เพราะไม่ได้ตั้งใจได้เธอเป็นเมีย เขาจึงยื่นคำขาดว่าจะทำหน้าที่สามีแค่ปีเดียว แต่เขาเองกลับต้องทบทวนสัญญาใหม่ เพราะดันมีโซ่ทองคล้องใจที่เขาไม่อาจปล่อยเธอได้ในท้ายที่สุด ไตรทศ – หทัยภัทร ไตรทศ พ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อแต่ดุดัน กินเหล้าเมาและเข้าห้องผิดในคืนนั้น ทำให้เขาต้องรับผิดชอบ หทัยภัทร ตามความต้องการของพ่อแม่ฝ่ายหญิง ทั้งที่เขารักกับ รติมา ลูกพี่ลูกน้องของหล่อนมาก่อน เขาจำใจรับเธอเป็นเมียถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตลอดเวลากลับแสดงออกและย่ำยีให้เธอเจ็บช้ำเจียนตาย หทัยภัทรต้องทนอยู่กับความเกลียดชังจากสามีที่ไม่เคยรัก หากแต่เธอยอมจำทนมีชีวิตอยู่เพื่อเยื่อใยสุดท้าย ลูก ข้อโซ่บอบบางที่เธอจะไม่มีวันทำลายอย่างเด็ดขาด
ร่างสูงยืนนิ่งที่ระเบียงศาลาริมน้ำในยามเย็นย่ำใกล้ค่ำ ทิ้งบุหรี่ที่สูบมวนแล้วมวนเล่าลงในน้ำด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมเสียงถอนหายใจจนไม่อาจนับครั้ง สักครู่ก็ได้ยินเสียงเรียกดังขึ้น
“พ่อเลี้ยงคะ...มื้อค่ำเสร็จแล้ว พ่อเลี้ยงจะกินข้าวก่อนไหมคะ”
“ผมไม่หิว” ไตรทศตอบห้วน ๆ พร้อมขว้างก้นบุหรี่ลงน้ำด้วยสีหน้าถมึงทึงขณะหันกลับมายังหญิงสาวในเสื้อคอบัว นุ่งผ้าซิ่นลวดลายประณีต
“ค่ะ” หทัยภัทรพยักหน้ารับ แต่ก่อนหันหลังกลับก็ต้องชะงักเมื่อไตรทศเอ่ยขึ้น
“ทีหลังไม่ต้องทำกับข้าวไว้ก็ได้ เพราะผมไม่อยากกินข้าวที่บ้าน”
“ค่ะ”
“นี่พูดได้แค่นี้เองหรือ ถ้าพูดคำอื่นไม่เป็นทีหลังไม่ต้องมาพูดกับผมก็ได้นะ!”
ชายหนุ่มก้าวลงมาจากศาลา หยุดตรงหน้าหญิงสาวที่มองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากสบนัยน์ตาเข้มคู่นั้นที่ตอนนี้ข้นคลั่กด้วยแรงอารมณ์
“พริ้มขอโทษค่ะพ่อเลี้ยง พริ้มจะจำไว้ค่ะ”
“แล้วก็จำไว้ด้วยว่าถ้าผมไม่เรียกก็ไม่ต้องเสนอหน้าเข้ามาหา สะใจแล้วใช่ไหมที่เป็นแบบนี้!”
“พ่อเลี้ยง” หญิงสาวตระหนกเมื่อเขากระชากไหล่บางจนร่างนั้นเซเข้าหาอกกว้าง มือหนาหนักบีบไหล่เธอไว้แน่น แน่นจนหทัยภัทรเจ็บแปลบไปถึงหลัง แต่หญิงสาวกลับอดทนไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
“ถึงขนาดนี้แล้วไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งทำเป็นอ่อนต่อโลก ทำเป็นไร้เดียงสาทั้งที่คุณมันมายายิ่งกว่ากะหรี่ข้างถนน!”
“พ่อเลี้ยง...พริ้มเจ็บค่ะ”
“คุณเจ็บแต่ผมทรมานกว่าไม่รู้กี่เท่า! นี่ใช่ไหมที่คุณต้องการ อยากมีผัวจนตัวสั่นถึงขนาดวางแผนทุกอย่างไว้จนสำเร็จ นี่ไง! ได้ผมเป็นผัวแล้วพอใจหรือยัง!”
“พ่อเลี้ยงปล่อยพริ้มก่อนเถอะค่ะ พริ้มเจ็บจริงๆ นะคะ”
“ก็ไม่ได้อยากจะแตะต้องนักหรอก ทำหน้าเหมือนไร้เดียงสา ทำเป็นมารยาแต่ไม่รู้ว่าผ่านใครมาแล้วสักกี่คน!”
ไตรทศผลักร่างแน่งน้อยออกห่าง หทัยภัทรเอามือลูบบนไหล่ เจ็บขนาดไหนเธอก็ยังไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมา ได้แต่ก้มหน้า
“ถ้าพ่อเลี้ยงไม่กินข้าว พริ้มจะไปเก็บก่อนค่ะ”
หทัยภัทรหันหลังให้และเดินกลับเข้าไปในบ้านไม้สักหลังใหญ่ท่ามกลางป่าเขาแวดล้อม หลังจากเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานตามธรรมเนียมพื้นบ้านเล็กๆ กับ ไตรทศ เสาวภาคย์ เจ้าของ เสาวภาคย์ปางไม้เลื่องชื่อเมืองน่านได้เพียงวันเดียวเท่านั้น
หทัยภัทรก็รู้แก่ใจว่าการแต่งงานที่เกิดขึ้นมันหาใช่ความตั้งใจของไตรทศไม่ เขาจำต้องมารับหน้าที่เจ้าบ่าวจำยอมก็เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาไปงานเลี้ยงที่บ้านของเธอ
พ่อของหทัยภัทรเป็นช่างไม้ในละแวกใกล้เคียง และมีการจัดเลี้ยงกันแค่ไม่กี่คนเท่านั้น เธอก็รู้จักเขา เจ้าของปางไม้ชื่อดังที่ยังหนุ่มแน่นและขึ้นชื่อว่าทำแต่งานไม่เคยหยุดหย่อน ไตรทศเป็นชายในฝันของผู้หญิงหลายๆ คน เขาหล่อเหลา กำยำ และมีความสุภาพ ไม่เคยแสดงความรุ่มร่ามกับผู้หญิงที่ไม่คุ้นเคยด้วย
เธอเองเป็นคนหนึ่งที่แอบมองเขาอยู่ห่าง ๆ อย่างชื่นชม ไม่เคยคิดหวังแม้ลึก ๆ จะแอบชอบเขาก็ตามที เหตุผลเพราะไตรทศมีผู้หญิงที่เขาชอบพออยู่ก่อนแล้ว เป็นคนที่เธอรู้จักดี คือรติมา ญาติใกล้ชิดกันมากเพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
รติมาเป็นลูกสาวคนเดียวของลุง เรื่องนี้ใครต่างก็รู้กันในหมู่เครือญาติ แต่คืนที่เกิดเรื่องรติมายังไม่กลับจากกรุงเทพฯ เพราะยังเรียนมหาวิทยาลัย สำหรับหทัยภัทรไม่ได้เรียนต่อหลังจบเพียงชั้นมัธยมปลาย
เธอต้องช่วยงานที่บ้านเพราะฐานะไม่ได้ร่ำรวยอย่างญาติผู้พี่ ถึงกระนั้นเธอไม่เคยเก็บเอามาเปรียบเทียบให้เป็นปมด้อย ยังคงคบและพูดคุยกับรติมาเหมือนเป็นพี่สาวคนหนึ่งเสมอ
ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร้ายแรงและทำร้ายจิตใจใครหลาย ๆ คน คืนนั้นเธอไม่รู้ตัวเลยว่าจริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะไตรทศกินเลี้ยงกับพ่อของเธอและมีเพื่อนร่วมวงเหล้าอีกแค่สองสามคน
เธอเข้านอนตอนสี่ทุ่มและตื่นขึ้นมาในตอนรุ่งสางด้วยความตกใจเมื่อเห็นไตรทศนอนอยู่ข้าง ๆ พอเขารู้สึกตัวก็ดุเหมือนทุกอย่างเริ่มอลหม่าน เพราะเขาเองก็ตกใจที่จู่ ๆ มาล้มตัวนอนบนเตียงลูกสาวเจ้าของบ้าน
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน