ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / นิยายสั้น / ภรรยาตามสัญญา – การไถ่ถอนของทอร์น
ภรรยาตามสัญญา – การไถ่ถอนของทอร์น

ภรรยาตามสัญญา – การไถ่ถอนของทอร์น

5.0

ฉันนอนนิ่งอยู่ในความเงียบอันเย็นเยียบของโรงพยาบาล ทรมานกับความสูญเสียลูกที่ฉันไม่มีวันได้อุ้ม ทุกคนบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้า แค่ลื่นล้ม แต่ฉันรู้ความจริง...ฉันรู้ว่าสามีเป็นคนผลักฉัน ในที่สุดมาร์คก็มาเยี่ยม เขาไม่ได้ถือดอกไม้มา แต่กลับหิ้วกระเป๋าเอกสารมาด้วย ข้างในนั้นคือเอกสารหย่าและสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เขาบอกฉันด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่าเมียน้อยของเขา ซึ่งก็คือเพื่อนของฉันเอง กำลังตั้งท้อง พวกเขากลายเป็น "ครอบครัวที่แท้จริง" ของเขาแล้ว และพวกเขาไม่อาจมี "เรื่องไม่สบายใจ" ใดๆ ได้อีก เขาขู่ว่าจะใช้รายงานทางจิตเวชปลอมๆ เพื่อสร้างภาพว่าฉันเป็นคนไม่มั่นคงและเป็นอันตรายต่อตัวเอง "เซ็นเอกสารซะ พรีม" เขาเตือน น้ำเสียงไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ "ไม่อย่างนั้นเธอจะได้ย้ายจากห้องสบายๆ นี่ ไปอยู่ที่...ปลอดภัยกว่านี้หน่อยนะ แบบระยะยาว" ฉันมองหน้าผู้ชายที่ฉันเคยรัก และเห็นปีศาจร้าย นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มันคือการที่เขาเข้ามาเทคโอเวอร์ชีวิตฉันเหมือนเป็นบริษัท เขาไปพบทนายในขณะที่ฉันกำลังสูญเสียลูกของเรา ฉันไม่ใช่ภรรยาที่กำลังโศกเศร้าในสายตาเขา แต่เป็นภาระที่ต้องถูกกำจัด เป็นปัญหาที่ต้องจัดการให้สิ้นซาก ฉันจนตรอกอย่างสมบูรณ์แบบ และในตอนที่ความสิ้นหวังกำลังจะกลืนกินฉันจนหมดสิ้น ทนายความเก่าแก่ของพ่อแม่ก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับภาพหลอนจากอดีต เธอยื่นกุญแจดอกใหญ่ที่ดูหรูหราและหนักอึ้งใส่มือฉัน "พ่อแม่ของหนูทิ้งทางหนีทีไล่ไว้ให้" เธอกระซิบ ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "สำหรับวันแบบนี้" กุญแจดอกนั้นนำไปสู่สัญญาที่ถูกลืม ข้อตกลงที่ปู่ของเราทำไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน สัญญาการแต่งงานที่แน่นหนาเหมือนเหล็กกล้า ผูกมัดฉันไว้กับผู้ชายเพียงคนเดียวที่สามีของฉันกลัวยิ่งกว่าความตาย...มหาเศรษฐีผู้โหดเหี้ยมและเก็บตัว จิณณ์ ธนบดินทร์

สารบัญ

บทที่ 1

ฉันนอนนิ่งอยู่ในความเงียบอันเย็นเยียบของโรงพยาบาล ทรมานกับความสูญเสียลูกที่ฉันไม่มีวันได้อุ้ม ทุกคนบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้า แค่ลื่นล้ม แต่ฉันรู้ความจริง...ฉันรู้ว่าสามีเป็นคนผลักฉัน

ในที่สุดมาร์คก็มาเยี่ยม เขาไม่ได้ถือดอกไม้มา แต่กลับหิ้วกระเป๋าเอกสารมาด้วย

ข้างในนั้นคือเอกสารหย่าและสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล

เขาบอกฉันด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่าเมียน้อยของเขา ซึ่งก็คือเพื่อนของฉันเอง กำลังตั้งท้อง พวกเขากลายเป็น "ครอบครัวที่แท้จริง" ของเขาแล้ว และพวกเขาไม่อาจมี "เรื่องไม่สบายใจ" ใดๆ ได้อีก

เขาขู่ว่าจะใช้รายงานทางจิตเวชปลอมๆ เพื่อสร้างภาพว่าฉันเป็นคนไม่มั่นคงและเป็นอันตรายต่อตัวเอง

"เซ็นเอกสารซะ พรีม" เขาเตือน น้ำเสียงไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ "ไม่อย่างนั้นเธอจะได้ย้ายจากห้องสบายๆ นี่ ไปอยู่ที่...ปลอดภัยกว่านี้หน่อยนะ แบบระยะยาว"

ฉันมองหน้าผู้ชายที่ฉันเคยรัก และเห็นปีศาจร้าย นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มันคือการที่เขาเข้ามาเทคโอเวอร์ชีวิตฉันเหมือนเป็นบริษัท เขาไปพบทนายในขณะที่ฉันกำลังสูญเสียลูกของเรา ฉันไม่ใช่ภรรยาที่กำลังโศกเศร้าในสายตาเขา แต่เป็นภาระที่ต้องถูกกำจัด เป็นปัญหาที่ต้องจัดการให้สิ้นซาก

ฉันจนตรอกอย่างสมบูรณ์แบบ

และในตอนที่ความสิ้นหวังกำลังจะกลืนกินฉันจนหมดสิ้น ทนายความเก่าแก่ของพ่อแม่ก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับภาพหลอนจากอดีต เธอยื่นกุญแจดอกใหญ่ที่ดูหรูหราและหนักอึ้งใส่มือฉัน

"พ่อแม่ของหนูทิ้งทางหนีทีไล่ไว้ให้" เธอกระซิบ ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "สำหรับวันแบบนี้"

กุญแจดอกนั้นนำไปสู่สัญญาที่ถูกลืม ข้อตกลงที่ปู่ของเราทำไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน

สัญญาการแต่งงานที่แน่นหนาเหมือนเหล็กกล้า ผูกมัดฉันไว้กับผู้ชายเพียงคนเดียวที่สามีของฉันกลัวยิ่งกว่าความตาย...มหาเศรษฐีผู้โหดเหี้ยมและเก็บตัว จิณณ์ ธนบดินทร์

บทที่ 1

ภาพหลอนของชีวิตที่ฉันไม่มีวันได้สัมผัสวนเวียนหลอกหลอนฉันอยู่ในความเงียบอันเย็นเยียบของห้องพักในโรงพยาบาล

มันคือความเจ็บปวดที่มองไม่เห็นซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในช่องท้อง เป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยความหวัง กลิ่นยาฆ่าเชื้อติดตรึงอยู่บนผ้าปูที่นอนบางๆ แข็งๆ เป็นความฉุนของสารเคมีที่บาดคอทุกครั้งที่หายใจ นอกหน้าต่างที่ปิดสนิท กรุงเทพฯ เป็นภาพเบลอของสายฝนสีเทาและแสงสลัว โลกที่รู้สึกห่างไกลออกไปเป็นล้านไมล์

โลกของฉันหดเล็กลงเหลือเพียงกำแพงสี่ด้านสีขาว เสียงบี๊บของเครื่องวัดหัวใจที่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอและน่ารำคาญ และภาพความทรงจำที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาอย่างโหดร้ายไม่รู้จบ

*แรงผลักอย่างจัง พื้นหินอ่อนเย็นเฉียบพุ่งเข้ามาปะทะหน้า ใบหน้าของมาร์คไม่ได้หันมามองฉันด้วยความเป็นห่วง แต่หันไปมอง*เธอ*คนนั้น แขนของเขาโอบรอบผู้หญิงที่เคยเป็นเพื่อนฉันอย่างปกป้อง ดวงตาของเขาที่เหลือบมามองร่างฉันที่กองอยู่บนพื้นในที่สุด ไม่มีความรัก ไม่มีความตื่นตระหนก มีเพียงความเฉยเมยที่เย็นชาและน่าสะพรึงกลัว ความรำคาญใจ ฉันเป็นเพียงอุปสรรคบนเส้นทางสู่ความสุขของเขา*

ความทรงจำนั้นบาดลึกอยู่ในใจ และทุกครั้งที่ฉันกะพริบตา มันก็ยิ่งทิ่มแทงลึกลงไปอีก หมอบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้า แค่ลื่นล้ม แต่ฉันรู้ความจริง ฉันถูกทิ้งขว้างอย่างไร้ค่า

เสียงประตูคลิกเปิด ดึงฉันออกจากวังวนของอดีต ฉันสะดุ้ง หัวใจเต้นระรัวอยู่ในอกเหมือนนกที่ติดกับ ฉันภาวนาให้เป็นพลอย เพื่อนสนิทของฉัน ที่มาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นและช็อกโกแลตแท่งที่แอบเอาเข้ามาให้

แต่กลับเป็นมาร์ค

เขาไม่ได้ถือดอกไม้มา แต่หิ้วกระเป๋าเอกสารหนังเรียบหรู เขายืนอยู่ตรงประตู เป็นเหมือนคนแปลกหน้าในชุดสูทสั่งตัดอย่างดี เนื้อผ้าสีเทาเข้มดูดกลืนแสงสว่างทั้งหมดในห้องไปจนหมด เขามีกลิ่นน้ำหอมราคาแพงและกลิ่นฝนที่เพิ่งเดินผ่านมา เขาไม่เดินเข้ามาใกล้เตียง

ในใจฉันกรีดร้อง *เขาไม่ได้เสียใจ ดูเขาสิ เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ เขามองไปที่เครื่องมือแพทย์พวกนั้น กำลังคำนวณอะไรบางอย่างอยู่*

"พรีม" เขาเอ่ยขึ้น น้ำเสียงราบเรียบแบบเดียวกับที่เขาใช้ปิดดีลธุรกิจ เป็นน้ำเสียงที่ฉันเคยคิดว่าน่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้มันทำให้ฉันขนลุก

ฉันไม่พูดอะไร ลำคอของฉันแห้งผากเหมือนทะเลทราย ลิ้นหนักอึ้ง ฉันได้แต่มองเขา นิ้วมือจิกผ้าห่มผืนบางซึ่งเป็นเกราะป้องกันเดียวที่ฉันมี

เขาเปิดกระเป๋าเอกสารด้วยเสียงดังแป๊กเบาๆ แต่เด็ดขาด เขาหยิบปึกกระดาษออกมา วางมันลงบนโต๊ะข้างเตียงเสียงดังตุ้บ หน้าแรกเขียนด้วยตัวอักษรหนาและชัดเจนว่า ‘ข้อตกลงการหย่า’

"ฉันว่าเงื่อนไขพวกนี้ใจดีกับเธอมากแล้วนะ" เขาพูด ในที่สุดสายตาของเขาก็สบกับฉัน มันเรียบเฉย ไร้อารมณ์ ขากรรไกรของเขาเกร็งแน่น มีกล้ามเนื้อกระตุกเล็กน้อยใกล้ใบหู เขาใจร้อน เขาอยากให้เรื่องนี้จบๆ ไป

"ใจดีเหรอ?" คำพูดนั้นแหบแห้ง เป็นเสียงของคนแปลกหน้าที่เค้นออกมาจากลำคอฉัน "คุณฆ่าลูกของเรานะมาร์ค"

ชั่วแวบหนึ่ง มีบางอย่างพาดผ่านใบหน้าของเขา ไม่ใช่ความรู้สึกผิด ไม่ใช่ความสำนึกเสียใจ แต่เป็นความรำคาญใจ ความรำคาญใจล้วนๆ ที่ไม่เจือปนสิ่งใด

"มันเป็นอุบัติเหตุ พรีม หมอก็ยืนยันแล้ว" เขาพูดเสียงเบาลง กลายเป็นเสียงนุ่มนวลที่อันตราย "แล้วเธอก็...ไม่ค่อยปกติมาตั้งแต่ตอนนั้น สติไม่ดีเท่าไหร่ เป็นแบบนี้มันดีกว่า"

เขาเลื่อนเอกสารอีกฉบับข้ามโต๊ะมา สัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เลือดในกายฉันเย็นเฉียบขณะกวาดสายตาอ่านศัพท์กฎหมายเหล่านั้น ฉันจะต้องไม่พูดถึงเขา ธุรกิจของเขา หรือ...ครอบครัวใหม่ของเขา

"ครอบครัวที่แท้จริงของฉันต้องการฉันตอนนี้" เขาพูดต่อ ถ้อยคำราวกับยาพิษ "เอมมี่ท้อง เราจะให้มีเรื่องไม่สบายใจไม่ได้ เธอจะเซ็นเอกสารพวกนี้ แล้วเธอจะได้รับการดูแลอย่างดี"

ฉันจ้องมองเขา ความโหดร้ายที่ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีของเขาถาโถมเข้าใส่ฉัน นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มันคือการที่เขาเข้ามาเทคโอเวอร์ชีวิตฉัน ฉันเป็นภาระที่ต้องถูกกำจัด

*เขาวางแผนเรื่องนี้ ขณะที่ฉันเลือดออก ขณะที่ฉันกำลังสูญเสียลูกของเรา เขาไปพบทนาย เขาปกป้องผู้หญิงคนนั้น 'ครอบครัวที่แท้จริง' ของเขา* ความคิดนั้นช่างเลวทรามและโหดร้ายจนฉันรู้สึกคลื่นไส้

"แล้วถ้าฉันไม่เซ็นล่ะ?" ฉันกระซิบ แรงต่อสู้เหือดหายไป เหลือเพียงก้อนความหวาดกลัวที่เย็นและแข็งทื่อในท้อง

มาร์คโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ข้อนิ้วของเขาขาวซีดตอนที่จับขอบโต๊ะ หน้ากากผู้ดีของเขาลอกออก

"งั้นฉันก็ไม่มีทางเลือก" เขาพูด น้ำเสียงเหมือนเสียงขู่ฟ่อของอสรพิษ "ฉันมีรายงาน จากหมอที่น่าเชื่อถือมาก พวกเขาทุกคนบอกว่าเธอมีอาการหลงผิด หวาดระแวง ว่าเธอเป็นอันตรายต่อตัวเองและคนอื่น มันคงน่าเสียดายนะที่จะต้องเห็นเธอย้ายจากห้องสบายๆ นี่ ไปอยู่ที่...ปลอดภัยกว่านี้หน่อยนะ แบบระยะยาว"

คำขู่ลอยอยู่ในอากาศ หนาทึบและน่าอึดอัด เขาจะจับฉันส่งโรงพยาบาลบ้า เขาจะลบฉันทิ้ง สร้างภาพว่าฉันเป็นหญิงบ้า แล้วเดินจากไปพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสามีของฉัน อนาคตของฉัน และสติสัมปชัญญะของฉัน

น้ำตาที่ฉันไม่รู้ว่ายังเหลืออยู่เริ่มไหลริน ร้อนและเงียบเชียบ ลงมาตามขมับและซึมเข้าสู่เส้นผม ฉันจนตรอก แตกสลายอย่างสมบูรณ์แบบ

เขาเห็นฉันยอมแพ้แล้ว เขาจัดเนกไทให้เข้าที่ ท่าทางสงบนิ่งกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แบบ "พรุ่งนี้ทนายของฉันจะกลับมาเอาเอกสารที่เซ็นแล้ว พักผ่อนเถอะ พรีม"

เขาหันหลังและเดินจากไป ประตูปิดลงพร้อมเสียงคลิกเบาๆ แต่ดังก้องสะท้อนเหมือนเสียงชีวิตของฉันที่แหลกสลาย

ฉันนอนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาเนิ่นนานราวกับชั่วนิรันดร์ จมดิ่งอยู่ในความเงียบที่เขาทิ้งไว้ เสียงบี๊บของเครื่องวัดหัวใจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ยืนยันว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่มีอะไรเหลือแล้ว ไม่สิ ฉันยิ่งกว่าไม่มีอะไร ฉันเป็นปัญหาที่ต้องถูกแก้ไข เป็นปมที่ต้องถูกผูกให้แน่น

ทันทีที่แสงสุดท้ายของวันลับขอบฟ้าไป ก็มีเสียงเคาะเบาๆ ประตูเปิดออกอีกครั้ง ฉันหลับตาแน่น เตรียมรับแรงกระแทกอีกครั้ง

"คุณพรีมคะ?"

เสียงนั้นอ่อนโยน เป็นเสียงผู้หญิง และคุ้นเคย ฉันลืมตาขึ้น หญิงชราคนหนึ่งที่มีดวงตาใจดีและผมสีเงินมัดเป็นมวยเรียบร้อยยืนอยู่ตรงนั้น คุณป้ามาลี เธอเคยเป็นทนายความของพ่อแม่ฉัน เป็นคนที่ฉันไม่ได้เจอมาหลายปีแล้ว เธอถือกระเป๋าเอกสารหนังที่ดูเก่าแทนที่จะเป็นกระเป๋าเอกสารทันสมัย ห้องนี้พลันรู้สึกอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

เธอก้าวมาข้างเตียง สีหน้าของเธอผสมผสานระหว่างความสงสารและความมุ่งมั่น มือที่เย็นและแห้งของเธอวางลงบนแขนฉันชั่วครู่ มันเป็นสัมผัสที่อ่อนโยนครั้งแรกที่ฉันได้รับในรอบหลายวัน

"ป้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว" เธอกล่าวเบาๆ สายตาของเธอมองเห็นสภาพที่แตกสลายของฉันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง "และก็ได้ยินมาว่า...ผู้ชายคนนั้นเพิ่งมาที่นี่" เธอพูดคำว่า 'ผู้ชาย' ราวกับว่ามันเป็นสิ่งโสโครก

เธอเปิดกระเป๋าและหยิบกุญแจดอกเดียวที่ดูหรูหราและโบราณออกมา มันหนัก ทำจากทองเหลือง และติดอยู่กับพวงกุญแจหนังเรียบๆ

"พ่อแม่ของหนูเป็นคนที่วิเศษมากนะ พรีม" เธอกล่าว น้ำเสียงมั่นคงและแน่วแน่ "พวกท่านยังเป็นนักดูคนที่ยอดเยี่ยมด้วย พวกท่านมองการณ์ไกลว่าสักวันหนึ่งอาจมีหมาป่าในคราบลูกแกะ"

เธอกดกุญแจลงในฝ่ามือฉัน นิ้วของเธอปิดนิ้วของฉันรอบกุญแจ โลหะเย็นเฉียบสัมผัสผิวฉัน

"พวกท่านทิ้งทางหนีทีไล่ไว้ให้" เธอกระซิบ ดวงตาของเธอจับจ้องมาที่ฉันด้วยความเข้มข้นที่ทะลุผ่านความสิ้นหวังของฉัน "กุญแจดอกนี้เปิดตู้เซฟที่ธนาคารแห่งชาติไทย ข้างในนั้น หนูจะเจอกับสัญญาฉบับหนึ่ง สัญญาที่มีอำนาจมากกว่าที่หนูจะจินตนาการได้ มากกว่าที่มาร์คจะเคยฝันถึง"

เธอบีบมือฉันเป็นครั้งสุดท้าย "พ่อแม่ของหนูทำให้แน่ใจว่าหนูจะไม่มีวันจนตรอกอย่างแท้จริงนะลูก ไปสิ ใช้มันซะ"

เธอจากไปอย่างเงียบเชียบเหมือนตอนที่มา ทิ้งให้ฉันอยู่ตามลำพังกับน้ำหนักของกุญแจในมือและประกายความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่น่าสะพรึงกลัวและเป็นไปไม่ได้ในความมืดมิดที่อึดอัด

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 10   เมื่อวานซืน17:34
img
img
บทที่ 1
29/10/2025
บทที่ 2
29/10/2025
บทที่ 3
29/10/2025
บทที่ 4
29/10/2025
บทที่ 5
29/10/2025
บทที่ 6
29/10/2025
บทที่ 7
29/10/2025
บทที่ 8
29/10/2025
บทที่ 9
29/10/2025
บทที่ 10
29/10/2025
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY