เธอเป็นเด็กสาวข้างบ้านที่เขาตกหลุมรัก
ใยไหม อินทุภา หญิงสาววัย 22 ปี กำลังนั่งเศร้าๆ เหงาๆ อยู่ในผับชื่อดังของตัวเมืองใหญ่ซึ่งเป็นจังหวัดทางปักษ์ใต้ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยแต่ไม่เท่าหัวใจดวงน้อยที่เจ็บปวดคล้ายโดนมีดเชือดเฉือนอยู่ทุกขณะจิต
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งแฟนไปต่อหน้าต่อตา แต่ที่ทำให้เธอเจ็บลึกเข้าไปในจิตใจก็คือแฟนที่คบกันมาเกือบสี่ปีก็นอกกายนอกใจลับหลังเธอไปแอบกินกันกับเพื่อนที่พูดจาดีเป็นห่วงเป็นใย จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง รอยยิ้มพิมพ์ใจ น้ำคำแสนหวานเป็นเพียงแค่ภาพมายาหลอกตา แต่จิตใจกลับคิดคดทรยศหักหลัง
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ ความเสียใจหลั่งไหลเข้ามาในห้วงความคิดคำนึง เฝ้าถามย้ำตัวเองว่าทำอะไรผิด ทำไมคนที่รักถึงสองคนจึงได้หักหลังกันอย่างเลือดเย็นเช่นนี้
เสียงหัวเราะขบขันอย่างคุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลัง เธอเงี่ยหูฟังประโยคเสียดแทงจิตใจแล้วเม้มปากเข้าหากันแน่น เธอไม่ได้เมาจนขาดสติแม้จะมึนๆ แต่ก็รับรู้ได้เลยว่าคนที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนๆ อย่างออกรสเป็นติรกาญจน์อดีตเพื่อนรักของเธอนั่นเอง
“โอ๊ย! นางใยไหมโง่จริงๆ เลยพวกแก ฉันน่ะไม่ได้อยากจะเป็นเพื่อนรักกับมันหรอก แต่ฉันน่ะแอบชอบณุมานานแล้วก็เลยเข้าไปตีสนิทเป็นเพื่อนกับมัน ณุน่ะเป็นผู้ชายที่ดี น่ารักเทคแคร์ดูแลฉันดีมากๆ เลย เราแอบไปกินกันลับหลังยายไหม นางนั่นก็โง่ไม่รู้ แถมมาปรึกษาตีโพยตีพายร้องไห้ฟูมฟามว่าแฟนเปลี่ยนไป ไม่มีวัวผสมเลยแก ควายล้วนๆ”
“แบบนี้เองใช่ไหม” คนเอ่ยถามตัวสั่นระริก ติรกาญจน์ตกใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มเยาะ
“อ้าว... สวัสดีจ้ะไหม มานั่งหัวโด่อยู่ตอนไหนเหรอไม่เห็นเลย”
“เธอนี่มันสารเลวจริงๆ เลย ตายเสียเถอะ” ใยไหมไม่อยากฟังอะไรแล้วเธอพุ่งเข้าไปตบนางเพื่อนทรยศเต็มฝ่ามือ
เพี้ยะ!!! เสียงแก้มซ้ายโดนฝ่ามือทั้งห้าฟาดดังสนั่น ติรกาญจน์หันขวับมามองก่อนจะจิกผมของอีกฝ่ายฟาดฝ่ามือกลับไปบ้าง
เพี้ยะ!!! ใบหน้าของใยไหมหันไปตามแรงตบ
“พวกแกจับนางไหมเอาไว้ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับฉัน มันต้องเจอแบบนี้” เพื่อนของติรกาญจน์จับตัวใยไหมเอาไว้ ก่อนจะฟาดมาเต็มใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มแรง
เพี้ยะ!!!
