เขามองเธอเป็นดอกไม้ ไม่ได้คิดทนุถนอมอย่างที่ควรจะเป็น เพียงเด็ดดม ขย้ำขยี้เล่น สาเหตุเพราะพ่อของเขายกย่องแม่ของเธอ และเขาจับได้ว่าแม่เธอทำร้ายจิตใจพ่อเขาด้วยการคบชู้ แม่เธอไม่ใช่คนผิดแต่ความแค้นทุกอย่างมาตกที่เธอ น้ำตาที่ไหลรินมาตลอดตั้งแต่พ่อจากไปเริ่มแห้งเหือดหาย เธอไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆ เมื่อปรินทร อัครพิภพ ให้เธอรับโทษทัณฑ์ที่ไม่ได้ก่อ เพื่แแม้ แม้เจ็บปวดหัวใจ แม้อายเธอต้องอดทนต่อไป
ปิ่นคณางค์ มหาสุทธิกุล หันหลังออกจากคอนโดมิเนียมหรูของปรินทรเมื่อมาถึง “ฉันเปลี่ยน...เอ่อ...ใจแล้ว ฉันจะกลับ” เสียงสั่นบอกร่างสูงที่ยืนพิงกรอบประตู เขากำลังสำรวจตรวจตราร่างกายเธอด้วยสายตาจาบจ้วง หญิงสาวก้มหน้า
“อย่าทำเป็นปฏิเสธไปเลยน่า ฉันไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนใจเกิดขึ้นในเมื่อเธอตัดสินใจมาที่นี่แล้ว” ปรินทรค้นหาความจริงของการเปลี่ยนใจ
“แต่ฉันยังมีโอกาสเปลี่ยนใจไม่ใช่รึไง คุณจะมาบังคับกัน...ไม่ได้นะ”
“เธอจะต่อรองอะไรเพิ่มอีกล่ะ บอกมาสิ ”
ตอนแรกเพราะความเป็นห่วงผู้มีพระคุณ วันนี้ปิ่นคณางค์จึงได้มาที่นี่ คิดแล้วช่างน่าเจ็บใจน่าละอายเหลือเกิน ร่างสูงย่างสามขุมเข้ามาเหมือนต้องการกักกั้นไม่ให้ตนได้ปฏิเสธได้อุทธรณ์ ทำได้ก็เพียงแหงนหน้ามองชายหนุ่มด้วยความตระหนก เพียงแค่คิดว่าไม่มีทางไปอีกแล้ว ความหนาวเหน็บหวาดกลัวก็ประดังประเดเข้ามาจนเล็บสะอาดจิกลงในฝ่ามือสุดแรง
“ฉัน...” ไม่ทันได้พูดสิ่งที่ต้องการก็ต้องอึ้งกับคำต่อว่าที่ออกจากปากเขาอีก
“อย่าลวดลายน่า บอกแล้วไงว่า คนที่ต้องชดใช้แทนผู้หญิงสารเลวโสมมก็คือลูกอย่างเธอ”
ยืนนิ่งหมดเรี่ยวแรง รู้ตัวอีกทีร่างสูงก็เข้ามาประชิดถึงตัวเสียแล้ว แม้อยากกระโจนหนีแต่เท้าเจ้ากรรมก็แข็งทื่อไปหมด ทว่าแม้ไร้สิ้นทางหนี วินาทีนั้นเสียงในส่วนลึกยังดังออกมาได้ “ไม่ ! อย่านะ ฉันบอกแล้ว ฉันเปลี่ยนใจ...! ฉันจะกลับ ปล่อย”
ปรินทร มาร์โก อัครพิภพ ชายหนุ่มวัยสามสิบ ผู้ซึ่งมีดวงตาหวาน คม ชวนให้ต้องมนต์ ดูท่าตอนนี้ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะเปิดใจรับฟังอะไร หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาต้องการยัดเยียดมันให้เธอ
ปิ่นคณางค์ก็หนีเงื้อมืออสูรร้ายไม่พ้น…
หลายเดือนผ่านไป…ภายในห้องนอนกว้างสีครีมนั้นได้รับการออกแบบตกแต่งหรูหรา บนเตียงนอนคิงไซส์ปิ่นคณางค์นอนตะแคง สองมือเรียวประสานใต้แก้มผ่องใกล้หมอนสีขาวใบใหญ่ หญิงสาวนอนนิ่งเฉกตุ๊กตาไร้ชีวิตมาร่วมชั่วโมง ใจเธอทุกข์ระทม ทว่าทุกข์ใจมากมายเพียงไรหญิงสาวก็ไม่เคยมีน้ำตาสักเพียงหยดเดียว เพราะว่าน้ำตามันแห้งเหือดหายไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านเลยมา… หายไปตั้งแต่เธอต้องสูญเสียคนที่รักที่สุด นั่นคือพ่อและต้องตามแม่มาอยู่ที่อัครพิภพ ภาพความสุขของครอบครัว วันเวลาเก่าๆ รวมทั้งสถานที่ซึ่งรักผูกพัน คงไม่สามารถหวนกลับมาได้อีกแล้ว มันคงเป็นได้แค่เรื่องราวในอดีตที่เก็บไว้รำลึกภายในใจก็เพียงเท่านั้นเอง
เชียงใหม่ หลายเดือนก่อน …หญิงสาวรูปร่างบอบบางอยู่ในชุดกระโปรงทรงจีบรอบสีดำยาวเสมอเข่า ด้านบนคือเสื้อคอโปโลสีขาวแนบรูปร่างอรชร จากประตูไม้ทรงเตี้ย หญิงสาวรีบเร่งย่ำสนามหญ้าเข้าไปหาบิดา เธอไม่เห็นว่าใบหน้าซึมไร้ความสุขแต่เริ่มแรกปรับเปลี่ยนให้สดชื่น บ้านไม้ชั้นครึ่งอาณาเขตห่างไกลจากคำว่ากว้างขวางทำให้หญิงสาวเดินถึงพ่อซึ่งยืนหันหลังรดน้ำต้นไม้อยู่มุมสวนเล็กๆ หน้าตัวบ้านเร็วทันใจ สองมือเรียวกอดหมับตรงเอวหนาเมื่อเดินไปถึง วงหน้ารูปไข่ซบไหล่ภายใต้เสื้อเชิ้ตลายหมากรุกนิ่งนานเพราะความคิดถึง
“หนูเรียนจบซะที ต่อไปจะดูแลพ่อกับแม่เองค่ะ” ปิ่นคณางค์ พูดสิ่งที่ตั้งใจขึ้นทั้งที่ยังหลับตา
“พ่อภูมิใจมาก ลูกไม่ทำให้พ่อผิดหวัง” เดชณรงค์ มหาสุทธิกุล หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบ อดีตนักธุรกิจชื่อดังเมืองเหนือ เอี้ยวเพียงใบหน้าซึ่งปกคลุมด้วยเส้นผมสีขาวเทา น้ำเสียงแม้จะดูเหมือนอ่อนล้าแต่แววตานั้นอ่อนโยนเต็มเปี่ยมด้วยความรักที่มีให้ลูกสาว ปิ่นคณางค์ ผงกศีรษะ ส่งยิ้มสดใส วงหน้าเซียวของพ่อที่ปรากฏแม้จะพยายามปกปิดแต่ก็ไม่มิด หญิงสาวอยากให้พ่อได้ยิ้มสักนิดถึงจะเป็นความสุขในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตามทีและได้แต่คิดครุ่นว่าจะทำอย่างไรดี
หลายเดือนก่อนหน้ามหาสุทธิกุลยังคงยิ่งใหญ่ บิดามีธุรกิจโรงแรมใหญ่ติดอันดับท็อปไฟว์ในภาคเหนือ รอบกายปิ่นคณางค์นั้นมีบริวารร่ายล้อมมากมาย ทุกคนต่างเอาใจคุณหนูเพียงคนเดียวของบ้าน หากวันหนึ่งเหตุการณ์เลวร้ายได้เข้ามาเยี่ยมเยือน มันมาเร็วมากและมันได้พาพัดความสุขความมั่งมีของครอบครัวให้มลายหายสิ้นไป บิดาโดนคนคนหนึ่งหักหลัง มีการถ่ายโอนหุ้นธุรกิจโรงแรมของครอบครัวมานานหลายปี สุดท้ายกว่าจะรู้ก็ช้าสายเกินไปแล้ว มหาสุทธิกุลหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ปิ่นคณางค์เคยอาศัยตั้งแต่จำความได้ถูกขายล้างหนี้ บิดาต้องยอมปล่อยมือจากทุกอย่างที่เคยครอบครองเพราะไม่อยากโดนฟ้องล้มละลาย
“โง่ !” แม่ต่อว่าพ่อด้วยเสียงเกรี้ยวกราดแปลกหูไป ปิ่นคณางค์เองได้รับคำนั้นเหมือนกัน เพราะหญิงสาวไม่เคยเข้าไปช่วยดูแลงานที่โรงแรมเลยสักครั้ง แม่เป็นคนตอกย้ำเรื่องนั้นเช่นเดียวกัน ปิ่นคณางค์หวังเพียงให้แม่พูดดีกับพ่อบ้าง อยากให้แม่ให้กำลังใจและเลิกพูดตอกย้ำรอยแผลในหัวใจของพ่อ แต่แม่ไม่ได้เกรี้ยวกราดกับพ่อเพียงคนเดียว เธอเองก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย
“แกก็เหมือนกัน คงไม่ต่างกับพ่อแก โง่ น่าเบื่อนัก ดูสิคนที่เคยรักทั้งพี่น้องเพื่อนฝูงหนีหายหมด คู่หมั้นแกก็ถอนหมั้นเสียแล้วน่าขายหน้าเหลือเกิน”
ไม่เข้าใจคำซ้ำเติม นี่น่ะหรือแม่ที่พ่อเฝ้าเอาใจด้วยความรัก ไม่มีสักครั้งที่แม่อยากได้อะไรจะไม่ได้ เพชรนิลจินดา ความสะดวกสบาย แม่พูดย้ำอีกว่า ธนา สุริยะเกียรติพัฒน์ เศรษฐีหนุ่มหล่อที่หมั้นหมายกับปิ่นคณางค์มานานหลายปีนั้น จะหาที่ไหนได้ดีเท่าผู้ชายคนนี้อีก แต่ในความคิดปิ่นคณางค์นั้น คู่หมั้นหมายที่ฟ้าดลบันดาลให้เห็นเนื้อแท้ของเขาในยามวิกฤติ เรื่องอะไรจะต้องอาลัยอาวรณ์ ธนาไม่รักกันสักนิดและไม่ต้องเอ่ยว่าผู้ชายคนนั้นคบหากันเพราะสาเหตุใด
“ขอโทษที่ต้องขอถอนหมั้นนะครับ เอ่อ…”
“ค่ะ” ตนเองรับคำนั้นไม่รีรอให้ธนาบอกเหตุผลจบ โล่งใจด้วยซ้ำที่ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นออกไปจากชีวิตตามที่เขาต้องการ
เรียนจบจากกรุงเทพฯ ปิ่นคณางค์กลับบ้านเกิด เฝ้าหางานจังหวัดใกล้เคียงและในเชียงใหม่ เวลาผ่านไปนานหลายเดือนก็ยังหาไม่ได้ แม่เฝ้าโทษว่าเพราะนามสกุลแสนซวยและท่าทางหยุมหยิมทำให้เธอต้องชวดงาน ปิ่นคณางค์กลั้นน้ำตาไม่ได้ แต่น้ำตาที่ไหลเพราะเห็นสายตาเศร้ารู้สึกผิดของพ่อนั้นมีมากกว่า ‘พ่อจ๋าอย่าคิดมากเลยนะ’ ปลอบพ่อในใจ เธอทำได้เพียงเท่านั้น แม้ไม่มีงานทำแต่ครอบครัวยังไม่ถึงกับลำบากที่สุดเพราะปิ่นคณางค์มีเงินเก็บก้อนหนึ่งซึ่งเก็บมานานหลายปี พ่อและแม่ก็ไม่เคยรู้ แต่ความลับก็แตกเมื่อวันหนึ่งแม่ได้เห็นและได้นำเงินที่มีเข้าบ่อนจนเงินจำนวนนั้นเริ่มร่อยหรอ มัวแต่หางานทำจนไม่รู้ว่าแม่แอบนำเงินที่เธอเก็บในห้องนอนออกไปใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อย
“ทำไมคุณทำอย่างนี้ เอาของลูกไปทำไม ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ ไม่รู้จักคิด !” พ่อซึ่งไม่เคยขึ้นเสียงต่อว่าแม่ หน้าบึ้งตึงแววตาเจ็บปวด
บ้านที่ร้อนระอุหารอยยิ้มไม่ได้อยู่ก่อนแล้วแทบปะทุด้วยเปลวไฟเผาไหม้วายวอด...แม่บอกว่าจะไม่อยู่ที่บ้านหลังน้อยอีกต่อไปแม้พ่อจะยื้อยุดขอร้องแต่แม่ก็ไม่สนใจฟัง “แม่จ๋าอย่าไปเลยนะ อย่าทิ้งหนูไปเลย แม่ไม่รักหนูหรือคะ”
ยังจำได้ดี ยังหนาวเย็นไม่คลายที่หัวใจเมื่อคิด หัวใจแทบขาดรอนในขณะนั้นพร่ำวอนขอร้องแม่ด้วยน้ำตานองหน้า เดือนต่อมาความทุกข์ก็โหมกระหน่ำ เมื่อต้องสูญเสียพ่อไปตลอดกาล พ่อตรอมใจมากอยู่แล้ว เมื่อขาดแม่กำลังใจท่านก็คงสลายไปไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยว ไม่ต่างกับหัวใจบางๆ ของตัวเธอเลย
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"