อนลควรจะทำยังไง เมื่อจู่ๆ แม่เลขาเฉิ่มของพี่ชาย เข้ามาในห้องพักของเขาด้วยความเมามาย และก็ชักชวนให้เขาเป็นคนแรกของเธอ...!!! เขาควรปฏิเสธ หรือว่าเดินหน้าขย่มแม่สาวแว่นให้จมเตียงดีล่ะ?!!! “อ๊ะ... อย่า... คุณอนล... อื้อ...” เขาไม่สนใจการต่อต้านของหล่อนเลย เพราะวินาทีต่อจากนั้น ปากร้อนจัดก็กลืนกินทุกเสียงต่อต้าน พร้อมกับความเป็นชายที่ถูกปลดปล่อยจากเป้ากางเกง และพุ่งทะยานเข้ามาในกายสาว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยความเร่าร้อนรุนแรง การต่อต้านขัดขืนจางหายไป เมื่อปากถูกจูบดูดดื่ม พร้อมกับบั้นเอวแกร่งที่โยกคลึงเข้าหาอย่างหนักหน่วง อา... สติของหล่อนจางหายไปหมดแล้ว ตอนนี้สิ่งเดียวที่หล่อนรับรู้ถึงมันได้ ก็คือความแข็งแกร่งที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ภายในร่องสาวเท่านั้น แต่พอเช้าวันต่อมา แม่เจ้าประคุณดันหนีหน้าหายไป แถมพอเจอกันก็บอกให้ลืมๆ เรื่องเร่าร้อนเมื่อคืนไปซะ เหอะ!!! คิดว่าเขาจะยอมหรือไง ในเมื่อแม่สาววัตถุโบราณ หวานฉ่ำไปทั้งตัวทั้งตัวแบบนี้...
THE KINGDOM TOWER ตึกสูงระฟ้าที่ถูกออกแบบเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง และผู้ครอบครองสถาปัตยากรรมแสนเลอค่าแห่งนี้ ก็คือ ตระกูล เศรษฐเวษต์
ในเมืองไทย ไม่มีใคร ไม่รู้จักตระกูลเศรษฐเวษต์ ตระกูลที่เต็มไปด้วยอำนาจ และความร่ำรวยมั่งคั่ง ตระกูลผู้ผูกขาดธุรกิจสำคัญของประเทศไทยเอาไว้ในอุ้งมือมากมาย ภายใต้การบริหารของทายาทหนุ่มหล่อทั้งสามคนของวงศ์ตระกูล
อินทัช เศรษฐเวษต์ หรือคุณหนึ่ง พี่ชายคนโตของตระกูล
อนล เศรษฐเวษต์ หรือคุณสอง น้องชายคนกลางของตระกูล
และคนสุดท้าย...
อติพัฒน์ เศรษฐเวษต์ หรือคุณสาม น้องชายคนสุดท้ายของตระกูล
ทั้งสามหนุ่มถูกเลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวด พวกเขาแบกรับภาระธุรกิจของวงศ์ตระกูลมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น
พวกเขาเรียนหนัก ทำงานหนัก และต้องรับผิดชอบงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายจากบิดามารดา และแน่นอนว่าหากทำไม่สำเร็จ พวกเขาจะถูกลงโทษ
ดังนั้นทั้งสามหนึ่งจึงต้องฝ่าฝันอุปสรรค และความยากลำบากมากมาย กว่าจะได้ก้าวขึ้นสู่ผู้บริหารของ เศรษฐเวษต์ กรุ๊ป
อินทัช พี่ชายคนโต ชายหนุ่มเป็นคนเงียบขรึม ให้ความสำคัญกับงานเป็นที่หนึ่ง และคำสั่งของบิดามารดาก็คือประกาศิตที่เขาจะไม่มีวันปฏิเสธ
ดังนั้นเมื่อท่านทั้งสองออกคำสั่งให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่พวกท่านได้คัดเลือกเอาไว้ให้ เขาก็ทำตามแต่โดยดี โดยไม่มีใครเดาใจเขาออกเลยว่า แท้จริงแล้วนั้น อินทัชเต็มใจหรือไม่
อนล น้องชายคนกลาง เขาเป็นผู้ชายที่บ้างานไม่แพ้อินทัช แต่เขาจะไม่เงียบขรึมเหมือนพี่ชาย เขารักสนุก มีเล่ห์เหลี่ยม และทุกอย่างที่อยู่ในระยะสายตาของเขาจะต้องสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
อติพัฒน์ น้องชายคนสุดท้าย ชายหนุ่มเป็นคนจริงจังกับทุกอย่าง ไม่ว่าจะงาน หรือว่าเรื่องส่วนตัว เขาจะทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ และแน่นอนว่าชัยชนะคือสิ่งที่เขากระหายมากที่สุด
เรือนร่างสูงใหญ่ไซส์หนุ่มยุโรปของสองพี่น้องตระกูลเศรษฐเวษต์กำลังยืนคุยกันถึงโปรเจ็กต์ใหม่ที่กำลังไปได้สวยอยู่ที่บริเวณชั้นผู้บริหาร ซึ่งก็คือหน้าห้องทำงานของอินทัชผู้เป็นพี่ชายนั่นเอง
“นายอย่าลืมเลือกนางแบบด้วยล่ะ พี่ให้คุณสร้อยส่งรายละเอียดไปในอีเมลของนายแล้ว”
คุณสร้อย ที่พี่ชายพูดถึงก็คือ สร้อยมาลา เลขาหน้าห้องที่พี่ชายไว้ใจมากนั่นเอง
“ผมหวังว่าเลขาฯ คนโปรดของพี่หนึ่งจะไม่ส่งแม่ชีมาให้ผมเลือกหรอกนะครับ”
อนลรู้สึกไม่อินกับเลขาหน้าห้องของพี่ชายเลย ทุกครั้งที่เขาเห็นหล่อน เขาก็มักจะรู้สึกหงุดหงิดใจเสมอ เพราะหล่อนดูขัดหูขัดตาของเขาไปเสียทุกอย่าง
นี่มันยุคสองพันยี่สิบกว่าแล้ว ไม่ควรจะมีผู้หญิงที่แต่งตัวโบราณคร่ำครึราวกับหลุดออกมาจากกรุงรัตนโกสินทร์อย่างสร้อยมาลาอยู่อีก
ยิ่งนึกถึงหล่อน เขาก็ยิ่งรู้สึกขุ่นเคืองใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้
“คุณสร้อยทำงานดี ทำงานละเอียด และรอบคอบมาก ดังนั้นเธอจะไม่มีวันทำให้เจ้านายอย่างพี่ผิดหวังหรอก พี่มั่นใจ”
คนเป็นน้องหัวเราะขำขัน พร้อมกับส่ายหน้าหล่อเหลาไปมา
“แต่ผมกลับคิดว่า พี่พยายามจะพอใจกับผลงานของเลขาเฉิ่มเชยของตัวเองมากกว่า นี่ผมถามจริงๆ เถอะครับ เมื่อไหร่พี่หนึ่งจะหาเลขาฯ ใหม่สักที”
“พี่พอใจในผลงานของคุณสร้อย”
“แต่ขัดตาผมมากเลยครับ”
“นั่นมันก็เรื่องของนาย สอง ไม่ใช่เรื่องของพี่ อ้อ แล้วพรุ่งนี้ตอนเช้า เรามีประชุมกับผู้ถือหุ้น พี่หวังว่านายจะรู้ตารางงานนี้แล้วนะ”
สีหน้าของอนลที่แสดงออกมานั้นทำให้ผู้เป็นพี่ชายถึงกับอมยิ้ม
“เลขาฯ คนสวยของนายคงยังไม่ได้บอกนายใช่ไหมล่ะ”
“คุณผึ้งน่าจะลืมครับ” อนลรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
“คนหน้าตาดี แต่งตัวดี ไม่ใช่ว่าจะทำงานดีเสมอไป นายจำคำพี่เอาไว้ นายสอง”
ผู้เป็นพี่ชายหมุนตัวกำลังจะเดินเข้าห้องทำงาน แต่เสียงไม่ยอมแพ้ของน้องชายดังขึ้นเสียก่อน
“แต่ผมก็ไม่ต้องอารมณ์เสีย หรือขัดหูขัดตาเวลาที่เห็นเลขาฯ ตัวเองแบบพี่หนึ่งนะครับ”
“พี่ไม่เคยขัดหูขัดตากับการแต่งตัวของคุณสร้อยเลย ตรงกันข้ามพี่ว่ามองแล้วรู้สึกสบายตามากกว่า มองผู้หญิงที่แต่งตัวแต่งหน้าจัดเสียอีก”
พี่ชายกับน้องชายมีความมุมมองและความคิดเห็นในเรื่องนี้ไม่ตรงกันเลย และนั่นก็ทำให้เถียงกันเรื่องนี้ประจำ โดยเฉพาะเรื่องเลขาฯ
“บางทีผมอาจจะต้องแอบเข้าไปในห้องทำงานของพี่หนึ่ง แล้วค้นหาดูพวกของมนต์ดำอะไรพวกนี้บ้าง เผื่อจะเจอ”
อนลหลิ่วตาให้กับพี่ชาย ในขณะที่อินทัชส่ายหน้าไปมา และเดินหายเข้าไปในห้องทำงานโดยไม่พูดอะไรอีก
อนลถอนใจออกมาแรงๆ และพึมพำอย่างไม่เข้าใจในตัวของพี่ชายนัก
“พี่คิดอะไรอยู่กันแน่ พี่หนึ่ง”
เขาพูดจบก็กำลังจะหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกับกับผู้เป็นพี่ชาย แต่แล้วก็ต้องชะงักกึก เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างของสร้อยมาลาในสภาพเละตุ้มเปะ
ผมเผ้าของหล่อนที่เคยขมวดไว้ท้ายศีรษะแล้วคลุมด้วยเน็ตตาข่ายสีดำแบบโบราณตอนนี้มีบางส่วนหลุดออกมา ใบหน้าขาวเนียนที่มีแว่นหนาหน้าอันใหญ่เกือบครึ่งค่อนหน้ามีฝ้าขาวๆ และมีหยดน้ำเกาะ เสื้อผ้าตัวโคร่งที่หล่อนชื่นชอบที่จะสวมใส่เปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำ
อนลถึงกับส่ายหน้าไปมา นี่เขาไม่รู้ว่าควรจะสงสารหรือว่าสมเพชหล่อนดี
“นี่คุณเดินไปชนกับรถสิบล้อมาหรือไง สภาพถึงพังไม่เป็นท่าแบบนี้น่ะ”
“สะ... หวัดดีค่ะคุณอนล”
สร้อยมาลายกมือไหว้ทักทายน้องชายของเจ้านายตัวเอง พยายามซ่อนความอับอายเอาไว้ภายในแว่นหนาที่สวมใส่ให้ลึกที่สุด
หล่อนโชคร้ายรถเสียระหว่างทาง จนต้องนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาทำงาน แถมตอนเดินจะเข้าบริษัทก็ยังถูกคนใจร้ายขับรถเหยียบแอ่งน้ำจนสาดกระเซ็นเข้าใส่จนเปียกปอน แต่ดวงของหล่อนก็ยังตกไม่เลิก เมื่อต้องมาเจอกับอนลที่หน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง
อนลคือผู้ชายคนสุดท้ายที่หล่อนต้องการเจอในเวลานี้ แต่หล่อนกลับเจอเขาเข้าจนได้ และสายตาที่เขามองมานั้นก็เต็มไปด้วยความสมเพชระคนขบขัน
หล่อนรู้ดีว่าอนลไม่ชอบขี้หน้าหล่อนนัก ซึ่งเดาเหตุผลของเขาได้ไม่ยาก
หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่เขาชอบมอง แต่หล่อนกับเขาก็ต้องเจอกันบ่อย เพราะพี่ชายของเขาคือเจ้านายสายตรงของหล่อนนั่นเอง
หลายครั้งที่เขาตำหนิหล่อนเรื่องการแต่งตัว แต่ทุกครั้งหล่อนก็ทำแค่รับฟังเท่านั้น ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงสไตล์ของตัวเอง
แม้จะรู้ดีว่าการเพิกเฉยต่อคำแนะนำของอนล จะทำให้เขายิ่งเกลียดขี้หน้า แต่หล่อนไม่มีทางเลือกอื่นอีก ในเมื่อหล่อนไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิงแซ่บ
“ยังไม่ตอบผมเลยว่าคุณไปเดินชนท้ายรถสิบล้อมาหรือไง”
“เอ่อ... สร้อย...”
“ผมไม่เข้าใจเลยว่าพี่หนึ่งชื่นชมคุณได้ยังไง สร้อยมาลา”
อนลส่ายหน้าไปมา มองหล่อนอย่างเอือมระอา ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง
สร้อยมาลายกมือขึ้นขยับแว่นหนาของตัวเอง มองตามเรือนร่างสูงโปร่งของผู้ชายที่ตัวเองแอบรักผ่านม่านน้ำตา
คนเฉิ่มๆ อย่างหล่อน ก็ทำได้แค่เพียงแอบมองและแอบรักเงียบๆ เท่านั้นแหละ
หญิงสาวฝืนยิ้มบางๆ ออกมา และก็รีบสลัดความอดสูออกไปโดยเร็วที่สุด
ถึงหล่อนจะเฉิ่ม จะเชย แต่หล่อนก็จะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้ผู้เป็นเจ้านายอย่างอินทัชผิดหวังอย่างแน่นอน
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------