“ทำไมภาพของเราสองคน ถึงไปอยู่ในหัวของผม?" ปีเตอร์เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา ตั้งคำถามต่อข้อสงสัย “ภาพ?...ภาพอะไร?” หนูนาถามกลับอย่างไม่เข้าใจ “เราสองคนกำลัง เมคเลิฟกัน” คำตอบที่ตรงประเด็นของปีเตอร์ ทำให้หนูนาหยุดการนำอากาศเข้าปอดอย่างกะทันหันและทำตาโต และหน้าคงแดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “หายใจ” ปีเตอร์ต้องร้องเตือนเพราะเมื่อสิ้นคำคำตอบของเขา เธอก็จะฆ่าตัวเองตายซะด้วยการหยุดหายใจซะงั้น “น่ารักแฮะ” ปีเตอร์คิดในใจแบบขำๆ “…….” ไม่มีคำตอบอะไรออกมาจากหนูนา แล้วจะให้ตอบอย่างไรละ “บอกว่า ใช่ เราสองคนมีอะไรกันทุกวันตั้งแต่ที่เราสองคนบอกรักกัน อย่างงั้นเหรอ คนบ้าฉันจะพูดมันไปได้อย่างไร มองเห็นเองก็หาความจำส่วนนั้นกลับมาเองเถอะคนบ้าพูดมาได้ “เห็นภาพเราสองคนกำลัง เมคเลิฟกัน” จ้างให้ก็ไม่พูดออกไปแน่นอน “ตกลงจะไม่บอกใช่มั้ย?” “…..”
“เฮ้ย...เสร็จสักที” หนูนา หรือ นีน่า ถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากทำความสะอาดห้องพักนักร้องชื่อดังของอเมริกา ที่ตอนนี้ไปทัวร์คอนเสิร์ตมีกำหนดกลับวันนี้ หนูนา หรือ นีน่า ที่ต้องมีสองชื่อเพราะตอนนี้เธอกำลังศึกษาระดับปริญญาโทอยู่ที่ประเทศอเมริกาด้วยแหล่งเงินทุนของตัวเอง จึงต้องหางานทำระหว่างเรียนสำหรับค่าอยู่ค่ากิน ‘นีน่า’ จึงเป็นชื่อที่คนที่นี่ใช้เรียกเธอ เพื่อง่ายต่อการออกเสียงสำหรับชาวตะวันตก
วันนี้เธอรีบเข้าสตูดิโอของค่ายเพลงดังแห่งหนึ่งในอเมริกา เพื่อรีบจัดการงานที่ได้รับว่าจ้างเพราะช่วงบ่ายเธอมีเรียน หนูนาได้งานที่นี่เมื่อสองอาทิตย์ก่อนจากการช่วยเหลือของรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ที่ช่วยแนะนำให้ในตำแหน่งพนักงาน Part Time ที่ดูแลเรื่องทั่วไปที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด สำหรับหนูนางานจะหนักแค่ไหน เธอไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ขอให้เป็นงานสุจริตเพราะการเป็นนักศึกษาจะหางานทำในต่าแดน...มันไม่ง่ายเลย
เกือบสองเดือนแล้วที่เธอเข้ามาเป็นนักศึกษาในอเมริกา ตอนนี้เธอกำลังเรียนปรับภาษาปรับพื้นฐานให้ครบสามเดือน เธอจะต้องอยู่ที่นี่อีกสองปีตามหลักสูตรการศึกษา ด้วยค่าครองชีพที่สูงสำหรับหญิงสาวที่มีต้นทุนชีวิตที่ต่ำ เธอทำงานหาเงินเรียนตั้งแต่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองไทยแล้ว และหลังจากเรียนจบก็ทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองไทย เพื่อเก็บเงินเก็บประสบการณ์ เพื่อที่จะมาเรียนต่อที่อเมริกา
หนูนายังหารายได้พิเศษจากการเป็นนักเขียนนวนิยาย นามปากกาว่า ‘รุ่งอรุโณทัย’ ให้กับสำนักพิมพ์ในไทยด้วย ถึงแม้ผลงานของเธอจะมีออกมาแค่สองเล่ม แต่ก็เป็นที่ชื่นชอบและมียอดจำหน่ายระดับที่พอให้เธอมีเงินทุนในการเรียนต่อ ตอนนี้เธอพักงานเขียนมากว่าห้าเดือนแล้ว เนื่องจากไม่มีเวลาและยังคิดเรื่องใหม่ไม่ออก ซึ่งทางสำนักพิมพ์ได้สอบถามเธอมาเป็นระยะเช่นกัน
ทันใดนั้นเมื่อสายตาเหลือบหันไปมองนาฬิกาข้างผนัง “ว้ายยยย!!!!...สายแล้ว” ร้องบ่นกับตัวเองเป็นภาษาไทยรีบเก็บของและหยิบเป้คู่ใจวิ่งออกจากห้องไป โดยไม่รู้ตัวว่าได้ทำบางอย่างร่วงจากช่องกระเป๋าเล็กของเป้ที่ปิดไม่สนิท
“แกร้ง...”
หลังจากหนูนาออกไปได้ไม่นาน ประตูห้องพักก็ถูกผลักเข้าอีกครั้งโดยเจ้าของห้องในสตูดิโอแห่งนี้ ซึ่งหลังจากผ่านการทัวร์คอนเสิร์ตตลอดสองเดือนที่ผ่านมาของทวีปเอเซียในหกประเทศ ปีเตอร์ มาร์ส นักร้องหนุ่มที่กำลังถูกล่าวถึงเป็นอย่างมากอีกหนึ่งคน ด้วยวัยยี่สิบเก้าปี อเมริกันโดยแท้ มากมายด้วยความสามารถทั้งในการร้องเพลง เล่นดนตรี แต่งเพลง แต่กลับมีเบื้องหลังชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดาเหนือกว่าความสามารถทางดนตรี...และอีกทั้งยังเพียบพร้อมในเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่ทำให้สาวๆเห็นแล้วต้องโหวตให้เขาติดอันดับหนึ่งในสิบของผู้ชายเซ็กซี่ที่เป็นที่ต้องการของหญิงแท้และหญิงเทียม
“อืม!...” ทันทีที่ปีเตอร์ก้าวเข้ามาก็แปลกใจกับสภาพห้องที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ความสะอาดเป็นระเบียบที่มีมากกว่าที่ผ่านมา มีกลิ่นหอมอ่อนๆเมื่อได้กลิ่นแล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย พร้อมด้วยแจกันดอกไม้ที่มีดอกไม้สดที่เขาก็ไม่แน่ใจในชื่อเพราะมีหลายชนิด แต่ที่แน่นอนคือดอกกุหลาบสีขาวที่มีมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่น เห็นแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นไปอีก
WOW!!!
THE GOODNESS!!!!
เมื่อสมาชิกในวงต่างก็เดินตามกันมาร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ ต่างก็คิดว่า...เกิดอะไรขึ้นกับห้องพักของพวกเขากัน
จอนนี่ หนึ่งสมาชิกในวงก็ถอยออกมาจากห้อง เพื่อมองขึ้นไปที่ป้ายตรงประตูว่า...ใช่ห้องพักของพวกเขาไหม? เพราะอาจเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเข้าผิดห้องแต่เมื่อเห็นป้ายก็ยังเป็นชื่อ ปีเตอร์ มาร์ส ไม่ผิด!! แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับห้องของพวกเขา หลังจากกลับทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้
ปีเตอร์ซึ่งตอนนี้อยู่ข้างหน้าทุกคน เดินไปที่โซฟาที่วางอยู่ริมห้องอีกฝั่ง ขณะที่กำลังจะนั่งก็รู้สึกถึงว่ากำลังเหยียบอะไร ก้มมองดูเห็นเป็นพวงกุญแจมีกุญแจอยู่สามดอกที่มีพวงกุญแจเป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงตัวเล็กผมหยิกยาวในชุดเอี๊ยมกางเกงยีนส์ขายาว และตรงหน้าอกปักตัวอักษรที่เขาอ่านไม่ออก แต่จากที่เขาพึ่งไปทัวร์คอนเสิร์ตล่าสุด ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศไทย น่าจะเป็นภาษาไทยเพราะพอคุ้นๆอยู่บ้าง
“อะไร?” สตีฟ อีกหนึ่งสมาชิกในวงถามหลังจากเดินมานั่ง
“กุญแจนะ คงเป็นของใครมาทำตกไว้” ขณะที่พูด ตาก็มองอยู่ที่หน้าตุ๊กตาแอบยิ้มนิดๆ โดยที่ไม่มีใครได้ทันสังเกตุเห็นรอยยิ้มนั้น และคิดว่า ‘น่ารักดี!’
“ว่าแต่ว่า มันเกิดอะไรขึ้นในห้องพักของพวกเรากัน” ไรอัล สมาชิกอีกคนหนึ่งที่อายุมากที่สุดในวงด้วยวัยสามสิบสองปี กล่าวออกมาด้วยเสียงที่ราบเรียบตามลักษณะนิสัยที่ใจเย็น
“ก๊อก..ก๊อก!!!” ซึ่งยังไม่มีใครได้พูดหรือถกเถียงกันต่อถึงห้องพักที่เปลี่ยนไป เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเพื่อขออนุญาตเปิด ปรากฎร่างชายใส่สูทชาวอเมริกันเข้ามา
“เป็นไงบ้างทุกคน คงเหนื่อยกันละสิ” ทักด้วยร้อยยิ้ม และกวาดสายตามองรอบๆห้องพร้อมกับยิ้มและคิดในใจ “นีน่าใช้ได้จริงๆ” เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้เข้ามาห้องนี้นานกว่าสองอาทิตย์แล้ว ครั้งสุดท้ายก็ตอนที่พานีน่ามา
“สวัสดีครับ...นิดหน่อยครับ” ไรอัลหันไปมองและทักทายพร้อมตอบคำถามแทนทุกคนเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะใครจะรู้นักร้องของวงอย่างปีเตอร์กลับเป็นคนที่พูดน้อยที่สุด เขาจะนั่งเงียบๆ แต่เมื่อขึ้นเวทีเขากลับเป็นอีกคนไม่ว่าจะร้องเพลงและคุยกับแฟนเพลงพร้อมด้วยรอยยิ้มที่แทบจะไม่มีใครได้เห็นเลยถ้าเป็นเวลาอื่น
“คุณเอียน พอจะทราบไหมครับ...ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่” พอล สมาชิกคนสุดท้ายของวงที่อายุน้อยที่สุดเพียงยี่สิบห้าปี เป็นฝ่ายเอ่ยถาม ซึ่งจอนนี่และสตีฟพวกเขาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับปีเตอร์
ปีเตอร์เมื่อได้ยินก็ละสายตาจากตุ๊กตาพวงกุญแจในมือมองมาที่เอียน ผู้จัดการที่กำลังเดินมานั่งที่เก้าอี้ที่ว่างใกล้ๆ อย่างคุ้นเคยโดยไม่จำเป็นต้องเชิญ
“ นีน่า นักเรียนไทยที่มาทำงานพาร์ทไทม์ที่นี่ เธอมีหน้าที่ดูแลพวกคุณและทุกอย่างในสตูดิโอแห่งนี้ สงสัยคงมีเรียนคิดว่าพรุ่งนี้คงได้เจอกัน แล้วจะมาแนะนำให้พวกคุณรู้จัก” เมื่อได้รับคำตอบทุกคนต่างก็พยักหน้าเป็นที่รับรู้ และคุยกันในเรื่องการทัวร์คอนเสิร์ตที่ผ่านมาเป็นปกติ และเป็นที่รู้และเข้าใจว่าหนึ่งในนั้นจะมีผู้ฟังที่ดี นานๆจะมีคำพูดออกมาเมื่อจำเป็นต้องแสดงความเห็นความคิดและตอบคำถามต่อผู้ร่วมงานที่เปรียบเสมือนพี่น้อง ที่รู้จักและร่วมงานกันมากว่าแปดปีแล้ว
❅❈❅❈❅❈❅❈
รวมเรื่องสั้น_เรื่องราวความรัก อ่านเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ -- เมื่อเขาต้องการ -- มายผู้ที่ไม่เคยปฎิเสธยามเมื่อคุณอาหนุ่มต้องการ ซึ่งเธอไม่ปฎิเสธเขาอยู่แล้ว เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม เสแสร้งแกล้งเล่นตัวทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เหลือความสดใหม่ให้ค้นหาอีกต่อไปแล้ว ทำได้เพียงร่วมมือกับเขาอย่างเร้าร้อนในทุกที่ทุกเวลา ‘เมื่อเขาต้องการ’ -- ชนท้องน้องสาว -- หากน้องสาวที่ผมหวังจะท้องชนกัน กำลังจะมีความรักกับผู้ชายคนอื่น...คุณจะทำอย่างไร? -- ค่าคุ้มครองมาเฟีย -- กานต์ จะว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มก็ได้ ชายหนุ่มวัยขบเผาะก็ไม่ผิด เมื่อเขากลายเป็นค่าตอบแทนชดเชยการล้างแค้น อันแสนเร้าใจ ให้กับ คุณเชอร์รี่ พี่สาวที่มักจะปรากฎตัวในชุดรัดรูปอวดส่วนเว้าส่วนโค้ง ต่อหน้าเขา... เอือก!...เสียงลูกกระเดือกขยับเมื่อกานต์พยายามกลืนน้ำลายไม่ให้ไหลออกมา -- ผู้ชายแพร่พันธุ์ -- “หากภรรยาที่แต่งงานกันมาได้ 5 ปี บอกกับคุณว่า จะให้คุณทำกับผู้หญิงอื่น เพื่อมีลูกให้กับเธอ...คุณจะทำอย่างไร?
...ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขามันหยั่งรากแก้วไปถึงกระดูกทุกมวลในร่างกายเธอแล้ว ถ้าให้เธอถอนมันตอนนี้มันจะต่างอะไรกับการเลาะกระดูกกันเล่า! 🌼 🌼 🌼 ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันมาก่อน มันไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้นแต่มันค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงต่างหาก ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขามันหยั่งรากแก้วไปถึงกระดูกทุกมวลในร่างกายเธอแล้ว ถ้าให้เธอถอนมันตอนนี้มันจะต่างอะไรกับการเลาะกระดูกกันเล่า! ปิ้ง! นั่งอยู่แบบนี้นานแค่ไหนเธอแทบไม่รู้ตัวจนมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ ‘พี่จะออกไปข้างนอก อยากได้อะไรอยากกินอะไรส่งข้อความมานะ’ ลำธารมองประโยคที่ปรากฎบนหน้าจอด้วยใบหน้าซีดเผือก ‘...ส่งข้อความมานะ’ ไม่มีช่องโหว่ตรงไหนให้เธอได้มีความหวังเลยว่าเขาจะชวนเธอไปด้วย “พี่หัสพาลำธารไปด้วย” หญิงสาวพร่ำเพ้อเพียงลำพัง แม้ได้ไปแล้วจะต้องเจ็บปวดยามที่ต้องเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่ถ้าเธอได้ไปด้วยช่วงกลับเวลาตรงนั้นก็จะเป็นของเธอกับเขาเพียงลำพังสักนิดก็ยังดี แต่เธอก็ได้แต่หลับตาและเอาความต้องการนี้ไปยังความฝัน
พันธะรักวิวาห์จำเป็น [Bond of Love - Wedding] #รุ่งอรุโณทัย เขาเรโนลต์ที่ต้องแต่งงานกับหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้าแม้แต่ครั้งเดียวตามคำสั่งพ่อ ซึ่งทำให้เขาต้องเสียทั้งเงินและเสียสถานะโสด เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางที่จะต้องแต่งเมียคนนี้แล้วเอาขึ้นหิ้งบูชาเป็นแน่ พ่อจะจัดหนักให้อย่างไม่แทงกั๊กในทุกๆ ทั้งเรื่องXXXทั้งแสวงหาผลประโยชน์จากเมียที่ได้มาจากวิวาห์จำเป็นคนนี้เท่าทบทวีเงินที่เขาต้องลงทุนจ่ายไปไม่น้อยคืนมาจนครบพร้อมดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย... คำโปรย:: … เรโนลต์ เงียบ! เขาประธานผู้มากด้วยอำนาจ เพียบพร้อมไปด้วยรูปร่างหน้าตาที่สามารถขึ้นแท่นสามีแห่งชาติได้อย่างไร้ข้อกังขา ฐานะการเงินแม้ตอนนี้จะเหลือเพียงอสังหาริมทรัพย์กับรถสามคันและเงินเดือนแต่ก็ยังน่าสนใจอยู่ในหมู่สาวๆ และเหล่าไก่วัดที่เต็มใจให้สมภารอย่างเขากัดแทะเล่นเป็นครั้งคราว คนโสดทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดไม่ผิด แต่จากคำพูดล่าสุดของคุณพ่อไม่กี่คำ เขาที่เป็นฝ่ายกระดิกนิ้วเรียกสาวๆ กลายมาเป็นคนที่ถูกกระดิกนิ้วเรียกไปแล้วอย่างงั้นเหรอ “เธอเป็นหม่อมเจ้าหรือครับ...ผมหมายถึงว่าที่สะใภ้นะครับ” เขาขยายความเมื่อจู่ๆ เขาเงียบไปนานและเอ่ยขึ้นมาคุณพ่อจึงมุ่นคิ้วไม่เข้าใจในตอนแรก คุณอำพลส่ายหน้า “นางสาวธรรมดา” “เธอเป็นลูกนักการเมืองใหญ่หรือเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้ทรงอิทธิพล” เรโนลต์ยังพยายามต่อ “คุณอำพลส่ายหน้า “กำพร้า” … เรโนลต์ เงียบ! “เป็นผู้มีพระคุณของคุณพ่อ” เรโนลต์ไม่ละความพยายาม “แกดูละครมากไปมั้ย” … เรโนลต์ เงียบ! ======================= SET : Bond Of Love พันธะรักโดยไม่ตั้ง [Bond Of Love - Accidence] พันธะรักวิวาห์จำเป็น [Bond Of Love - Wedding] พันธะรักราคีแค้น [Bond Of Love - Revenge]
“ถอยไปนะ!!!” “ไม่สู้แล้วเหรอ” น้ำใสกำปมผ้าขนหนูไว้แน่น ดวงตากลมจดจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาของเขาเขม็ง แม้ตัวเองจะเสียเปรียบแต่เธอไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ “จะเอายังไง” “นั่นสินะ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าอย่างเราสองคนจะมาถึงจุดนี้ได้เหมือนกัน...ใครกันนะที่บอกรักกันได้ทุกเวลา...ไม่อายปากบ้างเหรอ” คำเย้ยหยันที่ถูกพ่นออกมามันไม่ได้แค่ทำร้ายจิตใจคนฟังเพียงฝ่ายเดียว ในทางตรงข้ามคนพูดน่าจะอาการสาหัสยิ่งกว่า “แล้วไง! คุณก็เหมือนของกินมีใครบ้างที่กินของเดิมซ้ำๆกันทุกวัน คำแรกมันก็ชื่นมื่นน่าลิ้มลองเป็นธรรมดา คำที่สองก็ยังน่าพิสมัย แต่คำต่อๆไปใครจะยังกลืนมันลงละในเมื่อรู้รสชาติแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องหารสชาติใหม่ๆมาลอง...ใช่มั้ย” แววตาของเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนไป สีหน้าและแววตาของน้ำใสมันช่างเข้าได้กับคำพูดของเธอเสียจริง นี่เขาเกิดหวั่นไหวใช่เหรอเปล่าว่าเธอคิดอย่างที่พูดจริงๆ ความเบื่อหน่ายอย่างงั้นเหรอ... “ได้!!! ในเมื่อเธอเบื่อรสชาติที่ฉันอุตส่าห์ปรุงแต่งมันเพื่อเธอคนเดียว งั้นลองรสชาติใหม่ก็...แล้ว...กัน!” อร้ายยยย!!! น้ำใสร้องดังลั่นเมื่อเอ็ดเวิร์ดกระชากผ้าขนหนูออกจากการปกป้องเรือนกายเปลือย ควับ!!! แรงเขากับแรงเธอมันเทียบกันไม่ได้หรอก ควับ!!! และอีกผืนที่หลุดล่วงไปคือของเขา สองร่างเปลือยเปล่าแนบชิดกัน เมื่อน้ำใสพยายามจะหนีให้พ้นจากรัศมีไอร้อนของร่างกายเขาที่พวยพุ่งออกมากระทบพื้นผิวเนียนของเธอ
“พามาที่นี่ทำไม” “กินมื้อเช้า” ณิชาเบิกตากว้างมองเขา นี่เขาไปรับเธอมากินมื้อเช้า ดวงตากลมมองนาฬิกาด้านหน้ารถ และหันกลับมามองเขา เขาอยู่ในชุดกึ่งสูท เป็นทางการมาก โอ้! นี่เขาอายุเท่าไหร่กัน ปกติเขาตื่นกี่โมงกัน เพราะตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเช้า “ปกติคุณตื่นกี่โมง” “ตีห้าเป็นประจำทุกวัน” “ทุกวันเลยเหรอ” ภีมะพยักหน้า “แล้วนอนกี่โมง” “ก็แล้วแต่...อยากรู้ไปทำไม” “สงสัยบ้างไม่ได้เหรอ...” พวกเขาแปลกหรือเปล่านะ พี่เหนือก็เป็นคนตื่นเช้าเช่นกัน “คุณออกกำลังตอนเช้าทุกวันเลยใช่มั้ยคะ” ภีมะพยักหน้าอีกครั้ง “คนในตระกูลเราไม่สอนให้ลูกหลานนอนตื่นสาย...แต่สะใภ้อย่างเธอฉันจะให้เวลาค่อยๆปรับตัว”
ฉันเป็น ขวัญชนก วงศ์ษา ตั้งแต่อายุ 1 วัน ถึง อายุ 18 ปี 1 วัน อายุ 18 ปี 2 วัน ฉันเป็น ขวัญชนก ฟง เขาคือ ดีแลน ฟง อายุอานามก็ 30 ปี ชายร่างสูงเมื่อสามปีก่อน ปัจจุบันเขาคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอย้ำว่าถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น คำโปรย : “ห้าแสน!” “เจ็ดแสน!” เสียงประมูลราคาจากคนด้านล่างเวทีดังแข่งกัน “หนึ่งล้าน” การประมูลยังคงดำเนินกันต่อไปเรื่อยๆ ขวัญชนก สาวน้อยวัยใสวัยย่างสิบเก้าสอดส่ายสายตามองไปยังกลุ่มคนด้านหน้า “หนึ่งล้านสองแสน” เอาสิ! ถ้าเขาไม่มา เธอก็...ขวัญชนกยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ กระตุ้นราคาประมูลจนสูงลิ่วถึงสองล้าน “สองล้านครั้งที่หนึ่ง...” ในมุมมืดชายร่างสูงยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตแสดงความหวาดหวั่นในที่สุด “ห้าล้าน!” ก่อนที่ราคาสองล้านจะถูกเคาะครั้งที่สาม เสียงบอกราคาใหม่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในงาน แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้หญิงสาวบนเวที เธอไม่เคยลืมเสียงของเขา “ชนะแล้ว” ขวัญคิดในใจ “ห้าล้านครั้งที่สาม...ขาย!”
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"