เพราะเสียงเรียกร้องของหัวใจทำให้ ‘น้ำตาล’ เลือกที่จะกลับคืนอารันดาอีกครั้ง และเขา ‘ชี้คฟีรอส’ หัวใจที่มอบให้หญิงไทยใจงามไปแล้วนั้น เขาจะไม่ขอคืน ความหวานแห่งรักที่รินรดรอยทราย แม้ต้านด้วยแรงลมร้อน แต่หัวใจสองดวงก็พร้อมที่จะพิสูจน์รักร่วมกัน ในคืนแรกที่ได้กลับไปเยือนอารันดาอีกครั้ง ห้องนอนสาวโสดกลับถูกจู่โจมด้วยชายแปลกหน้า ทว่าเมื่อตื่นขึ้นมา น้ำตาลกลับพบว่าเธอนอนอยู่ภายในกระโจมและมีร่างโชกเลือดของชี้คฟีรอสนอนไม่ได้สติอยู่ใกล้ๆ น้ำตาลจะทำอย่างไรดีกับหัวใจที่เริ่มเจ็บปวดเพราะเขา แค่เพียงความรักและเชื่อใจ เพียงพอที่จะต้านทานแรงลมร้อนแห่งทะเลทรายและหล่อเลี้ยงหัวใจให้แข็งแกร่งได้หรือไม่ ในเมื่อเขาคือชายหนุ่มที่ผู้หญิงทุกคนพร้อมจะแย่งชิง
มือที่กำลังสาละวนกับการปักเม็ดมุกบนชุดเจ้าสาวที่ประดับอยู่บนหุ่นหน้าร้านต้องชะงักเพราะความรู้สึกถึงสิ่งไม่ธรรมดาบางอย่าง ดวงตากลมโตเขม่นมองร้านอาหารฝั่งตรงกันข้ามซึ่งก็ไม่เห็นอะไรมากไปกว่ากระจกสีชาที่สามารถมองเห็นลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านได้อย่างรางเลือน
ความรู้สึกไม่ดีเหมือนถูกจ้องมองทำให้ศีรษะส่ายไปมาก่อนจะก้มหน้าก้มตาทั้งปักทั้งสอยชุดเจ้าสาวที่หุ่นสวมใส่อยู่ต่อไป เพราะเป็นชุดที่ต้องโชว์หน้าร้านทำให้ต้องเน้นให้เข้ารูปหุ่นมากที่สุดและเธอก็ต้องเร่งมือให้เสร็จก่อนการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในวันพรุ่งนี้ งานที่คิดว่าจะทำให้เสร็จอย่างรวดเร็วกลับมาเสียเวลาเพราะความรู้สึกก่อกวนที่เกิดในหลายวันที่ผ่านมาซึ่งมันทำให้เธอไม่มีสมาธิ
“น้ำตาล เสร็จยัง ห้างจะปิดแล้วนะ ถ้าไม่เสร็จมาต่อตอนเช้าให้พี่ละกัน แต่ต้องสัญญาว่าจะมาแต่เช้าจริงๆ นะ”
เสียงพี่หนูนิดหรือนิตรวีสาวเทียมร่างบอบบางที่เหมือนผู้หญิงมากที่สุดถ้าไม่รวมเสียงพูดแหบๆ ดัดๆ นั้น
“อีกแป๊บเดียวค่ะพี่หนูนิด เดี๋ยวน้ำตาลสอยข้างเอวนี่เสร็จก็โอแล้วค่ะพี่”
เสียงหวานพร้อมใบหน้าหันกลับไปบอกก่อนจะหันไปเพ่งสายตากับจุดที่ต้องสอยเก็บอีกครั้ง
“นี่! น้ำตาล แล้วข้อเสนอของเพื่อนน่ะน้ำตาลคิดยังไง รับไว้หรือเปล่า”
“ก็.. น้ำตาลก็ต้องขอคิดดูก่อนค่ะ ไปไกลบ้านน้ำตาลก็อดคิดถึงพ่อกับแม่ไม่ได้”
“อ้าว! ก็ไหนบอกว่าพี่ชายเราเขาจะไปอยู่ที่นั่นด้วยไง”
“ก็คงจะต้องอีก 3-4 เดือนค่ะ พี่เอน่ะเขาต้องทำเรื่องย้าย เรื่องเอกสารหลายอย่าง เพราะพี่เขาคงจะไปตั้งรกรากที่นั่นจริงๆ กว่าจะไปก็คงจะทันไอ้ตัวน้อยออกมาพอดีน่ะค่ะ”
ปากพูดแต่ตาและมือก็ยังคงทำหน้าที่ไม่หยุด
“แล้วสรุปเราน่ะตัดสินใจยังไง พี่อ่ะไม่อยากให้เราไปหรอกนะ ขาดน้ำตาลไปคนร้านพี่ยุ่งแน่”
“แหม.. พี่หนูนิดก็ พี่ก็ให้ค่าจ้างแพงๆ หน่อยซิคะ เดือนละห้าหมื่นใครจะเอา”
น้ำตาลพูดในอารมณ์ล้อเลียนเพราะค่าจ้างที่นิตรวีให้เธอนั้นถือว่าแพงกว่าที่อื่นมาก และยังกล้าให้เด็กที่เพิ่งมีประสบการณ์แค่ปีเดียวอย่างเธอมากถึงขนาดนี้
“โห! หล่อน ช่างกล้านะยะ กล้าพูดมาก ลองใครมันรู้ซิว่าฉันให้ห้าหมื่นไม่รวม 10% จากยอดขายมีหวังได้แจ้นมาเป็นโหลแน่ ฉันน่ะไม่อยากแย่งงานคนอื่น แค่นี้ฉันก็รวยจะตายแล้ว กลัวตายแล้วไม่ต้องใช้ฟืน”
คำพูดลากยาวใส่จริตจนทำให้แยกแยะระหว่างสาวเทียมกับสาวแท้ได้อย่างง่าย ก่อนจะเงียบลงเพราะเห็นสายตางงๆ ของน้ำตาลที่มองตรงมา
“ก็เงินมันเยอะจนต้องเอาแทนฟืนสำหรับเผาไงย่ะ แหม.. ทำเป็นไม่เข้าใจ แม่พวกคนรวย คนอะร๊ายทำงานแค่สามเดือนมีเงินเก็บเป็นแสน เชอะ! รวยแล้วก็ทิ้งกัน”
“หึหึหึ.. พี่หนูนิดนี่ เดี๋ยวน้ำตาลก็เปลี่ยนใจไม่เอาชี้คหล่อๆ มาฝากเสียเลย ปล่อยให้เหี่ยวอยู่อย่างนี้แหล่ะ”
“No No No.. จะออกงานฉันไม่ว่า แต่สัญญาห้ามลืม โดยเฉพาะท่านชี้คสุดหล่อคนนั้น โอย.. อกหนูนิดจะแตก คนอะไรไม่รู้ หล่อระเบิดระเบ้อ หล่อไม่บันยะบันยัง หล่อไม่แบ่งปันเพื่อนฝูง โอว.. ใครได้ไปเป็นสามีโชคดีตาย อู้ยยยย...”
น้ำตาลหัวเราะขำกับท่าทางและเสียงที่เป็นเอามากของนิตรวีที่มักจะหลุดท่าทางกุลสตรีที่เจ้าตัวพยายามทำให้เหมือนมากลายเป็นนางแมวสาวอยากขย้ำเหยื่อในทุกครั้งที่พูดถึงชี้คสุดหล่อนั่น “ชี้คฟีรอส” เจ้าของนามที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหล่อจริง เขาหล่อมาก ถ้ามาอยู่เมืองไทยสงสัยจะได้เป็นพระเอกหนังแน่ๆ คนหล่อที่สร้างความตื่นเต้นให้กับหัวใจทุกครั้งและครั้งนี้ก็เช่นกัน
“ได้ขอรับ ชี้คคา”
เสียงทุ้มล้อเลียนในวันวานเหมือนยังก้องอยู่ในความรู้สึก แผงอกแกร่งที่เธอพิงอิงซบบวกกับกลิ่นน้ำหอมหลังโกนนวดอ่อนๆ ที่โชยมา ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นแม้จะไม่รวมหน้าตาที่หล่อมากๆ นั้นก็ทำให้เขามีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามได้อย่างล้นเหลือ ซึ่งไม่น่าแปลกที่มักจะเห็นข่าวต่างประเทศประโคมข่าวเรื่องคู่ควงของชี้คหนุ่มหล่อนี้เสมอๆ คงมีแต่เพียงเธอเท่านั้นที่ยังคิดถึงดวงตาสีทองคู่นั้นยามทอดสายตาที่เธอคิดไปเองว่ามันเป็น “แววอาลัย” ที่เขาส่งมา มีแต่เธอเท่านั้นที่ยังละเมอเพ้อหาเขาอยู่ในทุกจังหวะการเต้นของหัวใจ แต่เขาล่ะ..ป่านนี้แม่นางแบบเวเนฯ คนล่าสุดจะควงไปกี่งานต่อกี่งานแล้วก็ไม่รู้
“น้ำตาล น้ำตาล!”
“ว้าย! โอ๊ะ!”
น้ำตาลสะดุ้งตกใจกับเสียงเรียกและความรู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายนิ้ว
“ตายแล้ว! น้ำตาล พี่ขอโทษ พี่ก็เห็นเราใจลอย ขอโทษจริงๆ ขอโทษจริงๆ”
นิตรวีหันรีหันขวางก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูใกล้มือขึ้นมาซับเลือดที่ซึมออกมาเพราะรอยเข็มตำที่ปลายนิ้วของน้ำตาล
“พี่หนูนิดไม่เป็นไรค่ะ นิดเดียว ไกลหัวใจน้ำตาลเยอะ”
“จ้า..แม่คนเก่ง ที่ว่าไกลเยอะน่ะ เพราะหัวใจอยู่ที่อารันดาหรือเปล่า ฮะ!”
ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ชะงักไปทำให้นิตรวีถึงกับหน้าเหวอ ก่อนจะหันไปสนใจกับเสียงเรียกจากด้านนอกร้าน
“พี่หนูนิดคร๊าบ พี่หนูนิด พี่หนูนิดคร๊าบ..”
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง