“แต่กูว่ามันแปลกนะหรือมึงเคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน กูเดาว่าเธอคือผู้หญิงมึงคบตอนอยู่ม.6 ใช่ไหม”
“มึงจะรู้มากเกินไปแล้วนะไอ้บาส”
“นั่นไงกูนึกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นผู้หญิงคนที่มึงยังไม่เคยลืม แล้วทีนี้จะเอายังไงล่ะอาทิตย์หน้าเธอก็จะกลับมาแล้วนะยังไงก็ต้องได้เจอกัน”
“กลับมาแล้วยังไงล่ะกูกับเธอก็คงไม่เจอกันอยู่ดี เรื่องบ้านกูฝากมึงจัดการด้วยแล้วกันนะบาส”
“ได้ยังไงกูไม่อยากรับความดีความชอบในสิ่งที่กูไม่ได้ทำหรอกนะ บ้านหลังนี้มันเป็นฝีมือมึงทั้งหมด ยังไงวันส่งมอบงานก็คงต้องไปเจอเธอ”
“กูไม่อยากเจอ”
“มึงกลัวอะไรน่าน”
“กูไม่ได้กลัวอะไรหรอก”
“แต่หน้าตามึงไม่ได้บอกแบบนั้นเลย มึงยังรักเธออยู่ใช่ไหม”
“อืม” น่านนทียอมรับอย่างไม่อายเพราะผู้หญิงคนนี้คือรักแรกของเขาในขณะที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก
และไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีน่านนทีก็ไม่เคยลืมรักแรกได้เลยแม้จะมีแฟนมาหลายคนแต่ก็ไม่มีคนไหนที่ทำให้เขารักมากเท่ากับเธอเลยสักคน
“ถ้างั้นก็ยิ่งดีสิ มึงจะได้สานสัมพันธ์กับเธอต่อ ตอนนี้ก็โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้วน่าจะคุยกันง่ายขึ้น”
“กูก็อยากทำแบบนั้น”
“แล้วทำไมมึงถึงไม่คุยกับเธอล่ะ เท่าที่กูได้คุยกับคุณอีฟเธอก็เป็นคนน่ารักอัธยาศัยดีและดูเหมือนจะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากๆ ด้วย กูไม่รู้ว่าในอดีตมึงกับเขาเลิกกันยังไงแต่ไม่ในเมื่อมีโอกาสกลับมาเจอกันก็น่าจะคุยกันให้เข้าใจดีกว่านะ”
“กูก็อยากทำแบบนั้นนะบาส แต่เท่าที่รู้มาอีฟเขาแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วว่ะ” น่านนทีพูดด้วยเสียงที่ฟังดูผิดหวัง ในวันที่เธออีเมลติดต่อมาที่บริษัทว่าอยากจะรีโนเวทบ้าน เขาดีใจมากแต่ก็ต้องเศร้าเมื่อเพื่อนที่อเมริกาบอกว่าตอนนี้อรณิชาแต่งงานไปแล้ว
“เพราะแบบนี้ใช่ไหมล่ะมึงถึงไม่อยากคุยกับเธอ”
“อือ กูไม่รู้คุยแล้วจะได้อะไรขึ้นมาเผลอๆ จะเจ็บมากขึ้นกว่าเดิม”
“แล้วมึงกับเขาเลิกกันยังไงวะ กูจำเหตุการณ์ไม่ได้ว่ะโทษทีนะเพื่อน ช่วงนั้นกูเอาแต่เล่นบาสหนักไปหน่อย”
“กูกับอีฟไม่เคยบอกเลิกกันแต่จู่ๆ อีฟก็หายไปกูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“แล้วตอนนั้นมึงได้ไปถามใครหรือเปล่า”
“กูจะถามใครล่ะช่วงนั้นมันช่วงปิดเทอมแล้วทุกคนก็ต้องเข้ามหาลัยเพื่อนสนิทของอีฟก็ย้ายไปเรียนที่อื่นกันหมด ตอนนี้กูก็ยังงงอยู่เลยว่ากูทำอะไรผิดทำไมอีฟถึงทิ้งกูไปแบบนั้น”
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อล่ะถ้าเกิดเธอกลับมาและอยากจะเจอมึงล่ะ”
“มึงก็ไปแทนกูสิ แค่รับมอบงานใครก็ทำได้” ใจจริงน่านนทีก็อยากเจอกับอรณิชาแต่ก็กลัวว่าการเจอกันอีกครั้งมันจะตอกย้ำให้เขาเจ็บมากขึ้น
“แต่กูว่ามึงควรจะออกไปเจอเธอนะคุยกันให้เข้าใจถามกันให้เคลียร์จะได้ไม่รู้สึกติดค้าง แล้วมึงก็จะได้เปิดใจรับผู้หญิงคนใหม่สักทีไม่ใช่คบไปเรื่อยสองสามเดือนก็เลิก ตอนนี้กูจำชื่อแฟนมึงแต่ละคนไม่ได้เลย”
“อย่าว่าแต่มึงเลยบางทีกูก็ลืมเรียกชื่อผิดก็เคยมีมาแล้ว”
“มึงนี่มันชั่วใช้ได้เลยว่ะ”
“เป็นคนดีแล้วยังไงล่ะ เป็นคนชั่วแบบกูใช้ชีวิตสนุกไม่ต้องซีเรียสกับอะไรมาก”
“เออตอนนี้มึงยังรู้สึกสนุกถ้ามึงอายุมากกว่านี้มึงจะสนุกไม่ออก”
“มึงอย่าพูดดีเลยไอ้บาสมึงกับกูก็อายุเท่ากันว่าแต่มึงเถอะจริงจังแล้วใช่ไหมผู้หญิงที่คบ”
“จริงจังสิคุณครูเขาน่ารักแบบนี้กูจะมองคนอื่นได้ยังไง”
“กูก็ขออวยพรให้มึงกับครูหนูนารักกันไปแบบนี้ตลอดนะ อย่าทำให้ครูเขาเสียใจล่ะ” น่านนทีพูดถึงครูวิยดาหรือครูหนูนาที่กษิดิศคบอยู่
“ถ้ามึงเคลียร์กับคุณอีฟได้แล้วกูว่าจะติดต่อเพื่อนของหนูนาให้เอาไหม เพื่อนครูที่โรงเรียนหนูนามีโสดอยู่หลายคนแต่ละคนก็น่ารักทั้งนั้น”
“ไม่ล่ะกูกลัวเลิกกันแล้วจะทำให้มึงกับแฟนมีปัญหา”
“มึงยังไม่ได้ลองคบเลย อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องเลิกกันสิ”
“มึงก็รู้ว่ากูคบใครได้ไม่นานหรอก นิสัยอย่างกูจะมีผู้หญิงที่ไหนเขาจริงจังด้วยล่ะ”
“มึงไม่จริงจังกับเขาเองมากกว่าและกูก็พอจะเดาออกแล้วว่าทำไมคบใครก็เลิกเพราะมึงยังฝังใจเรื่องอีฟอยู่ใช่ไหม” กษิดิศพอจะเดาความรู้สึกของเพื่อนออก
“กูยอมรับกูยังฝังใจอยู่”
“เขากลับมาครั้งนี้มึงก็เคลียร์เลยจะได้จบๆ ตอนนี้มึงกับเขาไม่ใช่เด็กแล้วกูว่าน่าจะคุยกันเข้าใจมากขึ้น” กษิดิศบอกเพื่อนด้วยเสียงเข้มเพราะไม่อยากจะเห็นน่านนทีเป็นแบบนี้ต่อไปที่ผ่านมาเพื่อนของเขาคบผู้หญิงมาก็หลายคนแต่ไม่เคยคิดจริงจังกับใครชายหนุ่มเดาว่าน่าจะเป็นเพราะยังฝังใจกับรักแรกอยู่ก็เป็นได้