“สมน้ำหน้า นางหน้าโง่ อยากโง่เองแล้วแฟนที่แสนดีของแกตอนนี้ก็เป็นอดีต เขาเป็นของฉัน จำใส่สมองกลวงๆ เน่าๆ ของแกเอาไว้” ติรกาญจน์อิจฉาเพื่อนคนนี้จับใจ รวยก็รวยกว่า เพื่อนๆ ก็รุมรักมากกว่า
“กาญจน์ณุมาแล้ว” เพื่อนอีกคนในกลุ่มของติรกาญจน์ตะโกนบอกว่าวิษณุเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว ติรกาญจน์จึงดึงร่างของใยไหมมาคล่อมทับร่างของตัวเองก่อนจะจับมืออีกฝ่ายมาตบ
“โอ๊ย! ช่วยด้วย ไหมอย่าทำกาญจน์เลยนะ กาญจน์กลัวแล้ว โอ๊ย! เพี้ยะ!”ใยไหมได้แต่อึ้งไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำเช่นนี้ และไม่รู้ด้วยว่าทำไปทำไม แต่พอเธอโดนกระชากออกด้วยฝีมือของอดีตคนเคยรักนั่นแหละถึงรู้ว่าทำไม
“นี่ทำอะไรน่ะไหม ทำร้ายกาญจน์ทำไม” วิษณุตวาดกระชากร่างของใยไหมออกก่อนจะผลักจนเซ
“หน้าโง่ ยายนี่มันมารยาสาไถ” ใยไหมร้องบอก แต่วิษณุส่ายหน้าไปมาเขาหันไปประเล้าประโลมแฟนสาว ใยไหมมองแล้วเม้มปาก เธอเสียใจและเสียใจหนักกว่าเดิม ตอนนั่งดื่มเงียบๆ ไม่เห็นว่าคนทั้งสองและกลุ่มเพื่อนมากันตอนไหน ไม่คิดเลยว่าจะโชคร้ายมาเจอคนหน้าไหว้หลังหลอกสองคนที่นี่
ถามว่ายังรักวิษณุอยู่ไหม เธอตอบได้เลยว่าไม่ แต่เสียใจมากกว่าที่เขาทรยศหักหลังและหันไปคบกับเพื่อนของเธอแทน ต่อหน้าพูดดีลับหลังทุเรศด้วยกันทั้งคู่
“ก็เข้ากันดีเหมือนผีเน่ากับโลงผุ” “นี่เธอพูดอะไร” วิษณุเริ่มไม่ชอบใจ ตอนแรกก็รู้สึกผิดที่เขาทรยศหักหลังใยไหม แต่เห็นความใจร้ายของอีกฝ่ายเขาก็เลยคิดว่าทำถูกแล้วที่เลิกกับผู้หญิงใจร้ายแบบนี้ไปได้ ดีนะที่เธอเผยธาตุแท้ออกมาให้เขาเห็นเสียก่อน
“อีกตัวปั้นน้ำเป็นตัว อีกตัวก็ควายล้วนๆ ไม่มีวัวผสมเลย ก็เข้ากันดี” เธอพูดอย่างคั่งแค้น ถามว่ารักวิษณุมากไหม มันเป็นความผูกพันมากกว่า เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน เธอไม่ได้เสียดายผู้ชายชั่วๆ เลวๆ ทรยศหักหลักแบบนี้หรอก
“นี่เธอ” วิษณุเริ่มโมโหบ้างเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังด่าตน
“ณุอย่าเลยนะคะ สงสารไหมเขา เขากำลังเครียด กำลังทุกข์ ไหมจ๋าอย่าโกรธเราสองคนเลยนะ เรารักกัน ฮึกๆ ฮือๆๆ แล้วอย่าตามรังควานเราอีกเลย เราสองคนขอโทษ” ติรกาญจน์รีบบอกร้องไห้สะอึกสะอื้น
“เก็บคำขอโทษตอแหลของแกเอาไว้เถอะ” เกิดมาเธอไม่เคยพูดหยาบคายแบบนี้กับใครมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก ทนไม่ไหวกับความตอแหลของติรกาญจน์จริงๆ
“นี่จะมากไปแล้วนะ” วิษณุทนไม่ไหวที่ติรกาญจน์โดนด่าแบบนี้
“ไม่มากไปหรอกกับสิ่งที่เธอสองคนทำเอาไว้กับฉัน” ใยไหมพูดอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ ถ้าไม่รักกันแล้วมาบอกกันดีๆ เธอก็เข้าใจ แต่แอบทรยศหักหลังแล้วให้คนอื่นมาหัวเราะขบขันลับหลังแบบนี้เธอรับไม่ได้จริงๆ
“ผู้หญิงแบบเธอไม่มีใครเอาหรอก ปากร้ายก็เท่านั้น แถมยังใจร้ายอีก” เพื่อนของติรกาญจน์พูดขึ้น นั่นทำให้ใยไหมโมโหจัด
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
"ที่รัก ฉันจะชดใช้ให้เธอด้วยทั้งชีวิตของฉัน แต่งงานใหม่กันน๊า!" หลินเอินเอิน "คุณไม่รู้สึกอายเขาบ้างเหรอที่ตามง้อฉันทุกวัน! คุณเป็นหมารึไง!" ป๋อมู่หาน "ที่รัก ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ และเพื่อเธอคนเดียวเท่านั้น!" หลินเอินเอินหัวเราะ เธอเป็นทั้งทนายชื่อดัง หมออัจฉริยะสากล และแฮ็กเกอร์ระดับแนวหน้า ทำไมเธอต้องแต่งงานใหม่กับไอ้ผู้ชายหมาๆ นั่นละ ช่างน่าขันจริง ๆ "ไม่มีวันแต่งงานใหม่หรอก ใสหัวไปไกลๆ ซะ!"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"