บ่วงรักท่านประธาน เขาเคยทำผิดกับเธอไว้ ในวันนี้เมื่อคิดจะกลับใจ ก็เกือบสายเกิน รังสิมันต์ – มัทนา เมื่อห้าปีที่แล้ว รังสิมันต์ทำ มัทนา รุ่นน้องปีหนึ่งท้อง เขาอยู่ในความสับสนจนเธอลาออกและหายไป เขาเก็บความสำนึกผิดเอาไว้ และพยายามออกตามหากระทั่งได้พบเธอกับลูก รังสิมันต์อยากได้เธอและหัวใจดวงน้อย ๆ กลับคืนมา แต่เธอกลับหันหลังให้ เขาจึงยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นเลขาของเขาเพื่อที่จะได้อยู่กับเมียและลูกแค่หนึ่งเดือน...หนึ่งเดือนเท่านั้นที่เขาจะต้องทำให้เธอกลับมารักและให้อภัยเขาอีกครั้ง ผูกมัดเธอไว้ในบ่วงรักของท่านประธานด้วยสายใยผูกพันนิจนิรันดร์
“สวัสดีค่ะบอส...รอนานหรือเปล่าคะ?”
มัทนากล่าวทักทาย อภิวัฒน์ หนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเข้มที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วในร้านอาหารแห่งหนึ่งใจกลางเมือง หญิงสาวรูปร่างบอบบางผิวขาวผ่องวัยยี่สิบสองในเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสวมทับด้วยเสื้อสูทสวมกระโปรงทรงสอบ ใบหน้ารูปไข่ใต้กรอบเรือนผมยาวดำขลับรวบเป็นหางม้าหย่อนตัวลงนั่งก่อนเอ่ยขึ้นว่า
“ต้องขอโทษด้วยนะคะบอส รถติดมาก ฉันบอกคนขับแท็กซี่แล้วว่าให้รีบหน่อยแต่ก็ช้าจนได้”
“ไม่เป็นไรหรอกโรส แค่สิบนาที ที่เรียกออกมาหานี่ก็รบกวนคุณมากพออยู่แล้ว”
“มันเป็นหน้าที่ของโรสนะคะ ก็บอสไม่ได้เข้าบริษัทหลายวันแล้ว นี่ค่ะ...โรสเตรียมเอกสารที่ค้างอยู่มาให้บอสเซ็นด้วย”
มัทนาหยิบเอกสารในกระเป๋าขึ้นมาวางบนโต๊ะ ตรงหน้าอภิวัฒน์ หัวหน้าของเธอซึ่งเป็นประธานบริหารบริษัทส่งออกสินค้าใหญ่ มัทนาทำหน้าที่เป็นเลขาของเขามาได้เกือบปีและรู้ว่าเจ้านายของเธอไม่ค่อยมีเวลาว่างแม้กระทั่งจะเข้าไปที่ทำงาน และเธอต้องหอบเอกสารออกมาให้เจ้านายที่ไม่เคยมากเรื่องเซ็นรับทราบข้างนอกอยู่ออกบ่อย แต่แล้วชายหนุ่มวัยเกือบสามสิบก็โบกไม้โบกมือ
“เรื่องนี้เอาไว้ก่อนโรส ที่ผมเรียกคุณมาหานี่เพราะมีเรื่องที่จะต้องบอกให้คุณรับรู้เกี่ยวกับบริษัทของผม”
“มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือคะบอส?”
“คืองี้นะ...ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี คุณคงรู้ว่าการดำเนินกิจการของบริษัทเรากำลังประสบปัญหาและอะไรต่อมิอะไรค่อนข้างแย่ ช่วงหลัง ๆ ที่ผมไม่ค่อยได้เข้าไปบริษัทเพราะกำลังทบทวนในหลาย ๆ เรื่อง และเรื่องนี้ผมก็อยากจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว อันที่จริงผมคิดไว้แล้วว่าจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่และพนักงานของบริษัทรับทราบภายในวันสองวันนี้เพราะสถานการณ์ของบริษัทเราช่วงนี้ไม่ดีขึ้นเลย”
“ค่ะ...บอสมีอะไรก็พูดมาตรง ๆ เถอะค่ะ โรสพร้อมที่จะรับฟังอยู่แล้ว”
มัทนากล่าวออกไปทั้งที่ใจของเธอกำลังวาบไหว เธอรู้มาก่อนหน้าเมื่อไม่กี่สัปดาห์ว่าบริษัทกำลังประสบปัญหาและดูเหมือนว่าเจ้าของบริษัทกำลังหาทางออก อภิวัฒน์ถอนหายใจพรืด
“ผมตกลงขายกิจการต่อให้เพื่อนของผมคนหนึ่ง เราเซ็นสัญญากันเมื่อวานและถือได้ว่าเขามีสิทธิ์เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการของบริษัทเราเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ณ ตอนนี้”
“นี่แสดงว่า...โรสตกงานแล้วใช่ไหมคะ?”
“โอ...ยังๆๆๆ...ผมยังอธิบายให้คุณฟังไม่จบ อย่าเพิ่งคิดว่าคุณจะโดนไล่ออก”
“แต่บอสก็ไม่ได้บริหารกิจการของบริษัทอีกแล้วนะคะ และก็ไม่รู้ว่าเจ้าของคนใหม่เขามีนโยบายยังไงบ้างเกี่ยวกับการบริหารคนในองค์กร”
“เขาเป็นเพื่อนผมเอง เป็นเจ้าของอาร์ซีเอ็ม บริษัทร่วมทุนรับเหมาก่อสร้างบริษัทใหญ่เลยล่ะ ผมเพียงเสนอเขาว่าถ้าทำได้ก็อยากให้คงสภาพของการทำงานแบบเดิมเอาไว้ นั่นก็หมายถึงพนักงานของผมในบริษัทที่มีเกือบสองพันคน”
“แต่คงไม่นับรวมเลขาส่วนตัวด้วยแน่ค่ะ โรสแน่ใจว่าตำแหน่งนี้เขาคงมีคนของเขาอยู่แล้ว”
“วัฒน์...ขอโทษทีที่มาช้าไปหน่อย”
เสียงห้าวลึกที่ดังแทรกเข้ามาทำให้การสนทนาของทั้งสองมีอันต้องหยุดชะงัก อภิวัฒน์รีบลุกขึ้นและทักทายร่างสูงใหญ่ของบุรุษในชุดลำลองที่เดินเข้ามาหยุดด้านหลังเลขาสาว มัทนายังนั่งนิ่ง เธอกำลังนึกว่าเสียงที่ได้ยินนั้นคุ้นมากเสียจนไม่อยากจะคิดว่าเป็น...
“เมฆ...นายมาพอดีเลย ฉันกำลังคุยกับเลขาของฉันเรื่องบริษัทอยู่น่ะ...โรส...นี่ไง รังสิมันต์ รัตนกิจจา เจ้าของอาร์ซีเอ็ม อินเวสเม้นท์ ที่ผมพูดถึง”
ชื่อเจ้าของบริษัทที่อภิวัฒน์เอ่ยออกมาทำให้หญิงสาวซึ่งนั่งตรงข้ามเขานิ่งอึ้ง มัทนานั่งนิ่งเหมือนลมหายใจของเธอก็หยุดไปด้วย เธอค่อย ๆ หันกลับไปมองและแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือความจริงที่เธอไม่คาดฝันว่ามันจะเกิดขึ้น
“เมฆ...นั่งก่อนซี นี่คือมัทนา หรือเรียกว่าโรสก็ได้นะ เธอเป็นเลขาของฉันเอง”
อภิวัฒน์บอกกับร่างสูงสง่าในชุดลำลองที่ค่อย ๆ หย่อนตัวลงนั่งข้างเขา
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย