ตึก ตัก ตึก ตัก
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นกระเบื้องในโรงพยาบาล
ไมล์ เร่งฝีเท้าการก้าวขยับ ปลายทางหน้าห้องไอซียู ...
"น้ำแข็ง..." เสียงเรียกสั่นเครือของไมล์ เขารีบเร่งเดินทางมาทันทีที่ได้รับแจ้งข่าว ข่าวที่ทำให้ ไมล์แทบเสียสติ กับสิ่งที่น้ำแข็งต้องประสบ หน้าห้องไอซียู มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ ไมล์หันกลับและยกมือทำความเคารพ "สวัสดีครับคุณพ่อ" ประกอบ พ่อบังเกิดเกล้าของ น้ำแข็ง ปติมา สินทรัพย์นคร พ่อลูกที่มีกันแค่สองคน ไมล์มองประกอบที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาไม่รู้จะเริ่มต้นด้วยอะไร น้ำแข็งถูกทำร้าย มันจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเขาไปกับเธอด้วย
ไมล์ทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ถัดจากประกอบไปสองตัว ศีรษะแหงนพิงกำแพงด้านหลัง หลับตา เขาไม่ได้ภาวนาขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ แต่เขากำลังระงับความเจ็บปวดในใจ...
"ไมล์ รีบมาก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ลา" คำพูดที่ประกอบบอกเขาทางโทรศัพท์ หมอออกมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ ตอนนั้นไมล์ยังมาไม่ถึง
"ผม อยากให้ญาติ ทำใจครับ ผู้ป่วยอดทนมาก แต่ร่างกายของเธออดทนรับต่ออาการบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ไม่ได้นานครับ ร่างกายเธอเสียหายทั้งจากการถูกทำร้ายและถูกรถชน"
ผลั๊ก เสียงประตูถูกเปิดอีกครั้ง สองคนลุกขึ้นทันที สีหน้าและแววตาของหมอไม่ค่อยสู้ดีนัก
"หมอ เสียใจครับ..." ประกอบหลับตาแน่น ไมล์แทบยืนด้วยขาไม่อยู่ เขาถลาเซถอยหลังอย่างคนสิ้นหวัง
"เชิญญาติค่ะ..." เสียงพยาบาลเรียกสติของทั้งสอง
"คุณน้ำแข็ง ผมขออนุญาตเรียกชื่อเล่นเธอนะครับ คุณน้ำแข็งอยากกล่าวลาคุณทั้งสอง เธออดทนมาก ใจสู้มากครับ " ไมล์และประกอบเดินตามพยาบาลเข้าไปอย่างคนสิ้นหวัง
...สามเดือนต่อมา
ไมล์ยืนมองภาพหญิงสาวที่ยังอยู่ในหัวใจเขาไม่เคยจืดจาง สามเดือนแล้วที่น้ำแข็งจากไป เธอไม่ได้เรียนจบพร้อมเขา วันนี้ไมล์กำลังจะเดินทางไปอังกฤษ ไปเรียนต่อ ตามความต้องการของแม่ ที่ต้องการให้เขาไปปรับตัวปรับใจที่นั่น
"จะเดินทางวันนี้เหรอ โยมไมล์" ไมล์หันไปและคุกเข่าลงกับพื้น ก้มกราบพระสงฆ์ คุณพ่อประกอบท่านบวชมาได้เกือบสองเดือนแล้ว หลังจากจัดการเคลียเรื่องทางโลกทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย
"ครับ หลวงพ่อ"
"ดีแล้ว เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ คิดเสียว่าน้ำแข็งเขาพ้นทุกข์ไปแล้ว เราต่างหากที่ยังมีสิ่งที่ต้องทำ" ไมล์แค่ฟัง ผ่านมาสามเดือนแล้ว เขายังทำอย่างที่หลวงพ่อว่าไม่ได้เลย โดยที่เขาไม่แน่ใจว่า เขาอยากทำจริงๆเหรอเปล่า เริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มี น้ำแข็ง
"ผมจะพยายามครับ" ประกอบในชุดผ้าเหลือง มองชายหนุ่มตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มและดวงตาแห่งความเมตตา ไมล์ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ ตั้งแต่ที่ น้ำแข็งจากไป วัดแห่งนี้ ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ของไมล์ คือ บริเวณโกศของน้ำแข็งที่เขาคอยดูแลทำความสะอาดตลอดเวลาสามเดือนที่ผ่านมา
"โยมไมล์ น้ำแข็งจากไปแล้ว ไม่รับรู้เรื่องทางโลกอีกแล้ว เริ่มต้นใหม่กับชีวิต โยมยังมีหน้าที่ที่ต้องทำ หน้าที่ของลูก หน้าที่ที่มีต่อคนที่รักและเป็นห่วงโยม" ไมล์ก้มลงกราบลาหลวงพ่ออีกครั้ง กล่าวขอบคุณ ท่านที่ตลอดสองสามเดือนมานี้ ให้ความเมตตาเขามาก
ไมล์เดินจากไป จนลับสายตา หลวงพ่อที่ได้แต่ส่งคำอวยพรทางธรรมติดตามเขาไป หวังให้เขาปล่อยวาง ปล่อยน้ำแข็งไป และเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ได้ในเร็ววัน
สี่ปีต่อมา....
"มันจะไม่กลับใช่มั้ย?" คุณตาเอกพจน์ เสียงกังวาล ตามอารมณ์ เมื่อคิดถึงหลานชายที่จากไปนานสี่ปีแล้ว
ศศิกานต์ต้องขยับเข้าไปหา กลัวว่าความดันของคุณพ่อจะขึ้นมากไปจนเป็นอันตราย
"ขอ ศศิ คุยกับตาไมล์ก่อนนะคะคุณพ่อ...คุณพ่ออย่าโกรธเลยนะคะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะคะ"
"ความเสียใจ ฉันก็เข้าใจ แต่ช่วยบอกมันทีว่า ไม่ใช่มีแต่มัน ที่ต้องเจอความสูญเสีย...ถ้ามันไม่กลับมาดูแลมรดกของมันเอง ฉันจะยกให้นับแสนกับน้ำแข็งให้หมดสิ้นเรื่องสิ้นราวไป" ศศิกานต์ยิ้มให้กับคำประชดประชันของเอกพจน์ ท่านก็พูดแบบนี้มาตลอดสองปีแล้ว ทางโน้นก็ไม่สนใจ ไมล์ไม่สนใจเรื่องมรดกของเธอและของคุณตา ถ้าต้องการให้ไมล์กลับเมืองไทย คงต้องหาเหตุผลอื่น