง ตรีธารไม่ใช่คนที่เธอจะแหย่หรือพูดเล่นได้เลย เขาเป็นคนเคร่งขรึมติดจะเย็นชาเสียด้วยซ้ำ กระนั้นเธอก็ยังคิดว่าเขาใจดีและใส่ใจกับทุกคนเสมอ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฟองไม่อยากให้เป็นที่จับตามองน่ะค่ะ จริง ๆ ฟองฝึกงานที่อื่นก็ได้นะคะ ถ้าทำให้คุณอาต้องลำบากใจ”
“ไม่ได้ลำบากอะไร พ่อแม่ของเธอฝากเธอเอาไว้กับอา อายินดีและเต็มใจให้เธอมาฝึกงานที่บริษัทของอา” ประโยคของเขาทำให้เธอน้อยใจวูบขึ้นมาในอก เพราะบิดามารดาฝากเธอเอาไว้กับเขาแค่นั้นเอง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ดูแลเธอแบบนี้
ในขณะที่เธอแอบดีใจลึกๆ ที่จะได้หมั้นกับเขา แต่เขาไม่ได้ดูยินดียินร้ายอะไรเลย เธอจึงคิดว่าไม่รู้จะหมั้นกันทำไม บางทีเธอก็งงเหมือนกัน ถ้าหลานชายของเขาไม่อยากหมั้นกับเธอ ก็ต่างคนต่างแยกย้ายไม่ดีกว่าหรือไง ทำไมเขาจะต้องมาหมั้นแทน เธอคิดว่าให้แต่ละคนไปมีชีวิตที่ดีเป็นของตัวเองจะดีกว่า ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลก็ยังคงดีเหมือนเดิมนี่นา ก็แค่ไม่ได้ดองกันแค่นั้นเอง
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ลี่เซียนเป็นคุณหมอสาวในยุคปัจจุบัน เธอหลุดไปอยู่ในยุคอดีต ในร่างของคุณหนูลี่เซียน ลูกของเสนาบดีประจำวังหลวง เธอพบว่าตัวเองจะมีชีวิตได้อีกแค่สามสิบวันเท่านั้น เธอจึงต้องตามหารักแท้ และคนคนนั้นก็คืออ๋องฉิน ชายหนุ่มซึ่งมีความองอาจกล้าหาญและหล่อเหลาที่สุดในเมือง ตามคำแนะนำของเจ้านกน้อยสีทองพูดได้ ซึ่งเธอเคยมีบุญคุณช่วยเหลือมันเอาไว้ในอดีตชาติ! ลี่เซียนจะพิชิตใจอ๋องฉินได้ไหม นางจะตายก่อนได้รับความรักหรือไม่ มาติดตามอ่านกันได้เลยจ้า
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"