เล่ห์มายาลวง - เล่ห์กลแห่งความใคร่ที่นำพาสองครอบครัวต้องมาผูกแรงแค้นต่อกัน กลกามนั้นสร้างรอยแผลและความเจ็บปวด แต่ใดๆ นั้น ความรักจะเยียวยาเอง
เล่ห์มายาลวง - เล่ห์กลแห่งความใคร่ที่นำพาสองครอบครัวต้องมาผูกแรงแค้นต่อกัน กลกามนั้นสร้างรอยแผลและความเจ็บปวด แต่ใดๆ นั้น ความรักจะเยียวยาเอง
สนามบินสุวรรณภูมิ
เริงฤดี เลอวาณิชกุล สาวน้อยร่างสูงโปร่ง ผิวขาวอมชมพูใบหน้าโฉบเฉี่ยวได้รูปถูกปิดบังไว้ครึ่งใบหน้าจากหมวกใบหนึ่งที่สวมพรางสายตาของผู้คน แว่นกลมโตสีชาคล้องสายห้อยอยู่ที่ลำคอระหง จังหวะก้าวเดินด้วยรองเท้าส้นเข็มสูง ๒ นิ้วราวกับนางแบบบนแคทวอร์ค ผิดก็เพียงแต่ในมือของเธอไสรถเข็นเพื่อจะมารับกระเป๋าเดินทาง เธอหยุดรอกระเป๋าใบโตที่สายพานลำเลียงกระเป๋าของสนามบิน ด้ามพัดจิ๋วในมือถูกคลี่ออกแล้วโบกเบา ๆ
“เดาว่าคุณคงกลับมาจากเมืองหนาว มาถึงเมืองไทย เปิดแอร์ขนาดนี้คุณยังร้อน”
เสียงร้องทักจากเบื้องหลังเป็นเสียงของชายหนุ่ม แต่เธอไม่เสียสายตาหันกลับไปมองแม้เพียงนิด ออกอาการเพียงแค่ขยับตัวไปข้างหน้า เป็นการแสดงว่าไม่ประสงค์จะพูดคุย เสียงหัวเราะหึๆ แว่วผ่านเข้ามาแล้วเดินจากไป เธอแค่นยิ้มแล้วพึมพำออกมาอย่างลำพองตัว
“เห็นคนสวยเป็นไม่ได้ ระริกระรี้เข้ามาเชียว ผู้ชายก็ยังงี้แหละ”
เริงฤดี ขยับตัวยกกระเป๋าใบใหญ่ ๒ ใบ ออกจากสายพานลำเลียงขึ้นรถเข็นด้วยตัวเอง แม้จะมีชายหนุ่มที่ขยับจะมาช่วย แต่ไม่ทันกับความว่องไวของเธอที่คุ้นชินกับการช่วยเหลือตัวเองมาตลอด
“สวย แต่ดูหยิ่งชะมัด”
เสียงพูดคุยเบาๆ ห่างออกไปจากชายหนุ่มที่หาญกล้าไปทักเธอก่อน
“หยิ่ง?"
ชายหนุ่มหน้าคมมีสีหน้าสงสัย เขาเพิ่งกลับมาจากดูงานในประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้เครื่องดีเลย์ ทำให้กลับมาช้ากว่ากำหนดเดิม อารมณ์จึงค่อนข้างหงุดหงิดอยู่พอสมควร
“ฉันลองเข้าไปทักดู จะหันมามองหนุ่มหล่ออย่างฉันสักนิดก็ไม่มี หึ หึ”
“อ้อ พอไม่หันมามองนาย เลยว่าหยิ่ง ความหล่อของนายก็ช่วยอะไรไม่ได้”
“กริช คนทักกันอย่างน้อยต้องหันมามองกันบ้าง นี่อะไร ไม่หันมามอง แถมขยับตัวหนี ทำยังกะเราเป็นพวกโรคจิต สักวันเถอะจะเจอดี”
เสียงคนพูดราวคับแค้น ยิ่งฟังคำพูดเรื่อยๆ ของคนเป็นเพื่อนยิ่งทำให้ดูเหมือนถูกดูแคลน
“นายจะพาลให้มันได้อะไรขึ้นมา แค่เขาไม่สนใจก็ปล่อยเขา ผู้หญิงในฮาเร็มนายมีตั้งมาก จะมาอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”
คมกริช อัครโอภาส ส่ายหน้าระอานิสัยของเพื่อน เบื่อหน่ายที่จะพูดคุยเรื่องผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน แต่เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน แถมยังเป็นคู่ค้าทางธุรกิจจึงต้องคบหากันเรื่อยมา ดุบ้าง ด่าบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็กลับมาสนิทกันเหมือนเดิม
“ยากๆ อย่างนี้ ฉันชอบ”
คมกริช มองตามร่างโปร่งที่ขยับย้ายสะโพกกลมกลึงไปกับย่างก้าวที่เดินออกไปทางประตูแล้วถอนใจ เสี้ยวหน้าที่เขาเห็นเพียงแวบเดียวนั้น บอกให้รู้ว่าเธอสวยมาก แต่ในกรุงเทพมหานคร มันไม่ได้เล็กๆ ที่เราจะเจอกันอีก
“ขอให้โชคดี เจอเขาอีกครั้งก็แล้วกัน”
คมกริชบอกเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจ ก้าวนำไปรอกระเป๋าเดินทาง ซึ่งเริ่มลำเลียงเข้ามาแล้ว
“แล้วนายจะรู้ ฉันน่ะดมกลิ่นสาวๆ สวยๆ ไวเสมอ อยากรู้นักว่า ถ้าเจอหน้าหล่อๆ อย่างฉันจังๆ ยังจะกล้าเชิดใส่ฉันไหม”
“วุธ จะทำอะไรให้คิดถึงคู่หมั้นของนายไว้ให้ดี แค่สาวๆ ที่นายสับหลีกอย่างกับนายช่างรถไฟ คุณนุชเขาก็ปวดหัวจะแย่แล้ว”
อาวุธ พินิจนันท์ หัวเราะอย่างไม่ยี่หระ นงนุชเขาก็รัก แต่จะให้เขาเลิกกับสาวสวยรายอื่นๆ รอไปก่อน เพราะยังไง เขาก็ยังไม่แต่งงาน ฉะนั้นอย่ามาหึงหวงมากมาย เขาไม่ชอบ
กระเป๋าถูกลำเลียงมาจนถึงคิวของชายหนุ่ม ทั้งคู่จึงไสรถเข็นออกไปด้านนอก ตรงไปยังลานจอดรถที่จอดไว้ข้ามวันข้ามคืน คมกริชไม่ยอมนั่งแท็กซี่ แต่ยินดีที่จะขับรถมาเองโดยเสียค่าเช่าจอดรถดีกว่า แม้ว่าอาวุธจะบ่นพึมว่ากลับมาเหนื่อยๆ ยังจะต้องมาขับรถกลับบ้าน แถมยังต้องเสียเงินที่ไม่ควรจะเสียอีก
“เราแยกกันตรงนี้ ฉันนัดกับนุชเขาไว้ คืนนี้กลับมาจะฉลองกันหน่อย”
อาวุธบอกอย่างเจ้าเล่ห์ อารมณ์ดี คมกริชเข็นรถไปเพียงลำพัง มุมเลี้ยวที่เขาต้องไสรถเข็นไปนั้นสะดุดกับกระเป๋าใบใหญ่ที่วางนอนอยู่บนรถเข็นหน้าประตู ทำให้เขาชะงักแล้วหันกลับไปก้มหัว ขอโทษกับเจ้าของกระเป๋า
“ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณไม่ได้ตั้งใจ”
เสียงหวานใสนั้นตอบกลับมาทันที คมกริชเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงอย่างสนใจ ผู้หญิงคนนั้นเอง ยามนี้เธอถอดหมวกใบโตออกแล้วสวมแว่นไว้เสียครึ่งหน้า แต่ก็ปิดบังความสวยงามของใบหน้าคมเฉี่ยวไว้ไม่ได้ คมกริชปรายตามองกระเป๋าใบโตสองใบและเครื่องแต่งกายที่หล่อนสวมอยู่ปราดเดียวก็พอประเมินว่าเธอกลับมาจากประเทศเมืองหนาวและรอคนมารับ เพราะในมือถือโทรศัพท์ไว้ คมกริชยิ้มให้เล็กน้อยขยับที่จะเดินต่อ
“ฉันจะไปรอแท็กซี่ได้ที่ไหนคะ”
เสียงนั้นคล้ายลังเล ไม่แน่ใจว่าจะถามเขาดีหรือไม่ แต่ก็ถามออกไปอย่างเก้อๆ เขินๆคมกริชชะงัก หันมามองหญิงสาวเต็มตา ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ด้านล่างนะครับ แต่คงต้องรอนานหน่อย และผมว่าค่อนข้างอันตรายกับผู้หญิงสวยอย่างคุณในเวลานี้”
คมกริชเปิดช่องให้ตัวเอง เสือซุ่มอย่างเขา อาวุธยังตามไม่ทัน
“ฉันโทรหาคนที่บ้าน ไม่มีคนรับ ยังไงก็ต้องไปแท็กซี่ค่ะ ขอบคุณนะคะที่บอก”
เริงฤดีหันตัวกลับจะเข้าไปในอาคารอีกครั้ง
“เดี๋ยวซิคุณ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมไปส่งให้ก็ได้นะครับ”
“คุณจะไปส่งฉันหรือคะ แล้วคุณปลอดภัยกว่าแท็กซี่?”
เริงฤดีแค่นยิ้ม ผู้ชายก็เหมือนกันทุกคน
“นี่ครับนามบัตรผม เผื่อคุณจะไว้ใจ”
คมกริชยื่นนามบัตรให้ ตำแหน่งในนามบัตรระบุถึงตัวตนของเขา เริงฤดีนิ่งคิด ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปางบางเล็ก ไรหนวดเหนือริมฝีปากนั้นเย้ายวน ......บ้า เธอคิดอะไรนี่ เริงฤดีรีบสลัดความคิดของเธอออก บอกตัวเองว่าอย่าสนใจชายหนุ่มคนนี้
“เชิญเถอะครับ รถผมจอดอยู่ทางนี้”
คมกริชเดินนำหน้า โดยไม่ได้รีรอว่าเธอจะปฏิเสธหรือตอบรับ เริงฤดีนิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนเข็นรถตามออกไป
“บ้านคุณอยู่แถวไหนครับ”
ซีรีย์พ่อเลี้ยง สองเรื่องราว สองคู่ ระหว่างพ่อเลี้ยงที่แตกต่างความคิดกันอย่างสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือความรักให้คนที่ชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง จำเลยพ่อเลี้ยง /พฤศตะวัน - เมื่อหญิงสาวต้องกลายเป็นเครื่องมือการติดตามแม่ของเธอ จากชายหนุ่มที่เคยรักแม่ แต่...เสน่ห์ของจำเลยอย่างเธอ พ่อเลี้ยงหรือจะอดใจไหว พ่อเลี้ยงบำเรอรัก/ พฤศตะวัน - วิชนี เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อทวงมรดกของแม่คืนจากพ่อเลี้ยง ทว่า พ่อเลี้ยงที่เธอนึกเกลียดเขามาตลอดนั้นว่าแย่งแม่ของเธอไปจากพ่อ กลับกลายเป็นแค่ตัวหลอก และเป็นผู้ปกป้องเธอมาตลอด
ซีรีย์ดอกไม้สวาท ความแตกต่างคือความงาม ดอกไม้ 2 ชนิดที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เกสรดอกชู้ /พันตะวัน - ธีธัช หนุ่มหล่อผู้มีความสามารถกลับมาเมืองไทยกะทันหัน หลังจากแม่เสียชีวิต ต้นเหตุมาจากแม่ลูกคู่หนึ่ง ซึ่งเขาจะต้องเอาคืนให้ได้ และอันดาคือเหยื่อในความแค้นครั้งนี้ ผกากลีบทอง /พันตะวัน - บุหงาและอาทิตย์ ต้องแต่งงานตามความต้องการของผู้ใหญ่ แต่เส้นทางความรักของคนทั้งคู่ ต่างมีสิ่งที่ต้องปกปิดกันและกัน บุหงาสาวสวยเสนห์แรงจึงต้องเผชิญเรื่องรักในทิศทางที่เธอไม่อาจควบคุม
ซีรีย์บาป 2 เรื่อง 2 รส กับความรักที่ปนเปไปด้วยความใคร่และความรู้สึกผิด บาปหวาน / พฤศตะวัน - ผิดไหม? ที่เธอรักพ่อเลี้ยง สามีใหม่ของแม่ที่ตายไปนานแล้ว แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อพ่อเลี้ยงของเธอ ยังคงรักแม่ของเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะลืม บาปสวาท /พันตะวัน - เมื่อความใคร่เข้ายึดครองการใช้ชีวิต คู่แต่งงานที่ต่างก็หมดรักกัน จึงต้องหาทางออกเพื่อให้ตัวเองสมประโยชน์
มนตราพญามาร - บ้านไร่ตะวันฉายของตฤณพบ ต้องต้อนรับผู้หญิง 2 คน คือ ไอรดา และปิยฉัตร ทั้งคู่ มีคำถามต่อเขาถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าสงสัย แต่ตฤณภพก็ใช้ความใคร่ปะปนไปกับความรักจนสยบเด็กสาวทั้งคู่ได้
ไฟปรารถนา เพลิงอาวุธ - อาวุธ เศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนและรีสอร์ตหรูบนเกาะส่วนตัว จำต้องยอมรับ แองจี้ หลานสาวของลูกจ้างคนเก่าแก่เข้ามาทำงานในอาณาจักรของเขาโดยไม่เต็มใจนัก เพราะทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาก็รู้ทันทีว่า เขาจะไม่เป็นสมภารกินไก่วัดเด็ดขาด แต่เขาจะทำได้หรือ?
วิวาห์ร้อนซ่อนสวาท - เหมวัต เจ้าของไร่ผู้ร่ำรวย จำต้องแต่งงานกับผกามาศ ลูกสาวของลุงผ่อง เจ้าของไร่ที่อยู่ข้างกัน เพราะต้องการกู้หน้าที่ลูกสาวท้องไม่มีพ่อ เพราะหนี้บุญคุณ ทำให้เหมวัตจำต้องช่วยเหลือ แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะแต่งงานเพียงในนามเท่านั้น
'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด