ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / นิยายสั้น / การอำลาครั้งสุดท้าย, รอยประทับอันยั่งยืน
การอำลาครั้งสุดท้าย, รอยประทับอันยั่งยืน

การอำลาครั้งสุดท้าย, รอยประทับอันยั่งยืน

5.0

หกเดือนแล้วที่โรคร้ายลึกลับค่อยๆ พรากชีวิตไปจากร่างกายฉัน แต่ฉันก็เลือกที่จะเมินความเจ็บปวดที่กัดกินอยู่ทุกวินาที เพื่อทำหน้าที่ภรรยาที่แสนดี คอยสนับสนุนคราม สถาปนิกหนุ่มอนาคตไกลผู้เป็นสามีของฉัน ในคืนที่ชีวิตแต่งงานของเราพังทลายลง เขาไม่รับสายฉันเลยสักครั้ง แต่กลับเป็นเด็กฝึกงานสาวของเขาที่ส่งรูปของทั้งคู่ที่กำลังกอดกันกลมมาให้ฉันแทน พวกเขาทั้งสองดูมีความสุขและรักกันอย่างสุดซึ้ง เมื่อฉันเผชิญหน้ากับเขา เขากลับหาว่าฉันสติแตกและเลือกผู้หญิงคนนั้น ไม่นานฉันก็ได้รู้ว่าหล่อนกำลังตั้งท้อง เขากำลังสร้างครอบครัวที่ควรจะเป็นของเรา...กับผู้หญิงคนอื่น ฉันวิ่งไปหาแม่เพื่อหวังว่าจะได้รับคำปลอบโยน แต่ท่านกลับเข้าข้างเขา “ครามเป็นคนดีนะลูก” ท่านพูด “อย่าทำตัวมีปัญหา” เขาเคยสัญญาว่าจะดูแลฉันไม่ว่าจะในยามเจ็บไข้หรือสุขสบาย แต่เขากับครอบครัวของฉันกลับทอดทิ้งฉันในตอนที่ฉันอ่อนแอที่สุด มองความเจ็บปวดของฉันเป็นแค่เรื่องดราม่าไร้สาระ แต่ในวันนั้นเอง ฉันก็ได้รับคำวินิจฉัยของตัวเอง...มะเร็งสมองระยะสุดท้าย ฉันมีเวลาเหลืออีกแค่ไม่กี่เดือน และในวินาทีนั้น ความเศร้าโศกทั้งหมดก็มลายหายไป ฉันจะไม่ยอมตายอย่างนางเอกผู้น่าสงสาร ฉันจะใช้ชีวิตในช่วงเวลาสุดท้ายเพื่อตัวเอง และเขา...จะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับผลของการกระทำของเขาไปตลอดกาล

สารบัญ

บทที่ 1

หกเดือนแล้วที่โรคร้ายลึกลับค่อยๆ พรากชีวิตไปจากร่างกายฉัน แต่ฉันก็เลือกที่จะเมินความเจ็บปวดที่กัดกินอยู่ทุกวินาที เพื่อทำหน้าที่ภรรยาที่แสนดี คอยสนับสนุนคราม สถาปนิกหนุ่มอนาคตไกลผู้เป็นสามีของฉัน

ในคืนที่ชีวิตแต่งงานของเราพังทลายลง เขาไม่รับสายฉันเลยสักครั้ง แต่กลับเป็นเด็กฝึกงานสาวของเขาที่ส่งรูปของทั้งคู่ที่กำลังกอดกันกลมมาให้ฉันแทน พวกเขาทั้งสองดูมีความสุขและรักกันอย่างสุดซึ้ง

เมื่อฉันเผชิญหน้ากับเขา เขากลับหาว่าฉันสติแตกและเลือกผู้หญิงคนนั้น ไม่นานฉันก็ได้รู้ว่าหล่อนกำลังตั้งท้อง เขากำลังสร้างครอบครัวที่ควรจะเป็นของเรา...กับผู้หญิงคนอื่น

ฉันวิ่งไปหาแม่เพื่อหวังว่าจะได้รับคำปลอบโยน แต่ท่านกลับเข้าข้างเขา

“ครามเป็นคนดีนะลูก” ท่านพูด “อย่าทำตัวมีปัญหา”

เขาเคยสัญญาว่าจะดูแลฉันไม่ว่าจะในยามเจ็บไข้หรือสุขสบาย แต่เขากับครอบครัวของฉันกลับทอดทิ้งฉันในตอนที่ฉันอ่อนแอที่สุด มองความเจ็บปวดของฉันเป็นแค่เรื่องดราม่าไร้สาระ

แต่ในวันนั้นเอง ฉันก็ได้รับคำวินิจฉัยของตัวเอง...มะเร็งสมองระยะสุดท้าย ฉันมีเวลาเหลืออีกแค่ไม่กี่เดือน

และในวินาทีนั้น ความเศร้าโศกทั้งหมดก็มลายหายไป ฉันจะไม่ยอมตายอย่างนางเอกผู้น่าสงสาร ฉันจะใช้ชีวิตในช่วงเวลาสุดท้ายเพื่อตัวเอง และเขา...จะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับผลของการกระทำของเขาไปตลอดกาล

บทที่ 1

มุมมองของไอริน:

คืนที่ชีวิตแต่งงานของฉันแหลกสลาย มันไม่ได้เริ่มต้นด้วยเสียงดังสนั่น แต่เริ่มจากความเงียบที่น่าอึดอัดของโทรศัพท์ที่ไม่มีคนรับสาย

ห้าทุ่ม... เที่ยงคืน... แล้วก็ตีหนึ่ง

สายฝนสาดกระหน่ำใส่หน้าต่างกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานของอพาร์ตเมนต์เรา แสงไฟจากเมืองเบื้องล่างพร่าเลือนกลายเป็นภาพสีน้ำที่เลอะเทือนของแสงนีออนและเงา ทุกครั้งที่ลมกระโชกแรง มันเหมือนกับการทุบลงบนบานกระจก เขย่ากรอบหน้าต่างและประสาทของฉันที่ใกล้จะขาดผึงอยู่แล้ว

ความเจ็บปวดที่คุ้นเคยแผ่ซ่านลึกเข้าไปในกระดูก เป็นเพื่อนร่วมทางของฉันมาตลอดหกเดือนที่ผ่านมา มันเริ่มจากตามข้อต่อแล้วแผ่กระจายออกไป เป็นความรู้สึกร้อนผ่าวที่ทำให้ฉันอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา ฉันดึงผ้าคลุมไหล่แคชเมียร์มาพันรอบตัวให้แน่นขึ้น แต่ความหนาวเย็นมันมาจากข้างใน มันซึมออกมาจากแก่นกลางของร่างกายฉันเอง

นิ้วโป้งของฉันลอยค้างอยู่เหนือรูปโปรไฟล์ของครามบนหน้าจอโทรศัพท์ เป็นรูปจากตอนที่เราไปฮันนีมูนกันที่มัลดีฟส์ รอยยิ้มทรงเสน่ห์ของเขาสว่างจ้าตัดกับฉากหลังของทะเลสีคราม เขาดูเหมือนคนที่ไม่มีวันพ่ายแพ้ มีความสุข และกำลังตกอยู่ในห้วงรัก

ฉันกดปุ่มโทรออกเป็นครั้งที่สิบ

ฝากข้อความ...อีกแล้ว

“สวัสดีครับ ผมคราม ฝากข้อความไว้ได้เลยครับ”

น้ำเสียงของเขาที่ปกติจะทุ้มอุ่นและช่วยคลายความกังวลของฉันได้เสมอ ตอนนี้กลับฟังดูกลวงโบ๋และห่างเหินผ่านลำโพงเล็กๆ

ฉันเลื่อนดูประวัติการแชท ข้อความสุดท้ายจากเขาคือตอนสี่โมงครึ่ง

`คราม: ประชุมเลท ไม่ต้องรอทานข้าวนะ`

`ไอริน: โอเคค่ะ มีอะไรรึเปล่า?`

`ไอริน: รักนะคะ`

สองข้อความสุดท้ายของฉันขึ้นว่า ‘ส่งแล้ว’ แต่ไม่ขึ้นว่า ‘อ่านแล้ว’

นี่มันไม่เหมือนเขาเลย ครามเป็นคนทะเยอทะยาน เป็นดาวรุ่งในวงการสถาปัตยกรรมที่ใช้ชีวิตตามตารางงาน แต่เขาก็เป็นคนละเอียดรอบคอบมาก เขาตอบเสมอ...เสมอ แม้ว่าจะเป็นแค่ข้อความสั้นๆ คำเดียว เขาก็จะตอบกลับมา

ข้อความของฉันเองกะพริบอยู่บนหน้าจอเหมือนกำลังกล่าวโทษ

`ไอริน: นี่ แค่ทักมาดูน่ะค่ะ ดึกแล้วนะ` (ส่ง 21:15 น.)

`ไอริน: ยังประชุมไม่เสร็จเหรอคะ? เริ่มเป็นห่วงแล้วนะ` (ส่ง 22:30 น.)

`ไอริน: คราม ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าคุณโอเค` (ส่ง 00:45 น.)

จุดสามจุดที่แสดงว่าฉันกำลังพิมพ์ปรากฏขึ้นแล้วก็หายไป ฉันเขียนแล้วก็ลบข้อความอื่นอีกครั้ง ความรู้สึกวิงเวียนซัดเข้ามาจนฉันต้องคว้าที่เท้าแขนโซฟาไว้แน่นจนข้อนิ้วขาวซีด หมอของฉันบอกว่ามันเป็นเพราะความเครียด คิดมากไปเอง เป็นอาการบ่นทั่วๆ ไปของผู้หญิงที่มีเวลาว่างมากเกินไป “นอนให้มากขึ้นสิครับคุณไอริน ลองเล่นโยคะดู”

แต่ความรู้สึกนี้ ความอ่อนแอทางร่างกายอย่างรุนแรงนี้ มันรู้สึกมากกว่าความเครียด มันรู้สึกเหมือนร่างกายของฉันกำลังค่อยๆ ปิดตัวลงอย่างเงียบๆ

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นที่ด้านบนของหน้าจอ หัวใจฉันกระเด้งขึ้นมาจุกที่คอ

มันไม่ใช่ข้อความจากคราม

มันเป็นคำขอเป็นเพื่อนบนโซเชียลมีเดีย

`คีรติ โลว์ ต้องการเป็นเพื่อนกับคุณ`

ฉันไม่รู้จักชื่อนี้ รูปโปรไฟล์ของเธอเป็นรูปถ่ายทางการ เป็นผู้หญิงสาวอายุราวๆ ยี่สิบกลางๆ มีดวงตาที่เฉียบคมและรอยยิ้มที่มั่นใจ ประวัติของเธอนั้นสั้น แต่แฝงไปด้วยความทะเยอทะยานอย่างเห็นได้ชัด

`สถาปนิกฝึกหัด @ ธนพัฒน์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ สร้างอนาคต ทีละแบบแปลน`

ธนพัฒน์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ บริษัทของคราม เธอคือเด็กฝึกงานคนใหม่ของเขา คนที่เขาพูดถึงอย่างชื่นชมมาหลายสัปดาห์ “เธอเก่งมากเลยนะริน เฉียบขาดสุดๆ”

ความหวาดกลัวที่เย็นเยียบ หนักอึ้งและน่าขนลุกยิ่งกว่าอาการป่วยของฉัน ค่อยๆ คืบคลานขึ้นมาตามสันหลัง ทำไมเด็กฝึกงานสาวไฟแรงของเขาถึงมาส่งคำขอเป็นเพื่อนตอนตีหนึ่งครึ่ง?

นิ้วของฉันสั่นเทาขณะที่คลิกเข้าไปในโปรไฟล์ของเธอ มันเป็นสาธารณะ โพสต์บนสุดมาจากเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว เป็นรูปถ่ายเพียงรูปเดียว

ไม่สิ ไม่ใช่แค่รูปถ่าย มันคือคำประกาศ

มันเป็นรูปของบาร์หรูทันสมัยแบบที่ครามชอบ ที่เบื้องหน้ามีแก้วค็อกเทลสองใบชูขึ้นเพื่อชนกัน มือข้างหนึ่งเป็นของผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัย แข็งแรง และมีแหวนตราสัญลักษณ์สีเงินที่ฉันให้เขาเป็นของขวัญครบรอบแต่งงานปีที่สามสวมอยู่ที่นิ้วก้อยอย่างชัดเจน

มืออีกข้างบอบบาง เป็นของผู้หญิง มีเล็บที่ตกแต่งอย่างสวยงามทาสีแดงเลือดนก

คำบรรยายใต้ภาพเป็นประโยคเดียวที่ทำลายล้างทุกอย่าง

`แด่การเริ่มต้นครั้งใหม่กับคนที่มองเห็นอนาคตของฉันได้ชัดเจนเท่ากับที่ฉันเห็น`

ลมหายใจของฉันสะดุด เหมือนอากาศถูกดูดออกจากห้องไปจนหมดสิ้น สมองฉันพยายามหาคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผลอย่างบ้าคลั่ง งานเลี้ยงฉลองของทีม ดินเนอร์กับลูกค้า อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่สิ่งที่สัญชาตญาณของฉันกำลังกรีดร้องอยู่

แล้วฉันก็เห็นมัน ภาพสะท้อนที่บิดเบี้ยวในแก้วค็อกเทลทรงโค้งของครามคือภาพของคนที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่ มันคือเธอ คีรติ โลว์ และคนที่เอนตัวเข้าไปใกล้เธอจนศีรษะแทบจะชิดกัน...คือสามีของฉัน

นิ้วโป้งของฉันที่ทำไปโดยไม่รู้ตัว กดปุ่ม ‘ยืนยัน’ คำขอเป็นเพื่อนของเธอ

ทันใดนั้น ข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมา มันไม่ใช่คำพูด

มันคือรูปถ่าย

ส่งมาให้ฉันโดยตรง

ครั้งนี้ไม่มีความคลุมเครือ ไม่มีภาพสะท้อนที่บิดเบี้ยว มันคือครามและคีรติ นั่งอยู่ในบูธหรูหรา แขนของเขาวางโอบไหล่เธออย่างแสดงความเป็นเจ้าของ และเขากำลังหัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างสุดเสียงที่ฉันไม่ได้ยินมานานหลายเดือนแล้ว ศีรษะของเธอเอนไปด้านหลัง พิงอยู่กับอกของเขา ดวงตาของเธอหลับพริ้มด้วยท่าทางที่มีความสุขอย่างแท้จริง

พวกเขาดูเหมือนคู่รักที่กำลังตกอยู่ในห้วงรัก

โทรศัพท์ร่วงหล่นจากมือที่ไร้เรี่ยวแรงของฉัน กระแทกกับพื้นไม้เนื้อแข็ง หน้าจอไม่แตก แต่บางอย่างในใจฉันแหลกสลายไม่มีชิ้นดี

ฉันจ้องมองภาพนั้น ตาพร่ามัวไปด้วยน้ำตา ฉากหลัง...มันคือร้านอาหารอิตาเลียนเจ้าโปรดของเรา ที่ที่เขาพาฉันไปในวันครบรอบแต่งงานปีแรก ที่ที่เขาสาบานว่าเราจะฉลองทุกความสำเร็จด้วยกันไปตลอดชีวิต

รูปถ่ายนั้นคือคำประกาศสงคราม และฉันเพิ่งจะเดินเข้าสู่สนามรบด้วยความเต็มใจ โดยที่ไม่มีอาวุธอะไรเลย

นิ้วของฉันที่งุ่มง่ามและสั่นเทาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ฉันเปิดหน้าแชทของเราอีกครั้ง หน้าที่เต็มไปด้วยคำวิงวอนที่ไม่ได้รับคำตอบของฉัน

นิ้วโป้งของฉันรัวไปบนคีย์บอร์ด คำพูดที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความโกรธที่ลุกโชนขึ้นมาอย่างฉับพลัน เผาไหม้ม่านหมอกของความเจ็บป่วยและความเศร้าโศกของฉันจนหมดสิ้น

`ไอริน: ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะคราม?`

`ไอริน: ตอบฉันสิ`

`ไอริน: คุณอยู่ไหน?`

ฉันส่งข้อความอีกฉบับ คราวนี้ส่งไปหาคนแปลกหน้าที่เพิ่งฉีกโลกของฉันเป็นชิ้นๆ

`ไอริน: นี่มันอะไรกัน? คุณเป็นใคร?`

เงียบ

ทั้งสองฝั่ง

ฉันใช้เวลาที่เหลือของคืนนั้นขดตัวอยู่บนพื้นเย็นๆ จ้องมองภาพการทรยศของสามีฉัน ในที่สุดฝนข้างนอกก็ซาลงเหลือเพียงละอองฝนที่โปรยปรายอย่างน่าสังเวช ความเจ็บปวดทางกายในร่างกายของฉันเทียบไม่ได้เลยกับบาดแผลที่เปิดกว้างในอก

ก่อนรุ่งสาง ในที่สุดความอ่อนเพลียก็เอาชนะฉันได้ ฉันผล็อยหลับไปอย่างไม่สนิท เพียงเพื่อจะถูกโยนเข้าไปในฝันร้าย ในฝัน ฉันกำลังยืนอยู่ในทุ่งดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา ครามอยู่ที่นั่น ฝั่งตรงข้ามของทุ่ง เขากำลังจับมือคีรติอยู่ เขาไม่ได้มองฉันด้วยความโกรธ แต่ด้วยสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นมาก...ความสงสาร

“เธอดูเหนื่อยตลอดเวลาเลยนะไอริน” เขาพูด เสียงของเขาก้องอยู่ในฝัน “คีรติ...มีพลังงานมากกว่า”

ฉันสะดุ้งตื่น ความเจ็บปวดจากคำพูดของเขาในฝันคมกริบยิ่งกว่าคำดูถูกใดๆ ในชีวิตจริง แก้มของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา

โทรศัพท์ของฉันสั่นอยู่บนพื้นข้างๆ

ข้อความใหม่จากคีรติ โลว์

มันไม่ใช่คำตอบสำหรับคำถามของฉัน มันเป็นรูปถ่ายอีกรูป

รูปนี้เป็นรูปของพวกเขาสองคนในห้องครัว ไม่ใช่ครัวร้านอาหาร แต่เป็นครัวของฉัน ครามยืนอยู่ข้างหลังเธอ มือของเขาวางอยู่บนเอวของเธอ คอยนำทางขณะที่เธอคนอะไรบางอย่างในหม้อบนเตา หม้อที่ฉันจำได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องครัวราคาแพงที่เขาซื้อให้ฉันเป็นของขวัญแต่งงาน

เขาเคยสัญญากับฉันว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน ทานอาหารด้วยกัน และมีช่วงเวลาที่เงียบสงบในครัวนั้น

ตอนนี้ เขากำลังสร้างความทรงจำเหล่านั้นกับคนอื่น

โลกที่ฉันสร้างขึ้นมาอย่างประณีตไม่ได้แค่ร้าว แต่มันถูกทำลายอย่างเป็นระบบ และสถาปนิกผู้ทำลายล้างฉันก็คือผู้ชายคนเดียวที่ฉันคิดว่าจะปกป้องฉันจากพายุทุกลูก

เสียงสะอื้นอย่างรุนแรงหลุดออกมาจากริมฝีปากของฉัน ฉันพิมพ์ข้อความที่บ้าคลั่งและโกรธเกรี้ยวส่งไปให้คีรติ นิ้วโป้งของฉันลื่นไถลไปบนหน้าจอที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา

`ไอริน: เธอทำบ้าอะไรอยู่? คิดว่าตัวเองเป็นใคร?`

`ไอริน: เธอกำลังทำลายชีวิตคู่ ทำลายครอบครัว`

มีความเงียบชั่วครู่ นานพอที่จะทำให้ฉันคิดว่าเธออาจจะเมินฉันอีกครั้ง จากนั้น จุดสามจุดก็ปรากฏขึ้น เธอกำลังพิมพ์

---

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 10   เมื่อวานซืน17:37
img
img
บทที่ 1
29/10/2025
บทที่ 2
29/10/2025
บทที่ 3
29/10/2025
บทที่ 4
29/10/2025
บทที่ 5
29/10/2025
บทที่ 6
29/10/2025
บทที่ 7
29/10/2025
บทที่ 8
29/10/2025
บทที่ 9
29/10/2025
บทที่ 10
29/10/2025
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY