มนตราพญามาร - บ้านไร่ตะวันฉายของตฤณพบ ต้องต้อนรับผู้หญิง 2 คน คือ ไอรดา และปิยฉัตร ทั้งคู่ มีคำถามต่อเขาถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าสงสัย แต่ตฤณภพก็ใช้ความใคร่ปะปนไปกับความรักจนสยบเด็กสาวทั้งคู่ได้
มนตราพญามาร - บ้านไร่ตะวันฉายของตฤณพบ ต้องต้อนรับผู้หญิง 2 คน คือ ไอรดา และปิยฉัตร ทั้งคู่ มีคำถามต่อเขาถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าสงสัย แต่ตฤณภพก็ใช้ความใคร่ปะปนไปกับความรักจนสยบเด็กสาวทั้งคู่ได้
แสงแดดร้อนจัดจ้า ส่องสาดมาริมทางถนนลูกรังที่ไกลสุดลูกหูลูกตา สองข้างทางมีเพียงไร่ข้าวโพดที่สูงท่วมหัว เท้าเรียวเล็กกำลังก้าวยาวๆ ด้วยความเร่งรีบ เพื่อให้ทันเวลาก่อนที่ตะวันจะชิงพลบ เธอยังไม่รู้แน่ว่า คนที่เธอตามหาอยู่นั้นจะมีตัวตนอยู่หรือไม่ แต่เขาก็คือความหวังของเธอ เป็นความหวังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดที่เธอต้องไขว่คว้าไว้ หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้
ไอรดาถูกปล่อยทิ้งไว้ที่ริมทางถนนใหญ่พร้อมกระเป๋าเป้ใบเขื่อง กระเป๋ารถบอกอย่างใจดีว่า ไม่มีรถเข้าไปภายในไร่ตะวันฉาย แต่ถ้ารออยู่จะมีรถจากฟาร์มผ่านไปมาเสมอ แต่ไอรดาไม่ยอมรอ เธอตัดสินใจเดินเข้ามา แม้ว่าหนทางจะไกลนับ 10 กิโลเมตรก็ตาม
เสียงรถวิ่งตามหลังเข้ามาบีบแตรทักทาย เธอรับรู้ว่าคนชนบทล้วนมีน้ำใจ ไอรดาหยุดยืนอยู่ริมทางถอดหมวกใบกว้างที่สวมไว้ออกมาถือแล้วยิ้มให้กับเจ้าของรถผู้ใจดี
“จะไปไหนครับ แดดร้อนเปรี้ยงอย่างนี้ ทำไมไม่รออยู่ร่มไม้”
เจ้าของรถกระบะคันเก่า ดับเครื่องรถที่ครางสนั่นก่อนจะชะโงกมาถามหญิงสาวที่ก้มลงมองหน้า ไอรดามองปราดเดียวก็รู้ว่ารถคันนี้ใช้งานมาอย่างโชกโชน สีดั้งเดิมของมันมองแทบไม่เห็น เพราะถูกแทนทีด้วยสีสนิมผุกร่อน ส่วนเจ้าของรถ อายุก็คงไม่ต่างจากรถสักเท่าไหร่
“ฉันจะไปไร่ตะวันฉายน่ะลุง รถประจำทางส่งฉันที่ปากซอยก็เลยต้องเดินเข้ามา”
“เอ๊าๆ ขึ้นมา แล้วลุงจะเลยไปส่งให้ ไร่คุณตฤณเขาอยู่ติดกันกับลุงนี่แหละ”
ลุงใจดีเชื้อเชิญให้เด็กสาวคราวหลานขึ้นรถด้วยไมตรี หญิงสาวเหวี่ยงเป้ขึ้นหลังรถแล้วรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้าง ยิ้มแก้มแทบปริด้วยความดีใจเพราะขาที่ย่ำเดินผ่านเปลวแดดล้าจนแทบจะทรุดอยู่แล้ว
“จะไปหาใครที่ไร่เหรออีหนู”
ลุงติดเครื่องยนต์ครางกระหึ่ม ก่อนกระตุกเครื่องยนต์แล้วเคลื่อนออกไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
“ฉันมาหาแม่ค่ะ พ่อสั่งเสียไว้ก่อนตายว่า ถ้าฉันอยากเจอแม่ให้มาที่ไร่ตะวันฉาย แม่อยู่ที่นี่”
ไอรดาเล่าด้วยรอยยิ้มแม้แววตาจะดูหม่นเศร้าเมื่อกล่าวถึงพ่อ
“เออ..แล้วแม่ชื่ออะไรล่ะเผื่อลุงจะรู้จัก เราด้วยชื่ออะไร ลุงชื่อสิทธิ์ เรียกลุงสิทธิ์ก็ได้”
“ฉันชื่อไอรดาจ๊ะ แม่ฉันชื่ออินทิรา ลุงสิทธิ์รู้จักไหมจ๊ะ”
“เอ....ลุงไม่คุ้นเลยนะ แต่เอาเถอะถ้าไปถึงไร่ตะวันฉายก็คงรู้เองแหละ”
ลุงสิทธิ์ขมวดคิ้ว ไม่อยากทำลายความหวังของเด็กสาว เพราะเขาเองก็คุ้นเคยอยู่กับเจ้าของไร่ตะวันฉายมานาน แต่คนที่ชื่อ อินทิรา เขาเชื่อว่าเขาไม่เคยได้ยินชื่อเลย แต่ไม่แน่ แม่ของเด็กสาวคนนี้อาจจะเปลี่ยนชื่อมาเป็นคนงานในไร่ของตฤณภพก็ได้
ลุงสิทธิ์ขับรถเลยไปส่งไอรดาที่ไร่ตะวันฉาย หลายครั้งที่เขาลอบมองใบหน้าของเด็กสาวเหมือนกับคุ้นเคยว่าเคยเห็นใบหน้าแบบนี้ที่ไหนมาก่อน แววตาสดใส จมูกโด่งรั้น ริมฝีบางได้รูปและแดงเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ ผมยาวดำขลับผูกเปียไว้หลวม ๆ ทำให้เธอน่าจะดูเด็กกว่าอายุจริง
แต่คนที่เขาเคยคุ้นอายุมากกว่านี้ แต่ผู้หญิงคนนั้น ไม่รู้ว่าชื่ออินทิรา หรือไม่ ที่สำคัญเธอไม่ได้อยู่ที่ไร่ตะวันฉายแล้ว
“ขอบคุณมากลุงมากนะคะที่มาส่ง”
ไอรดายกมือไหว้อย่างนอบน้อมแววตาเต็มไปด้วยความหวัง
“หนูไอ ถ้าไม่เจอคนที่รู้จัก หนูจะทำยังไง”
ลุงสิทธิ์อดเป็นห่วงไม่ได้ หรือเขาควรจะรอให้เด็กสาวคนนี้ถามคนในไร่ก่อน ถ้าไม่เจอจะทำยังไง หรือจะให้เด็กคนนี้ไปพักอยู่ที่บ้านเขาสักคืนก่อนส่งกลับ
“ต้องเจอซิคะลุง พ่อไอไม่เคยโกหก พ่อบอกว่าแม่อยู่ที่นี่”
“แล้วถ้าไม่เจอล่ะ”
ลุงสิทธ์ย้ำคำเดิม
“ถ้าไม่เจอ....ไอก็กลับบ้าน”
ไอรดาบอกง่าย ๆ ราวกับว่า จากไร่ตะวันฉายไปตัวเมืองมีรถรับส่งอย่างนั้น
ลุงสิทธิ์ไม่ถามเด็กสาวอีกแล้ว เขาเปิดประตูรถออกมาแล้วสอดส่ายสายตามองเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะตะโกนเรียกแม่บ้านด้วยความคุ้นเคย ชั่วครู่ร่างท้วมของสาววัยกลางคนก็โผล่มาจากด้านหลังตัวเรือน
“พี่สิทธิ์ มีอะไรตะโกนเรียกโวยวายอยู่ได้”
“คุณคนนี้ เขามาตามหาแม่เขาที่ไร่ตะวันฉาย ฉันเองก็ไม่รู้จัก เอ็งพอจะรู้จักบ้างไหม”
“ชื่ออะไรละคะ แม่ของคุณ”
ป้านุ่มหันมาถามเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างลุงสิทธิ์ ไอรดายกมือไหว้ทันทีที่ป้านุ่มหันมาถาม
“แม่ของไอ ชื่ออินทิราค่ะ พ่อบอกว่า แม่อยู่ที่ไร่ตะวันฉาย”
ป้านุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มให้ลุงสิทธิ์
“เอ่อ....พี่สิทธิ์กลับไปก่อนเถอะ ฉันเองก็ต้องถามคุณตฤณภพ ไม่ต้องห่วงเด็กคนนี้หรอก ยังไงคืนนี้ฉันจะให้นอนกับฉันก่อน”
“หมายความว่ายังไงคะป้า ป้าไม่รู้จักแม่ของไอหรือคะ”
“ป้าไม่แน่ใจค่ะ ไว้รอถามคุณตฤณเธอก็แล้วกันนะคะ”
ป้านุ่มตัดบท ลุงสิทธิ์เองก็สงสัย แต่เมื่อมองตากับนางนุ่ม เพื่อนบ้านรุ่นน้องก็สงบปากสงบคำ ไว้โอกาสหน้าเขาคงจะรู้ว่า..เกิดอะไรขึ้น
“ถ้าอย่างนั้น ฉันฝากด้วยนะ”
ลุงสิทธิ์ขยับก้าวขึ้นรถ ส่งยิ้มให้กับไอรดาที่ยกมือไหว้ลาอย่างรู้มารยาท พรุ่งนี้เขาจะลองแวะมาหาเจ้าของไร่เสียหน่อยในฐานะคนคุ้นเคยกัน หรืออีกนัยหนึ่งเขาอยากรู้ว่า อินทิราที่เด็กสาวคนนี้บอกว่าเป็นแม่...เธอจะใช่ผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า
***************
ซีรีย์รักต่างวัย เรื่องของความรักที่ไม่อาจหักห้าม แม้วัยต่างกันแต่หัวใจเร่าร้อนอยู่ด้วยกัน เสน่หาหญ้าอ่อน: มีนา หรือมีน สาวน้อยวัย 19 ต้องเข้าไปพัวพันธุรกิจของเหมืองนิลดีที่มี อรรคพล หนุ่มใหญ่ใจดีเป็นเจ้าของ เมื่อญาติของเธอทุจริต เธอจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่จะเป็นไรไปล่ะ เมื่อเธอก็ยินยอมพร้อมใจอยู่แล้ว เสน่หาโคแก่: พฆัคฆ์หรือเสือ นักธุรกิจพันล้าน หนีรักเข้าป่า จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไม่ได้ชาวบ้านและเด็กสาวที่ชื่อ แป้งร่ำช่วยเอาไว้ และนั่นเป็นที่มาของโคแก่ที่เล็งหญ้าอ่อนไว้
ซีรีย์พ่อเลี้ยง สองเรื่องราว สองคู่ ระหว่างพ่อเลี้ยงที่แตกต่างความคิดกันอย่างสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือความรักให้คนที่ชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง จำเลยพ่อเลี้ยง /พฤศตะวัน - เมื่อหญิงสาวต้องกลายเป็นเครื่องมือการติดตามแม่ของเธอ จากชายหนุ่มที่เคยรักแม่ แต่...เสน่ห์ของจำเลยอย่างเธอ พ่อเลี้ยงหรือจะอดใจไหว พ่อเลี้ยงบำเรอรัก/ พฤศตะวัน - วิชนี เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อทวงมรดกของแม่คืนจากพ่อเลี้ยง ทว่า พ่อเลี้ยงที่เธอนึกเกลียดเขามาตลอดนั้นว่าแย่งแม่ของเธอไปจากพ่อ กลับกลายเป็นแค่ตัวหลอก และเป็นผู้ปกป้องเธอมาตลอด
ซีรีย์ดอกไม้สวาท ความแตกต่างคือความงาม ดอกไม้ 2 ชนิดที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เกสรดอกชู้ /พันตะวัน - ธีธัช หนุ่มหล่อผู้มีความสามารถกลับมาเมืองไทยกะทันหัน หลังจากแม่เสียชีวิต ต้นเหตุมาจากแม่ลูกคู่หนึ่ง ซึ่งเขาจะต้องเอาคืนให้ได้ และอันดาคือเหยื่อในความแค้นครั้งนี้ ผกากลีบทอง /พันตะวัน - บุหงาและอาทิตย์ ต้องแต่งงานตามความต้องการของผู้ใหญ่ แต่เส้นทางความรักของคนทั้งคู่ ต่างมีสิ่งที่ต้องปกปิดกันและกัน บุหงาสาวสวยเสนห์แรงจึงต้องเผชิญเรื่องรักในทิศทางที่เธอไม่อาจควบคุม
ซีรีย์บาป 2 เรื่อง 2 รส กับความรักที่ปนเปไปด้วยความใคร่และความรู้สึกผิด บาปหวาน / พฤศตะวัน - ผิดไหม? ที่เธอรักพ่อเลี้ยง สามีใหม่ของแม่ที่ตายไปนานแล้ว แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อพ่อเลี้ยงของเธอ ยังคงรักแม่ของเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะลืม บาปสวาท /พันตะวัน - เมื่อความใคร่เข้ายึดครองการใช้ชีวิต คู่แต่งงานที่ต่างก็หมดรักกัน จึงต้องหาทางออกเพื่อให้ตัวเองสมประโยชน์
ไฟปรารถนา เพลิงอาวุธ - อาวุธ เศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนและรีสอร์ตหรูบนเกาะส่วนตัว จำต้องยอมรับ แองจี้ หลานสาวของลูกจ้างคนเก่าแก่เข้ามาทำงานในอาณาจักรของเขาโดยไม่เต็มใจนัก เพราะทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาก็รู้ทันทีว่า เขาจะไม่เป็นสมภารกินไก่วัดเด็ดขาด แต่เขาจะทำได้หรือ?
วิวาห์ร้อนซ่อนสวาท - เหมวัต เจ้าของไร่ผู้ร่ำรวย จำต้องแต่งงานกับผกามาศ ลูกสาวของลุงผ่อง เจ้าของไร่ที่อยู่ข้างกัน เพราะต้องการกู้หน้าที่ลูกสาวท้องไม่มีพ่อ เพราะหนี้บุญคุณ ทำให้เหมวัตจำต้องช่วยเหลือ แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะแต่งงานเพียงในนามเท่านั้น
นายหัวอารัณย์พยายามบอกับตัวเองว่า เพลงขวัญ ยังเด็ก และไม่ใช่สเปค แต่แล้วก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเองเมื่อได้ลิ้มรสชาติหญ้าอ่อน เขาติดใจจนอยากจะกินซ้ำ ๆ แล้วเธอจะทนเขาได้นานแค่ไหน...... ******************************************************* "ขออีกครั้งเดียวนะ ....ครั้งเดียวนะเพลง" นายหัวหนุ่มทำเสียงอ้อนกลับ เพราะร่างกายของเขาต้องการปลดปล่อยออกมาให้ได้มากที่สุด "จะไม่ปรานีเพลงหน่อยเหรอคะ เพลงไม่ไหวแล้ว" "ปากเธอบอกให้ปรานี แต่ตอดถีึแบบนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่า เธอต้องการแบบไหนกันแน่!"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
หลินเจียอีหญิงสาวในศตวรรษที่21ตกตายด้วยโรคระบาด วิญญาณของเธอได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ14 ที่มีชื่อเดียวกับเธอซึ่งสิ้นใจตายระหว่างเดินทางกลับบ้านเดิมของมารด ********* หลินเจียอีลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพบ้านที่ไม่คุ้นชิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวจากอาการติดเชื้อโรคระบาดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมาโผล่ในบ้านทรงโบราณ รอบกายเธอเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวล้าสมัย ต่อมาเธอค้นพบว่าตนเองได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ 14 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเธอ แต่ชะตากรรมของเด็กสาวผู้นี้ช่างน่าสงสารนัก บิดาเพิ่งลาโลก แม่โดนฮุบสมบัติแล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูล ต้องระหกระเหินพาเจ้าของร่างที่ถูกทุบตีจนสิ้นใจระหว่างทางกลับมาบ้านเดิมที่แสนยากจนข้นแค้น ****ไม่มีฉากอีโรติก เริ่มล็อกเหรียญตอนที่ 25 ก่อนเข้าไปอ่านเนื้อหานิยายอ่านคำเตือนก่อนนะคะ (สำคัญมาก) 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น หากแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ ความคิดเห็นจะถูกลบออก!! 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแต่กต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ห้ามคัดลอกดัดแปลงแก้ไขนิยายเรื่องนี้ทุกกรณี หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จิบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59
ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด