อธิปหลบฉากอยู่อีกด้านของสวน เขามองเห็นร่างโปร่งบางที่เดินออกมาจากบ้านหลังสวยแล้วถึงกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหาย ชัชญาอยู่ในชุดสบายๆ ด้วยกางเกงขาสั้นโชว์เรียวขาผ่องสวยที่เขาต้องกลืนน้ำลายติดกันหลายครั้ง เสื้อยืดเอวลอยพอดีตัวรัดรึงส่วนสัดยวนตา อกเป็นอก เอวเป็นเอว เธอเป็นคนแขนขายาวแต่ไม่ได้ดูเก้งก้าง ดูกลมกลึงนุ่มนิ่มน่ารัก เรือนผมสลวยสีน้ำตาลเข้มที่ดัดเป็นลอนสวยถูกมัดเอาไว้หลวมๆ กลางกระท่อม ทำให้เธอดูอ่อนเยาว์เหมือนเด็กอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปดที่เพิ่งแตกเนื้อสาว หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงผ้าใบตัวใหญ่ ทำให้ร่างของเธอดูเล็กนิดเดียว มือบางหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่านอย่างแสนสบาย อธิปจ้องมองหญิงสาวไม่วางตาด้วยความเผลอไผล เธอน่ามองชะมัด มองยังไงก็มองไม่เบื่อ ชายหนุ่มดึงบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พิงหลังไปกับต้นไม้ใหญ่ สายตายังจับจ้องเธอไม่วาง แล้วคนน่ารักก็ค่อยๆ เผลอหลับไปทั้งๆ ที่ยังจับหนังสือเอาไว้ หนังสือเล่มเล็กของเธอจึงตกลงข้างตัวเพราะมือบางค่อยๆ คลายออก หลังจากเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อันแสนสุข ร่างสูงเพรียวเคลื่อนตัวว่องไว ค่อยๆ เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างๆ เตียงผ้าใบของหญิงสาว เขาทอดสายตามองเธอใกล้ๆ มองผิวเนียนละเอียดหอมกรุ่น แก้มเธอแดงระเรื่อแต่เป็นไปตามธรรมชาติ เขาเพิ่งเคยเห็นผู้หญิงไม่แต่งหน้าแล้วน่ามองขนาดนี้ มือหนาจึงค่อยๆ เคลื่อนไปสัมผัสกับแก้มเนียน เมื่อเห็นคนน่ารักหลับตาพริ้ม “โอ๊ย!!!” อธิปร้องเสียงหลงเมื่อเธอลืมตาตื่นแล้วคว้าหมับเข้าที่มือเขา แต่ที่ทำให้เขาเจ็บเพราะเธอหักนิ้วเขาเต็มแรง
...บทนำ...
“พวกแกเป็นใครน่ะ ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
ชัชญา รุ่งรัศมี บุตรสาวคนเดียวของเสี่ยชาญ ผู้มีอิทธิพลในแถบนี้ ทั้งร่ำรวยและมีธุรกิจหลายอย่างกำลังมองผู้ชายหลายคนที่เดินมาดักหน้าดักหลังเธอด้วยสายตาเอาเรื่อง เธอรู้ดีว่าพวกเขากำลังจะทำร้ายเธอ แต่คนไม่เคยกลัวอะไร ไม่มีสีหน้าสะพรึงกลัวเลยสักนิด เตรียมพร้อมรับมือเท่านั้น
พวกมันไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่ตรงเข้าจัดการล็อกตัวเธอเอาไว้ แต่เพราะวิชาป้องกันตัวที่ร่ำเรียนมาด้วยความชอบส่วนตัวทำให้เธอหลบหลีกต่อสู้ใช้หมัดศอกเข่ากับชายฉกรรจ์เหล่านั้นได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่เช่นไรก็ยังเป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าอย่างไรก็สู้ผู้ชายอกสามศอกที่กรูกันเข้ามาเล่นงานไม่ได้ ทำให้ชัชญาพลาดพลั้งในที่สุด
“ปล่อยนะ” เธอดิ้นรนขัดขืนแต่สู้แรงพวกมันไม่ไหว แถมยังโดนล็อกเอาไว้จากทางด้านหลัง
“เฮ้ย! พวกแกทำอะไรน่ะ ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้” เสียงกร้าวของอธิป อธิราชดังราวฟ้าผ่า พร้อมกับหมัดเข่าศอกที่เขาแลกไม่ยั้ง ก่อนที่นพฤทธิ์จะมาช่วยอีกคน ทำให้พวกมันได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน
“อ๊าก!!!” อธิปร้องเสียงหลงเมื่อโดนมีดปลายแหลมคมปาดเข้าที่แขน เขาหันไปเตะมันจนเกลือกลิ้งบนพื้นหน้าห้างสรรพสินค้า ก่อนที่พวกมันจะถอยหนีไปด้วยความหวาดกลัว
“เป็นยังไงบ้าง” ชัชญารีบรุดเข้ามาดูบาดแผลชายหนุ่มที่มีน้ำใจช่วยเธอเอาไว้
“ผมไม่เป็นไรครับ คุณเป็นยังไงบ้าง”
อธิปเอ่ยถาม เขากวาดสายตามองสำรวจร่างของคนตรงหน้า สายตาอันเฉียบแหลมของเขาสามารถเก็บรายละเอียดของเรือนร่างตรงหน้าได้อย่างครบถ้วน เธอเป็นผู้หญิงร่างเล็ก แต่อวบอิ่มในสัดส่วนที่สมควรอวบ ทั้งอรชร เอวคอดเล็กจนเขาคิดว่าคงรวบได้ทั้งสองมือ ไหนจะสะโพกงอนๆ ที่รับกับช่วงขาเพรียว ผิวขาวจัดนั้นอมชมพูระเรื่ออย่างคนสุขภาพดีและไม่ใคร่จะโดนแดด แตกต่างจากหญิงสาวต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ในไร่ในสวน เส้นผมของเธอดัดเป็นลอนสีน้ำตาลเข้มประกายทองทำให้ใบหน้าของเธอดูโดดเด่นและเซ็กซี่ร้ายกาจ จมูกโด่งเล็กรั้นอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกถึงความดื้อรั้นและเอาแต่ใจ ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อ ที่ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่เพราะความที่อยากประทับจูบลงไปเชยชิมว่ามันจะหวานหอมและร้อนแรงแค่ไหน เธอเป็นคนตัวสูง แขนขายาว แม้กระทั้งนิ้วก็ยังเรียวยาว ปลายเล็บงอนเด้งเหมือนนางรำ แต่นั่นบ่งบอกถึงความเป็นคุณหนูทุกระเบียบนิ้ว
“ไม่เป็นอะไร แค่ตกใจนิดหน่อย ขอบใจนายสองคนมากนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี”
“ฉันว่าควรไปทำแผลก่อนนะ เลือดไหลเยอะเชียว”
“ขอบคุณครับ” อธิปยอมตามหญิงสาวไปที่คลินิกใกล้ๆ ส่วนชัชญานั้นรอจนอีกฝ่ายทำแผลเสร็จเรียบร้อย เพราะเธอมีเวลาว่างทั้งวัน ไม่ค่อยได้มีอะไรให้ทำ นอกจากช็อปปิ้งและทำกิจกรรมอันน่าเบื่อกับบ้าน
จริงๆ เธอมีบอดี้การ์ดของบิดาติดตามมามากมาย แต่เพราะเธอรู้สึกอึดอัดเหมือนติดคุก จึงแอบหนีออกมา ถ้าใช้รถของบิดา ทุกคนก็รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เธอจึงไม่ใช้รถยนต์ของที่บ้าน กว่าจะคิดแผนการหนีออกมาได้ก็ทำให้เธอลุ้นระทึกแทบหัวใจวาย เพราะมีสาวใช้คนสนิทช่วยด้วย ทำให้ชีวิตที่น่าเบื่อของเธอตื่นเต้นกว่าที่เป็นอยู่
แม้ไร่สายธารจะอยู่ในชนบทแต่ภายในนั้นเจริญรุ่งเรืองไปตามบารมีของบิดา เธอตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด ได้ชื่นชมกับธรรมชาติที่หายากยิ่งในสังคมเมืองหลวง แต่ในบ้านกลับมีสิ่งอำนวยความสะดวกคับคั่ง ทั้งสระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ซาวน่า อินเตอร์เน็ต จานดาวเทียมและทุกอย่างไม่แพ้ในเมืองกรุง ที่บิดาสรรหามาบำเรอตัวเองและเผื่อแผ่มายังเธอด้วย
จริงๆ เธอไม่ใช่ลูกที่เกิดจากความรักของพ่อแม่ บิดาของเธอมีเธอเพราะทำให้มารดาของเธอท้อง ด้วยความที่มารดาหน้าตาดีท่านเลยถูกตาต้องใจ อยากได้ร่างกายแต่ไม่อยากได้พันธะ ท่านเลยจำต้องเลี้ยงดูเธอมาจนถึงตอนนี้ ดังนั้นบิดาของเธอจึงไม่เคยให้ความรัก ให้เงินเลี้ยงดูเธอเพียงอย่างเดียว เธอมักจะขาดความอบอุ่น และเรียกหาความรักจากคนรอบข้าง แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือความว่างเปล่า หลังสิ้นมารดาผู้ให้กำเนิด
เธอไม่เคยเข้าใจความเป็นพ่อลูก หรือสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับบิดา ท่านไม่เคยถามไถ่ ให้คำปรึกษาหรืออะไรทั้งนั้น เธออยากทำอะไรก็ทำไปเลย ดูเหมือนตามใจ แต่แท้ที่จริงคือความรำคาญที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวหรือคอยคิดแก้ปัญหาอะไรให้ต้องปวดหัว
จริงๆ ชัชญารู้ดีว่าบิดาไม่ได้ตามใจเธอหรอก เขาทำเพราะเธอชอบเรียกร้องความสนใจ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะต้องการสิ่งใดเขาก็ไม่อยากขัดใจ ขอแค่เธออย่าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเขา ซึ่งเธอก็อดไม่ได้เมื่อเห็นผู้หญิงพวกนั้นกับบิดาของเธอ เธอคงจะอยู่ของเธอดีๆ ถ้ายัยพวกนั้นไม่กระตุ้นต่อมอยากตบคนของเธอขึ้นมา
เธอมีเพื่อนน้อย หรือจะพูดว่าไม่มีเพื่อนก็เป็นได้ เธอคบใครไม่ได้นานอาจเพราะความเอาแต่ใจ แต่ลึกๆ ใครจะรู้ว่าเธอโหยหาเพื่อนแท้ขนาดไหน แต่ชีวิตและโลกสอนให้เธอรู้ว่าเพื่อนแท้ไม่มีในโลก ทุกคนคบเธอก็เพราะเงินตัวเดียว ดังนั้นเธอจึงสรรหาทุกสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมาลบปมด้อยเรื่องบิดามารดาและครอบครัว ทุกอย่างที่ตอบสนองได้เธอใช้เงินซื้อมันอย่างไม่คิดติดใจ ก็เธอไม่ได้เป็นคนหาเงิน มันเป็นเงินของบิดาที่มากมายมหาศาล ซึ่งใช้ไปถึงชาติหน้าก็คงไม่หมด เพราะเธอรู้ว่าท่านรวยมาก สามารถซื้อเกาะใหญ่ๆ ได้โดยไม่ติดขัด หากเขาชอบและอยากให้ที่นั่นเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ ราคาแพงลิ่วได้อย่างหน้าชื่นตาบาน
เธอไม่เคยรู้ว่าบิดาทำงานอะไร และเธอก็ไม่เคยสนใจ เขาให้เงินเธอก็รับมันมาเหมือนเป็นเรื่องเคยชิน อยากได้อะไรก็ต้องได้ บางทีเธอก็คิดว่าตัวเองนิสัยเหมือนบิดาเข้าไปทุกที
แม้จะต้องการความรักขนาดไหน แต่เธอก็ทำใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ เธอไม่มีญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายาย พี่น้อง ลุงป้าน้าอา มีแค่บิดาคนเดียว เนื่องจากมารดาเป็นเด็กกำพร้าที่บังเอิญหน้าตาดีและบิดาก็เผลอไปถูกใจเข้าเลยเอามาเป็นเมีย ไม่ได้ยกย่องเชิดชูอะไรนักหนา
ชาติกำเนิดของเธอก็ไม่ได้ดีเด่อะไร เพียงแค่บิดาไม่เคยยกย่องมารดา ไม่เคยเอ่ยถึงให้ระคายหัวใจ และไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงอีกด้วย ท่านตายไปตอนที่เธอยังจำความได้ ตอนที่เธออายุห้าขวบเศษ
“นายสองคนชื่ออะไร” ชัชญาเอ่ยถามเมื่อทั้งสองมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
“ผมชื่ออธิปครับ ชื่อเล่นว่าไท ส่วนนี่เพื่อนสนิทของผมชื่อนพฤทธิ์ ชื่อเล่นว่าไข่”
“นี่เอาไปสิ” ชัชญาพยักหน้าเหมือนไม่ใส่ใจ จริงๆ ก่อนจะควักเงินจำนวนหนึ่งขึ้นมายื่นให้คนทั้งสอง ซึ่งถ้าคำนวณจากสายตานั้นมากพอสมควร เธอไม่จำเป็นต้องนั่งรอสองคนนี่เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเธอยังไม่รู้จะไปที่ไหนดี เลยมานั่งพักใจที่นี่สักครู่
“ผมสองคนไม่ได้ต้องการเงินครับ ผมแค่อยากช่วย” อธิปมองเมินเงินจำนวนมากตรงหน้า
“เอาไปเถอะน่า ฉันไม่อยากติดค้างบุญคุณของใคร”
“ผมคงรับไว้ไม่ได้ ถึงพวกผมจะตกงานแต่ก็ไม่เคยคิดว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นหนี้บุญคุณหรือต้องตอบแทนกันด้วยเงินจำนวนมากแบบนี้” อธิปตอบเสียงราบเรียบไม่ปรายตามองเงินปึกใหญ่ในมือเรียวสวยของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย
“เมื่อกี้พวกนายบอกว่ากำลังตกงานอย่างนั้นเหรอ”
ชัชญาเลิกคิ้วขึ้นถาม เธอเก็บเงินจำนวนนั้นไว้เพราะไม่ชอบเซ้าซี้ใคร ถ้าไม่เต็มใจจะรับ หยิ่งในศักดิ์ศรีมากนักก็ไม่ต้องเอา นอกจากเรื่องบางเรื่องที่เธอต้องการ และไม่อยากให้ใครขัดใจ เธอจะไม่ยอมให้ใครปฏิเสธเด็ดขาด
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
"หัวใจ ความรัก และภักดี เขาจะเลือกอย่างไหน" “ไอ้เพชรแกเอาไป นี่เมียแก!” หญิงสาวที่อยู่ในชุดนอนมีร่องรอยฉีกขาด ถูกผลักเข้าไปในกระท่อมเก่าซอมซ่อของพัชระหรือทุกคนเรียกกันว่า เพชร ซึ่งเป็นเพียงช่างคนหนึ่งในไร่ชาของที่นี่ “คุณจันทร์นี่มันอะไรกันครับ” เจ้าของหนวดเคราครอบหน้าหันไปมองคนบนพื้นแล้วหันมาถามนางจันทร์นิล ด้านหลังก็มีลูกน้องของเจ้านายอีกสองคน “นังอ้อนมันร่านไง มันมาอ่อยผัวลูกสาวฉัน ไอ้เพชรฉันยกนังอ้อนให้แกจัดการ” นางจันทร์นิลชี้นิ้วใส่ลูกเมียน้อยของสามีอย่างจงเกลียดจงชัง “จัดการยังไงครับคุณจันทร์” พัชระได้ยินว่าคนที่ตนแอบรักถูกทำร้าย แววตาของเขาก็ประกายแข็งกร้าวขึ้นด้วยความโกรธ “ก็จัดการมันให้เป็นเมียแกซะ เดี๋ยวนี้เลย!” (เมียร้อนจำยอมรัก)
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"